หลังจาก ผมไปถอย มาวันที่ 26/04/2013 ว่าจะลองทำ review มาแบ่งปันให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่สนใจได้ชมกันดูบ้างน่ะครับ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยหน่ะครับ ไม่เคยทำ review มาก่อนเหมือนกันครับ เพิ่งทำ review ครั้งนี้เป็นครั้งแรก...
ก่อนอื่น เรามาดู สเป็กคร่าวๆ ของเจ้า Focus กันก่อนครับว่ามีอะไรมาให้บ้าง สำหรับรุ่น 1.6, Trend, 5Dr
- เครื่องยนต์เบนซิน Duratec 1.6L Ti-VCT พร้อมเกียร์อัตโนมัติ PowerShift 6 สปีด
- ล้ออัลลอย 16”
- สปอยเลอร์หลัง
- กระจังหน้าแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ (Active grille shutter)
- ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง (Torque Vectoring Control)
- ระบบเบรก ABS และ ระบบช่วยกระจายแรงเบรก EBD
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP พร้อมระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist)
- ระบบช่วยเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ BA
- เครื่องเล่น CD/MP3 พร้อมลำโพง 4 ตัว
- ช่องต่อ USB/iPOD
- ระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระคอนโทรล เบรด มัลติลิงค์
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
- ไฟหน้าแบบฮาโลเจน
- ไฟตักหมอกหน้า
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว
- ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC พร้อมการเชื่อมต่อบลูทูธ
- EcoMode
หลังจากเรารู้จักคุณสมบัติ ของเจ้า focus 1.6, trend แล้ว คราวนี้ก็มา ยนโฉม หน้าตาของเจ้า Focus 1.6,Trend, 5Dr, Frozen White กันดีกว่าน่ะครับ ^ ^
ด้านหน้า...
ด้านข้าง..
ส่องท้ายกันหน่อย..
ที่นี้เราก็มาดูล้อกันบ้าง เป็นล้อแม็ก อัลลอย 16" มาพร้อมกับ ดิสก์เบรค 4 ล้อ มาพร้อมกับ ยาง MICHELIN PRIMACY LC ขนาด 205/60R16
กุญแจสำหรับรุ่น 1.6 เป็นกุญแจ remote ซึ่งจะมี 3 ปุ่มด้วยกันคือ 1.ปลดล๊อก 2.ล๊อก และ 3.ปลดล๊อก ประตูท้ายรถ
โดยกุญแจ รุ่นนี้ สามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้ ปลดล๊อก เฉพาะประตู คนขับ (กด 1 ครั้ง) หากต้องการปลดล๊อกประตูอีก 3 บานทีเหลือ ก็ให้ กดปุ่มปลดล๊อก 2 ครั้งติดกัน..
โดยระบบกุญแจรุ่นนี้เป็นแบบ Immobilizer
กุญแจระบบ Immobilizer คืออะไรนั้น เรามาดูกันครับ
เป็นระบบตรวจสอบและเปรียบเทียบ ID Code ของกุญแจให้ตรงกับ ID Code
ที่ถูกบันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์ของรถก่อนการสตาร์ทรถ ป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดได้
หากใช้กุญแจที่ผิดไปจากเดิม เช่น กุญแจปลอมหรือเลียนแบบค่ะ แต่ในกรณีการต่อสายตรงในการสตาร์ทเครื่องยนต์ก็คงทำได้ลำบากเช่นกัน เนื่องจากในรถยนต์รุ่นปัจจุบันมีการใช้กล่องควบคุมเครื่องยนต์ ในการตรวจสอบระบบต่างก่อนทำการสตาร์ท ซึ่งหากเซ็นเซอร์ทำงานบกพร่องหรือทำงานผิดปกติ เครื่องยนต์ก็อาจจะไม่สามารถสตาร์ทติดได้ หรือถ้าสตาร์ทติดก็อาจจะไม่สมบรูณ์ ดังนั้นการที่จะต่อสายตรงเพื่อทำการสตาร์ทรถคงทำได้ยาก หรือถ้าจะทำจริงๆคงต้องใช้เวลานานมาก และจะต้องมีความเข้าใจในระบบควบคุมเครื่องยนต์เป็นอย่างดี ดังนั้นการดักจับรหัสเพื่อเอาไปcopyใช้ใหม่ จะไม่มีประโยชน์ ต้องเอาตัวลูกกุญแจลูกนั้นเท่านั้นไปใช้
ส่วนการล๊อกให้กดปุ่มตรงกลาง กด 1 ครั้ง เป็นการล๊อก 1 ชั้น กด 2 ครั้งติดกันเป็นการล๊อก 2 ชั้น (อันนี้ผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ technology ของระบบล๊อก ชั้นเดียว กะ 2ชั้นเท่าไหร่ พอดีอ่านเจอในคู่มือ มาแบบนี้หน่ะครับ)
ส่วนการปลดล๊อกประตูท้ายรถ ก็ให้กดปุ่มด้านล่างสุด 2 ครั้งติดกัน ก็จะเปิดประตูท้ายรถครับ..
สำหรับการใช้งาน start รถ นั้นก็จะมีปุ่มกด ด้านมุมบน จะเป็นแบบกุญแจพับหน่ะครับ แล้วก็เสียบและ start รถได้ปกติเลยครับ
(อันนี้ลืมถ่ายอีกด้านมาให้ชมหน่ะครับ ต้องขออภัยด้วย..)
อ่อลืมบอกไปว่า รุ่นนี้มีระบบ lock พวงมาลัยด้วยหน่ะครับ กันเหนียวอีกชั้น เพียงแค่ดับเครื่องยนต์แล้วเราก็โยกพวงมาลัยซ้าย หรือ ขวา ระบบก็จะทำการ lock พวงมาลัยให้ครับ การที่จะคลาย lock พวงมาได้นั้น จะต้องเสียบกุญแจ และโยกพวงมาลัย (อาจจะต้องเฟือนนิดนึง) ไปยังทางที่เรา lock ไว้อย่างเดิมถึงจะทำการ บิดกุญแจเพื่อ start เครื่องได้ครับ
ทีนี้พอเปิดประตูรถกันได้แล้ว ก็มาส่องภายในกันซะหน่อยว่ามีอะไรให้เชยชมบ้าง..
โผ่ลมาก็จ๊ะเอ๋ กับ พวงมาลัยและหน้าปัด console ฝั่งคนขับก่อนเลยครับ
พวงมาลัยเป็นแบบ ก้าน 4 แฉก.. จับกระฉับมือ.. แน่นหนึบ เค้าโค้ง ไม่มีอาการพวงมาลัยสั่นเลย... นิ่งมาก..
บนพวงมาลัยจะมีปุ่ม control ต่างๆมาให้ด้วย.. เรามาเริ่มจากด้านขวามือกันก่อนครับ จะเป็นปุ่มสำหรับ control เกี่ยวกับการตั้งค่า และ trip ต่างๆ บนหน้าปัด console
ส่วน ปุ่ม control ที่อยู่ด้านซ้าย จะเอาไว้ control ชุดเครื่องเสียง การรับสาย ไม่รับสาย ปรับ เพิ่ม ลม ระดับเสียง และก็ SYNC ของ Ford
ส่วนปุ่ม control ที่ประตูฝั่งคนขับ ก็จะเป็นปุ่ม control กระจกไฟฟ้าทั้ง 4 บาน
ใต้พวงมาลัยด้านขวา ก็จะเป็นปุ่มปุ่มสำหรับ control ระบบไฟ..
เริ่มจากซ้ายสุดก็ ปุ่มบนเป็นการเปิด/ปิด ไฟตัดหมอกด้านหน้ารถ
ส่วนปุ่มล่างก็ไฟตัดหมอก ท้ายรถ
ปุ่มตรงกลางจะเป็นปุ่มเปิดไฟหน้ารถ (ปิดไฟ, เปิดไฟหรี่, เปิดไฟต่ำหน้ารถ)
และด้านขวาสุดก็จะเป็นปุ่มปรับระดับแสงที่หน้าปัดเรือนไมค์
ถัดมาซ้ายมือก็เป็นชุดเครื่องเสียง... (ถ้ารุ่น 2.0 จะได้เป็นเครื่องเสียง ของ Sony ครับ)
ที่เรามาดูกันว่ามันทำไรได้บ้าง เริ่มจาก บนซ้ายก็จะเป็นปุ่มสำหรับเล่นแผ่น CD/MP3 ครับ
ถัดมาก็เป็น ปุ่มสำหรับรับฟังวิทยุ AM/FM..
ถัดลงมาอีกก็จะเป็นปุ่มสำหรับ USB/AUX/Buletooth ครับ..
ส่วนปุ่มล่างสุดเป็นปุ่ม menu สำหรับตั้งค่าต่างๆ
สำหรับฝั่งตรงกันข้ามจะเป็นปุ่มตัวเลขต่างๆ ซึ่ง design เรียบแบบ ปุ่มกด โทรศัพท์มือถือ เลยครับ สำหรับการใช้งานโทรศัพท์ จะเป็นการ Sync เข้ากับ Bluetooth ของโทรศัพท์เราครับ มันจะทำการ Update Contact ในโทรศัพท์มือถือของเราเข้าไปด้วยครับ เวลาโทรออก หรือมีสายเข้าก็จะ show contact ตามมือถือของเราเลยครับ สามารถใช้งานร่วมกับ ระบบ SYNC ของ Ford ได้ครับ เพียงแต่พูดว่า Call "<ชื่อ contact>" เด๋วระบบก็จะโทรออกให้เลยครับ
ทั้งนี้เราสามารถตั้ง Speed Dial 10 เบอร์ก็ได้ ร่วมไปถึงการโทรออก ของการใช้สายล่าสุด.. เราสามารถ control ขึ้น ลง ซ้าย ขวา ได้จากปุ่ม control บนพวงมาลัยได้ด้วย... ทำให้เราแทบไม่ต้องละสายตา หรือเอื้อมือ ซึ่งจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหต บนท้องถนนได้..
สำหรับปุ่มตรงกลางเหนือ ปุ่มไฟฉุกเฉินนั้น จะเป็นปุ่ม central lock ครับ
สำหรับช่องแอร์ ซ้าย ขวา ใหญ่ได้ใจดี.. แอร์เย็นช่ำ ^ ^ หรือว่าเพราะรถยังใหม่อยู่หว่า.. 555555
ถัดลงมาอีกหน่อย ก็จะเป็น ปุ่มปรับอากาศ (เป็นแบบมือหมุนเอาหน่ะครับ) หรือแอร์นั่นเอง... เริ่มจาก ซ้ายสุดเป็นปุ่ม ระดับความเย็นของแอร์ ส่วนตรงกลางก็จะเป็นปุ่ม ควบคุมความเย็น อุ่น และร้อน.. (รถรุ่นนี้มี ฮีตเตอร์ด้วย..) เมืองไทยร้อนตายชัก ยังมีฮีตเตอร์อีก ไม่ใช่เมืองนอกซะหน่อย.. หรือฝรั่งเค้าคิดว่าเมืองเราอากาศหนาวหว่า.. สำหรับปุ่มขวาสุด จะเป็นปุ่ม ควบคุมการไหลเวียนของอากาศ
ถัดลงมาอีกหน่อยก็จะเป็นเกียร์ Auto 6 Speed Powershift ซึ่งเป็นแบบ ระบบครัชแห้งคู่ช่วยในการเปลี่ยนเกียร์ (ซึ่งถ้าหากยังไม่เคยขับเกียร์แบบนี้ จะได้สัมผัสกับการอาการ เกียร์กระตุน) ซึ่งภายนอกนั้นเป็นเกียร์ auto ก็จริง แต่ระบบภายในนั้น จะเป็นแบบเกียร์กระปุกทั่วๆไป อธิบายไม่ค่อยถูกเหมือนกาน พอดีไม่สันทัดเรื่องเครื่องยนต์กลไก ของรถยนต์เท่าไหร่..
ส่วนด้านข้างขวาลงมาอีกนิดก็จะเป็นเบรคมือ...
ไล่ลงมาก็จะเป็นช่องสำหรับวางแก้วน้ำ, ช่องวางเหรียญ แล้วก็ช่องไฟ (หรือที่จุดบุหรี่นั่นเอง) ในรูปผมเสียบสายชารจ์ มือถือแทบ ส่วนที่จุดบุหรี่ เก็บอยู่ในกล่องตรงกลางแทน..
หลังจากส่องๆ สิ่งที่อยู่ด้านหน้าแล้ว เรามาดูภาพโดยรวมของ console หน้ารถกันบ้างดีกว่า ว่า design จะลงตัวแค่ไหนกัน
สำหรับเบาะของ รุ่น 1.6, Trend นั้นจะเป็น เบาะผ้าน่ะครับ..
ส่วนในรูปที่เห็นเป็นเบาะหนังดำ ตะเข็บแดง อันนี้เป็นของแถมที่ผมของจาก Sales ครับ.. รวมไปถึง ผ้ายางลายกระดุมเข้ารูปด้วยหน่ะครับ ^ ^
ต่อกันอีกหน่อย.. สำหรับห้องโดยสาร ยามค่ำคืนนั้นจะมืดมิด.. สำหรับรุ่นนิดติดตั้งไฟส่องห้องโดยสารมา 2 จุดด้วยกัน นั่นก็คือ zone ด้านหน้าคนขับ กับ zone ด้านหลังสำหรับผู้โดยสาร...
สำหรับช่องตรงกลางใกล้ๆกับ ไฟส่องสว่างนั่นเป็น รูไมค์ สำหรับเวลาสนทนาผ่าน Bluetooth ด้วย SYNC ของทาง Ford เค้าครับ
อ่อลืมบอกไปว่า ระบบ SYNC นี้เป็นของทาง Microsoft ที่ทำการ พัฒนาขึ้นมาใช้งานให้กับทาง Ford เค้าครับ.. ซึ่งตอนนี้หลักๆ แล้วยังทำได้แค่ สั่งงานด้วยเสียง สำหรับใช้งานทางโทรศัพท์ (อ่อ เราสามารถสั่งให้มันอ่านข้อความ SMS ได้ด้วยหน่ะครับ แต่ต้องเป็นข้อความภาษาอังกฤษหน่ะครับ ภาษาไทยอ่านไม่ออก สงสัยต้องส่งไปเรียนเสริมภาษาไทย จะได้อ่านไทยออก 55555555) และก็เล่นเพลงเป็นหลักหน่ะครับ
[CR] Review All-new Ford Focus 1.6, Trend, 5Dr, Frozen White
ก่อนอื่น เรามาดู สเป็กคร่าวๆ ของเจ้า Focus กันก่อนครับว่ามีอะไรมาให้บ้าง สำหรับรุ่น 1.6, Trend, 5Dr
- เครื่องยนต์เบนซิน Duratec 1.6L Ti-VCT พร้อมเกียร์อัตโนมัติ PowerShift 6 สปีด
- ล้ออัลลอย 16”
- สปอยเลอร์หลัง
- กระจังหน้าแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ (Active grille shutter)
- ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง (Torque Vectoring Control)
- ระบบเบรก ABS และ ระบบช่วยกระจายแรงเบรก EBD
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP พร้อมระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist)
- ระบบช่วยเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ BA
- เครื่องเล่น CD/MP3 พร้อมลำโพง 4 ตัว
- ช่องต่อ USB/iPOD
- ระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระคอนโทรล เบรด มัลติลิงค์
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
- ไฟหน้าแบบฮาโลเจน
- ไฟตักหมอกหน้า
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว
- ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC พร้อมการเชื่อมต่อบลูทูธ
- EcoMode
หลังจากเรารู้จักคุณสมบัติ ของเจ้า focus 1.6, trend แล้ว คราวนี้ก็มา ยนโฉม หน้าตาของเจ้า Focus 1.6,Trend, 5Dr, Frozen White กันดีกว่าน่ะครับ ^ ^
ด้านหน้า...
ด้านข้าง..
ส่องท้ายกันหน่อย..
ที่นี้เราก็มาดูล้อกันบ้าง เป็นล้อแม็ก อัลลอย 16" มาพร้อมกับ ดิสก์เบรค 4 ล้อ มาพร้อมกับ ยาง MICHELIN PRIMACY LC ขนาด 205/60R16
กุญแจสำหรับรุ่น 1.6 เป็นกุญแจ remote ซึ่งจะมี 3 ปุ่มด้วยกันคือ 1.ปลดล๊อก 2.ล๊อก และ 3.ปลดล๊อก ประตูท้ายรถ
โดยกุญแจ รุ่นนี้ สามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้ ปลดล๊อก เฉพาะประตู คนขับ (กด 1 ครั้ง) หากต้องการปลดล๊อกประตูอีก 3 บานทีเหลือ ก็ให้ กดปุ่มปลดล๊อก 2 ครั้งติดกัน..
โดยระบบกุญแจรุ่นนี้เป็นแบบ Immobilizer
กุญแจระบบ Immobilizer คืออะไรนั้น เรามาดูกันครับ
เป็นระบบตรวจสอบและเปรียบเทียบ ID Code ของกุญแจให้ตรงกับ ID Code
ที่ถูกบันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์ของรถก่อนการสตาร์ทรถ ป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดได้
หากใช้กุญแจที่ผิดไปจากเดิม เช่น กุญแจปลอมหรือเลียนแบบค่ะ แต่ในกรณีการต่อสายตรงในการสตาร์ทเครื่องยนต์ก็คงทำได้ลำบากเช่นกัน เนื่องจากในรถยนต์รุ่นปัจจุบันมีการใช้กล่องควบคุมเครื่องยนต์ ในการตรวจสอบระบบต่างก่อนทำการสตาร์ท ซึ่งหากเซ็นเซอร์ทำงานบกพร่องหรือทำงานผิดปกติ เครื่องยนต์ก็อาจจะไม่สามารถสตาร์ทติดได้ หรือถ้าสตาร์ทติดก็อาจจะไม่สมบรูณ์ ดังนั้นการที่จะต่อสายตรงเพื่อทำการสตาร์ทรถคงทำได้ยาก หรือถ้าจะทำจริงๆคงต้องใช้เวลานานมาก และจะต้องมีความเข้าใจในระบบควบคุมเครื่องยนต์เป็นอย่างดี ดังนั้นการดักจับรหัสเพื่อเอาไปcopyใช้ใหม่ จะไม่มีประโยชน์ ต้องเอาตัวลูกกุญแจลูกนั้นเท่านั้นไปใช้
ส่วนการล๊อกให้กดปุ่มตรงกลาง กด 1 ครั้ง เป็นการล๊อก 1 ชั้น กด 2 ครั้งติดกันเป็นการล๊อก 2 ชั้น (อันนี้ผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ technology ของระบบล๊อก ชั้นเดียว กะ 2ชั้นเท่าไหร่ พอดีอ่านเจอในคู่มือ มาแบบนี้หน่ะครับ)
ส่วนการปลดล๊อกประตูท้ายรถ ก็ให้กดปุ่มด้านล่างสุด 2 ครั้งติดกัน ก็จะเปิดประตูท้ายรถครับ..
สำหรับการใช้งาน start รถ นั้นก็จะมีปุ่มกด ด้านมุมบน จะเป็นแบบกุญแจพับหน่ะครับ แล้วก็เสียบและ start รถได้ปกติเลยครับ
(อันนี้ลืมถ่ายอีกด้านมาให้ชมหน่ะครับ ต้องขออภัยด้วย..)
อ่อลืมบอกไปว่า รุ่นนี้มีระบบ lock พวงมาลัยด้วยหน่ะครับ กันเหนียวอีกชั้น เพียงแค่ดับเครื่องยนต์แล้วเราก็โยกพวงมาลัยซ้าย หรือ ขวา ระบบก็จะทำการ lock พวงมาลัยให้ครับ การที่จะคลาย lock พวงมาได้นั้น จะต้องเสียบกุญแจ และโยกพวงมาลัย (อาจจะต้องเฟือนนิดนึง) ไปยังทางที่เรา lock ไว้อย่างเดิมถึงจะทำการ บิดกุญแจเพื่อ start เครื่องได้ครับ
ทีนี้พอเปิดประตูรถกันได้แล้ว ก็มาส่องภายในกันซะหน่อยว่ามีอะไรให้เชยชมบ้าง..
โผ่ลมาก็จ๊ะเอ๋ กับ พวงมาลัยและหน้าปัด console ฝั่งคนขับก่อนเลยครับ
พวงมาลัยเป็นแบบ ก้าน 4 แฉก.. จับกระฉับมือ.. แน่นหนึบ เค้าโค้ง ไม่มีอาการพวงมาลัยสั่นเลย... นิ่งมาก..
บนพวงมาลัยจะมีปุ่ม control ต่างๆมาให้ด้วย.. เรามาเริ่มจากด้านขวามือกันก่อนครับ จะเป็นปุ่มสำหรับ control เกี่ยวกับการตั้งค่า และ trip ต่างๆ บนหน้าปัด console
ส่วน ปุ่ม control ที่อยู่ด้านซ้าย จะเอาไว้ control ชุดเครื่องเสียง การรับสาย ไม่รับสาย ปรับ เพิ่ม ลม ระดับเสียง และก็ SYNC ของ Ford
ส่วนปุ่ม control ที่ประตูฝั่งคนขับ ก็จะเป็นปุ่ม control กระจกไฟฟ้าทั้ง 4 บาน
ใต้พวงมาลัยด้านขวา ก็จะเป็นปุ่มปุ่มสำหรับ control ระบบไฟ..
เริ่มจากซ้ายสุดก็ ปุ่มบนเป็นการเปิด/ปิด ไฟตัดหมอกด้านหน้ารถ
ส่วนปุ่มล่างก็ไฟตัดหมอก ท้ายรถ
ปุ่มตรงกลางจะเป็นปุ่มเปิดไฟหน้ารถ (ปิดไฟ, เปิดไฟหรี่, เปิดไฟต่ำหน้ารถ)
และด้านขวาสุดก็จะเป็นปุ่มปรับระดับแสงที่หน้าปัดเรือนไมค์
ถัดมาซ้ายมือก็เป็นชุดเครื่องเสียง... (ถ้ารุ่น 2.0 จะได้เป็นเครื่องเสียง ของ Sony ครับ)
ที่เรามาดูกันว่ามันทำไรได้บ้าง เริ่มจาก บนซ้ายก็จะเป็นปุ่มสำหรับเล่นแผ่น CD/MP3 ครับ
ถัดมาก็เป็น ปุ่มสำหรับรับฟังวิทยุ AM/FM..
ถัดลงมาอีกก็จะเป็นปุ่มสำหรับ USB/AUX/Buletooth ครับ..
ส่วนปุ่มล่างสุดเป็นปุ่ม menu สำหรับตั้งค่าต่างๆ
สำหรับฝั่งตรงกันข้ามจะเป็นปุ่มตัวเลขต่างๆ ซึ่ง design เรียบแบบ ปุ่มกด โทรศัพท์มือถือ เลยครับ สำหรับการใช้งานโทรศัพท์ จะเป็นการ Sync เข้ากับ Bluetooth ของโทรศัพท์เราครับ มันจะทำการ Update Contact ในโทรศัพท์มือถือของเราเข้าไปด้วยครับ เวลาโทรออก หรือมีสายเข้าก็จะ show contact ตามมือถือของเราเลยครับ สามารถใช้งานร่วมกับ ระบบ SYNC ของ Ford ได้ครับ เพียงแต่พูดว่า Call "<ชื่อ contact>" เด๋วระบบก็จะโทรออกให้เลยครับ
ทั้งนี้เราสามารถตั้ง Speed Dial 10 เบอร์ก็ได้ ร่วมไปถึงการโทรออก ของการใช้สายล่าสุด.. เราสามารถ control ขึ้น ลง ซ้าย ขวา ได้จากปุ่ม control บนพวงมาลัยได้ด้วย... ทำให้เราแทบไม่ต้องละสายตา หรือเอื้อมือ ซึ่งจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหต บนท้องถนนได้..
สำหรับปุ่มตรงกลางเหนือ ปุ่มไฟฉุกเฉินนั้น จะเป็นปุ่ม central lock ครับ
สำหรับช่องแอร์ ซ้าย ขวา ใหญ่ได้ใจดี.. แอร์เย็นช่ำ ^ ^ หรือว่าเพราะรถยังใหม่อยู่หว่า.. 555555
ถัดลงมาอีกหน่อย ก็จะเป็น ปุ่มปรับอากาศ (เป็นแบบมือหมุนเอาหน่ะครับ) หรือแอร์นั่นเอง... เริ่มจาก ซ้ายสุดเป็นปุ่ม ระดับความเย็นของแอร์ ส่วนตรงกลางก็จะเป็นปุ่ม ควบคุมความเย็น อุ่น และร้อน.. (รถรุ่นนี้มี ฮีตเตอร์ด้วย..) เมืองไทยร้อนตายชัก ยังมีฮีตเตอร์อีก ไม่ใช่เมืองนอกซะหน่อย.. หรือฝรั่งเค้าคิดว่าเมืองเราอากาศหนาวหว่า.. สำหรับปุ่มขวาสุด จะเป็นปุ่ม ควบคุมการไหลเวียนของอากาศ
ถัดลงมาอีกหน่อยก็จะเป็นเกียร์ Auto 6 Speed Powershift ซึ่งเป็นแบบ ระบบครัชแห้งคู่ช่วยในการเปลี่ยนเกียร์ (ซึ่งถ้าหากยังไม่เคยขับเกียร์แบบนี้ จะได้สัมผัสกับการอาการ เกียร์กระตุน) ซึ่งภายนอกนั้นเป็นเกียร์ auto ก็จริง แต่ระบบภายในนั้น จะเป็นแบบเกียร์กระปุกทั่วๆไป อธิบายไม่ค่อยถูกเหมือนกาน พอดีไม่สันทัดเรื่องเครื่องยนต์กลไก ของรถยนต์เท่าไหร่..
ส่วนด้านข้างขวาลงมาอีกนิดก็จะเป็นเบรคมือ...
ไล่ลงมาก็จะเป็นช่องสำหรับวางแก้วน้ำ, ช่องวางเหรียญ แล้วก็ช่องไฟ (หรือที่จุดบุหรี่นั่นเอง) ในรูปผมเสียบสายชารจ์ มือถือแทบ ส่วนที่จุดบุหรี่ เก็บอยู่ในกล่องตรงกลางแทน..
หลังจากส่องๆ สิ่งที่อยู่ด้านหน้าแล้ว เรามาดูภาพโดยรวมของ console หน้ารถกันบ้างดีกว่า ว่า design จะลงตัวแค่ไหนกัน
สำหรับเบาะของ รุ่น 1.6, Trend นั้นจะเป็น เบาะผ้าน่ะครับ..
ส่วนในรูปที่เห็นเป็นเบาะหนังดำ ตะเข็บแดง อันนี้เป็นของแถมที่ผมของจาก Sales ครับ.. รวมไปถึง ผ้ายางลายกระดุมเข้ารูปด้วยหน่ะครับ ^ ^
ต่อกันอีกหน่อย.. สำหรับห้องโดยสาร ยามค่ำคืนนั้นจะมืดมิด.. สำหรับรุ่นนิดติดตั้งไฟส่องห้องโดยสารมา 2 จุดด้วยกัน นั่นก็คือ zone ด้านหน้าคนขับ กับ zone ด้านหลังสำหรับผู้โดยสาร...
สำหรับช่องตรงกลางใกล้ๆกับ ไฟส่องสว่างนั่นเป็น รูไมค์ สำหรับเวลาสนทนาผ่าน Bluetooth ด้วย SYNC ของทาง Ford เค้าครับ
อ่อลืมบอกไปว่า ระบบ SYNC นี้เป็นของทาง Microsoft ที่ทำการ พัฒนาขึ้นมาใช้งานให้กับทาง Ford เค้าครับ.. ซึ่งตอนนี้หลักๆ แล้วยังทำได้แค่ สั่งงานด้วยเสียง สำหรับใช้งานทางโทรศัพท์ (อ่อ เราสามารถสั่งให้มันอ่านข้อความ SMS ได้ด้วยหน่ะครับ แต่ต้องเป็นข้อความภาษาอังกฤษหน่ะครับ ภาษาไทยอ่านไม่ออก สงสัยต้องส่งไปเรียนเสริมภาษาไทย จะได้อ่านไทยออก 55555555) และก็เล่นเพลงเป็นหลักหน่ะครับ