แชร์ประสบการณ์ สัมภาษณ์วีซ่าf-1อเมริกา

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ลุงๆ ป้าๆ อาๆ ทุกคน 555
พอดีเมื่ออาทิตย์ที่แล้วไปสอบวีซ่าf-1อเมริกามา คือจะบอกว่า.. โหดมากกกกกกกก
เริ่มแรกเลยละกันนะคะ..

คือบ้านเราอยู่ชลบุรีค่ะ ออกจากบ้านตอนตี5แหน่ะะ(เรียกว่าแหกขี้ตาตื่นก็ว่าได้)
เราก็อ่านกระทู้ในพันทิพนี่ล่ะค่ะ เค้าคุยอะไรกันก็ทำตามนั้น เราก็ใส่ชุดเดรสเป็นกระโปรงยาวถึงเข่ากับคัดชูส้นเตี้ยค่ะ ซึ่งไม่ใช่แนวเราเลย(สาบานว่าถ้าไม่จำเป็นจะไม่ใส่เลย)
ผมที่ฟูๆ เป็นรังนกก็จับมันหวีซะเรียบแปล้ มัดเป็นหางม้าเก๋ๆท555 (กลัวตัวเองในกระจกมากอ่ะ)
เราเตรียมเอกสารเยอะมากค่ะขอบอก ที่จำเป็นก็พวก พาสปอร์ต, ทรานสคริปต์, DS-160, I-20, ใบสเตทเมนท์, ใบเสร็จค่าวีซ่า ซีวิสฟรี พิน, ใบนัดสัมภาษณ์ ส่วนที่ไม่จำเป็นอีกเยอะแยะมากมายที่เราหอบไปคือ เอกสารทุกอย่างของพ่อ(พ่อเราเป็นสปอนเซอร์ค่ะ), เอกสารทุกอย่างของแม่, เอกสารทุกอย่างของอา(เราไปพักอยู่บ้านอาค่ะ อาเราทำซิติเซ่นเป็นประชากรอเมริกาแล้วค่ะ), เอกสารทุกอย่างของแฟนอา(แฟนอาเป็นฝรั่งค่ะ, เอกสารร้านนวดแผนไทยของอา(แฟนอาส่งเอกสารมาให้เยอะมากกกกกก คงกลัวว่าเค้าจะสงสัยน่ะค่ะ), แล้วก็เอกสารทุกอย่างของเรา(ในที่นี้รวมใบเกิด สำเนาบัตรปชช บลาๆ แบบเยอะมากกก), เอกสารทุกอย่างของโรงเรียนที่ไทย, เอกสารตอบรับของโรงเรียนภาษา, เอกสารตอบรับของมหาวิทยาลัยที่อเมริกา(เราไปเรียนภาษาแล้วต่อป.ตรีที่อเมริกาค่ะ)
จากนั้น.. พ่อเราขับรถพามาจอดไว้ที่บริษัทแถวๆ เทพารักษ์ค่ะ แล้วนั่งแท็กซี่ต่อไปยังสถานทูต
พอถึงสถานทูตปุ๊ป! พระเจ้า!! คิวยาวไปไหนนนนนน เรานี่ต่ออยู่ตรงสะพานลอยเลยแหล่ะค่ะ แล้วอากาศร้อนแบบอบๆ อะค่ะ(วันนั้นฝนตก) แนะนำว่าเตรียม พัด, พัดลมมือถือ, น้ำ หรือเอาถังอ๊อกซิเจนมาด้วยจะดีมากก คือเราเป็นคนสูง158ซม.ค่ะ พอไปยืนอยู่กับคนอื่นแทบหาอากาศหายใจไม่เจอ(แถมบวกกับกลิ่นตัวคนอื่นตอนมันร้อนแล้วเหงื่ออาบนะ โฮกกกก แทบอ้วก)
ดีนะเราเตรียมพัดมา พัดยิ้มเบอร์8เลยค่ะ(วัดตามความเร็วและแรงของกำลังแขนตัวเองแบบมั่วๆ) พัดแบบผมนี่กระเซิงไม่เป็นทรงเลยเหอะค่ะ(ความจริงพัดเสื้อคนข้างหน้าให้แห้งมากกว่า เพราะเสื้อเค้าเปียกชุ่มฉ่ำตรงหน้าเราเลย รับไม่ได้จ้าาาาTT)
เราได้นัดเวลา 8.00ค่ะ เค้าก็ให้เรามาต่อแถวด้านซ้าย เราก็มาต่อแบบงงๆ (จำได้เคยอ่านในพันทิปว่าคนได้8.00ต้องต่อด้านขวานี่หวา) แต่ก็มาต่อแบบเนียนๆไปก่อน เข้าแถวอยู่ประมาณ20นาทีค่ะ ก็มีพี่เสื้อเขียวตัวเล็กๆ(ไม่เล็กเท่าไหร่อ่ะ เราสูงกว่าเค้าหน่อยนึง-.,-) มาเรียกให้ไปต่อแถวขวาที่ติดถนนค่ะ จากนั้นพี่สาวเสื้อเขียวก็ขอตรวจพาสปอร์ต DS-160 ใบเสร็จค่าวีซ่า พอเราตรวจเสร็จทุกอย่างโอเคเราก็มายืนรอจะเข้าสถานทูตค่ะ ตอนนั้นอยากบอกให้ตัวเองช่วยตื่นเต้นสักนิด คือเรายิ้มมั่นใจมากอ่ะ คิดแต่ว่า.. กูอ่านพันทิปมาเป๊ะแล้ว กูได้แน่ กูต้องมั่นเข้าไว้(อยากตบหัวตัวเองให้ความคิดกระเด็นมากอ่ะ)

เราก็เข้าไปในสถานทูตค่ะ เค้าให้ตรวจพวกของต้องห้าม อยากบอกว่าในกระเป๋ามีแฟ้มเอกสาร ลิปสติก กระเป๋าตังค์ แค่นี้ 555 เราเลยไม่ต้องเอาอะไรออกเลยค่ะ แล้วก็ไปเอากระเป๋าใส่ตะกร้าเช็คที่เครื่องสแกนกับคุณป้าสุดโหด(หน้าโหดมากกก) เราก็เดินผ่านเครื่องสแกนไปให้พี่ยามตรวจ เสร็จปุ๊ปเค้าก็บอกให้เราออกไป
แต่เราอ่านพันทิปเยอะไปหน่อยค่ะ เคยมีคนบอกว่าประตูสถานทูตจะหนักมากกก เรานี่ผลักซะแรงเลยค่ะ ผลคือ.. ไปทั้งคนทั้งประตู ลอยไปเลยค่ะ อายมากกกก 5555
พอเข้ามาในอีกห้อง เราก็เห็นมีเค้าเตอร์ให้เจ้าหน้าที่ยืนแยกเอกสาร แล้วก็เก้าอี้สีน้ำเงินเต็มไปหมด เรามั่นใจมากค่ะตามที่อ่านพันทิปมาดิบดีเค้าบอกว่า จะมีเก้าอี้สีน้ำเงินให้นั่งรอ เราไม่สนอะไรทั้งนั้นค่ะ! นั่งรอยิ้มเลย-.,- นั่งรอสักพักคนที่ต่อคิวหลังเราเค้าก็เดินตามเขตที่กั้นคดเคี้ยวแล้วมาต่อแถวรอตรงหน้าเค้าเตอร์ เรานี่เหวอเลยเหอะะ แบบเห้ย ยิ้มมีที่กั้นตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ทำไมไม่เห็น(มันมีตั้งแต่แรกแล้วแกเอ้ย) เลยเดินออายๆ สวนแถวผ่านคนที่คิวหลังเราแล้วไปต่อหลังเค้า แต่เค้าใจดีมากอ่ะ บอกให้เราไปก่อนเพราะเรามาก่อน(ขอบคุณมาณที่นี้ด้วยค่ะ)
จากนั้นพี่สาวคนสวยผมสั้นๆ ก็แยกเอกสารใส่แฟ้มขาวให้เราพร้อมกับใบสีฟ้าให้กรอก เราก็เอาใบไปยืนกรอกในแถวค่ะ ทีนี้ก็รอสัมภาษณ์หน้าห้อง 1,2,3 เราเล็งคนที่2ค่ะ เพราะเค้าสัมภาษณ์เร็วมาก พูดเสียงเบาด้วย คนที่3เสียงดังมากก ใครสัมภาษณ์กับเค้านี่โคตรอายอ่ะ 555 พอถีงคิวเราปุ๊ป ได้คนที่1ชัวร์ อยู่ๆ พี่เสื้อเขียวคนสวยที่อยู่หน้าถานทูตก็มาจูงมือเราเข้าไปข้างในเฉย เราก็งง-เลยค่าาา นึกไปไกลถึงขนาด นามสกุลเราอาจมีคดีอะไรรึเปล่าบลาๆ แบบใจแตกไปแล้ว 555; สรุปคือ เค้าบอกว่า ข้างในมันเร็วกว่า ข้างนอกมันร้อน แบบโหยยยย โล่งอกอ่ะ(แอบคิดนะ จะให้ลัดคิวไมไม่พูดดีๆ วะ มาลากไปเอาซะจิตตตกเลย-.,-)
เราก็ได้ไปสัมภาษณ์ช่อง15ค่ะ คนสัมภาษณ์เป็นคนไทย เป็นผู้หญิงใส่แว่นท้วนๆ
เรา: สวัสดีค่ะ (ยกมือไหว้แล้วโค้งแบบงามๆ แล้วยื่นเอกสาร)
จนท: ค่ะ ทำวีซ่าไปไหนค่ะ
เรา: ไปเรียนภาษาที่อเมริกา ซานฟรานซิสโก แคบิฟอเนียค่ะ (ตอบเต็มยศ)
จนท: ใครเป็นสปอนเซอร์ค่ะ
เรา: พ่อค่ะ
จนท: ไปอยู่กับใครคะ
เรา: อาค่ะ
จนท: ในนี้บอกว่าพี่
เรา: (ยิ้มละ กูกรอกอะไรลงไปตอนสมัครวะ) อาจริงๆ ค่ะ
จนท: ในใบสมัครเขียนว่าพี่น้อง
เรา: กรอกไปว่า parent นะคะ ไม่มีคำว่าอาให้เลือกนี่คะ (ดีนะที่เป็นคนกรอกเองเลยจำได้ว่าอะไรเป็นอะไร)
จนท: อาทำงานอะไรคะ
เรา: เปิดร้านนวดแผนไทยค่ะ
จนท: จะไปทำงานกับอาหรอคะ
เรา: ไปเรียนค่ะ แค่เรียนยังแทบไม่มีเวลาว่างเลย คงไม่มีเวลาทำงานหรอค่ะ! (แอบขึ้นเสียงเล็กน้อยเพื่อเป็นการยืนยันความหนักแน่นในคำพูด5555)
จนท:โอเคค่ะ วาง4นิ้วค่ะ บลาๆ (เราวางแล้วเช็ดหลายรอบมากอ่ะ มือเปียกไง 5555 เกร็งบ้างอะไรบ้าง)
จนท: เชิญนั่งรอค่ะ
เราก็เดินออกมา เจอเก้าอี้สีน้ำเงิน มีไว้นั่งรอ เราก็นั่งรออีกแล้วค่ะ หวังว่าคราวนี้จะถูกนะ 5555

นั่งอยู่สักพักก็โดนเรียกไปช่อง12 เราต่ออยู่คนที่3ค่ะ ก่อนจะมาสัมภาษณ์อาบอกไว้ว่า ห้ามสัมภาษณ์กับผู้ชายหัวโล้นๆ ตาโปนๆ ตัวดำๆ เด็ดขาดดด เพราะมันไม่เคยให้ผ่านเลย เราเลยชะโงกหน้าไปช่อง12 โอเคเล้ยยยยย เป็นผู้หญิงฝรั่งสวยๆ ใจดีๆ พอช่อง13เป็นฝรั่งผิวหมึกแลดูมีภูมิหน่อย เลยชะโงกไปช่อง11 นั่นไง!!!! ใช่เลย คนที่อาเราบอกไว้ไม่มีผิด เราก็แบบ เฮ้อออ ค่อยโล่งใจได้ช่อง12เว้ย แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงจากนรกดังมากจากลำโพง บอกให้แถวเราทั้งแถวมูฟไปช่อง11 เราคิดทันที.. ยิ้มล้าาาาาา ซวยละไง คนข้างหน้าหันมามองหน้าเราอ่ะประมาณว่า ซวยแน่เลย55555 เราก็ยืนรอสัมภาษณ์พร้อมเงี้ยหูฟัง คือเค้าพูดภาษาไทยไม่รู้เรื่องเลยอ่ะ แล้วเราอยากสัมภาษณ์เป็นภาษาไทยไง รอบผิดพลาดเดี๋ยวจะซวย ปรากฎว่า.. 2คนข้างหน้าเราไม่ผ่านค่าาา ชิบแล้ววววว ถึงตาเราแล้ววว
เรา: สวัสดีค่ะ (กราบงามๆ มีพร๊อพเพิ่มโดนการย่อเข่า:หวังว่าเค้าจะเห็นความดีของเรา:เปล่า!! ยิ้มมองแต่หน้าคอม ไม่มองกูไหว้เลย -.,- :: เสร็จแล้วยื่นเอกสาร)
จนท: ซาหวัดดีครับ จะไปเรียนภาษาหรอ เรียนที่ไหนครับ
เรา: ใช่ค่ะ ไปเรียนภาษา ที่ซานฟานซิสโก อเมริกาค่ะ
จนท: เอิ่ม รา เอิ่ม ราอะไรนะ
เรา: ห๊ะ อะไรนะคะ
จนท: ไปเรียนราอะไร
เรา: รัฐหรอคะ
จนท: เยสๆ รัฐอะไร
เรา: แคลิฟอเนียค่ะ (แอบคิด: กูบอกซานฟรานซิสโก ไม่รู้หรอมันอยู่รัฐอะไร-.,- 555)
จนท: ไปกับใคร
เรา: ไปคนเดียวค่ะ
จทน: เรียนอะไร
เรา: เรียนภาษาค่ะ อาจต่อตรีถ้าทำได้
จนท: อยากเรียนเกี่ยวกับอะไร
เรา: จิตวิทยาค่ะ
จนท: ห๊ะ
เรา: psychology ค่ะ
จนท: ใครเป็นสปอนเซอ
เรา: พ่อค่ะ (พร้อมยัดเอกสารไปในช่อง เค้าไม่ได้ขอหรอก แต่อยากให้ :: ที่เรายื่นไปมี สมุดธนาคารเงินเดือนพ่อ สเรทเม้น ใบเงินสะสม บลาๆ)
จนท: อืมม ไปอยู่กับใคร
เรา: อาค่ะ อาทำซิติเซ่นแต่งงานอยู่นู่นค่ะ
จนท: อาทำงานอะไร
เรา: เปิดร้านนวดแผนไทยค่ะ
จนท: ห๊ะะ
เรา; thai art of massage ค่ะ
จนท : อ่อ อืมม (แบ้วพิมพ์แก๊กๆ ที่คอมเกือบ5นาที)
จนท: คุณจะทำงานกับอารึเปล่า
เรา: ไม่ค่ะ
จนท: อืมม (หันไปพิมพ์อะไรสักอย่างกับคอมอีก10นาที แล้วมองเอกสารแบบงงๆ เราอึนเลยอ่ะ แบบอะไรวะ)
จนท: แป๊ปนึง
เรา: ค่ะ (แอบคิด;; ยิ้มล่ะ อะไรอีกเนี่ยยย แล้วให้เรารออีก10นาทีอ่ะ พร้อมกลับมากับเจ้าหน้าที่ผญคนแรกที่สัมภาษณ์เราที่ช่อง15)
จนทคุยกันอะไรสักอย่าง ปิดไมค์ไม่ให้เราฟังด้วย -3-
จนทผญ: คืออาของคุณเปิดร้านนวดเอง เค้ากลัวคุณจะไปทำงานค่ะ แถมในนี้ยังบอกอีกว่า อาคุณจะออกค่าเล่าเรียนให้ขณะไปเรียนที่นู่น เค้าเลยสงสัยว่า ทำไมอาต้องออกค่าเรียนให้ด้วยค่ะ แล..
เรา: (จนทผญยังพูดไม่จบเราก็สวนเลยค่ะ) อาเป็นน้องแท้ๆ ของพ่อค่ะ อาเป็นคนเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด ทุกวันนี้เงินที่ใช้อยู่ก็เป็นของอาค่ะ
จนทผญ: ในนี้บอกว่า อามีลูก..
เรา: (สวนอีกแลว) ใช่ค่ะ ลูกผญคนโตอายุ28 ผญคนกลางอายุ26 ผชคนโลกอายุ21เป็นทหารค่ะ เค้าเลยไม่ต้องส่งเงินให้ลูกแล้วค่ะ
จนทผญ: อ่อ
แล้วเจ้าหน้าที่ก็คุยกัน ระหว่างนั้นให้เราวางนิ้วมือ แล้ว2คนก็ดูที่คอม วางนิ้วชี้ เค้าก็สายหัว, วางนิ้วกลาง เค้าก็สายหัว, นิ้วโป้งเค้าก็สายหัว วางนิ้วไหนก็สายหัว (คิดในใจ:: ยิ้มละ นิ้วกูเป็นอะไรอีกเนี่ยยย) แล้วเจ้าหน้าที่ก็คุยกัน แล้วจนทผญก็เดินออกไป ผชก็บอกให้เรารอสักพักแล้วหันไปพิมพ์กับคอม รอประมาณ10นาที เจ้าหน้าที่ผญก็กลับมาพร้อมเจ้าหน้าที่ฝรั่งหล่อๆ
จนทฝรั่ง: สวัสดีครับ
เรา: สวัสดีค่ะ
จนทฝรั่ง: คือทางเรากลัวว่าคุณจะไปทำงานกับอานะครับ มีเอกสารอะไรพอจะทำให้เราเชื่อได้มั่งว่าคุณจะไม่ไปทำงาน
เรา: (ควักเอกสารของอา แฟนอา ร้าน แล้วก็แอบมีเอกสารของแม็คลูกอาที่เป็นทหารติดไปด้วย)
จนทก็แจกจ่ายกันไปอ่าน เราก็ยืนรอ(นานมากกกกกก)
จนทหัวล้าน: คุณแน่ใจนะว่าจะไม่ไปทำงาน
เรา: แน่ใจค่ะ ถ้าไม่แน่ใจไม่บอกตั้งแต่แรกหรอกค่ะว่าอาเปิดร้านนวดแผนไทย แต่นี่เพราะเราบริสุทธิ์ใจค่ะว่าไม่ได้ไปทำงานจริงๆเลยให้เอกสารครบถ้วน
จนทฝรั่ง: (ยิ้มหวานแล้วพยักหน้า)
จนทผญไทย: (ยิ้มแหยๆ ให้เราแล้วมองจนทหัวล้าน)
จนทหัวล้าน: (มองเพดานเหมือนกำลังนึกคำถาม แล้วหันมากับ2จนท)
จนทหัวล้าน: วางนิ้วมือ
เรา: (วางตามที่เค้าบอก)
จนทหัวล้าน: (ส่ายหัว)
จนทฝรั่ง: (มองคอมแล้วขมอดคิ้ว)
จนทไทย: (มองจนทหัวล้าน)
จนทหัวล้าน: (สอดเอกสารคืนมาแบบลวกๆ)
เรา: (ใจแป้ว ยิ้มละ อะไรเนี่ย)
จนทหัวล้าน: เชิญไปช่อง9
เรา: (อะไรอีกวะเนี่ยยยยยยยยยยแต่ก็เดินไปรอช่อง9)
จนทหัวล้านก็เอาพาสปอร์ตเรา ds-160 กับ I-20 มาวางแล้วหายไป เราก็ยืนรอสักพักก็มีฝรั่งคนหนึ่งเดินมานั่ง
จนท: สวัสดีครับ
เรา: สวัสดีค่ะ
จนท: (ดูเอกสาร) อืมมม อ่ออออ เชิญวางนิ้ว4นิ้วครับ
เรา: (วาง4นิ้ว ซ้ายขวา )
จนท: จะไปเรียนจิตวิทยาหรอ
เรา: ค่ะ
จนท: where??
เรา: I want to go to College of San Mateo, California
จนท: oh, $€¥%#D#%+=>~\€¥$<|{]
เรา: ห๊ะ
จนท: 5555 ครับ เรียนอย่างเดียวอย่าลืมแวะไปเที่ยวมั่งนะครับ
เรา: คะ??
จนท: ผ่านแล้วครับ
เรา: คะ ห๊ะ จริงหรอคะ >.<
จนท: ครับ ดีใจด้วยนะครับ อย่าลืมไปจ่ายค่าไปรษณีย์ข้างล่างนะครับ
เรา: ขอบคุณมากนะค้าาาาาา (พูดเสียงดังพร้อมทำหน้าฟิน >.<)

โหย เราแบบดีใจมากอ่ะ พอจ่ายค่ายไปรษณีย์เสร็จก็เขียนจ่าหน้าซองถึงตัวเอง(เราเขียนภาษาอังกฤษหมด) เสร็จแล้วเราก็เก็บเอกสารทั้งหมดใส่กระเป๋าเหลือแต่ใบเสร็จอย่าเดียว(จำได้ว่าเคยอ่านเจอในนนี้ว่าห้ามทิ้ง) เรานี่ถือใบเสร็จเดินว่อนเลยค่ะ ยิ้มหน้าบานจนคนอื่นมองอ่ะ พอออกมาข้างนอกเห็นพ่อยืนรอเราอยู่ พ่อก็มองเรา เราเลยตะโกนว่า 'ผ่านแล้วพ่ออออออ' พร้อมชูใบเสร็จ 5555 เชื่อว่าคนที่มารอสัมภาษณ์ที่ต่อแถวอยู่ต้องหมันไส้เราแน่ๆ เลย 5555

ขอบคุณทุกคนนะคะที่อ่านจนจบ ภาษาไม่สุภาพบ้างก็ขออภัย คือมันเป็นความคิดเห็นล้วนๆ 5555
ขอบคุณพันทิปนะคะ ที่ทำให้รู้เกร็ดความรู้ดีๆ ถึงจะใช้ผิดๆ แบบเรื่องเก้าอี้นั่งรอก็ตาม อิอิ
ขอบคุณมากค่ะ.. ตอนนนี้กำลังรอเดินทางค่ะ จะไปวันที่ 20กคนี้แล้วค่ะ แล้วมาคุยกันใหม่น้าาาา โชคดีค่าา ^^

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่