ขอเรียกร้องให้รัฐดำเนินการออกกฎหมายให้บังคับผู้ผลิตยานพาหนะทุกคันต้องติดตั้งกล้องวีดีโอแบบ Built-in ชนิดบันทึกหน้า/หลังพร้อมกัน เนื่องจากมีประโยชน์ดังนี้
1. เพื่อความสะดวกในการพิสูจน์ความรับผิดตามกฎหมายจราจรหรือกฎหมายแพ่งหรือกฎหมายอาญาในกรณีเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับยานพาหนะของตนเองหรือผู้อื่น
2. เพื่อความสะดวกในการพิสูจน์ความรับผิดตามกฎหมายจราจรในกรณีที่อาจมีการแจ้งข้อกล่าวหาจากเจ้าพนักงานจราจรอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เป็นต้น (หากใครคิดประโยชน์อื่นนอกจากสองข้อนี้ก็ช่วยชี้แนะเพิ่มเติมด้วย)
โดยให้มีคุณลักษณะอย่างน้อยดังนี้
1.มีความละเอียดของไฟล์VDOในระดับ HD 1080i = 1,037,000 pixels / frame (1920 x 1080)
2.สามารถบันทึกเสียงได้
3.มีระบบอินฟาเรดช่วยการบันทึกภาพในเวลากลางคืน
3.ทำงานอัตโนมัติเมื่อเปิดสวิทช์กุญแจ
4.ความจุของหน่วยความจำหลักไม่ต่ำว่า 16 GB และหน่วยความจำสำรองไม่ต่ำกว่า 8 GB และให้มีสัญญาณแจ้งเตือนหากหน่วยความจำหลักมีการบันทึกจนเต็มความจุแล้ว
ข้อบังคับ
1.ให้เจ้าพนักงานจราจรทำการบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาต่อหน้ากล้องวีดีโอดังกล่าวทุกครั้ง จึงจะถือว่าเป็นกระบวนการแจ้งข้อกล่าวหาโดยชอบด้วยกฎหมาย หากฝ่าฝืนให้ถือว่ามีความผิดฐานเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามกฎหมายอาญา
2.ให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะมีหน้าที่ตรวจสอบหน่วยความจำหลักของกล้องวีดีโอ หากพบว่าหน่วยความจำหลักมีความจุเต็มแล้ว และหน่วยความจำสำรองมีความจุเหลือต่ำกว่า 4GB ให้มีโทษปรับไม่เกิน 2,000.-บาท และบันทึกตัดแต้มจราจร
3.ให้ยานพาหนะที่ผลิตก่อนมีกฎหมายฉบับนี้ใช้บังคับ มีหน้าที่ต้องดำเนินการติดตั้งกล้องวีดีโอตามข้อกำหนดดังกล่าว โดยให้นำเอกสารแสดงการชำระเงินพร้อมเอกสารรับรองการติดตั้งจากที่ได้รับอนุญาตให้เปิดสถานบริการตรวจสภาพเอกชนมาแสดงต่อเจ้าพนักงานในวันครบกำหนดชำระภาษีประจำปี หากไม่มีเอกสารดังกล่าวมายื่นในวันชำระภาษีประจำปีเจ้าพนักงานจะไม่รับดำเนินการชำระภาษี และค่าติดตั้งกล้องวีดีโอให้นำมาเป็นส่วนลดภาษีประจำปีในปีที่ติดตั้งได้ไม่เกินร้อยละห้าสิบ
4.ให้ผู้ที่ขับขี่ยานพาหนะหรือเจ้าของยานพาหนะ หรือทายาทของผู้ขับขี่หรือเจ้าของยานพาหนะดังกล่าว มีหน้าที่ต้องเก็บรักษาไฟล์วีดีโอไว้อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 15 วัน หลังจากที่มีการบันทึกวีดีโอ และมีหน้าที่ต้องส่งมอบไฟล์วีดีโอให้แก่เจ้าพนักงานเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ลองคิดแบบนี้เล่นๆ ผมว่าจะช่วยได้เยอะเวลาเกิดอุบัติเหตุ เวลาสืบกันในศาลก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก และยังป้องกันไม่ให้เจ้าพนักงานจราจรทุจริตใช้ดุลพินิจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายได้ด้วย
คงจะดีไม่น้อย ถ้ามีการบังคับให้ติดตั้งกล้องวีดีโอบันทึกหน้า/หลัง กับยานพาหนะทุกคัน
1. เพื่อความสะดวกในการพิสูจน์ความรับผิดตามกฎหมายจราจรหรือกฎหมายแพ่งหรือกฎหมายอาญาในกรณีเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับยานพาหนะของตนเองหรือผู้อื่น
2. เพื่อความสะดวกในการพิสูจน์ความรับผิดตามกฎหมายจราจรในกรณีที่อาจมีการแจ้งข้อกล่าวหาจากเจ้าพนักงานจราจรอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เป็นต้น (หากใครคิดประโยชน์อื่นนอกจากสองข้อนี้ก็ช่วยชี้แนะเพิ่มเติมด้วย)
โดยให้มีคุณลักษณะอย่างน้อยดังนี้
1.มีความละเอียดของไฟล์VDOในระดับ HD 1080i = 1,037,000 pixels / frame (1920 x 1080)
2.สามารถบันทึกเสียงได้
3.มีระบบอินฟาเรดช่วยการบันทึกภาพในเวลากลางคืน
3.ทำงานอัตโนมัติเมื่อเปิดสวิทช์กุญแจ
4.ความจุของหน่วยความจำหลักไม่ต่ำว่า 16 GB และหน่วยความจำสำรองไม่ต่ำกว่า 8 GB และให้มีสัญญาณแจ้งเตือนหากหน่วยความจำหลักมีการบันทึกจนเต็มความจุแล้ว
ข้อบังคับ
1.ให้เจ้าพนักงานจราจรทำการบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาต่อหน้ากล้องวีดีโอดังกล่าวทุกครั้ง จึงจะถือว่าเป็นกระบวนการแจ้งข้อกล่าวหาโดยชอบด้วยกฎหมาย หากฝ่าฝืนให้ถือว่ามีความผิดฐานเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามกฎหมายอาญา
2.ให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะมีหน้าที่ตรวจสอบหน่วยความจำหลักของกล้องวีดีโอ หากพบว่าหน่วยความจำหลักมีความจุเต็มแล้ว และหน่วยความจำสำรองมีความจุเหลือต่ำกว่า 4GB ให้มีโทษปรับไม่เกิน 2,000.-บาท และบันทึกตัดแต้มจราจร
3.ให้ยานพาหนะที่ผลิตก่อนมีกฎหมายฉบับนี้ใช้บังคับ มีหน้าที่ต้องดำเนินการติดตั้งกล้องวีดีโอตามข้อกำหนดดังกล่าว โดยให้นำเอกสารแสดงการชำระเงินพร้อมเอกสารรับรองการติดตั้งจากที่ได้รับอนุญาตให้เปิดสถานบริการตรวจสภาพเอกชนมาแสดงต่อเจ้าพนักงานในวันครบกำหนดชำระภาษีประจำปี หากไม่มีเอกสารดังกล่าวมายื่นในวันชำระภาษีประจำปีเจ้าพนักงานจะไม่รับดำเนินการชำระภาษี และค่าติดตั้งกล้องวีดีโอให้นำมาเป็นส่วนลดภาษีประจำปีในปีที่ติดตั้งได้ไม่เกินร้อยละห้าสิบ
4.ให้ผู้ที่ขับขี่ยานพาหนะหรือเจ้าของยานพาหนะ หรือทายาทของผู้ขับขี่หรือเจ้าของยานพาหนะดังกล่าว มีหน้าที่ต้องเก็บรักษาไฟล์วีดีโอไว้อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 15 วัน หลังจากที่มีการบันทึกวีดีโอ และมีหน้าที่ต้องส่งมอบไฟล์วีดีโอให้แก่เจ้าพนักงานเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ลองคิดแบบนี้เล่นๆ ผมว่าจะช่วยได้เยอะเวลาเกิดอุบัติเหตุ เวลาสืบกันในศาลก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก และยังป้องกันไม่ให้เจ้าพนักงานจราจรทุจริตใช้ดุลพินิจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายได้ด้วย