กลับมาอีกครั้งกลับรีวิวหนังสือของผมนะครับ หลังจากเคยมารีวิวลง pantip หลายเล่มแล้ว
สวัสดีวันปีใหม่ไทยครับ ช่วงนี้อากาศร้อนมากๆ หลายคนคงเฝ้ารอให้ถึงวันสงกรานเต็มที จะได้เล่นน้ำคลายร้อน หรือบางคนอาจจะต้องการวันหยุดยาวๆ ในที่สุดมันก็มาถึงเสียที ฮ่าๆ ส่วนใครที่อยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหนก็อ่านรีวิวหนังสือกันไปเล่นๆก็ได้ครับ(เกี่ยวอะไรกันเนี่ย ฮ่าๆ)
ใครชอบการรีวิวของผมก็ติดตามได้ที่
http://www.rvbookthai.com นะครับ
ในนี้ยังมีหนังสือรีวิวไว้อีกเพียบและจะทยอยอัพเรื่อยๆ
หรือจะตามไปกดไลค์ที่แฟนเพจ
https://www.facebook.com/Rvbookthai
ยกเครื่องความคิด Rework
ผู้เขียน : Jason Fried & David Heinemeier Hansson
ผู้แปล : อาสยา ฐกัดกุล
โพสนี้จะวิจารณ์หนังสือ “ยกเครื่องเรื่องความคิด” ซึ่งแปลมาจากหนังสือ “Rework” อยากจะรีวิวหนังสือเล่มนี้มานานแล้วครับ แต่เพิ่งจะนึกออกและเพิ่งมีเวลาว่าง เป็นหนังสือการเงินที่ให้คำแนะนำแปลกๆหลายอย่าง บอกตรงๆว่าบางอย่างผมไม่เคยเจอในหนังสือเล่มไหนๆมาก่อนเลย เพราะมันเป็นคำแนะนำที่หลุดกรอบและไม่เหมือนใครจริงๆ เป็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ยกตัวอย่างความแตกต่างก็เช่นๆ อย่าเรียนรู้จากความผิดพลาด แปลกมั้ยละ!! คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ต่างแนะนำเราว่าให้เรียนรู้จากความผิดพลาด แต่ผู้เขียนแนะนำให้เราเรียนรู้จากความสำเร็จแทน หรืออีกตัวอย่างหนึ่งก็คืออย่าเขียนแผนธุรกิจหรืออย่าวางแผน เพราะว่าเราไม่สามารถคาดการณ์อะไรล่วงหน้าได้ อนาคตทุกๆอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปเสมอ สิ่งที่วางเอาไว้ในแผนธุรกิจก็เปรียบเสมือนกับการคาดเดา
จะเห็นว่าถึงแม้จะแปลกแต่ก็เป็นความเห็นต่างที่เข้าท่าไม่น้อยเลยทีเดียว อ่านแล้วก็แบบว่า “เออ จริงแฮะ!!” ผู้เขียนมีเหตุผลมารองรับกับแนวคิดที่แตกต่าง และด้วยความแตกต่างแบบนี้จึงทำให้หนังสือเล่มนี้มีความน่าสนใจขึ้นมาพอสมควร แต่มันจะดีแค่ไหนกัน? ผู้เขียนบอกเองว่าบริษัทของตัวเอง( 37signals) และบริษัทอื่นๆอีกนับร้อยได้นำไปใช้จนประสบความสำเร็จมาแล้ว
ยกเครื่องความคิดเป็นหนังสือที่เน้นการเปลี่ยนแปลงความคิดในการทำงานและการทำธุรกิจ คือเป็นแนวพัฒนาตนเองเลย พัฒนาความคิดในการทำงาน หลายๆแนวคิดคือการพยายามอธิบายวิธีที่จะทำให้งานมีคุณภาพที่สุดโดยใช้องค์ประกอบให้น้อยที่สุด เริ่มต้นจากสิ่งที่มีเพราะสิ่งที่มีก็สามารถที่จะทำอะไรต่างๆได้อย่างมากมาย
มีหลายๆส่วนที่เป็นสิ่งใหม่ๆคือความจริงมันไม่ใช่อะไรใหม่หรอกครับ แต่เป็นแนวคิดที่แตกต่างออกไปมากกว่าเช่น การรับมือกับลูกค้าในแบบที่แตกต่าง การทำงานให้มีประสิทธิภาพที่แตกต่างออกไปเช่น การปล่อยให้พนักงานเล่น Facebook, Youtube ได้ในเวลาทำงาน หรือการไม่กักตัวให้ทำงานหนักจนเกินไปด้วยการปล่อยพนักงานกลับบ้านตอนเวลา 5 โมงไม่ต้องอยู่ทำงานจนมืดค่ำ
หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็นตอนๆ แต่ละตอนก็แบ่งย่อยๆไปอีกเป็นบทความสั้นๆ 1-2 หน้า อ่านสบายๆมีรูปภาพประกอบ อ่านหนังสือเล่มนี้จะได้อารมณ์เหมือนอ่านบล็อกเลยครับ ซึ่งผู้เขียนก็บอกไว้เองว่าเค้าเริ่มมาจากการเขียนบล็อกก่อนแล้วค่อยมาเป็นหนังสืออีกที
สำหรับผมเท่าที่อ่านแล้ว แรกๆก็แบบว่ามันเข้าท่าดีแฮะ คือถึงมันจะแตกต่างแต่ก็ไม่ได้เป็นหนังสือที่หลุดโลกเกินไปจนน่าหมั่นไส้อะไร แล้วหลายๆไอเดียได้อ่านแล้วก็ชอบด้วย เป็นไอเดียใหม่ๆที่อ่านสนุกครับ อย่างที่บอกว่าได้อารมณ์อ่านบล็อก แล้วโดยส่วนตัวชอบอ่านบล็อกอยู่แล้วก็เลยอ่านหนังสือเล่มนี้เพลินเลยครับ
ใครชอบการรีวิวของผมก็ติดตามได้ที่
http://www.rvbookthai.com นะครับ
ในนี้ยังมีหนังสือรีวิวไว้อีกเพียบและจะทยอยอัพเรื่อยๆ
หรือจะตามไปกดไลค์ที่แฟนเพจ
https://www.facebook.com/Rvbookthai
[CR] รีวิวหนังสือการเงินแบบหลุดกรอบ "ยกเครื่องความคิด Rework" ใครเคยอ่านเล่มมนี้มาคุยกันครับ
สวัสดีวันปีใหม่ไทยครับ ช่วงนี้อากาศร้อนมากๆ หลายคนคงเฝ้ารอให้ถึงวันสงกรานเต็มที จะได้เล่นน้ำคลายร้อน หรือบางคนอาจจะต้องการวันหยุดยาวๆ ในที่สุดมันก็มาถึงเสียที ฮ่าๆ ส่วนใครที่อยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหนก็อ่านรีวิวหนังสือกันไปเล่นๆก็ได้ครับ(เกี่ยวอะไรกันเนี่ย ฮ่าๆ)
ใครชอบการรีวิวของผมก็ติดตามได้ที่ http://www.rvbookthai.com นะครับ
ในนี้ยังมีหนังสือรีวิวไว้อีกเพียบและจะทยอยอัพเรื่อยๆ
หรือจะตามไปกดไลค์ที่แฟนเพจ https://www.facebook.com/Rvbookthai
ยกเครื่องความคิด Rework
ผู้เขียน : Jason Fried & David Heinemeier Hansson
ผู้แปล : อาสยา ฐกัดกุล
โพสนี้จะวิจารณ์หนังสือ “ยกเครื่องเรื่องความคิด” ซึ่งแปลมาจากหนังสือ “Rework” อยากจะรีวิวหนังสือเล่มนี้มานานแล้วครับ แต่เพิ่งจะนึกออกและเพิ่งมีเวลาว่าง เป็นหนังสือการเงินที่ให้คำแนะนำแปลกๆหลายอย่าง บอกตรงๆว่าบางอย่างผมไม่เคยเจอในหนังสือเล่มไหนๆมาก่อนเลย เพราะมันเป็นคำแนะนำที่หลุดกรอบและไม่เหมือนใครจริงๆ เป็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ยกตัวอย่างความแตกต่างก็เช่นๆ อย่าเรียนรู้จากความผิดพลาด แปลกมั้ยละ!! คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ต่างแนะนำเราว่าให้เรียนรู้จากความผิดพลาด แต่ผู้เขียนแนะนำให้เราเรียนรู้จากความสำเร็จแทน หรืออีกตัวอย่างหนึ่งก็คืออย่าเขียนแผนธุรกิจหรืออย่าวางแผน เพราะว่าเราไม่สามารถคาดการณ์อะไรล่วงหน้าได้ อนาคตทุกๆอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปเสมอ สิ่งที่วางเอาไว้ในแผนธุรกิจก็เปรียบเสมือนกับการคาดเดา
จะเห็นว่าถึงแม้จะแปลกแต่ก็เป็นความเห็นต่างที่เข้าท่าไม่น้อยเลยทีเดียว อ่านแล้วก็แบบว่า “เออ จริงแฮะ!!” ผู้เขียนมีเหตุผลมารองรับกับแนวคิดที่แตกต่าง และด้วยความแตกต่างแบบนี้จึงทำให้หนังสือเล่มนี้มีความน่าสนใจขึ้นมาพอสมควร แต่มันจะดีแค่ไหนกัน? ผู้เขียนบอกเองว่าบริษัทของตัวเอง( 37signals) และบริษัทอื่นๆอีกนับร้อยได้นำไปใช้จนประสบความสำเร็จมาแล้ว
ยกเครื่องความคิดเป็นหนังสือที่เน้นการเปลี่ยนแปลงความคิดในการทำงานและการทำธุรกิจ คือเป็นแนวพัฒนาตนเองเลย พัฒนาความคิดในการทำงาน หลายๆแนวคิดคือการพยายามอธิบายวิธีที่จะทำให้งานมีคุณภาพที่สุดโดยใช้องค์ประกอบให้น้อยที่สุด เริ่มต้นจากสิ่งที่มีเพราะสิ่งที่มีก็สามารถที่จะทำอะไรต่างๆได้อย่างมากมาย
มีหลายๆส่วนที่เป็นสิ่งใหม่ๆคือความจริงมันไม่ใช่อะไรใหม่หรอกครับ แต่เป็นแนวคิดที่แตกต่างออกไปมากกว่าเช่น การรับมือกับลูกค้าในแบบที่แตกต่าง การทำงานให้มีประสิทธิภาพที่แตกต่างออกไปเช่น การปล่อยให้พนักงานเล่น Facebook, Youtube ได้ในเวลาทำงาน หรือการไม่กักตัวให้ทำงานหนักจนเกินไปด้วยการปล่อยพนักงานกลับบ้านตอนเวลา 5 โมงไม่ต้องอยู่ทำงานจนมืดค่ำ
หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็นตอนๆ แต่ละตอนก็แบ่งย่อยๆไปอีกเป็นบทความสั้นๆ 1-2 หน้า อ่านสบายๆมีรูปภาพประกอบ อ่านหนังสือเล่มนี้จะได้อารมณ์เหมือนอ่านบล็อกเลยครับ ซึ่งผู้เขียนก็บอกไว้เองว่าเค้าเริ่มมาจากการเขียนบล็อกก่อนแล้วค่อยมาเป็นหนังสืออีกที
สำหรับผมเท่าที่อ่านแล้ว แรกๆก็แบบว่ามันเข้าท่าดีแฮะ คือถึงมันจะแตกต่างแต่ก็ไม่ได้เป็นหนังสือที่หลุดโลกเกินไปจนน่าหมั่นไส้อะไร แล้วหลายๆไอเดียได้อ่านแล้วก็ชอบด้วย เป็นไอเดียใหม่ๆที่อ่านสนุกครับ อย่างที่บอกว่าได้อารมณ์อ่านบล็อก แล้วโดยส่วนตัวชอบอ่านบล็อกอยู่แล้วก็เลยอ่านหนังสือเล่มนี้เพลินเลยครับ
ใครชอบการรีวิวของผมก็ติดตามได้ที่ http://www.rvbookthai.com นะครับ
ในนี้ยังมีหนังสือรีวิวไว้อีกเพียบและจะทยอยอัพเรื่อยๆ
หรือจะตามไปกดไลค์ที่แฟนเพจ https://www.facebook.com/Rvbookthai