นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความลง
ในเฟซบุ๊คส่วนตัว (Noppadon Pattama)ใจความว่า "บางท่านอาจไม่ได้ตามคดีในศาลโลกที่จะมี
การแถลงด้วยวาจาในวันที่ 15-19 เมษายน 56 นี้ใกล้ชิด ผมขอเรียนให้ทราบข้อมูลดังนี้ครับ
1) คดีที่กำลังพิจารณาในศาลโลกในขณะนี้คือคดีตีความคำพิพากษาของศาลโลกที่ตัดสินเมื่อ 51 ปี
ที่แล้วครับ ไม่ใช่คดีใหม่ เรียกว่าคดีตีความคำตัดสินในอดีต คู่ความในคดีที่ศาลโลกตัดสินไปแล้ว
ถ้าสงสัยว่าคำตัดสินมีความหมายอย่างไร ก็ยื่นตีความได้ตลอดเวลาครับ ไม่มีกำหนดเวลาว่าต้องยื่น
ภายในกี่ปี ผิดกับการรื้อฟื้นคดี ต้องกระทำภายใน 10 ปี ดังนั้นคดีปราสาทพระวิหารจึงรื้อฟื้นไม่ได้แล้วครับ
2) ในคดีตีตวามนี้ กัมพูชา (กพช.) ยื่นขอให้ศาลโลกตีความว่าพื้นที่ปริเวณตัวปราสาทพระวิหาร
ที่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า vicinity มีขอบเขตเพียงไรครับ
3) คดีตีความนี้ไม่เกี่ยวกับตัวปราสาทพระวิหารนะครับ เพราะตัวปราสาทพระวิหารนั้น ศาลโลกตัดสิน
เมื่อ 51 ปีก่อนคือในวันที่ 15 มิ.ย. 2505 ให้ตกเป็นของกัมพูชาไปแล้ว แต่ก็ยังมีคนเข้าใจผิดว่าท่าน
สมัครกับผมเป็นคนยกปราสาทพระวิหารให้กัมพูชาแล้วมาด่าพวกผม ความจริงก็คือเราแพ้คดีในศาล
โลกเมื่อ 51 ปีก่อนและจำใจต้องยกตัวปราสาทให้กัมพูชาไปแล้ว
4) ขอย้อนไป 51 ปีที่แล้วครับ หนึ่งในทีมทนายที่ว่าความในคดีศาลโลกคือ ท่านเสนีย์ ปราโมช
อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผมว่าทนายทุกคนต่อสู้ดีที่สุดแล้วครับ คงไม่มีใครอยากแพ้คดี
5) ดังนั้น เรื่องตัวปราสาทพระวิหารมันจบไปตั้งแต่ 51 ปีที่แล้วครับ เรารื้อฟื้นคดีไม่ได้แล้ว แต่ที่กัมพูชา
และไทยยังถกเถียงกันไม่ใช่ใครเป็นเจ้าของตัวปราสาท แต่เป็นเรื่องพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร
เพราะไทยอ้างเป็นของไทย แต่กัมพูชาอ้างเป็นของกัมพูชาครับ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะต่างฝ่ายต่าง
ยึดถือแผนที่คนละชุด และยึดถือเส้นเขตแดนคนละเส้น (ไทยยึดสันปันน้ำแต่กัมพูชายึดแผนที่
ระวาง 1 ต่อ 200,000)
6) สรุปอีกที่หนึ่งคือ ตัวปราสาทเป็นของกัมพูชา แต่พื้นที่ทับซ้อนยังเถียงกันอยู่ ผมขออุปมาอุปมัยเหมือน
ตัวปราสาทเป็นศาลพระภูมิ ส่วนพื้นที่่ทับซ้อนเปรียบเป็นสนามหญ้า
7) ในปี 2549 กัมพูชายื่นคำขอเอาตัวปราสาทและพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นทะเบียนมรดกโลก เปรียบเปรยคือ
เอาตัวศาลพระภูมิและสนามหญ้าไปขึ้นทะเบียนมรดกโลก ซึ่งในปี 2550 ไทยคัดค้านเพราะเขาจะผนวก
เอาพื้นที่ทับซ้อนด้วย
8) รัฐบาลสมัครเข้าบริหารประเทศในเดือน กุมภาพันธ์ 51 เรารับเผือกร้อนมาจากรัฐบาลทหาร คมช.
กัมพูชาเขายื่นเรื่องขึ้นทะเบียนตัวปราสาทและพื้นที่ทับซ้อนฝ่ายเดียวมาก่อนเราเข้ารับตำแหน่งแล้วครับ
ดังนั้นที่มาเที่ยวด่าว่ารัฐบาลสมัครเป็นผู้ทำคำแถลงการณ์ร่วมจนทำให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่าย
เดียวจึงเป็นเท็จครับ
9) ผมว่านายกทุกคน รมต.ต่างประเทศทุกคน ไม่มีใครชั่วพอที่จะทำให้ไทยเสียประโยชน์ด้านดินแดน
ไม่มีใครขายชาติหรอกครับ นอกจากนั้นการทำงานต้องทำร่วมกับข้าราชการ ทหาร กองทัพ สภา
ความมั่นคงแห่งชาติ ถ้าทำไม่ดี ข้าราชการเขาไม่เอาท่านไว้แน่ แต่กรณีของผม สิ่งที่ผมทำนั้นข้าราชกา
เห็นด้วย มีการปรึกษาหารือและเห็นชอบเป็นลำดับ จากระดับกระทรวงต่างประเทศ ก็ส่งเรื่องเข้าสภา
ความมั่นคงแห่งชาติ แล้วเสนอเข้าครม. ทำเป็นขั้นเป็นตอนครับ
10) เมื่อกัมพูชาเขาเอาทั้งตัวปราสาทและพื้นที่ทับซ้อน หรือเปรียบเปรยเป็น เอาศาลพระภูมิบวก
สนามหญ้าไปขึ้นทะเบียน พวกผมจึงไปเจรจาให้กัมพูชาตัดพื้นที่ทับซ้อนหรือสนามหญ้าออก
และสนับสนุนให้ขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทพระวิหารที่เป็นของเขามา 51 ปีตามที่ศาลโลกตัดสิน
เจรจายากมาก ท้ายที่สุดเขายอมตัดพื้นที่ทับซ้อนออก และยอมขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทเท่านั้น
นี่คือที่มาของคำแถลงการณ์ร่วมครับ เอกสารชิ้นนี้เป็นประโยชน์มากครับ เป็นครั้งแรกที่กัมพูชายอม
รับว่ามีพื้นที่ทับซ้อน นักกฎหมายระหว่างประเทศชั้นนำของโลกและชั้นนำของไทย ต่างบอกว่าคำ
แถลงการณ์ร่วมเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย แต่ศาลปกครองตัดสินให้เป็นโมฆะไปแล้วครับตอนนี้
11) รัฐบาลสมัครและผมเป็นผู้ปกป้องดินแดนครับ ผมมีเอกสารราชการและมติคณะกรรมการมรดกโลก
ยืนยัน ผมไม่ต้องการคำชมใดๆ ครับ เพราะคนไทยทุกคนมีหน้าที่ปกป้องดินแดน แต่ที่รับไม่ได้คือมาด่า
ว่าเราขายชาติทั้งๆ ที่เป็นความเท็จ พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ให้สิทธิ์ใครที่จะประณามคนอื่นด้วยความเท็จครับ
มันเป็นบาป
12) แนวทางของรัฐบาลท่านสมัครคืออะไรที่เป็นของเขาก็เป็นของเขา อะไรที่เป็นของเราต้องปกป้อง
ตัวปราสาทเป็นของเขา แต่พื้นที่ทับซ้อนเราต้องปกป้องไม่ให้นำไปขึ้นทะเบียน ในระหว่างที่ยังเจรจา
ปักปันเขตแดนไม่เสร็จ ก็บริหารจัดการพี้นที่ทับซ้อนร่วมกันไปพลางๆ ก่อน จะได้ประโยชน์ทั้งชาวบ้าน
ตามแนวชายแดนทั้งสองฝ่าย ไม่รบกัน
13) ย้อนกลับมาคดีตีความที่อยู่ในศาลขณะนี้ครับ ไทยและกัมพูชาจะแถลงสรุปประเด็นด้วยวาจาใน
ระหว่างวันที่ 15-19 เมษายน นี้ และหลังจากนั้นศาลสามารถตัดสินได้ตลอดเวลา แต่คาดว่าน่าจะ
ตัดสินประมาณเดือนกันยายนปีนี้ครับ
14) ผมขอเรียนเป็นประเด็นสุดท้ายครับ รัฐบาลท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์สู้คดีเต็มที่ครับ ทีมกฎหมายก็ใช้
ทีมเดียวกันที่ตั้งโดยรัฐบาลท่านอภิสิทธิ์ เราเอาใจช่วยทีมกฎหมายของประเทศ ผลจะออกมาอย่างไร
เราไม่ทราบ แต่ไม่ควรโทษกันไปมาครับ เพราะคนไทยทุกคนรักชาติเท่ากัน และขอร้องเถอะครับ
จะด่าใครขอให้ด่าแบบมีข้อมูลและเอาความจริงมาพูดกันครับ ประเภทตั้งหน้าตั้งตาจะด่าเขาฝ่ายเดียว
ด้วยความเท็จ ระวังให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัวนะครับ"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1365753429&grpid=&catid=01&subcatid=0100
การชี้แจงของ คุณนพดล ปัทมะ น่าเชื่อถือไหม ... นพดล..เป็นนักเรียนทุนอานันท...
คุณคิดว่า เขาจะไปรับใช้คุณทักษิณ ...ขายบ้านขายเมือง ให้ต่างชาติ หรือ ...
อย่าไปคิดว่า ใครที่คิดไม่เหมือนเรา เป็นคนสาระเลว ไปหมด การรักบ้านเมืองก็มี
การแสดงออกได้หลายแบบ ...มิใช่หรือ
อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. ปรมาจารย์ด้านกฎหมายระดับประเทศ ก็เคยทำให้เราต้องยก
เขาพระวิหารไปให้เขมรมาแล้ว ..... ใช่หรือไม่ ... คริ คริ .. จะไปโทษใครอีก ...
กระทู้สุดท้ายของวันค่ะ .... หมู่นี้กิจกรรมเยอะ ข่าวสารน่าเบื่อ
เห็นมีแต่กระทู้ กล่าวหา ด่าทอกันไปมา น่าเบื่อหน่าย
ฟังกันชัดๆ "นพดล" แจง 14 ข้อ ปมเขาพระวิหาร "ไม่มีใครชั่วพอที่จะทำให้ไทยเสียดินแดน...มติชนออนไลน์
ในเฟซบุ๊คส่วนตัว (Noppadon Pattama)ใจความว่า "บางท่านอาจไม่ได้ตามคดีในศาลโลกที่จะมี
การแถลงด้วยวาจาในวันที่ 15-19 เมษายน 56 นี้ใกล้ชิด ผมขอเรียนให้ทราบข้อมูลดังนี้ครับ
1) คดีที่กำลังพิจารณาในศาลโลกในขณะนี้คือคดีตีความคำพิพากษาของศาลโลกที่ตัดสินเมื่อ 51 ปี
ที่แล้วครับ ไม่ใช่คดีใหม่ เรียกว่าคดีตีความคำตัดสินในอดีต คู่ความในคดีที่ศาลโลกตัดสินไปแล้ว
ถ้าสงสัยว่าคำตัดสินมีความหมายอย่างไร ก็ยื่นตีความได้ตลอดเวลาครับ ไม่มีกำหนดเวลาว่าต้องยื่น
ภายในกี่ปี ผิดกับการรื้อฟื้นคดี ต้องกระทำภายใน 10 ปี ดังนั้นคดีปราสาทพระวิหารจึงรื้อฟื้นไม่ได้แล้วครับ
2) ในคดีตีตวามนี้ กัมพูชา (กพช.) ยื่นขอให้ศาลโลกตีความว่าพื้นที่ปริเวณตัวปราสาทพระวิหาร
ที่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า vicinity มีขอบเขตเพียงไรครับ
3) คดีตีความนี้ไม่เกี่ยวกับตัวปราสาทพระวิหารนะครับ เพราะตัวปราสาทพระวิหารนั้น ศาลโลกตัดสิน
เมื่อ 51 ปีก่อนคือในวันที่ 15 มิ.ย. 2505 ให้ตกเป็นของกัมพูชาไปแล้ว แต่ก็ยังมีคนเข้าใจผิดว่าท่าน
สมัครกับผมเป็นคนยกปราสาทพระวิหารให้กัมพูชาแล้วมาด่าพวกผม ความจริงก็คือเราแพ้คดีในศาล
โลกเมื่อ 51 ปีก่อนและจำใจต้องยกตัวปราสาทให้กัมพูชาไปแล้ว
4) ขอย้อนไป 51 ปีที่แล้วครับ หนึ่งในทีมทนายที่ว่าความในคดีศาลโลกคือ ท่านเสนีย์ ปราโมช
อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผมว่าทนายทุกคนต่อสู้ดีที่สุดแล้วครับ คงไม่มีใครอยากแพ้คดี
5) ดังนั้น เรื่องตัวปราสาทพระวิหารมันจบไปตั้งแต่ 51 ปีที่แล้วครับ เรารื้อฟื้นคดีไม่ได้แล้ว แต่ที่กัมพูชา
และไทยยังถกเถียงกันไม่ใช่ใครเป็นเจ้าของตัวปราสาท แต่เป็นเรื่องพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร
เพราะไทยอ้างเป็นของไทย แต่กัมพูชาอ้างเป็นของกัมพูชาครับ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะต่างฝ่ายต่าง
ยึดถือแผนที่คนละชุด และยึดถือเส้นเขตแดนคนละเส้น (ไทยยึดสันปันน้ำแต่กัมพูชายึดแผนที่
ระวาง 1 ต่อ 200,000)
6) สรุปอีกที่หนึ่งคือ ตัวปราสาทเป็นของกัมพูชา แต่พื้นที่ทับซ้อนยังเถียงกันอยู่ ผมขออุปมาอุปมัยเหมือน
ตัวปราสาทเป็นศาลพระภูมิ ส่วนพื้นที่่ทับซ้อนเปรียบเป็นสนามหญ้า
7) ในปี 2549 กัมพูชายื่นคำขอเอาตัวปราสาทและพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นทะเบียนมรดกโลก เปรียบเปรยคือ
เอาตัวศาลพระภูมิและสนามหญ้าไปขึ้นทะเบียนมรดกโลก ซึ่งในปี 2550 ไทยคัดค้านเพราะเขาจะผนวก
เอาพื้นที่ทับซ้อนด้วย
8) รัฐบาลสมัครเข้าบริหารประเทศในเดือน กุมภาพันธ์ 51 เรารับเผือกร้อนมาจากรัฐบาลทหาร คมช.
กัมพูชาเขายื่นเรื่องขึ้นทะเบียนตัวปราสาทและพื้นที่ทับซ้อนฝ่ายเดียวมาก่อนเราเข้ารับตำแหน่งแล้วครับ
ดังนั้นที่มาเที่ยวด่าว่ารัฐบาลสมัครเป็นผู้ทำคำแถลงการณ์ร่วมจนทำให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่าย
เดียวจึงเป็นเท็จครับ
9) ผมว่านายกทุกคน รมต.ต่างประเทศทุกคน ไม่มีใครชั่วพอที่จะทำให้ไทยเสียประโยชน์ด้านดินแดน
ไม่มีใครขายชาติหรอกครับ นอกจากนั้นการทำงานต้องทำร่วมกับข้าราชการ ทหาร กองทัพ สภา
ความมั่นคงแห่งชาติ ถ้าทำไม่ดี ข้าราชการเขาไม่เอาท่านไว้แน่ แต่กรณีของผม สิ่งที่ผมทำนั้นข้าราชกา
เห็นด้วย มีการปรึกษาหารือและเห็นชอบเป็นลำดับ จากระดับกระทรวงต่างประเทศ ก็ส่งเรื่องเข้าสภา
ความมั่นคงแห่งชาติ แล้วเสนอเข้าครม. ทำเป็นขั้นเป็นตอนครับ
10) เมื่อกัมพูชาเขาเอาทั้งตัวปราสาทและพื้นที่ทับซ้อน หรือเปรียบเปรยเป็น เอาศาลพระภูมิบวก
สนามหญ้าไปขึ้นทะเบียน พวกผมจึงไปเจรจาให้กัมพูชาตัดพื้นที่ทับซ้อนหรือสนามหญ้าออก
และสนับสนุนให้ขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทพระวิหารที่เป็นของเขามา 51 ปีตามที่ศาลโลกตัดสิน
เจรจายากมาก ท้ายที่สุดเขายอมตัดพื้นที่ทับซ้อนออก และยอมขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทเท่านั้น
นี่คือที่มาของคำแถลงการณ์ร่วมครับ เอกสารชิ้นนี้เป็นประโยชน์มากครับ เป็นครั้งแรกที่กัมพูชายอม
รับว่ามีพื้นที่ทับซ้อน นักกฎหมายระหว่างประเทศชั้นนำของโลกและชั้นนำของไทย ต่างบอกว่าคำ
แถลงการณ์ร่วมเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย แต่ศาลปกครองตัดสินให้เป็นโมฆะไปแล้วครับตอนนี้
11) รัฐบาลสมัครและผมเป็นผู้ปกป้องดินแดนครับ ผมมีเอกสารราชการและมติคณะกรรมการมรดกโลก
ยืนยัน ผมไม่ต้องการคำชมใดๆ ครับ เพราะคนไทยทุกคนมีหน้าที่ปกป้องดินแดน แต่ที่รับไม่ได้คือมาด่า
ว่าเราขายชาติทั้งๆ ที่เป็นความเท็จ พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ให้สิทธิ์ใครที่จะประณามคนอื่นด้วยความเท็จครับ
มันเป็นบาป
12) แนวทางของรัฐบาลท่านสมัครคืออะไรที่เป็นของเขาก็เป็นของเขา อะไรที่เป็นของเราต้องปกป้อง
ตัวปราสาทเป็นของเขา แต่พื้นที่ทับซ้อนเราต้องปกป้องไม่ให้นำไปขึ้นทะเบียน ในระหว่างที่ยังเจรจา
ปักปันเขตแดนไม่เสร็จ ก็บริหารจัดการพี้นที่ทับซ้อนร่วมกันไปพลางๆ ก่อน จะได้ประโยชน์ทั้งชาวบ้าน
ตามแนวชายแดนทั้งสองฝ่าย ไม่รบกัน
13) ย้อนกลับมาคดีตีความที่อยู่ในศาลขณะนี้ครับ ไทยและกัมพูชาจะแถลงสรุปประเด็นด้วยวาจาใน
ระหว่างวันที่ 15-19 เมษายน นี้ และหลังจากนั้นศาลสามารถตัดสินได้ตลอดเวลา แต่คาดว่าน่าจะ
ตัดสินประมาณเดือนกันยายนปีนี้ครับ
14) ผมขอเรียนเป็นประเด็นสุดท้ายครับ รัฐบาลท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์สู้คดีเต็มที่ครับ ทีมกฎหมายก็ใช้
ทีมเดียวกันที่ตั้งโดยรัฐบาลท่านอภิสิทธิ์ เราเอาใจช่วยทีมกฎหมายของประเทศ ผลจะออกมาอย่างไร
เราไม่ทราบ แต่ไม่ควรโทษกันไปมาครับ เพราะคนไทยทุกคนรักชาติเท่ากัน และขอร้องเถอะครับ
จะด่าใครขอให้ด่าแบบมีข้อมูลและเอาความจริงมาพูดกันครับ ประเภทตั้งหน้าตั้งตาจะด่าเขาฝ่ายเดียว
ด้วยความเท็จ ระวังให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัวนะครับ"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1365753429&grpid=&catid=01&subcatid=0100
การชี้แจงของ คุณนพดล ปัทมะ น่าเชื่อถือไหม ... นพดล..เป็นนักเรียนทุนอานันท...
คุณคิดว่า เขาจะไปรับใช้คุณทักษิณ ...ขายบ้านขายเมือง ให้ต่างชาติ หรือ ...
อย่าไปคิดว่า ใครที่คิดไม่เหมือนเรา เป็นคนสาระเลว ไปหมด การรักบ้านเมืองก็มี
การแสดงออกได้หลายแบบ ...มิใช่หรือ
อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. ปรมาจารย์ด้านกฎหมายระดับประเทศ ก็เคยทำให้เราต้องยก
เขาพระวิหารไปให้เขมรมาแล้ว ..... ใช่หรือไม่ ... คริ คริ .. จะไปโทษใครอีก ...
กระทู้สุดท้ายของวันค่ะ .... หมู่นี้กิจกรรมเยอะ ข่าวสารน่าเบื่อ
เห็นมีแต่กระทู้ กล่าวหา ด่าทอกันไปมา น่าเบื่อหน่าย