ขอฟันธงว่า กัมพูชา "พยายามอย่างมาก" ในการ ฮุบ พื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว

กระทู้สนทนา
โดย มุมมองส่วนตัวของผมแล้ว ผมเห็นว่า ประเทศกัมพูชา พยายามอย่างมาก ในการ ฮุบ ทรัพย์สิน บริเวณชายแดน ที่ จะส่งผลในการพัฒนาเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น ปราสาทพระวิหาร+พื้นที่ทับซ้อน  พื้นที่ทางทะเล ฯลฯ

ที่ผ่านมา กัมพูฃา อาศัย ประเทศฝรั่งเศสทำแผนที่ เพื่ออ้างอิงใน สิทธิ์ของตัวปราสาท ก็ สำเร็จไปด้วยดี เพราะ ประเทศไทยไม่มีแผนที่อื่น ๆ ไป ยืนยัน

ต่อมา กัมพูชา พยายามจะมั่วนิ่มด้วยการ ขึ้นทะเบียน มรดกโลกในตัวปราสาท + พื้นที่ทับซ้อน .... รัฐบาลไทยในเวลานั้น ก็ ได้ไป ทักท้วง ว่า ขึ้นทะเบียนได้ เพียง ตัวปราสาทเท่านั้น เพราะ พื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว ประเทศไทย ก็ มี กรรมสิทธิ์ เช่นกัน.... ซึ่งเรื่องนี้ พธม. ได้นำเอามาเป็น ประเด็นว่า รัฐบาลไทย ณ เวลานั้น สนับสนุนให้ กัมพูชา ยึดปราสาทพระวิหาร ซึ่ง มันเป็นของกัมพูชาตั้งนานแล้ว

ต่อมาในรัฐบาล อภิสิทธิ์ ได้ เกิดข้อ พิพาท ระหว่าง ประเทศไทย และ กัมพูชา จากการดำเนินนโยบายต่างประเทศ ที่ ไม่ประสบความสำเร็จ รวมไปถึง สร้างความขัดแย้งโดยไม่เจตนา(ผมกลางสุด ๆ แล้วนะ)  กัมพูชา จึงนำข้อพิพาทดังกล่าว ไปฟ้องต่อศาลโลก เพื่อ ขอกรรมสิทธิ์ ใน พื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว แต่ เพียงผู้เดียว

เพราะฉะนั้น สิ่งที่ ทีม กม. ไทย ใน ศาลโลก ณ เวลานี้ ต้องทำจริง ๆ คือ รักษาสิทธิประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว เอาไว้ให้ได้ ทั้งด้านเศรษฐกิจ และ การทหาร ตลอดจน การทำข้อตกลง ในการไม่ให้ กัมพูชา ตั้ง กองกำลังทหาร บริเวณปราสาทพระวิหาร เนื่องจาก ประเทศไทยจะเสียเปรียบด้านชัยภูมิทางทหารอย่างมาก

แต่..เป็นไปไม่ได้เลย ที่ ประเทศไทยจะได้รับสิทธิ์ในพื้นที่ทับซ้อนแต่เพียงผู้เดียว หรือ แม้แต่ สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของปราสาทพระวิหารแต่เพียงผู้เดียว เพราะ จะไปขัดแย้งกับคำตัดสินเดิม

ฝากไปถึงผู้ที่ยังคิดว่า ปราสาทพระวิหารเป็นของไทยว่า ................ดูดี ๆ นะครับ ว่า ปราสาทพระวิหาร เป็น ศิลปะชนชาติใดกันแน่ ใครสร้าง อย่า ละโมบจนเกินไปนัก  สักวันนึง ชนชาติลาวเค้ามาทวงคืน "พระแก้วมรกต" แล้ว จะ อาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่