เวียดนามได้เวลาเป็น ‘Emerging Market’ แล้ว!

[img]https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/tcf/1/16/1f1fb_1f1f3.png[/img] “Vietnam Upgrade Moment” — เวียดนามได้เวลาเป็น ‘Emerging Market’ แล้ว!

FTSE Russell ประกาศอัปเกรด เวียดนาม จาก “Frontier Market” เป็น “Secondary Emerging Market” เพี้ยนปักหมุด

หลังจากอยู่ใน Watchlist ตั้งแต่ปี 2018 และผ่านการปฏิรูประบบตลาดทุนครั้งใหญ่

มีผลบังคับใช้ 21 กันยายน 2026

• คาดว่าจะนำไปสู่เม็ดเงินไหลเข้าระหว่าง $3.4 – 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากกองทุนที่ต้องปรับพอร์ตตามดัชนี
ตลาดหุ้นเวียดนาม (VN Index) พุ่งกว่า 33% ตั้งแต่ต้นปี และขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบหลายปี
แม้ในเดือนสิงหาคมที่ต่างชาติขายสุทธิหนักที่สุดเป็นประวัติการณ์ — แต่นักวิเคราะห์มองว่าการอัปเกรดนี้จะ “เปลี่ยนทิศเงินทุน” กลับเข้ามาอีกครั้ง

[img]https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/t42/1/16/1f50e.png[/img] ทำไมเรื่องนี้สำคัญ?
การได้สถานะ Emerging Market คือ “ใบเบิกทาง” สำหรับ
• กองทุนระดับโลก (เช่น MSCI/FTSE EM Funds) ที่ลงทุนเฉพาะตลาดเกิดใหม่
• การเพิ่มน้ำหนักของกองทุน Passive และ Active ทั่วโลก
• การลดต้นทุนการระดมทุนของบริษัทเวียดนาม และยกระดับภาพลักษณ์เศรษฐกิจ
HSBC ประเมินว่า 38% ของกองทุนเอเชีย และ 30% ของกองทุนตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก มีหุ้นเวียดนามอยู่แล้ว

[img]https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/tdc/1/16/26a0.png[/img] ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
บวก:
• เงินทุนไหลเข้า (Inflow) อาจหนุนค่าเงิน ด่อง (VND) ให้แข็งค่า
• ดึงดูด IPO ใหม่ และเพิ่มความน่าสนใจของเวียดนามในฐานะ “ศูนย์กลางทุนภูมิภาค”

ลบ:
• เวียดนามจะ หลุดจากดัชนี FTSE Frontier Index (ปัจจุบันมีน้ำหนักถึง 32%)
→ ต้องไปแข่งขันกับตลาดใหญ่กว่า เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์
• ราคาหุ้นบางส่วนอาจ “Overvalued” แล้ว (VN Index เทรดที่ 12.2x PE vs ค่าเฉลี่ย 3 ปี 10.1x)

Cr. FB Mr.Messenger

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่