สวัสดีครับ ขอเล่าที่มานิดนึงนะครับเริ่มจากทาง Ford เขาจัดกิจกรรมให้แนะนำสถานที่ที่น่าสนใจในเมืองของคุณ ส่งไปแล้วจะคัดเลือก 5 ทีม ใน 5 จังหวัด ที่จะได้ขับรถ Ford Ecosport ตัวTitanium(ตัวท็อป) เป็นเวลาประมาณ 1 เดือน โชคดีมากครับที่ผมได้เข้ารอบเป็นตัวแทนจังหวัดกรุงเทพฯ คู่กับพี่ โดนัท มนัสนันท์ ผมได้เอารถมาขับแล้วตั้งแต่ต้นเดือนมกรา เลยอยากจะมาลองรีวิวรถกะเค้าบ้าง ผมยังเป็นมือใหม่ถ้าติดขัดตรงไหนช่วยแนะนำด้วยนะครับ
ขอเปิดด้วย คลิปรีวิวรถสั้นๆที่เราทำกันนะครับ
เรื่องแรกที่อยากพูดถึงคือขนาดรถครับหลายคนคงได้เห็นรถคันจริงบ้างแล้ว ครั้งแรกที่ผมเห็นคันจริง รู้สึกหน้าตารถมันหลอกตาเราว่าใหญ่แต่ของจริงนี่เล็กกะทัดรัดกว่าที่คิดไว้พอสมควรเลยครับ ข้อมูลจากเวปบอกว่าเจ้าคันนี้มีขนาดอยู่ที่ 4,245 x 1,765 x 1,708 มิล ฐานล้อกว้าง2541มิล สูง 200 มิล ลักษณะภายในอารมณ์คล้ายๆ Fiesta แต่จะดีกว่าตรงที่เป็น SUV ทำให้ห้องโดยสารสูงกว่าด้านหลังก็พอจะนั่ง 3 คนได้แบบใกล้ชิดนิดหน่อย แต่หัวไม่ชนนะครับซึ่งนี่จะเป็นข้อดีของความเป็นSUV สำหรับคนสูง 180 ก็ยังนั่งได้สบายพวกระยะวางเท้ากับขนาดเบาะนั่งแล้วก็ไม่ได้มีปัญหาติดใดๆ คือบิดตัวไปๆมาๆได้นิดหน่อยแค่มันใหญ่ไม่เท่าภาพที่เราจินตนาการไว้ตอนแรกครับ ซึ่ง Ford น่าจะพยายามตอบโจทย์เรื่องความเป็น Urban คือเน้นความคล่องตัวในเมืองครับการขึ้นลงก็ไม่ได้แตกต่างจากรถSUVทั่วไป คือต้องก้าวขึ้นนิดนึงครับ
การออกแบบภายนอก(ซึ่งหลายคนน่าจะเห็นแล้ว) นั้นดูแล้วดุดันมีเหลี่ยมมุม ดูออกแมนๆลุยๆครับซึ่งน่าจะถูกใจคุณผู้ชายหลายๆท่าน ขับแล้ว รู้สึกเท่ อารมณ์ Transformer คันนี้น่าจะเป็น Autobot ครับ (ฮาาาา
)
เบาะนั่งออกแบบมาเป็นแบบสปอร์ตโดยเป็นหนังสีดำเดินลายสีแดง จากที่นั่งมาก็นุ่มๆแน่นๆดีครับ
ตรงพนักหัวก็สอดรับหัวได้โอเคเลยที่เลื่อนออกแบบเป็นที่จับ ไม่ได้เป็นแบบบาร์ ซึ่งน่าจะเกิดการออกแบบช่องเก็บของไว้ใต้เบาะครับซึ่งก็จับปรับได้ง่ายครับ ส่วนปรับเอนมีอยู่ด้านข้าง
ส่วนฝั่งคนขับจะมีที่วางแขนซ้ายซึ่งวางแล้วจับเกียร์ได้พอดีๆ(ดูตามVDOได้ครับ)อันนี้ผมชอบมากๆ น่าเสียดายที่ด้านคนนั่งไม่มีที่เท้าแขนมาให้ครับน่าจะต้องการประหยัดพื้นที่ครับ และการปรับความสูงเบาะใช้แบบก้านโยกเอาครับ ส่วนเบาะหลังเป็นแบบพับได้ 60:40 ครับ (ในคลิปที่เราเอารถคันนี้ไปเที่ยวบางกระเจ้า เราพับเบาะหลัง ใส่จักรยานเสือภูเขาเข้าไปโดยไม่ได้ถอดล้อออกด้วยครับ ตอนหลังเรามีเอาไปติดrackที่หลังคา)
ประตูหลังรถคันนี้เป็นแบบเปิดข้าง ซึ่งก็ดีเวลาต้องการเปิดแค่แง้มๆ แต่ก็กินที่ใช้ได้อยู่ครับ
สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีในรถมีค่อนข้างมากใน range ของรถประมานนี้ เนื่องจากรถที่ผมได้มาขับเป็นรุ่นท็อป
ราคา 8 แสนกว่าบาท จะมีออปชั่นประมาณนี้ครับ
Sunroof ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติโดยใช้ไฟฟ้าเปิดปิดจากสวิตช์ซึ่งทำให้เราสามารถเปิดกว้างได้ตามใจเรา และสามารถเปิดยกด้านหลังขึ้นเพื่อระบายอากาศได้
กุญแจระบบ Keyless ซึ่งตอนแรกผมก็ไม่ค่อยถนัด แต่ใช้ไปใช้มาก็เริ่มติดมันพอควรเลย วิธีการสตาร์ทก็ใช้การเหยียบเบรคแล้วกดปุ่มสตาร์ท กดปุ๊บสตาร์ทเลยไม่ดีเลย์ แต่หากต้องการแค่เปิดระบบไฟฟ้าเหมือนบิดกุญแจเพียงแค่ครึ่งหนึ่งในรถแบบใช้กุญแจ ก็กดปุ่มโดยไม่ต้องเหยียบเบรก อีกส่วนหนึ่งซึ่งผมชอบมากคือกุญแจที่ไม่ต้องเสียบเข้ากับตัวรถ แต่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงได้เลย การล็อคทำได้สองวิธีคือล็อคจากรีโมทตามปกติและการกดปุ่มสีดำที่มือจับ ซึ่งกุญแจจะต้องอยู่ใกล้มากครับ คือต้องอยู่ตรงประตูเลยถึงจะปลดล็อคได้ ไม่ต้องกลัวเรายืนใกล้ๆแล้วโจรมากดแล้วแย่งรถไป 555
นอกจากนี้ยังมีพวกระบบอัตโนมัติต่างๆ เช่น ระบบแอร์ ที่ปัดน้ำฝน ไฟหน้าซึ่งมีไฟหรี่ที่เป็นไฟ Daylight LED และมีไฟตัดหมอกหน้าหลังซึ่งน่าจะมีประโยชน์เวลาฝนตกครับ มีระบบเตือนเวลาถอยหลังด้วย กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าครับ แต่ว่าการพับนั้นต้องพับด้วยมือครับ ส่วนที่ปัดน้ำฝนด้านหลังสามารถฉีดน้ำได้ด้วยครับ
เรื่องระบบ Sync ที่Fordโฆษณานี่ ผมแอบรู้สึกว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่อาจจะยังไม่ได้ใช้งานจริงซักเท่าไหร่คล้ายเป็นลูกเล่นสนุกๆที่ Ford ให้มา แต่เท่าที่ใช้ดูการรับเข้าโทรออกผ่าน Bluetooth ก็ทำได้ดีและช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้พอสมควร การฟังคำสั่งจากสำเนียงไทยๆก็ฟังได้ค่อนข้างดี
ไม่ต้องออกเสียงเป๊ะมากเหมือนเจ้าของภาษาก็สื่อสารกับรถรู้เรื่องครับ
การต่อเพลงจากมือถือ หรือ iPod เข้ากับลำโพงรถ จะผ่านช่องเสียบ USB หรือแจ๊ก 3.5 มม. ก็ได้ การเสียบ iPod ผ่าน USB ก็จะทำให้เราสามารถสั่งให้รถเล่นเพลงใดๆด้วยเสียงได้ด้วยครับ การตอบสนองของระบบอาจจะช้านิดหน่อย เหมือนจะถูกตั้งค่ารอให้เราพูดจบจริงๆถึงจะเริ่มทำตามคำสั่งครับ
ปุ่มคำสั่ง Sync ที่พวงมาลัย
ตรงโซนของรูเชื่อมต่อต่างๆจะมีช่องต่อไฟ 12V ด้วยครับ และที่พิเศษในรุ่นท็อปก็จะมีอีกรูสำหรับคนนั่งข้างหลังครับ ไม่ต้องแย่งกันชาร์จข้างหน้า
จอ LED กลางนั้นทำหน้าที่บอกข้อมูลเกี่ยวกับวิทยุ การเชื่อมต่อ และมีเมนูสำหรับตั้งค่าต่างๆของรถครับ ส่วน LED ตรงพวงมาลัยจะบอกพวกค่าการสิ้นเปลืองน้ำมัน อุณภูมิภายนอก และไมล์ครับ
อีกอันที่ผมชอบคือกระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติช่วยลดแสงไฟสูง หรือแดดแยงตาได้ดีทีเดียว
ผมว่าที่แปลกอย่างหนึ่งของรถรุ่นนี้ คือเป็นรถเล็กที่พวงมาลัยเบามากถึงขึ้นเบาเกินไปไหม (ฮาาา)
เวลาขับเร็วๆผมไม่กล้าหักแรงเลยครับ แต่รถก็นิ่งดีนะครับ ถือว่าขับสะดวก วงเลี้ยวก็แคบดีครับ(ตามที่เห็นในคลิป) ตอบโจทย์เรื่องของการใช้ในเมือง
เครื่องยนต์ ในรุ่นนี้เป็นเครื่อง เบนซิน 1500cc นะครับ สามารถเติม E20 ได้ ซึ่งช่วยประหยัดได้ดี เห็นว่าอนาคตอาจจะมีเครื่อง Ecoboost 1000CC มาด้วย แต่ราคาน่าจะแพงขึ้น ซึ่งพูดกันตามตรงเครื่อง 1500cc ก็แอบอืดตอนออกตัวนิดหน่อย แต่ขับไปแล้วก็ตอบสนองไว้ใช้ได้เลยครับ แล้วที่เกียร์มี mode sport ด้วย ทำให้เราตบเกียร์ขึ้นลงเองได้ ก็ยิ่งทำให้มั่นใจตอนเร่งแซงอยู่ ผมลองวิ่งยาวๆดู 120 ก็ยังเหลือๆนะครับ ดีที่มี 6 เกียร์ด้วย ส่วนตัวผมว่ารถคันนี้ใช้วิ่งได้เมืองได้ดี ประหยัดและวิ่งออกต่างจังหวัดก็ไม่ได้มีส่วนขัดใจอย่างไร แลกกับความประหยัดน้ำมันครับ
เกียร์มีMode Sport ปรับเกียร์ขึ้นลงได้โดยการกดปุ่ม บวก ลบ
ข้อดีที่ผมเห็นว่ารถรุ่นนี้น่าใช้คือ ความเป็น SUV ของมันนี่แหละครับ เพราะรถมันสูงกว่ารถเก๋ง หากต้องลุยน้ำท่วมก็ค่อนข้างเบาใจได้กว่ารถเก๋งมาก เบาะหลังพับได้ซึ่งทำให้มีพื้นที่เก็บของเยอะขึ้นมากเมื่อพับเบาะแล้วเทียบกับรถเก๋งครับ เรียกว่าหากต้องการขนของขนาดเครื่อกซักผ้านี่ไม่ต้องจ้างรถกระบะเลย และพอดีสถานที่ที่ผมร่วมสนุกแนะนำไปเป็นที่บางกระเจ้า ผมเลยจัดการเอารถไปติด rack ที่เก็บจักรยานบนหลังคามา ซึ่งก็ work มาก คือเราสามารถนำจักรยานขึ้นบนหลังคาได้ 2 คัน และใส่ด้านหลังได้อีกคันรวมเป็น 3 คันเลยครับซึ่งน่าจะถูกใจขาปั่นมากๆ รถเล็กแต่ใส่จักรยาน(และคนขี่)ได้ถึงสามคู่
Rack ของThule รุ่น ProRide 591
ขอปิดท้ายด้วยภาพทีมพวกเรานะครับ วันแรกๆที่ยังไม่ได้เอารถไปติดสติ๊กเกอร์ครับ
ให้กำลังใจทีมผม ทีมกรุงเทพฯด้วยการกดfollowที่
https://ecosportdiscoveriesthailand.com/finalists/bangkok/ ได้นะครับ
ในเพจก็จะมีเราเอารถไปลองอะไรใหม่ๆเรื่อยๆ ยิ่ง follow ยิ่งshare ยิ่งมีสิทธิ์ลุ้นรับ Samsung Galaxy S4 ที่Fordแจกตั้ง 20 เครื่องนะครับ
สุดท้ายขอฝากคลิปที่พวกผมพาเที่ยวบางกระเจ้า กับทำหนังรักเกี่ยวกับรถ Ford Ecosport ไว้ด้วยนะครับ
พาเที่ยวบางกระเจ้า
แนะนำรถแบบฮาๆกะบุคคลปริศนา
หนังรัก แบบซึ้งๆ (ถ้าไม่Subtitleขึ้น ให้กดสัญลักษณ์ CC ที่มุมขวาล่างนะครับ)
และทีมเราได้จับคู่กับพี่โดนัท มนัสนันท์ พาไปเที่ยวที่แปลกๆในกรุงเทพฯ มีทั้งหมด 3 ตอน ติดตามกันด้วยนะครับ
พาพี่โดนัทเที่ยว ตอนที่1
ตอน2-3 ติดตามกันอาทิตย์หน้านะครับ
3 คลิปแรกนี้พวกเราถ่ายกันเองนะครับ(ดีที่ทัพชอบถ่ายรูป และเคยหนังมาบ้างตอนเรียน) และเราไม่เคยทำรีวิวรถมาก่อน ยังไงติชมกันได้นะครับ
รีวิวนี้Fordไม่ได้ให้เราทำนะครับ เราทำกันเอง เพราะเห็นว่ารถใหม่ และส่วนตัวเคยอยากทำอยู่แล้ว แต่ถ้าได้กำลังใจเข้าไปfollowทีมเรา ช่วยshareต่อ ก็ขอบคุณมากเลยนะครับ (id พันทิพนี่ผมก็ยืมเพื่อนมานะครับ)
ขอบคุณครับ
[SR] Review รีวิว Ford Ecosport โดยทีม Urban Discoveries จังหวัดกรุงเทพครับ
ขอเปิดด้วย คลิปรีวิวรถสั้นๆที่เราทำกันนะครับ
เรื่องแรกที่อยากพูดถึงคือขนาดรถครับหลายคนคงได้เห็นรถคันจริงบ้างแล้ว ครั้งแรกที่ผมเห็นคันจริง รู้สึกหน้าตารถมันหลอกตาเราว่าใหญ่แต่ของจริงนี่เล็กกะทัดรัดกว่าที่คิดไว้พอสมควรเลยครับ ข้อมูลจากเวปบอกว่าเจ้าคันนี้มีขนาดอยู่ที่ 4,245 x 1,765 x 1,708 มิล ฐานล้อกว้าง2541มิล สูง 200 มิล ลักษณะภายในอารมณ์คล้ายๆ Fiesta แต่จะดีกว่าตรงที่เป็น SUV ทำให้ห้องโดยสารสูงกว่าด้านหลังก็พอจะนั่ง 3 คนได้แบบใกล้ชิดนิดหน่อย แต่หัวไม่ชนนะครับซึ่งนี่จะเป็นข้อดีของความเป็นSUV สำหรับคนสูง 180 ก็ยังนั่งได้สบายพวกระยะวางเท้ากับขนาดเบาะนั่งแล้วก็ไม่ได้มีปัญหาติดใดๆ คือบิดตัวไปๆมาๆได้นิดหน่อยแค่มันใหญ่ไม่เท่าภาพที่เราจินตนาการไว้ตอนแรกครับ ซึ่ง Ford น่าจะพยายามตอบโจทย์เรื่องความเป็น Urban คือเน้นความคล่องตัวในเมืองครับการขึ้นลงก็ไม่ได้แตกต่างจากรถSUVทั่วไป คือต้องก้าวขึ้นนิดนึงครับ
การออกแบบภายนอก(ซึ่งหลายคนน่าจะเห็นแล้ว) นั้นดูแล้วดุดันมีเหลี่ยมมุม ดูออกแมนๆลุยๆครับซึ่งน่าจะถูกใจคุณผู้ชายหลายๆท่าน ขับแล้ว รู้สึกเท่ อารมณ์ Transformer คันนี้น่าจะเป็น Autobot ครับ (ฮาาาา
เบาะนั่งออกแบบมาเป็นแบบสปอร์ตโดยเป็นหนังสีดำเดินลายสีแดง จากที่นั่งมาก็นุ่มๆแน่นๆดีครับ
ตรงพนักหัวก็สอดรับหัวได้โอเคเลยที่เลื่อนออกแบบเป็นที่จับ ไม่ได้เป็นแบบบาร์ ซึ่งน่าจะเกิดการออกแบบช่องเก็บของไว้ใต้เบาะครับซึ่งก็จับปรับได้ง่ายครับ ส่วนปรับเอนมีอยู่ด้านข้าง
ส่วนฝั่งคนขับจะมีที่วางแขนซ้ายซึ่งวางแล้วจับเกียร์ได้พอดีๆ(ดูตามVDOได้ครับ)อันนี้ผมชอบมากๆ น่าเสียดายที่ด้านคนนั่งไม่มีที่เท้าแขนมาให้ครับน่าจะต้องการประหยัดพื้นที่ครับ และการปรับความสูงเบาะใช้แบบก้านโยกเอาครับ ส่วนเบาะหลังเป็นแบบพับได้ 60:40 ครับ (ในคลิปที่เราเอารถคันนี้ไปเที่ยวบางกระเจ้า เราพับเบาะหลัง ใส่จักรยานเสือภูเขาเข้าไปโดยไม่ได้ถอดล้อออกด้วยครับ ตอนหลังเรามีเอาไปติดrackที่หลังคา)
ประตูหลังรถคันนี้เป็นแบบเปิดข้าง ซึ่งก็ดีเวลาต้องการเปิดแค่แง้มๆ แต่ก็กินที่ใช้ได้อยู่ครับ
สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีในรถมีค่อนข้างมากใน range ของรถประมานนี้ เนื่องจากรถที่ผมได้มาขับเป็นรุ่นท็อป
Sunroof ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติโดยใช้ไฟฟ้าเปิดปิดจากสวิตช์ซึ่งทำให้เราสามารถเปิดกว้างได้ตามใจเรา และสามารถเปิดยกด้านหลังขึ้นเพื่อระบายอากาศได้
กุญแจระบบ Keyless ซึ่งตอนแรกผมก็ไม่ค่อยถนัด แต่ใช้ไปใช้มาก็เริ่มติดมันพอควรเลย วิธีการสตาร์ทก็ใช้การเหยียบเบรคแล้วกดปุ่มสตาร์ท กดปุ๊บสตาร์ทเลยไม่ดีเลย์ แต่หากต้องการแค่เปิดระบบไฟฟ้าเหมือนบิดกุญแจเพียงแค่ครึ่งหนึ่งในรถแบบใช้กุญแจ ก็กดปุ่มโดยไม่ต้องเหยียบเบรก อีกส่วนหนึ่งซึ่งผมชอบมากคือกุญแจที่ไม่ต้องเสียบเข้ากับตัวรถ แต่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงได้เลย การล็อคทำได้สองวิธีคือล็อคจากรีโมทตามปกติและการกดปุ่มสีดำที่มือจับ ซึ่งกุญแจจะต้องอยู่ใกล้มากครับ คือต้องอยู่ตรงประตูเลยถึงจะปลดล็อคได้ ไม่ต้องกลัวเรายืนใกล้ๆแล้วโจรมากดแล้วแย่งรถไป 555
นอกจากนี้ยังมีพวกระบบอัตโนมัติต่างๆ เช่น ระบบแอร์ ที่ปัดน้ำฝน ไฟหน้าซึ่งมีไฟหรี่ที่เป็นไฟ Daylight LED และมีไฟตัดหมอกหน้าหลังซึ่งน่าจะมีประโยชน์เวลาฝนตกครับ มีระบบเตือนเวลาถอยหลังด้วย กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าครับ แต่ว่าการพับนั้นต้องพับด้วยมือครับ ส่วนที่ปัดน้ำฝนด้านหลังสามารถฉีดน้ำได้ด้วยครับ
เรื่องระบบ Sync ที่Fordโฆษณานี่ ผมแอบรู้สึกว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่อาจจะยังไม่ได้ใช้งานจริงซักเท่าไหร่คล้ายเป็นลูกเล่นสนุกๆที่ Ford ให้มา แต่เท่าที่ใช้ดูการรับเข้าโทรออกผ่าน Bluetooth ก็ทำได้ดีและช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้พอสมควร การฟังคำสั่งจากสำเนียงไทยๆก็ฟังได้ค่อนข้างดี
ไม่ต้องออกเสียงเป๊ะมากเหมือนเจ้าของภาษาก็สื่อสารกับรถรู้เรื่องครับ
ปุ่มคำสั่ง Sync ที่พวงมาลัย
ตรงโซนของรูเชื่อมต่อต่างๆจะมีช่องต่อไฟ 12V ด้วยครับ และที่พิเศษในรุ่นท็อปก็จะมีอีกรูสำหรับคนนั่งข้างหลังครับ ไม่ต้องแย่งกันชาร์จข้างหน้า
จอ LED กลางนั้นทำหน้าที่บอกข้อมูลเกี่ยวกับวิทยุ การเชื่อมต่อ และมีเมนูสำหรับตั้งค่าต่างๆของรถครับ ส่วน LED ตรงพวงมาลัยจะบอกพวกค่าการสิ้นเปลืองน้ำมัน อุณภูมิภายนอก และไมล์ครับ
อีกอันที่ผมชอบคือกระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติช่วยลดแสงไฟสูง หรือแดดแยงตาได้ดีทีเดียว
ผมว่าที่แปลกอย่างหนึ่งของรถรุ่นนี้ คือเป็นรถเล็กที่พวงมาลัยเบามากถึงขึ้นเบาเกินไปไหม (ฮาาา)
เครื่องยนต์ ในรุ่นนี้เป็นเครื่อง เบนซิน 1500cc นะครับ สามารถเติม E20 ได้ ซึ่งช่วยประหยัดได้ดี เห็นว่าอนาคตอาจจะมีเครื่อง Ecoboost 1000CC มาด้วย แต่ราคาน่าจะแพงขึ้น ซึ่งพูดกันตามตรงเครื่อง 1500cc ก็แอบอืดตอนออกตัวนิดหน่อย แต่ขับไปแล้วก็ตอบสนองไว้ใช้ได้เลยครับ แล้วที่เกียร์มี mode sport ด้วย ทำให้เราตบเกียร์ขึ้นลงเองได้ ก็ยิ่งทำให้มั่นใจตอนเร่งแซงอยู่ ผมลองวิ่งยาวๆดู 120 ก็ยังเหลือๆนะครับ ดีที่มี 6 เกียร์ด้วย ส่วนตัวผมว่ารถคันนี้ใช้วิ่งได้เมืองได้ดี ประหยัดและวิ่งออกต่างจังหวัดก็ไม่ได้มีส่วนขัดใจอย่างไร แลกกับความประหยัดน้ำมันครับ
เกียร์มีMode Sport ปรับเกียร์ขึ้นลงได้โดยการกดปุ่ม บวก ลบ
ข้อดีที่ผมเห็นว่ารถรุ่นนี้น่าใช้คือ ความเป็น SUV ของมันนี่แหละครับ เพราะรถมันสูงกว่ารถเก๋ง หากต้องลุยน้ำท่วมก็ค่อนข้างเบาใจได้กว่ารถเก๋งมาก เบาะหลังพับได้ซึ่งทำให้มีพื้นที่เก็บของเยอะขึ้นมากเมื่อพับเบาะแล้วเทียบกับรถเก๋งครับ เรียกว่าหากต้องการขนของขนาดเครื่อกซักผ้านี่ไม่ต้องจ้างรถกระบะเลย และพอดีสถานที่ที่ผมร่วมสนุกแนะนำไปเป็นที่บางกระเจ้า ผมเลยจัดการเอารถไปติด rack ที่เก็บจักรยานบนหลังคามา ซึ่งก็ work มาก คือเราสามารถนำจักรยานขึ้นบนหลังคาได้ 2 คัน และใส่ด้านหลังได้อีกคันรวมเป็น 3 คันเลยครับซึ่งน่าจะถูกใจขาปั่นมากๆ รถเล็กแต่ใส่จักรยาน(และคนขี่)ได้ถึงสามคู่
Rack ของThule รุ่น ProRide 591
ขอปิดท้ายด้วยภาพทีมพวกเรานะครับ วันแรกๆที่ยังไม่ได้เอารถไปติดสติ๊กเกอร์ครับ
ให้กำลังใจทีมผม ทีมกรุงเทพฯด้วยการกดfollowที่ https://ecosportdiscoveriesthailand.com/finalists/bangkok/ ได้นะครับ
ในเพจก็จะมีเราเอารถไปลองอะไรใหม่ๆเรื่อยๆ ยิ่ง follow ยิ่งshare ยิ่งมีสิทธิ์ลุ้นรับ Samsung Galaxy S4 ที่Fordแจกตั้ง 20 เครื่องนะครับ
สุดท้ายขอฝากคลิปที่พวกผมพาเที่ยวบางกระเจ้า กับทำหนังรักเกี่ยวกับรถ Ford Ecosport ไว้ด้วยนะครับ
พาเที่ยวบางกระเจ้า
แนะนำรถแบบฮาๆกะบุคคลปริศนา
หนังรัก แบบซึ้งๆ (ถ้าไม่Subtitleขึ้น ให้กดสัญลักษณ์ CC ที่มุมขวาล่างนะครับ)
และทีมเราได้จับคู่กับพี่โดนัท มนัสนันท์ พาไปเที่ยวที่แปลกๆในกรุงเทพฯ มีทั้งหมด 3 ตอน ติดตามกันด้วยนะครับ
พาพี่โดนัทเที่ยว ตอนที่1
ตอน2-3 ติดตามกันอาทิตย์หน้านะครับ
3 คลิปแรกนี้พวกเราถ่ายกันเองนะครับ(ดีที่ทัพชอบถ่ายรูป และเคยหนังมาบ้างตอนเรียน) และเราไม่เคยทำรีวิวรถมาก่อน ยังไงติชมกันได้นะครับ
รีวิวนี้Fordไม่ได้ให้เราทำนะครับ เราทำกันเอง เพราะเห็นว่ารถใหม่ และส่วนตัวเคยอยากทำอยู่แล้ว แต่ถ้าได้กำลังใจเข้าไปfollowทีมเรา ช่วยshareต่อ ก็ขอบคุณมากเลยนะครับ (id พันทิพนี่ผมก็ยืมเพื่อนมานะครับ)
ขอบคุณครับ