นักฆ่า (เวลา)
ผมยังติดบุหรี่อยู่..........
แย่หน่อย..... ที่ผมยังปล่อยให้มันมีอิทธิพลเหนือจิตใจ แม้ว่าผมจะแอบเข้าข้างตัวเองด้วยการปรามาสมันก็เถอะ (มวนเล็กๆ มันจะมีพิษสงอะไรวะ อยากเลิกเมื่อไหร่ก็ได้)
เราเป็นเหมือนชนกลุ่มน้อยที่น่ารังเกียจ กลิ่น ควัน และแสดงออกถึงความไม่รับผิดชอบต่อตัวเอง
หลังๆมานี้ ผมต้องหอบหิ้วสมองยุ่ยๆที่ซุกตัวอยู่ในกระโหลกหนาๆ ขึ้นมาทำงานไกลจนเกือบสุดประเทศไทย
ไม่หรอก ไม่ได้อยู่ในป่าเขาลำเนาอะไร ก็ยังอยู่ในอาคารทรงเหลี่ยมสูงๆเหมือนเดิม ผนังสีขาว หน้าต่างกระจก และขังตัวเองไว้กับแล็ปทอปเหมือนเดิม แค่ย้ายที่เท่านั้น...
ถ้าผมอยากจะชำเราตัวเองด้วยยมทูตสีขาวมวนเล็กๆนั่น ผมก็จะขึ้นไปบนดาดฟ้า........ ที่นั่น ผมใส่นิโคตินหรือทาร์ให้ร่างกายได้ตามความต้องการ
มุมโปรดของผม มันโรยสายตาลงมาที่ท้องถนนได้.......
รปภ. ยาม ซีเคียวริตี้ ไม่รู้สิ....... ผมควรจะเรียกเขาว่าอะไรดีนะ ที่ทำให้เขารู้สึกภูมิใจในตัวเอง
เราเจอกันทุกเช้าที่ผมเข้ามาทำงาน เขาเหมือนอากาศสำหรับผม จับต้องไม่ได้ ไม่มีตัวตน แค่ผมรู้สึกอยู่ที่ปลายประสาทอยู่ว่ายังมีเขา ก็เท่านั้น
มุมสูงที่ผมโรยยาพิษให้ตัวเองอยู่นั้น ผมจะเห็นเขา แน่ล่ะ เขาไม่เห็นผม นอกเสียจากว่า... เขาจะเงยหน้าขึ้นมาจนคอตั้งบ่า
ภาพชายวัยเกือบสี่สิบปี ใส่เสื้อขาวคล้องนกหวีด กางเกงคร่ำคร่าสีกรม ติดเหรียญตราอะไรรุงรัง นั่งอยู่ในมุมเล็กๆนอกป้อมยาม เป็นสิ่งที่ผมเริ่มจะคุ้น
มันคงจะร้อนอบอ้าวในเวลากลางวัน.... ใครกันนะ ที่คิดแบบไอ้ป้อมบ้านี่ออกมา มันเหมือนคอก เหมือนกรง เหมือนโลงศพที่ตั้งขึ้นแล้วเอาหลังคามาแปะเอาไว้
ผมใช้เวลากับบุหรี่หนึ่งมวนราวสี่นาทีกว่าๆ เขาใช้เวลานั้นพร้อมๆไปกับผม สายตาที่ทอดไปประตูทางเข้าอาคาร ร่างนั่งนิ่ง ราวกับไม่มีแม้แต่วิญญาณ
ผมดับบุหรี่แล้ว........ แต่เขายังนั่งอยู่ที่เดิม ท่าเดิม.....
ความกระหายใคร่รู้ของผมสะกิดผมเอาไว้ เอาล่ะ ผมอยากรู้ชิบ.. ว่าเขาจะอยู่ในท่านั้นได้นานแค่ไหน
7.... 8... 9... 18.... 18นาที... 18นาทีที่ผมยืนให้แดดเผาหัวตัวเองจนร้อน เขาก็ยังไม่ขยับตัว มีเพียงปลายนิ้วที่เคาะโต๊ะเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
ผมยอมแพ้.......
ลมจากเครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบ สวนกับควันจากชาร้อนกรุ่น เก้าอี้ทำงานหนานุ่ม และกรงทำงานส่วนตัว
เปลวแดดระยิบระยับ เสื้อชุ่มเหงื่อ ไอเสียจากยานพาหนะ และกรงทำงานส่วนตัวเช่นกัน
ผมเคยทรนงตัวว่า ผมเป็นนักฆ่าเวลาชั้นเยี่ยม ฆ่าได้คลาสสิค และสรรหาวิธีมาฆ่าได้หลากหลายไม่ซ้ำแบบ วิธีการ ทั้งฆ่าคนเดียว หรือรวมหัวกันฆ่า.....
แต่มันเทียบอะไรไม่ได้เลยกับเขา... การฆ่าเวลาของเขามันเป็นตัวตน เป็นสัญชาตญาณ ไม่ต้องคัดสรร ค้นหาวิธี และนิ่มนวล นั่งนิ่งๆ ฆ่าไปเรื่อยๆ
วินาที นาที ชั่วโมง วัน เดือน ปี ฆ่าจนชาชิน ฆ่าจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไป
ผมปิดแลปทอป.... ลงไปที่ป้อมยามดีกว่า..........ผมอยากทดลองอะไรดูหน่อย
เขาดีดตัวตรงผึงเมื่อเห็นผม ราวกับมีสปริงขดใหญ่ๆที่ก้นขึ้นมายืนตัวตรง ตะเบ๊ะให้ผม พร้อมคำทักทายและยิ้มกว้าง
ผมยิ้มตอบทักทายพร้อมส่งบุหรี่ในมือให้เขา.... เขายิ้มตอบ ส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงปฏิเสธและขอบคุณ
อืม....
นักฆ่าที่ดี ย่อมไม่ต้องใช้อุปกรณ์ อาวุธเครื่องช่วยใดๆ................ ผมได้พิสูจน์ในเรื่องนี้แล้ว..........
พอแล้วสำหรับวันนี้............... ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะห้ำหั่นกับผู้ที่มีฝีมือเหนือกว่า.....
นักฆ่า.....
ผมยังติดบุหรี่อยู่..........
แย่หน่อย..... ที่ผมยังปล่อยให้มันมีอิทธิพลเหนือจิตใจ แม้ว่าผมจะแอบเข้าข้างตัวเองด้วยการปรามาสมันก็เถอะ (มวนเล็กๆ มันจะมีพิษสงอะไรวะ อยากเลิกเมื่อไหร่ก็ได้)
เราเป็นเหมือนชนกลุ่มน้อยที่น่ารังเกียจ กลิ่น ควัน และแสดงออกถึงความไม่รับผิดชอบต่อตัวเอง
หลังๆมานี้ ผมต้องหอบหิ้วสมองยุ่ยๆที่ซุกตัวอยู่ในกระโหลกหนาๆ ขึ้นมาทำงานไกลจนเกือบสุดประเทศไทย
ไม่หรอก ไม่ได้อยู่ในป่าเขาลำเนาอะไร ก็ยังอยู่ในอาคารทรงเหลี่ยมสูงๆเหมือนเดิม ผนังสีขาว หน้าต่างกระจก และขังตัวเองไว้กับแล็ปทอปเหมือนเดิม แค่ย้ายที่เท่านั้น...
ถ้าผมอยากจะชำเราตัวเองด้วยยมทูตสีขาวมวนเล็กๆนั่น ผมก็จะขึ้นไปบนดาดฟ้า........ ที่นั่น ผมใส่นิโคตินหรือทาร์ให้ร่างกายได้ตามความต้องการ
มุมโปรดของผม มันโรยสายตาลงมาที่ท้องถนนได้.......
รปภ. ยาม ซีเคียวริตี้ ไม่รู้สิ....... ผมควรจะเรียกเขาว่าอะไรดีนะ ที่ทำให้เขารู้สึกภูมิใจในตัวเอง
เราเจอกันทุกเช้าที่ผมเข้ามาทำงาน เขาเหมือนอากาศสำหรับผม จับต้องไม่ได้ ไม่มีตัวตน แค่ผมรู้สึกอยู่ที่ปลายประสาทอยู่ว่ายังมีเขา ก็เท่านั้น
มุมสูงที่ผมโรยยาพิษให้ตัวเองอยู่นั้น ผมจะเห็นเขา แน่ล่ะ เขาไม่เห็นผม นอกเสียจากว่า... เขาจะเงยหน้าขึ้นมาจนคอตั้งบ่า
ภาพชายวัยเกือบสี่สิบปี ใส่เสื้อขาวคล้องนกหวีด กางเกงคร่ำคร่าสีกรม ติดเหรียญตราอะไรรุงรัง นั่งอยู่ในมุมเล็กๆนอกป้อมยาม เป็นสิ่งที่ผมเริ่มจะคุ้น
มันคงจะร้อนอบอ้าวในเวลากลางวัน.... ใครกันนะ ที่คิดแบบไอ้ป้อมบ้านี่ออกมา มันเหมือนคอก เหมือนกรง เหมือนโลงศพที่ตั้งขึ้นแล้วเอาหลังคามาแปะเอาไว้
ผมใช้เวลากับบุหรี่หนึ่งมวนราวสี่นาทีกว่าๆ เขาใช้เวลานั้นพร้อมๆไปกับผม สายตาที่ทอดไปประตูทางเข้าอาคาร ร่างนั่งนิ่ง ราวกับไม่มีแม้แต่วิญญาณ
ผมดับบุหรี่แล้ว........ แต่เขายังนั่งอยู่ที่เดิม ท่าเดิม.....
ความกระหายใคร่รู้ของผมสะกิดผมเอาไว้ เอาล่ะ ผมอยากรู้ชิบ.. ว่าเขาจะอยู่ในท่านั้นได้นานแค่ไหน
7.... 8... 9... 18.... 18นาที... 18นาทีที่ผมยืนให้แดดเผาหัวตัวเองจนร้อน เขาก็ยังไม่ขยับตัว มีเพียงปลายนิ้วที่เคาะโต๊ะเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
ผมยอมแพ้.......
ลมจากเครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบ สวนกับควันจากชาร้อนกรุ่น เก้าอี้ทำงานหนานุ่ม และกรงทำงานส่วนตัว
เปลวแดดระยิบระยับ เสื้อชุ่มเหงื่อ ไอเสียจากยานพาหนะ และกรงทำงานส่วนตัวเช่นกัน
ผมเคยทรนงตัวว่า ผมเป็นนักฆ่าเวลาชั้นเยี่ยม ฆ่าได้คลาสสิค และสรรหาวิธีมาฆ่าได้หลากหลายไม่ซ้ำแบบ วิธีการ ทั้งฆ่าคนเดียว หรือรวมหัวกันฆ่า.....
แต่มันเทียบอะไรไม่ได้เลยกับเขา... การฆ่าเวลาของเขามันเป็นตัวตน เป็นสัญชาตญาณ ไม่ต้องคัดสรร ค้นหาวิธี และนิ่มนวล นั่งนิ่งๆ ฆ่าไปเรื่อยๆ
วินาที นาที ชั่วโมง วัน เดือน ปี ฆ่าจนชาชิน ฆ่าจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไป
ผมปิดแลปทอป.... ลงไปที่ป้อมยามดีกว่า..........ผมอยากทดลองอะไรดูหน่อย
เขาดีดตัวตรงผึงเมื่อเห็นผม ราวกับมีสปริงขดใหญ่ๆที่ก้นขึ้นมายืนตัวตรง ตะเบ๊ะให้ผม พร้อมคำทักทายและยิ้มกว้าง
ผมยิ้มตอบทักทายพร้อมส่งบุหรี่ในมือให้เขา.... เขายิ้มตอบ ส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงปฏิเสธและขอบคุณ
อืม....
นักฆ่าที่ดี ย่อมไม่ต้องใช้อุปกรณ์ อาวุธเครื่องช่วยใดๆ................ ผมได้พิสูจน์ในเรื่องนี้แล้ว..........
พอแล้วสำหรับวันนี้............... ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะห้ำหั่นกับผู้ที่มีฝีมือเหนือกว่า.....