เหตุการณ์ทองคำตกลงในช่วงที่ผ่านมาคล้ายปี 1975-80 คือ การพิมพ์เงินสหรัฐฯ และทั่วโลกออกมาจำนวนมาก และยกเลิกการตรึงเงินดอลลาร์สหรัฐฯ กับทองคำ ทำให้หลายประเทศเลือกที่จะขายทองคำออกมาในตลาดในช่วงปี 1975 ทำให้ราคาทองคำลดลงร้อยละ 50 ในช่วง 18 เดือน แต่หลังจากนั้นทองคำขึ้นอย่างเดียว 800% ในช่วงปี 1976-1980
วันนี้ถ้าทุกคนตามข่าวทองคำเหมือนกันมากกับปี 1980 คือ ทั่วโลกพิมพ์เงิน แน่นอนถ้าเงินปริมาณเงินทั่วโลกเมื่อเทียบกับปริมาณทองคำจะรู้ว่าปริมาณเงินมันเพิ่มมากกว่าหลายเท่า ที่สำคัญคือ วันนี้สหรัฐฯ และอังกฤษมีการให้ยืมทองคำไป short ในตลาดทองจำนวนเท่าหน้าตัก เพื่อช่วยธนาคารที่ยืมทองคำไปก่อนหน้านี้หาทองคำมาคืนเยรมัน และที่สำคัญหลายชาติในยุโรปเลือกที่จะขายทองคำเพื่อนำไปใช้หนี้ที่ก่อมหาศาล และแน่นอน สุดท้าย ยุโรปเลือกทำ QE เพื่อเพิ่มปริมาณเงิน
หลายคนออกมาระบุว่าสหรัฐฯ จะหยุด QEทำให้ทองคำลง ยุโรปขายทองคำ ทำให้ทองคำลง แต่ถ้าพิจารณาดีๆ สหรัฐฯ หยุด QE เมื่อไร ทองคำขึ้น เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯ แย่มาก คนตกงานเท่ากับ 1 ใน 4 ของคนวัยแรงงาน แต่ที่ตัวเลขตกงานแค่ 7% เพราะมีการใช้การแก้กฎการคำนวณคนตกงานที่ไม่นับคนที่ว่างงานมานานมาก คนที่ทำงานไม่ประจำ เป็นต้น เงินเฟ้อในสหรัฐฯ ลดลงตำที่ 1.3% แน่นอน ถ้าสหรัฐฯ หยุด QE เศรษฐกิจจะลดลงทันทีและเขาก็ต้องกลับมาพิมพ์เงินอีก เลยฟันธงเลยว่าสหรัฐฯ พิมพ์เงินต่อและจะพิมพ์เพิ่มขึ้นด้วยแน่นอน เพราะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวชัด
ยุโรปขายทองนี้ยิ่งส่งผลบวก เพราะทำให้เงินทุนสำรองทองคำในยุโรปเมื่อเทียบกับปริมาณเงินลดลงมากๆๆ ทองคำควรมีค่าเพิ่มขึ้นในอนาคตทันที
แน่นอนตอนนี้ทองคำยังไม่ขึ้นและอาจลง เพราะรอยุโรปขายทองคำก่อน ถ้าระบุว่าจะขายเท่าไร เริ่มเมื่อไร ขึ้นทันที น่าเป็นช่วงครึ่งปีหลังนี้ และยุโรปคงต้องพิมพ์เงินแน่นอน เพราะไม่งั้นคนตกงานมากกว่านี้
เลยฟันธง ทองคำมีแต่ขึ้นกับขึ้นเหมือนปี 1975-80 ไม่ซื้อตอนนี้ คงต้องรอซื้อที่ 2-3 พันเหรียญต่ออนซ์แน่แท้ และอย่าไปฟังนักค้าทองคำหรือธนาคารวานิชธนกิจ เพราะพวกนี้แอบเอาทองคำมาขายล่วงหน้า แต่ไม่มีทองคำที่ส่งมอบให้ลูกค้า เหมือนตอนนี้ที่เกิดขึ้นในไทย ที่ร้านทองปิด เพราะไม่มีทองคำขาย ทองคำมันขาดตลาดจริงๆ ร้านทองและธนาคารเอามาขายล่วงหน้าหมดแล้ว
ราคาทองคำจะปรับเพิ่มขึ้น 2 เท่าไปที่ 2500-3000 ในอีก 3 ปีข้างหน้าจากยุโรป สหรัฐฯ ขายทองคำไปใช้หนี้
วันนี้ถ้าทุกคนตามข่าวทองคำเหมือนกันมากกับปี 1980 คือ ทั่วโลกพิมพ์เงิน แน่นอนถ้าเงินปริมาณเงินทั่วโลกเมื่อเทียบกับปริมาณทองคำจะรู้ว่าปริมาณเงินมันเพิ่มมากกว่าหลายเท่า ที่สำคัญคือ วันนี้สหรัฐฯ และอังกฤษมีการให้ยืมทองคำไป short ในตลาดทองจำนวนเท่าหน้าตัก เพื่อช่วยธนาคารที่ยืมทองคำไปก่อนหน้านี้หาทองคำมาคืนเยรมัน และที่สำคัญหลายชาติในยุโรปเลือกที่จะขายทองคำเพื่อนำไปใช้หนี้ที่ก่อมหาศาล และแน่นอน สุดท้าย ยุโรปเลือกทำ QE เพื่อเพิ่มปริมาณเงิน
หลายคนออกมาระบุว่าสหรัฐฯ จะหยุด QEทำให้ทองคำลง ยุโรปขายทองคำ ทำให้ทองคำลง แต่ถ้าพิจารณาดีๆ สหรัฐฯ หยุด QE เมื่อไร ทองคำขึ้น เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯ แย่มาก คนตกงานเท่ากับ 1 ใน 4 ของคนวัยแรงงาน แต่ที่ตัวเลขตกงานแค่ 7% เพราะมีการใช้การแก้กฎการคำนวณคนตกงานที่ไม่นับคนที่ว่างงานมานานมาก คนที่ทำงานไม่ประจำ เป็นต้น เงินเฟ้อในสหรัฐฯ ลดลงตำที่ 1.3% แน่นอน ถ้าสหรัฐฯ หยุด QE เศรษฐกิจจะลดลงทันทีและเขาก็ต้องกลับมาพิมพ์เงินอีก เลยฟันธงเลยว่าสหรัฐฯ พิมพ์เงินต่อและจะพิมพ์เพิ่มขึ้นด้วยแน่นอน เพราะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวชัด
ยุโรปขายทองนี้ยิ่งส่งผลบวก เพราะทำให้เงินทุนสำรองทองคำในยุโรปเมื่อเทียบกับปริมาณเงินลดลงมากๆๆ ทองคำควรมีค่าเพิ่มขึ้นในอนาคตทันที
แน่นอนตอนนี้ทองคำยังไม่ขึ้นและอาจลง เพราะรอยุโรปขายทองคำก่อน ถ้าระบุว่าจะขายเท่าไร เริ่มเมื่อไร ขึ้นทันที น่าเป็นช่วงครึ่งปีหลังนี้ และยุโรปคงต้องพิมพ์เงินแน่นอน เพราะไม่งั้นคนตกงานมากกว่านี้
เลยฟันธง ทองคำมีแต่ขึ้นกับขึ้นเหมือนปี 1975-80 ไม่ซื้อตอนนี้ คงต้องรอซื้อที่ 2-3 พันเหรียญต่ออนซ์แน่แท้ และอย่าไปฟังนักค้าทองคำหรือธนาคารวานิชธนกิจ เพราะพวกนี้แอบเอาทองคำมาขายล่วงหน้า แต่ไม่มีทองคำที่ส่งมอบให้ลูกค้า เหมือนตอนนี้ที่เกิดขึ้นในไทย ที่ร้านทองปิด เพราะไม่มีทองคำขาย ทองคำมันขาดตลาดจริงๆ ร้านทองและธนาคารเอามาขายล่วงหน้าหมดแล้ว