กลับมาอีกครั้งกลับการรีวิวหนังสือของเว็บ Rvbookthai.com นะครับ
ใครชอบการรีวิวของผมก็ติดตามได้ที่
http://www.rvbookthai.com นะครับ
ในนี้ยังมีหนังสือรีวิวไว้อีกเพียบและจะทยอยอัพเรื่อยๆ
หรือจะตามไปกดไลค์ที่แฟนเพจ
https://www.facebook.com/Rvbookthai
ใช้ความสุขทำกำไร – Delivering Happiness
ผู้เขียน : Tony Hsieh
ผู้แปล : วิญญู กิ่งหิรัญวัฒนา
ด้วยยอดขายอันดับ 1 New York Times Bestseller , Wall Street Journal Bestseller รวมถึงติด Top 10 Amazon Bestsellers , USA Today Bestseller ทำให้หนังสือขายดิบขายดีติดชาร์ทแทบทุกสถาบันเล่มนี้ น่าสนใจไม่น้อยเลยใช่มั้ยครับ
“ใช้ความสุขทำกำไร” เขียนโดย โทนี เช นักธุรกิจเชื้อสายเอเซียซึ่งเป็น CEO ของ Zappos เว็บขายรองเท้าชื่อดัง(ปัจจุบันถูกซื้อโดย Amazon.com ด้วยมูลค่ากว่า 1200 ล้านดอลลาร์) โทนี เช เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นด้วยตัวเขาเอง หนังสือเลยมีความเป็นเรื่องเล่าและเต็มไปด้วยประสบการณ์จากเจ้าของเรื่องจริงๆ
หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ส่วนแรกมีชื่อว่า ”ผลกำไร” เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวผู้เขียนเอง ประวัติความเป็นมา โทนี เช เล่าตั้งแต่ชีวิตวัยเด็กของเขาว่าชีวิตในวัยเด็กเป็นอย่างไร พ่อแม่เลี้ยงมายังไง และตอนเป็นเด็กเค้าทำธุรกิจอะไรบ้าง(โทนี เช เริ่มทำธุรกิจตั้งแต่อายุ 9 ขวบ!!)
เล่าเรื่องต่อมาเรื่อยๆ ชีวิตในช่วงมหาวิทยาลัยได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างซึ่งเป็นประโยชน์ในการทำธุรกิจ ได้รู้จักผู้คนซึ่งต่อมาผู้คนเหล่านั้นเขาได้ชวนมาทำงานที่ Zappos ด้วย รวมถึงกิจกรรมยามว่างคือการเล่นโป๊กเกอร์ซึ่งสามารถนำเอามาประยุกต์ใช้กับการทำธุรกิจได้ และยังมีเรื่องการทำงานในช่วงก่อนที่จะมี Zappos ต้องผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะมาเป็น CEO อยู่ที่ Zappos
ส่วนที่สองเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Zappos เต็มๆ เป็นส่วนที่ โทนี เช เล่าเรื่องการทำงานของเขากับ Zappos ตั้งแต่ยังเป็นบริษัทที่ยังไม่มีอะไรเลย ต้องพยายามวิ่งออกหาเงินทุนเข้ามาเพื่อทำให้บริษัทอยู่รอดให้ได้ เป็นช่วงที่อ่านสนุกๆมาก เราจะได้อ่านวิธีการใช้กลยุทธ์ต่างในการพลิกเกมของ Zappos จากบริษัทที่ดูท่าจะไปไม่รอด แต่สามารถที่จะพลิกกลับมาได้ด้วยความอดทนและยอมแลกแบบหมดหน้าตักเพื่อรักษาบริษัทเอาไว้
เมื่อบริษัทเริ่มมียอดขายที่มากขึ้นทำให้เขาต้องไปพึ่งบริษัทที่รับงานด้านโลจิสติกส์ให้เข้ามาช่วยดูแลงานด้านคลังสินค้าและจัดส่ง แต่ก็ต้องพบกับปัญหาเมื่อบริษัทที่เขาใช้บริการนั้นไม่มีความสามารถมากพอ จนเกิดปัญหาตามมา เขาจะแก้ปัญหานั้นได้อย่างไร เรื่องนี้จะถูกกล่าวเอาไว้ในส่วนที่สองด้วย
ส่วนที่สามมีชื่อว่า “ผลกำไร ความรัก และจุดมุ่งหมาย” ช่วงนี้จะเน้นไปที่วัฒนธรรมองค์กรของ Zappos ที่ โทนี เช ภูมิใจมากๆและเป็นไฮไลท์ของหนังสือเล่มนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นส่วนสำเร็จของจุดหมายบริษัทกับงานที่ขับเคลื่อนด้วยความรัก คือนอกจากเป้าหมายเรื่องการสร้างยอดขายแล้วยังต้องเป็นบริษัทที่ทุกคนเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน ทำงานเพื่อความสุข ช่วยกันแก้ปัญหาเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมา เราจะได้เรียนรู้กับสิ่งที่ โทนี เช เรียกว่าท่อสร้างคน ซึ่งมีไว้สำหรับสร้างพนักงานธรรมดาให้มีความสามารถในการทำงานตามแบบของ Zappos
และยังมีเรื่องการประยุกต์ใช้ความสุขในการทำงานด้วยเพราะ โทนี เช เป็นคนที่ศึกษาวิทยาศาสตร์ความสุข ซึ่งเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่เขาให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เขาจะอธิบายถึงการตั้งเป้าหมายให้ชีวิตด้วยการถามตัวเองอยู่เสมอว่าทำไมถึงต้องการเป้าหมายแบบนั้น เมื่อได้คำตอบแล้วก็ให้ถามซ้ำไปอีกว่าทำไมถึงเป็นคำตอบแบบนั้น ทำอย่างนั้นซ้ำไปเรื่อยๆจะพบกับเป้าหมายที่แท้จริงที่ว่าทุกๆเป้าหลายของการทำงานล้วนมุ่งหาความสุข
ผมคิดว่าผมสนุกมากๆที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ได้เห็นวิธีการคิดวิธีการตัดสินใจของ CEO ของบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดแห่งหนึ่งอย่าง Zappos แนวคิดหลายๆอย่างของ โทนี เช ดีมากๆและเป็นแนวคิดที่เน้นเรื่องการสร้างความพึงพอใจและความสุขมากกว่าแค่เรื่องเงินทอง
อีเมล์ติดต่อต่างๆที่นำมาโชว์ในหนังสือเล่มนี้เป็นอีเมล์จริงๆที่ โทนี เช เอามาให้พวกเราอ่าน เป็นของจริงที่เคยใช้ตอนที่เขาติดต่อหรือประกาศเรื่องต่างๆให้กับพนักงานในบริษัทของเขา ตรงนี้ถือเป็นไฮไลท์อย่างหนึ่งเลยครับ
ก่อนอ่านหนังสือเล่มนี้สารภาพเลยว่าไม่รู้จัก โทนี เช มาก่อนว่าเค้าเป็นใคร แม้ว่าเคยเข้าเว็บไซต์ Zappos มาบ้าง แต่ไม่ได้ให้ความสนใจเบื้องลึกสักเท่าไหร่ แต่พอได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ทำให้ได้รู้เลยว่าบริษัทนี้มีความแตกต่างกับบริษัทอื่นมากๆ ค่านิยมในการทำงานที่เป็นตัวกำหนดวัฒธรรมของบริษัทนี้มันเหลือเชื่อจริงๆครับ ปัจจุบัน Zappos ได้ถูกจัดอันดับเป็น 1 ในบริษัทที่น่าทำงานด้วยที่สุด
สรุปแล้วเป็นหนังสือดีที่น่าอ่านสนุกมากๆ และเป็นหนังสือที่คุ้มค่ากับการแบ่งเวลามาอ่านอย่างยิ่ง หลายๆเรื่องในหนังสือเล่มนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่แกะกล่องโดยเฉพาะเรื่องการนำเอาความสุขมาประยุกต์ใช้กับการทำงาน แต่ โทนี เช สามารถแสดงให้เราเห็นว่าวัฒนธรรมองค์กรของเขาที่เน้นการทำงานโดยใช้ความสุขและเพื่อมอบความสุขนั้นมีความสำคัญมากๆแค่ไหนกับโลกของเรา
ใครชอบการรีวิวของผมก็ติดตามได้ที่
http://www.rvbookthai.com นะครับ
ในนี้ยังมีหนังสือรีวิวไว้อีกเพียบและจะทยอยอัพเรื่อยๆ
หรือจะตามไปกดไลค์ที่แฟนเพจ
https://www.facebook.com/Rvbookthai
[CR] มาดูแนวคิดของหนังสือ "ใช้ความสุขทำกำไร" หนังสือขายดีอันดับ 1 New York Times Best Seller
ใครชอบการรีวิวของผมก็ติดตามได้ที่ http://www.rvbookthai.com นะครับ
ในนี้ยังมีหนังสือรีวิวไว้อีกเพียบและจะทยอยอัพเรื่อยๆ
หรือจะตามไปกดไลค์ที่แฟนเพจ https://www.facebook.com/Rvbookthai
ใช้ความสุขทำกำไร – Delivering Happiness
ผู้เขียน : Tony Hsieh
ผู้แปล : วิญญู กิ่งหิรัญวัฒนา
ด้วยยอดขายอันดับ 1 New York Times Bestseller , Wall Street Journal Bestseller รวมถึงติด Top 10 Amazon Bestsellers , USA Today Bestseller ทำให้หนังสือขายดิบขายดีติดชาร์ทแทบทุกสถาบันเล่มนี้ น่าสนใจไม่น้อยเลยใช่มั้ยครับ
“ใช้ความสุขทำกำไร” เขียนโดย โทนี เช นักธุรกิจเชื้อสายเอเซียซึ่งเป็น CEO ของ Zappos เว็บขายรองเท้าชื่อดัง(ปัจจุบันถูกซื้อโดย Amazon.com ด้วยมูลค่ากว่า 1200 ล้านดอลลาร์) โทนี เช เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นด้วยตัวเขาเอง หนังสือเลยมีความเป็นเรื่องเล่าและเต็มไปด้วยประสบการณ์จากเจ้าของเรื่องจริงๆ
หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ส่วนแรกมีชื่อว่า ”ผลกำไร” เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวผู้เขียนเอง ประวัติความเป็นมา โทนี เช เล่าตั้งแต่ชีวิตวัยเด็กของเขาว่าชีวิตในวัยเด็กเป็นอย่างไร พ่อแม่เลี้ยงมายังไง และตอนเป็นเด็กเค้าทำธุรกิจอะไรบ้าง(โทนี เช เริ่มทำธุรกิจตั้งแต่อายุ 9 ขวบ!!)
เล่าเรื่องต่อมาเรื่อยๆ ชีวิตในช่วงมหาวิทยาลัยได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างซึ่งเป็นประโยชน์ในการทำธุรกิจ ได้รู้จักผู้คนซึ่งต่อมาผู้คนเหล่านั้นเขาได้ชวนมาทำงานที่ Zappos ด้วย รวมถึงกิจกรรมยามว่างคือการเล่นโป๊กเกอร์ซึ่งสามารถนำเอามาประยุกต์ใช้กับการทำธุรกิจได้ และยังมีเรื่องการทำงานในช่วงก่อนที่จะมี Zappos ต้องผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะมาเป็น CEO อยู่ที่ Zappos
ส่วนที่สองเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Zappos เต็มๆ เป็นส่วนที่ โทนี เช เล่าเรื่องการทำงานของเขากับ Zappos ตั้งแต่ยังเป็นบริษัทที่ยังไม่มีอะไรเลย ต้องพยายามวิ่งออกหาเงินทุนเข้ามาเพื่อทำให้บริษัทอยู่รอดให้ได้ เป็นช่วงที่อ่านสนุกๆมาก เราจะได้อ่านวิธีการใช้กลยุทธ์ต่างในการพลิกเกมของ Zappos จากบริษัทที่ดูท่าจะไปไม่รอด แต่สามารถที่จะพลิกกลับมาได้ด้วยความอดทนและยอมแลกแบบหมดหน้าตักเพื่อรักษาบริษัทเอาไว้
เมื่อบริษัทเริ่มมียอดขายที่มากขึ้นทำให้เขาต้องไปพึ่งบริษัทที่รับงานด้านโลจิสติกส์ให้เข้ามาช่วยดูแลงานด้านคลังสินค้าและจัดส่ง แต่ก็ต้องพบกับปัญหาเมื่อบริษัทที่เขาใช้บริการนั้นไม่มีความสามารถมากพอ จนเกิดปัญหาตามมา เขาจะแก้ปัญหานั้นได้อย่างไร เรื่องนี้จะถูกกล่าวเอาไว้ในส่วนที่สองด้วย
ส่วนที่สามมีชื่อว่า “ผลกำไร ความรัก และจุดมุ่งหมาย” ช่วงนี้จะเน้นไปที่วัฒนธรรมองค์กรของ Zappos ที่ โทนี เช ภูมิใจมากๆและเป็นไฮไลท์ของหนังสือเล่มนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นส่วนสำเร็จของจุดหมายบริษัทกับงานที่ขับเคลื่อนด้วยความรัก คือนอกจากเป้าหมายเรื่องการสร้างยอดขายแล้วยังต้องเป็นบริษัทที่ทุกคนเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน ทำงานเพื่อความสุข ช่วยกันแก้ปัญหาเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมา เราจะได้เรียนรู้กับสิ่งที่ โทนี เช เรียกว่าท่อสร้างคน ซึ่งมีไว้สำหรับสร้างพนักงานธรรมดาให้มีความสามารถในการทำงานตามแบบของ Zappos
และยังมีเรื่องการประยุกต์ใช้ความสุขในการทำงานด้วยเพราะ โทนี เช เป็นคนที่ศึกษาวิทยาศาสตร์ความสุข ซึ่งเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่เขาให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เขาจะอธิบายถึงการตั้งเป้าหมายให้ชีวิตด้วยการถามตัวเองอยู่เสมอว่าทำไมถึงต้องการเป้าหมายแบบนั้น เมื่อได้คำตอบแล้วก็ให้ถามซ้ำไปอีกว่าทำไมถึงเป็นคำตอบแบบนั้น ทำอย่างนั้นซ้ำไปเรื่อยๆจะพบกับเป้าหมายที่แท้จริงที่ว่าทุกๆเป้าหลายของการทำงานล้วนมุ่งหาความสุข
ผมคิดว่าผมสนุกมากๆที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ได้เห็นวิธีการคิดวิธีการตัดสินใจของ CEO ของบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดแห่งหนึ่งอย่าง Zappos แนวคิดหลายๆอย่างของ โทนี เช ดีมากๆและเป็นแนวคิดที่เน้นเรื่องการสร้างความพึงพอใจและความสุขมากกว่าแค่เรื่องเงินทอง
อีเมล์ติดต่อต่างๆที่นำมาโชว์ในหนังสือเล่มนี้เป็นอีเมล์จริงๆที่ โทนี เช เอามาให้พวกเราอ่าน เป็นของจริงที่เคยใช้ตอนที่เขาติดต่อหรือประกาศเรื่องต่างๆให้กับพนักงานในบริษัทของเขา ตรงนี้ถือเป็นไฮไลท์อย่างหนึ่งเลยครับ
ก่อนอ่านหนังสือเล่มนี้สารภาพเลยว่าไม่รู้จัก โทนี เช มาก่อนว่าเค้าเป็นใคร แม้ว่าเคยเข้าเว็บไซต์ Zappos มาบ้าง แต่ไม่ได้ให้ความสนใจเบื้องลึกสักเท่าไหร่ แต่พอได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ทำให้ได้รู้เลยว่าบริษัทนี้มีความแตกต่างกับบริษัทอื่นมากๆ ค่านิยมในการทำงานที่เป็นตัวกำหนดวัฒธรรมของบริษัทนี้มันเหลือเชื่อจริงๆครับ ปัจจุบัน Zappos ได้ถูกจัดอันดับเป็น 1 ในบริษัทที่น่าทำงานด้วยที่สุด
สรุปแล้วเป็นหนังสือดีที่น่าอ่านสนุกมากๆ และเป็นหนังสือที่คุ้มค่ากับการแบ่งเวลามาอ่านอย่างยิ่ง หลายๆเรื่องในหนังสือเล่มนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่แกะกล่องโดยเฉพาะเรื่องการนำเอาความสุขมาประยุกต์ใช้กับการทำงาน แต่ โทนี เช สามารถแสดงให้เราเห็นว่าวัฒนธรรมองค์กรของเขาที่เน้นการทำงานโดยใช้ความสุขและเพื่อมอบความสุขนั้นมีความสำคัญมากๆแค่ไหนกับโลกของเรา
ใครชอบการรีวิวของผมก็ติดตามได้ที่ http://www.rvbookthai.com นะครับ
ในนี้ยังมีหนังสือรีวิวไว้อีกเพียบและจะทยอยอัพเรื่อยๆ
หรือจะตามไปกดไลค์ที่แฟนเพจ https://www.facebook.com/Rvbookthai