เนื่องจากน้องสาวเราที่เรียนอยู่ที่อเมริกาจะเรียนจบรับปริญญาประมาณเดือนมิุถุนายนนี้ พ่อ แม่และเราก็เลยจะไปร่วมงานและถือโอกาสเที่ยวทั้งครอบครัวด้วย ตัวเราเองมีวีซ่าอเมริกาอยู่แล้วเพราะเคยขอตอนไปเยี่ยมน้องเมื่อสองปีก่อน คราวนี้พ่อกับแม่เลยต้องเข้าไปสัมภาษณ์กันสองคน ยอมรับว่าเป็นห่วงมากค่ะเพราะพ่อแม่มาจากต่างจังหวัดแล้วก็ไม่รู้เรื่องเอกสารอะไรเลยเราเป็นคนกรอก DS-160 แล้วก็เตรียมเอกสารให้ทั้งหมดยื่นไปตั้งแต่เดือนม.ค. ณ ตอนนั้นหาวันสัมภาษณ์ไม่ยากเลยค่ะมีนายังเขียวเต็มไปหมด
เมื่อวานเป็นวันสัมภาษณ์ค่ะได้เวลานัด 7.00 เราสามคนพ่อแม่ลูกก็ไปรอหน้าสถานทูตตอน 6 โมง คิวไม่ค่อยยาวเท่าไหร่ค่ะ ตอนแรกพ่อกับแม่บอกจะไปกันเองแต่เราคิดว่าเราไปช่วยเรื่องเอกสารข้างหน้าสถานทูตก็ยังดีค่ะเผื่อมีอะไรขัดข้องหรือต้องการอะไรเพิ่มเติมด้วย เวลาประมาณ 6.30 ก็มีน้องผู้หญิงเสื้อเขียว (คราวก่อนเรามาน้องใส่เสื้อชมพู) เดินมาเช็คคิวก็เรียกคนที่คิว 7.00 ให้ออกมาชิดด้านขวาแล้วเช็คเอกสาร พาสปอร์ต ใบนัด ใบเสร็จค่าวีซ่า ใบคอนเฟิร์ม DS160 บ้านเราเค้าขอดูทะเบียนบ้านด้วยเนื่องจากนัดสัมภาษณ์ด้วย pin เดียวกัน พอตรวจเอกสารเสร็จน้องพนักงานก็ให้พ่อแม่เดินเข้าไปจุดตรวจฝากสิ่งของทันที เราต้องรออยู่ข้างนอก เหตุการณ์หลังจากนี้แม่เล่าให้ฟังค่ะ
หลังจากแม่กับพ่อผ่านเข้าไปได้ก็เจอด่านตรวจเอกสารอีกจุด ซึ่งจะแยกเอกสารที่จำเป็นเช่น พาสปอร์ต หน้าคอนเฟิร์ม หนังสือเชิญจากมหาวิทยาลัยน้อง ใส่แฟ้มใสไว้ ส่วนเอกสารอื่นๆที่เราเตรียมมาเค้าก็ให้เราถือไว้เผื่อเจ้าหน้าที่เรียกดูค่ะ ผ่านจุดนี้มาได้ก็เป็นด่านเจ้าหน้าที่คนไทยที่ให้สแกนลายนิ้วมือพร้อมถามอะไรนิดหน่อย แม่บอกว่าตื่นเต้นตรงนี้เพราะรูปถ่ายที่อัพโหลดผ่านระบบมาแล้วเจ้าหน้าที่แจ้งว่าฉากหลังมันขาวเกินไป เค้าบอกว่าขาวเรืองแสงเลยนะ ก็งงๆอยู่ค่ะ โชคดีจัดรูปถ่ายตัวจริงให้แม่เตรียมไปด้วย แม่เลยเอาตัวจริงให้เค้า เค้าก็พิจารณาอยู่นานเหมือนกันแต่สุดท้ายก็ให้ผ่าน แม่บอกว่าตื่นเต้นมากกลัวต้องออกมา่ถ่ายใหม่ ไม่งั้นวุ่นวายแย่เลย
เสร็จจากด่านคนไทยก็จะได้บัตรคิวมา พ่อกับแม่ได้คิวเดียวกัน 005 ใ้ห้เข้ามารอสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ฝรั่งด้านใน แม่บอกว่ารออยู่นานเหมือนกันเพราะเค้าเริ่มทำงานกันประมาณ 8 โมง พอถึงเวลาเค้าก็เรียกคิวแรกๆให้ไปต่อแถว แม่ได้สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ชายค่ะถามภาษาไทย
- ไปทำอะไรที่โน่น (ไปงานรับปริญญาลูก)
- ไปอยู่นานไหมครับ ( 2 อาทิตย์)
- ลูกเรียนอะไร (เรียน....)
- แล้วตอนนี้พักอยู่ที่ไหนครับ (อยู่บ้านที่สงขลา)
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ให้แม่กับพ่อออกไปซื้อซองเลยค่ะเสร็จเร็วมากๆ ตอนแรกแม่กับพ่อเงอะงะจะยืนรอเอาเอกสารในแฟ้มคืน แต่่เจ้าหน้าที่บอกว่าเีดี๋ยวส่งกลับไปให้เลยออกมาซื้อซองกัน
สรุปว่าใช้เวลาตั้งแต่เริ่มสัมภาษณ์จนออกมาหน้าสถานทูต 10 นาทีเองค่ะ ไปถึง 6.00 เข้ากระบวนการตอน 7.00 เสร็จ 8.00 โมงนิดๆไม่ขอเอกสารเพิ่มเติมอะไรเลย แม่เตรียมพวก bank statement มา ตอนนี้สบายใจแล้วค่ะ เหลือแค่จัดการเรื่องตั๋วแล้วก็การเดินทางต่างๆ ตอนแรกเราก็เครียดเป็นห่วงพ่อแม่เข้าไปกันสองคนจะเป็นไงบ้าง สรุปไม่น่าห่วงอย่างที่คิด เราสังเกตว่าตอนเราไปขอคนเดียวเมื่อสองปีที่แล้วถามเยอะกว่านี้มาก ถามเรื่องที่ทำงาน ลักษณะงาน ถามเรื่องน้อง ขอเอกสารน้องไปดู อาจเป็นเพราะเราอยู่ในวัยทำงานแถมเดินทางคนเดียวอีกด้วย แต่ของพ่อแม่เป็นข้าราชการเกษียณเลยถามไม่เยอะมากก็เป็นได้
สำหรับคนที่รอวันสัมภาษณ์อยู่ก็ขอเป็นกำลังใจให้ผ่านกันทุกคนนะคะ
ประสบการณ์สัมภาษณ์วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาของพ่อกับแม่ค่ะ
เมื่อวานเป็นวันสัมภาษณ์ค่ะได้เวลานัด 7.00 เราสามคนพ่อแม่ลูกก็ไปรอหน้าสถานทูตตอน 6 โมง คิวไม่ค่อยยาวเท่าไหร่ค่ะ ตอนแรกพ่อกับแม่บอกจะไปกันเองแต่เราคิดว่าเราไปช่วยเรื่องเอกสารข้างหน้าสถานทูตก็ยังดีค่ะเผื่อมีอะไรขัดข้องหรือต้องการอะไรเพิ่มเติมด้วย เวลาประมาณ 6.30 ก็มีน้องผู้หญิงเสื้อเขียว (คราวก่อนเรามาน้องใส่เสื้อชมพู) เดินมาเช็คคิวก็เรียกคนที่คิว 7.00 ให้ออกมาชิดด้านขวาแล้วเช็คเอกสาร พาสปอร์ต ใบนัด ใบเสร็จค่าวีซ่า ใบคอนเฟิร์ม DS160 บ้านเราเค้าขอดูทะเบียนบ้านด้วยเนื่องจากนัดสัมภาษณ์ด้วย pin เดียวกัน พอตรวจเอกสารเสร็จน้องพนักงานก็ให้พ่อแม่เดินเข้าไปจุดตรวจฝากสิ่งของทันที เราต้องรออยู่ข้างนอก เหตุการณ์หลังจากนี้แม่เล่าให้ฟังค่ะ
หลังจากแม่กับพ่อผ่านเข้าไปได้ก็เจอด่านตรวจเอกสารอีกจุด ซึ่งจะแยกเอกสารที่จำเป็นเช่น พาสปอร์ต หน้าคอนเฟิร์ม หนังสือเชิญจากมหาวิทยาลัยน้อง ใส่แฟ้มใสไว้ ส่วนเอกสารอื่นๆที่เราเตรียมมาเค้าก็ให้เราถือไว้เผื่อเจ้าหน้าที่เรียกดูค่ะ ผ่านจุดนี้มาได้ก็เป็นด่านเจ้าหน้าที่คนไทยที่ให้สแกนลายนิ้วมือพร้อมถามอะไรนิดหน่อย แม่บอกว่าตื่นเต้นตรงนี้เพราะรูปถ่ายที่อัพโหลดผ่านระบบมาแล้วเจ้าหน้าที่แจ้งว่าฉากหลังมันขาวเกินไป เค้าบอกว่าขาวเรืองแสงเลยนะ ก็งงๆอยู่ค่ะ โชคดีจัดรูปถ่ายตัวจริงให้แม่เตรียมไปด้วย แม่เลยเอาตัวจริงให้เค้า เค้าก็พิจารณาอยู่นานเหมือนกันแต่สุดท้ายก็ให้ผ่าน แม่บอกว่าตื่นเต้นมากกลัวต้องออกมา่ถ่ายใหม่ ไม่งั้นวุ่นวายแย่เลย
เสร็จจากด่านคนไทยก็จะได้บัตรคิวมา พ่อกับแม่ได้คิวเดียวกัน 005 ใ้ห้เข้ามารอสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ฝรั่งด้านใน แม่บอกว่ารออยู่นานเหมือนกันเพราะเค้าเริ่มทำงานกันประมาณ 8 โมง พอถึงเวลาเค้าก็เรียกคิวแรกๆให้ไปต่อแถว แม่ได้สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ชายค่ะถามภาษาไทย
- ไปทำอะไรที่โน่น (ไปงานรับปริญญาลูก)
- ไปอยู่นานไหมครับ ( 2 อาทิตย์)
- ลูกเรียนอะไร (เรียน....)
- แล้วตอนนี้พักอยู่ที่ไหนครับ (อยู่บ้านที่สงขลา)
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ให้แม่กับพ่อออกไปซื้อซองเลยค่ะเสร็จเร็วมากๆ ตอนแรกแม่กับพ่อเงอะงะจะยืนรอเอาเอกสารในแฟ้มคืน แต่่เจ้าหน้าที่บอกว่าเีดี๋ยวส่งกลับไปให้เลยออกมาซื้อซองกัน
สรุปว่าใช้เวลาตั้งแต่เริ่มสัมภาษณ์จนออกมาหน้าสถานทูต 10 นาทีเองค่ะ ไปถึง 6.00 เข้ากระบวนการตอน 7.00 เสร็จ 8.00 โมงนิดๆไม่ขอเอกสารเพิ่มเติมอะไรเลย แม่เตรียมพวก bank statement มา ตอนนี้สบายใจแล้วค่ะ เหลือแค่จัดการเรื่องตั๋วแล้วก็การเดินทางต่างๆ ตอนแรกเราก็เครียดเป็นห่วงพ่อแม่เข้าไปกันสองคนจะเป็นไงบ้าง สรุปไม่น่าห่วงอย่างที่คิด เราสังเกตว่าตอนเราไปขอคนเดียวเมื่อสองปีที่แล้วถามเยอะกว่านี้มาก ถามเรื่องที่ทำงาน ลักษณะงาน ถามเรื่องน้อง ขอเอกสารน้องไปดู อาจเป็นเพราะเราอยู่ในวัยทำงานแถมเดินทางคนเดียวอีกด้วย แต่ของพ่อแม่เป็นข้าราชการเกษียณเลยถามไม่เยอะมากก็เป็นได้
สำหรับคนที่รอวันสัมภาษณ์อยู่ก็ขอเป็นกำลังใจให้ผ่านกันทุกคนนะคะ