ทุกคนมีโอกาสเลือกไม่ใช่หรือ?

คนส่วนใหญ่มักคิดว่า หากเริ่มทำความรู้จักพูดคุยกับใคร ก็ไม่ควรคุยกับคนอื่นๆอีก นั่งเฝ้าแต่คนๆเดียว
เพราะหากคุยกับคนอื่นไปด้วยจะถูกมองว่า เป็นคนเจ้าชู้ หลายใจ นิสัยไม่ดี

เราไม่เข้าใจว่าทำไม? ในเมื่อทั้งสองคนก็มีสิทธิ์ที่จะเลือก ตราบใดที่ยังไม่ตกลงปลงใจคบกัน สถานะก็เป็นเพืยงแค่คนรู้จัก
ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายชอบเขาก่อน หรือเขาจะชอบเราก่อน มันต่างกันตรงไหน?

ทั้งชายและหญิงหลายๆคน พอรู้ว่าคนที่ตัวเองเริ่มพูดคุยด้วยมีคนมาคุยด้วยหลายคน แทนที่จะคิดว่า "แปลว่าคนๆนี้มีอะไรดี" ถึงได้มีคนหมายปองมากมาย กลับคิดว่า ฝ่ายตรงข้ามมองตัวเองเป็นตัวเลือกซะงั้น เราว่ามันไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ เพราะในความสัมพันธ์ "คนสองคน" ต่างเป็นฝ่ายเลือกกันและกันต่างหาก

วันแรกที่เราเริ่มสนใจเขา อยากเข้าหา อยากพูดคุย อยากรู้จัก เราก็พยายามด้วยตัวเองไม่ใช่หรอกหรือ? อีกฝ่ายเขาไม่ได้มาบังคับให้เราไปรักไปชอบเขา คนอื่นๆที่เข้าหาเขาก็คงรู้สึกเหมือนเรา คือ "อยากได้คนๆนี้มายืนข้างกาย"

ฝ่ายตรงข้ามเอง ก็อาจจะเป็นหนึ่งในผู้ลงสนามแข่ง เพื่อให้ได้รับการคัดเลือกเข้าไปอยู่ในใจของใครอีกคนก็ได้!!!


"ความพยายาม" อาจจะใช้ได้ผลกับความสำเร็จส่วนใหญ่ แต่ในเรื่องของความรัก "ความพยายาม" ไม่ใช่หนทางของความสมหวังเสมอไป

ดังนั้น เหมือนที่ใครๆชอบพูดกันว่า "ความรักไม่มีเหตุผล" เพราะเราไม่ต้องหาเหตุผลว่าทำไมถึงรักคนที่เขาไม่เคยทำอะไรให้เราเลย แต่กลับเฉยเมยกับคนที่พยายามแทบตาย เพื่อให้ได้ที่นั่งในหัวใจเรา

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่