สัปดาห์ก่อนมีเรื่องราวให้ผมได้ขบคิด ...
พนักงานบัญชีผมแจ้งผมว่ามีลูกค้ารายหนึ่งไม่ยอมชำระเงินตามที่เงื่อนไขที่เราตกลงไว้
ทวงถามไปแล้วหลายรอบ แต่ไม่ได้คำตอบเป็นชิ้นเป็นอันล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้เดือนเศษๆ
จากกำหนดชำระปลายเดือนเมษาแต่นี่จะสิ้นเดือนพฤษภาเข้าไปแล้ว แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะจ่าย
ผมถามยอด ... พี่บัญชีบอกว่า ...
สองแสนกว่า!!! ... ฟังยอดแล้วก็น่าคิด!!
ลูกค้าถือว่าเป็นลูกค้ารายใหม่ ซื้อขายกันไม่ถึงปี ...
แต่ที่ผ่านมาซื้อขายยอดไม่เกินแสน การชำระเงินไม่มีปัญหา ...
หรือว่าคราวนี้เสือตัวนี้กำลังจะออกลายก็เป็นได้!!!
ในกรณีนี้ ผมคงต้องเจรจาและรอดูท่าทีของเขาก่อน ... ว่าเขาจะดำเนินการหรือไม่อย่างไร
จากเหตุผลที่ทางพนักงานบัญชีของเขาแจ้งมาก็ไม่เข้าท่าเข้าทีพอจะเป็นเหตุผลสักเท่าใดนัก
จากยอดค้างชำระ ถ้าผมฟ้องผมก็คงเข้าเนื้อด้านค่าใช้จ่ายในการฟ้องหลายเงินอยู่
แต่ไม่เป็นไร เรื่องเงินผมยอมจ่าย ยอมเข้าเนื้อ ยอมเสียเวลาไปขึ้นศาล
พวกทำนาบนหลังคนหรือเสวยสุขบนความทุกข์ของคนอื่นแบบนี้ มันโคตรแย่!!!
แต่ถ้ามันโกงเราได้แล้ว แล้วเราไม่ทำอะไรเลย พวกนี้มันจะยิ่งเหิมเกริม!!!
ถ้าเขาไม่ดำเนินการอะไรให้เราเห็น ... ผมคงต้องส่งหนังสือบอกกล่าวทวงถาม (Notice)
ถ้าไม่ตอบรับก็คงต้อง แจ้งความดำเนินคดี และ ส่งฟ้องในชั้นศาลกันต่อไป ...
ในเหตุการณ์นี้ทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์เก่าๆ ขึ้นมา
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็มีพวก
ซื้อของไปแล้ว แต่เบี้ยวหนี้!!! ดึงเช็ค!!! โยกโย้ อิดออด!!
สารพัดเหตุผลที่จะไม่จ่ายตังค์ ผ่านเข้ามาให้เห็นพบอยู่เนืองๆ
จนทำให้นึกถึง
“นักธุรกิจสายดำ” ที่เน้นทำธุรกิจบนหลังคน(อื่น) รายหนึ่ง
ที่ผมอยากจะหยิบยกขึ้นมาเล่าสู่กันฟังเพื่อให้เป็นข้อคิด ...
นักธุรกิจสายดำ ... เน้นทำธุรกิจบนหลังคน(อื่น)!!!!
พนักงานบัญชีผมแจ้งผมว่ามีลูกค้ารายหนึ่งไม่ยอมชำระเงินตามที่เงื่อนไขที่เราตกลงไว้
ทวงถามไปแล้วหลายรอบ แต่ไม่ได้คำตอบเป็นชิ้นเป็นอันล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้เดือนเศษๆ
จากกำหนดชำระปลายเดือนเมษาแต่นี่จะสิ้นเดือนพฤษภาเข้าไปแล้ว แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะจ่าย
ผมถามยอด ... พี่บัญชีบอกว่า ... สองแสนกว่า!!! ... ฟังยอดแล้วก็น่าคิด!!
ลูกค้าถือว่าเป็นลูกค้ารายใหม่ ซื้อขายกันไม่ถึงปี ...
แต่ที่ผ่านมาซื้อขายยอดไม่เกินแสน การชำระเงินไม่มีปัญหา ...
หรือว่าคราวนี้เสือตัวนี้กำลังจะออกลายก็เป็นได้!!!
ในกรณีนี้ ผมคงต้องเจรจาและรอดูท่าทีของเขาก่อน ... ว่าเขาจะดำเนินการหรือไม่อย่างไร
จากเหตุผลที่ทางพนักงานบัญชีของเขาแจ้งมาก็ไม่เข้าท่าเข้าทีพอจะเป็นเหตุผลสักเท่าใดนัก
จากยอดค้างชำระ ถ้าผมฟ้องผมก็คงเข้าเนื้อด้านค่าใช้จ่ายในการฟ้องหลายเงินอยู่
แต่ไม่เป็นไร เรื่องเงินผมยอมจ่าย ยอมเข้าเนื้อ ยอมเสียเวลาไปขึ้นศาล
พวกทำนาบนหลังคนหรือเสวยสุขบนความทุกข์ของคนอื่นแบบนี้ มันโคตรแย่!!!
แต่ถ้ามันโกงเราได้แล้ว แล้วเราไม่ทำอะไรเลย พวกนี้มันจะยิ่งเหิมเกริม!!!
ถ้าเขาไม่ดำเนินการอะไรให้เราเห็น ... ผมคงต้องส่งหนังสือบอกกล่าวทวงถาม (Notice)
ถ้าไม่ตอบรับก็คงต้อง แจ้งความดำเนินคดี และ ส่งฟ้องในชั้นศาลกันต่อไป ...
ในเหตุการณ์นี้ทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์เก่าๆ ขึ้นมา
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็มีพวก ซื้อของไปแล้ว แต่เบี้ยวหนี้!!! ดึงเช็ค!!! โยกโย้ อิดออด!!
สารพัดเหตุผลที่จะไม่จ่ายตังค์ ผ่านเข้ามาให้เห็นพบอยู่เนืองๆ
จนทำให้นึกถึง “นักธุรกิจสายดำ” ที่เน้นทำธุรกิจบนหลังคน(อื่น) รายหนึ่ง
ที่ผมอยากจะหยิบยกขึ้นมาเล่าสู่กันฟังเพื่อให้เป็นข้อคิด ...