นี่คือคดีที่ศาล รธน.ประชุมแล้วเห็นว่าเป็นประเด็นสำคัญ
นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าคณะโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ แถลงผลการประชุมคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ ที่ได้พิจารณาคำร้องที่สำคัญในสี่ประเด็น คือการพิจารณาคำร้องของ ส.ส. ที่ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ศาลวินนิจฉับยสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 106(5) ประกอบมาตรา 102 (6) หรือไม่ ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าเป็นประเด็นที่สำคัญ และไม่มีข้อยุติ จึงเลื่อนการพิจารณาออกไปในสัปดาห์หน้า
นี่คือประเด็นที่ศาล รธน.รับคำร้องทันที อาจเป็นเพราะประเด็นไม่สำคัญจึงสามารถรับได้ทันที
พร้อมกันนี้ที่ประชุมมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 3 รับคำร้องของนายสมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา ที่ให้วินิจฉัยการทำหน้าที่ของประธานรัฐสภา และสมาชิกรัฐสภา รวม 312 คน ที่ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 แต่ยังไม่มีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราวตามคำร้อง เพราะยังไม่มีเหตุเพียงพอ ส่วนจะมีการรวมพิจารณาคำร้องเกี่ยวกับมาตรา 68 ในคราวเดียวกันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจขององค์คณะตุลาการ
ข่าวข้างต้นมาจากมติชน วันนี้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1367402452&grpid=00&catid=&subcatid=
ด้วยเป็นคนความรู้น้อยจึงเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมประเด็นที่ศาลเห็นว่าสำคัญเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวบุคคล คนหนึ่งเท่านั้นเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันเป็นหัวหน้าฝ่ายค้าน แต่อีกกรณีหนึ่ง เป็นเรื่องเกี่ยวกับรัฐสภา อันเป็นเสาหลักแกนสำคัญที่สุดของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เป็นเรื่องที่กระทบถึงสมาชิืกรัฐสภา กระทบถึงประชาชนทั้งประเทศ และสำคัญกระทบถึงรัฐธรรมนูญ ศาลกลับรับไว้พิจารณาทันทีได้ต่างกับกรณีแรก สงสัยครับ สงสัย ไม่เข้่าใจ ไม่..... อีกมากมายสารพัด
ตัวอย่างประเด็นสำคัญ ในการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าคณะโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ แถลงผลการประชุมคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ ที่ได้พิจารณาคำร้องที่สำคัญในสี่ประเด็น คือการพิจารณาคำร้องของ ส.ส. ที่ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ศาลวินนิจฉับยสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 106(5) ประกอบมาตรา 102 (6) หรือไม่ ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าเป็นประเด็นที่สำคัญ และไม่มีข้อยุติ จึงเลื่อนการพิจารณาออกไปในสัปดาห์หน้า
นี่คือประเด็นที่ศาล รธน.รับคำร้องทันที อาจเป็นเพราะประเด็นไม่สำคัญจึงสามารถรับได้ทันที
พร้อมกันนี้ที่ประชุมมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 3 รับคำร้องของนายสมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา ที่ให้วินิจฉัยการทำหน้าที่ของประธานรัฐสภา และสมาชิกรัฐสภา รวม 312 คน ที่ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 แต่ยังไม่มีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราวตามคำร้อง เพราะยังไม่มีเหตุเพียงพอ ส่วนจะมีการรวมพิจารณาคำร้องเกี่ยวกับมาตรา 68 ในคราวเดียวกันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจขององค์คณะตุลาการ
ข่าวข้างต้นมาจากมติชน วันนี้ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1367402452&grpid=00&catid=&subcatid=
ด้วยเป็นคนความรู้น้อยจึงเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมประเด็นที่ศาลเห็นว่าสำคัญเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวบุคคล คนหนึ่งเท่านั้นเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันเป็นหัวหน้าฝ่ายค้าน แต่อีกกรณีหนึ่ง เป็นเรื่องเกี่ยวกับรัฐสภา อันเป็นเสาหลักแกนสำคัญที่สุดของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เป็นเรื่องที่กระทบถึงสมาชิืกรัฐสภา กระทบถึงประชาชนทั้งประเทศ และสำคัญกระทบถึงรัฐธรรมนูญ ศาลกลับรับไว้พิจารณาทันทีได้ต่างกับกรณีแรก สงสัยครับ สงสัย ไม่เข้่าใจ ไม่..... อีกมากมายสารพัด