[[++บทสรุป++]] รายงานความคืบหน้าและข้อคิดที่ได้ สืบเนื่องจากกระทู้ {30448489}

สืบเนื่องจากกระทู้
    [[++ช่วยด้วยค่ะ++]]ร้านทำผมทำเกินที่เราสั่ง และเรียกเก็บเงินมาจำนวนมาก ควรจะทำอย่างไรดีคะ
    http://pantip.com/topic/30448489

วันอังคาร(หลังจากวันหยุดราชการ)
เราก็ได้ลองติดต่อไปยัง Shiseido Professional สำนักงานใหญ่อีกครั้ง
เพื่อร้องเรียนเรื่องร้านทำผมสาขา The Emporium
ในระบบรับโทรศัพท์อัตโนมัติมีหัวข้อรับเรื่องร้องเรียนด้วย
แอบดีใจ ที่เค้าเปิดช่องให้ร้องเรียนได้ง่ายๆ ไม่ต้องไปกดต่อหลายครั้ง อิอิ
คุยกับพนักงานที่รับเรื่องร้องเรียน เค้าก็คุยกับเราดีมาก เข้าใจเรา
เค้ายืนยันไม่ว่าอาจจะเกิดมีการเข้าใจผิดหรืออะไรก็ตาม
แต่Stylistที่ผิดที่ไม่ได้แจ้งราคาให้เราทราบล่วงหน้า
เค้ากล่าวขอโทษและรับปากว่าจะคืนเงิน 3,000บาท ให้
แต่ขออนุญาตติดต่อกลับในวันพรุ่งนี้(วันพุธ) เนื่องจากผู้ดูแลสาขาออกไปประจำสาขาแล้ว

เค้าคุยกับเราดีมากจนกู้ความรู้สึกดีๆที่เรามีกับแบรน์นี้มาได้เยอะเลย >w<~
จากเดิมที่ตั้งใจว่าจะยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังสคบ.และยื่นเรื่องปฏิเสธการจ่ายเงินทางบัตรเครดิตเลยชะลอไว้ก่อน

ตอนกลางคืนของวันอังคาร ผู้ช่วยผู้จัดการที่ดูแลทางด้านร้านซาลอน ก็ติดต่อกลับมาทาง SMS
ว่าได้ทราบเรื่องแล้ว และจะขอติดต่อกลับเราในวันรุ่งขึ้นเพื่อพูดคุยหาทางแก้ไข

วันพุธ(วันนี้) คุณผู้ช่วยผู้จัดการก็ติดต่อกลับมา ขอโทษเรามากมาย และจะคืนเงินให้จะเป็นเงินสดก็ได้หรือโอนเงินก็ได้
จะให้เค้าเอาเงินมาคืนให้เราก็ได้รึเราจะเข้าไปรับที่สาขาก็ได้ และให้เราทำทรีทเม้นท์ฟรีอีก1ครั้ง
หลังจากเราแจ้งเลขบัญชีไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเค้าก็โอนเงินเข้าบัญชีเราทันที(ไวมากจนแอบตกใจ !!(+0+)ノ )
ส่วนเรื่องทรีทเม้นท์เราขอไปทำที่สาขาพารากอน เนื่องจากไม่อยากเจอหน้าช่างคนเดิมแล้ว(งอน >m<!!)
แต่ยังไม่ได้กำหนดวัน ขอระยะทำใจก่อนนิดนึง ก็คนมันหลอนเนอะ >。<”

เย่ และแล้วเรื่องของเราก็ Happy Ending (^o^)/~~
ต้องขอบคุณทาง Shiseido Professional (Thailand) เป็นอย่างมากที่ให้ความเป็นธรรมกับเราในครั้งนี้ค่ะ
ขอบคุณเพื่อนๆที่ช่วยให้คำแนะนำ และเป็นกำลังใจให้
โดยเฉพาะเพื่อนเลิฟฟฟฟ มีเพื่อนรู้กฏหมาย ช่วยได้มากจริงๆ
ขอบคุณพันทิพย์และสมาชิกพันทิพย์ทุกท่าน
ที่ทำให้คนไม่ค่อยมีปากมีเสียงอย่างเรามีสิทธิ์ที่จะตะโกนดังๆได้

จขกท.จะนำเงินที่ได้คืนมาไปบริจาคให้กับองค์กร Unicef เพื่อช่วยเหลือเด็กๆด้อยโอกาสค่ะ
(ถือว่าฟาดเคราะห์ค่ะ เป็นความเชื่อส่วนตัวนะ แหะๆ แบบว่าปีนี้ปีชงพอดี)
=============================================================

ขออนุญาตสรุปข้อคิดที่ได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้+สิ่งที่เพื่อนๆแชร์มาค่ะ
(ใครมีอะไรแนะนำเพิ่มเติมก็ช่วยShareความคิดเห็นมาด้วยนะคะ ^^)

1) ใจคนหยั่งไม่ได้ - ไม่ว่าคนที่เราไม่รู้จักกันเลย หรือรู้จักเป็นอย่างดี บางทีเราก็ไม่รู้ว่าเค้าจะทำอะไร
                           ภายนอกอาจดูดี แต่ในใจคิดร้ายก็มีมากมาย เราก็ไม่ควรไว้ใจใครเกินไปหากสงสัยก็ควรปฏิเสธหรือทักท้วง
2) ไปไหนไปอย่าไปคนเดียว - สำหรับสาวๆไม่สู้คน เวลาไปไหนที่ใหม่ๆที่ไม่คุ้นเคย
                                       ควรจะชวนเพื่อน(ที่มีปากเสียง)หรือเพื่อนชาย ไปเป็นเพื่อนเราด้วยนะคะ
                                       กันไว้ก่อนค่ะ (มาตามแก้แล้ววุ่นวายมาก ขอบอก)
3) จองก่อนมีสิทธิ์ก่อน - เวลาไปร้านทำผมเราควรจะจองก่อน และระบุเมนูที่เราจะทำให้ชัดเจน เนื่องจากร้านทำผมส่วนใหญ่ไม่มีใบสั่งงาน
                                เผื่อหากมีเหตุการณ์เข้าใจผิด ทำผิด ทำเกิน เราก็ยังมีหลักฐานที่พอจะอ้างอิงได้บ้างว่าเราตั้งใจมาทำแค่นี้
                                อย่างกรณีของเราก็มีหลักฐานว่าเราจองแค่ทำสีผมจริงๆ
4) ไม่ยอมรับให้ทักท้วงแต่เนิ่นๆ - เพื่อไม่ให้ปวดหัว ไม่สบายใจ ยาวนานหลายวันค่ะ
                                           อีกฝ่ายก็เป็นบริษัทที่ดีไม่ได้คิดจะคดโกง แต่ใจคนหยั่งยากบางทีเค้าก็ควบคุมไม่ได้
                                           ถ้าเราร้องโวยวายเสียงดังมากมายแต่แรกก็อาจจะจบไปนานแล้ว ฝ่ายโน่นเค้าก็ไม่เสียหายมากด้วย
                                           (ก็คนมันไปคนเดียวอะเนอะ วี๊ดๆมากๆมิกล้าอะ)
5) รูดแล้วไม่ได้หายเลย - เมื่อรูดบัตรเครดิตไปแล้ว หรือมีรายการแปลกๆที่เราไม่ได้ใช้ ซื้อสินค้าแล้วไม่ส่งของ บลาๆ
                                 เรามีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการจ่ายเงินได้ แต่ขบวนการนี้อาจยาวนานถึง 45 วัน
                                 ต้องโทรไปแจ้ง Call Center เพื่อแจ้งเหตุผล เราจะได้รับเอกสารมาให้กรอกเพื่อยืนยันการปฏิเสธ
                                 แต่ถ้าตรวจสอบแล้วว่าเราเป็นฝ่ายผิด เราต้องจ่ายดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่แจ้งยอดจนถึงวันที่ตรวจสอบเสร็จ
                                 ซึ่งอาจจะยาวนานถึง2เดือน รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินการด้วย
                                 เพราะงั้นใครจะคิดใช้เป็นช่องทางตุกติก ระวังเอาไว้นะจ๊ะ!! ;P
                                 ช่วงเวลาที่จะขอปฏิเสธได้คือ ตั้งแต่ยอดเรียกเก็บเงินเข้ามา จนถึงภายใน 7 วัน
                                 หลังจากยอดชำระในรอบบิลนั้นfixแล้ว  เรื่องระยะเวลาไม่แน่ใจว่าแต่ละบัตรเหมือนกันไหมนะคะ
6) ดอกเบี้ยของค่าเสียหาย - สมมติเราซื้อของไป 300บาท แล้วร้านค้าเบี้ยว ไม่ยอมจ่ายเงินคืนสักที
                                     เราสามารถเรียกร้องเงิน 300บาท + ดอกเบี้ย ได้นะคะ ซื้อดอกเบี้ยนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอ้างอิงจากอะไรค่ะ
7) ถ้าจะร้องเรียนสคบ.ก็ต้องกรอกฟอร์มด้วยนะคะ สำหรับใครจำเป็นต้องใช้ -> http://www.ocpb.go.th/main_form.asp

สำหรับตัวจขกท.เองมีเท่านี้ค่ะ
หากมีใครแนะนำอะไรเพิ่มเติมก็ช่วยกันแสดงความคิดเห็นนะคะ
เพื่อให้เรารู้จักสิทธิของเรามากขึ้นนะคะ

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นกับจขกท.เอง
จขกท.ไม่ติดใจเอาความอะไรแล้วค่ะ
คนทำผิด เขาขอโทษ และชดเชยแล้วก็คิดว่าควรจะลองให้อภัยเค้าดูนะคะ ^^

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่