อุทาหรณ์ ซื้อรถแถมคุก 2ปีกว่าจะจบเรื่อง มีกลิ่นตุๆ

สวัสดีครับ เริ่มเรื่องเลยแล้วกันนะครับ
   ผมไปซื้อรถมา1คัน เป็นรถหลุดจำนำครับ คนขายบอกว่า รถเจ้าของขายเอง ***และเจ้าของรถก็เป็นตำรวจ*** เขาบอกว่า เล่มทะเบียน จำนำเล่มอยู่กับศรีสวัสดิ์ และสำเนาหน้าเล่มก็ เป็นชื่อบุคคล ไม่ใช่บริษัทไฟแนช ขายในราคา xx,xxxบาท เป็นรถ ฮอนด้าxxส  ใช้ได้ยาวๆ ต่อภาษี ประกันได้ ก็สนใจครับ ด้วยตอนนั้น มีความจำเป็นต้องใช้รถอย่างมาก และงบที่จำกัด เลยตัดสินใจไปซื้อ และนัดดูรถพร้อมซื้อขาย สถานที่แห่งนึง
(ถามว่าทำไมตัดสินใจซื้อรถหลุดจำนำ)
ตอบ ผมมีรถอยู่คันนึงก่อนหน้านี้ และ ช่วงโควิด ก็ไม่มีงาน มีหนี้สิน เลยจำเป็นต้อง จำนำรถ เพื่อนำเงินมาใช้ โควิดก็กินเวลายาวนาน ผมเลยขาดส่งไป เป็นเหตุให้ รถหลุดไป เลยตัดสินใจซื้อรถหลุดจำนำคิดว่าถ้าต่อทะเบียนได้ก็น่าจะไม่มีปัญหาในทางกฎหมาย
  ขับได้เป็นเวลา 2-3เดือน ขับไปจอดที่ บิ๊คซี มีตำรวจมาจับกุม บอกว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม และป้ายวงกลมก็ปลอม ตอนแรกผมไม่เชื่อ ตำรวจมาหลายคนมากคิดว่าเป็นแก๋งตบทรับย์ ตำรวจบอกว่า ถ้าไม่เชื่อ จะให้เรียกรถตำรวจสายตรวจมาให้ดูก็ได้ แต่ถ้ามาแล้ว ทางเขาจะไม่ช่วย (ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะช่วยยังไง)… ปรากฏว่า มีรถสายตรวจมาจริงๆ เลยเชื่อ และไปโรงพักกับเขา (คิดถึงลานจอดรถหน้าบิ๊คซีนะครับ รถเป็นพันคัน แต่จ้องมาที่รถผมคันเดียว) โอเคไม่เป็นไร ไปถึงโรงพักก็ ชี้แจงและให้ข้อมูลกับตำรวจ บอกว่าซื้อมาจาก คนชื่อนี้ๆๆ บลาๆๆ *จำตรงนี้ไว้ให้ดีนะครับ* ตำรวจบอกกับผมว่า อย่าพึงไปบอกคนขายเดี่ยวจะมีการซ้อนแผนจับคนขาย ผมก็โอเค คืนนั้นผมโดนแจ้ง ข้อหา ปลอมเอกสาร และใช้เอกสารราชการปลอม คืนนั้นผมได้ประกันตัวในวงเงิน 1แสนบาท ผมก็ชี้ตัวคนทาย ตำรวจให้ดูในทะเบียนราชก็ใช่ ตำรวจเรียกตัวคนขายมาสอบสวน แล้วก็ปล่อยตัวไป
   เรื่องก็มาถึง3เดือน มีคนมาบอกว่าจะวิ่งเต้นให้ ตำรวจไม่สั่งฟ้อง เรื่องจะได้จบ จ่าย1แสน3หมื่น บาท  แต่ถ้าผิดพลาดเขาคืนเงินเต็มจำนวน สรุป ไม่รู้ไปพลาดตรงไหน เขาก็จ่ายคืนเต็มจำนวนจริงครับ เวลาผ่านไป 1ปี (ไม่รู้จะดองเรื่องไว้ทำไม เกือบปี )
   มาถึงตอนที่ ตำรวจส่งเรื่องไปอัยการ ผมมีหลักฐานแน่น ว่าผมไม่ได้ปลอมเอกสารราชการ ผมแค่ใช้โดยที่ไม่รู้ ขาดเจตนา อัยการ ยกฟ้องให้ครับ แต่ไม่รู้มีตำรวจที่ไหน มาค้านว่าต้องฟ้อง เรื่องเลยถูกส่งไปที่อัยการสูงสุด (ใช้เวลา7-9เดือน )อัยการสูงสุดสั่งฟ้องศาล
   เรื่องมาถึงศาล ผมสู้มาจนถึงนัดที่3 อัยการบอกว่าได้มีการดำเนินคดีกับคนขายและเจ้าของที่เป็นตำรวจแล้ว แต่ที่ผมรู้มาคือ2คนนั้นไม่โดนข้อหาอะไร และนัดต่อไป นัดที่4 จะให้คนขายมาเป็นพยาน และเบิกความต่อศาล วันนั้น มีอัยการท่านนั้น บอกกับผมว่า ถึงผมชนะในครั้งนี้ แกก็จะส่งเรื่อง ในชั้นถัดๆไป ผมที่สู้มาตลอด และเงินก็ร่อยหรอ+ความเหนื่อย เพราะขึ้นศาลแต่ละครั้งผมต้องจ่ายเงินค่าทนายเยอะ และผมไม่เคยทำผิดกฎหมาย ถ้ายอมรับไป ศาลอาจเมตตารอลงอาญาให้ วัดดวงครับตอนนั้น คิดในใจว่าถ้าติดก็ช่างยิ้ม เพราะสู้จนไม่เหลืออะไรแล้ว
   สรุป ศาลท่านเมตตา รอลงอาญาให้ ไม่ต้องติดคุกจริง และจ่าย ค่าปรับ 6หมื่นบาท ศาลให้เวลาหาเงิน1เดือน ผมหามาได้5หมื่น และต้องจำนำมือถือที่ใช้ทำมาหากินอีก 1หมื่นบาท เพื่อแลกกับอิสรภาพ
สินสุดคดีครับ
   ตลอดเวลา2ปี ผมเสียอะไรบ้าง
เสียเงิน ไป3แสน เสียรถ เสียสุขภาพจิต เสียเวลา
ศาลท่านแนะนำว่าผมต้องไปฟ้องเอาค่ารถคืน
   ตอนแรก คนขายรถ จะขอให้แค่2หมื่นบาทเรื่องจบ ผมไม่ยอมครับ เพราะผมเสียมามาก
   ผมก็มานั่งคิดๆดู มันต้องมีค่าทนาย และถ้าได้ศาลอาจให้คนขายรถผ่อน ตอนนั้นมันเหนื่อย และอยากจะทำเรื่องอื่น อยากจะหลุดพ้นจากเรื่องนี้ เลยคุยกับคนขายรถ ว่าตกลงเอาแค่ 2หมื่นก็ได้ สรุปโดนเบี้ยว ไม่ให้สักบาท แล้วเขาก็บล็อกผมไป
*******ไฮไลท์อยู่จุดนี้ครับ ก่อนที่เขาจะบล็อกผม เขาพูดหลุดมาว่า เขาปรึกษากับตำรวจชุดจับกุมผมมาตลอด มีการนั่งคุย กินชากาแฟกัน*******
    พี่ๆเห็นว่ามันแปลกๆไหม
-คนขายกับตำรวจที่จับ รู้จักกัน คุยกันเจอกัน อันนี้ยังไง นี้คือคนขายรถที่ปลอมแปลงเอกสารราชการที่พวกคุณจับผมไง ทำไมไม่จับเขาละ ผมถึงบางอ้อแล้วครับ (เรื่องนี้รู้จากปากคนขายรถโดยตรง)
เลยไม่อยากจะฟ้องเสียเวลา สู้กับคนมีสี ต้องใช้เงินขนาดไหน ปลอดภัยรึป่าว (เปิดโลกผมมาก โหดร้ายมากโลกใบนี้)
ก็เลยช่างยิ้มไป
    แต่ผมนี้สิครับ ผมใช้มือถือหาเงิน อาชีพขายสินค้าออนไลน์ แล้วต้องเอาไปจำนำไว้ ผมไม่มีรายได้อะไรเลย แถมมีคดีอาญาติดตัว ใครที่ไหนจะรับเข้าทำงาน อีกอย่างผมเป็นลูกคนเดียว หลานคนเดียว ความหวังปู่กับย่าอยากเห็นผมรับราชการ มีคดีอาญาติดตัวประตูนั้นปิดแล้วครับสำหรับผม ตอนนี้ท้อมากครับ เงินหมด งานก็ไม่ได้ทำ หนี้สินก็มี ท้อและกำลังคิดสั้นครับ ไม่เหลืออะไรเลยตอนนี้  อ่านจบแล้ว ผมหวังว่าหลายคน ไม่ต้องพลาดเหมือนผมนะครับ ให้เรื่องของผมเป็นบทเรียนและอุทาหรณ์ให้ใครหลายคนได้ไม่มากก็น้อย
ขอบคุณที่อ่านจนจบ
  คิดอยู่นานว่าจะเล่าดีมั้ย กลัวเรื่องความปลอดภัย แต่คิดอีกที ผมไม่เหลืออะไรแล้ว ผมมาถึงจุดนี้ผมไม่กลัวอะไรแล้ว พร้อมตุยตลอด แต่ก็ไม่ต้องห่วงหรอกนะครับว่าผมจะเอายังไงผมยอมแล้วครับ ผมแค่ระบายความอึดอัด ลำพังคนธรรมดาคนนึงคงไม่มีแรงสู้อำนาจอะไรพวกนี้ได้หรอก คนไทยรู้กันดี เรื่องนี้ผมก็มีความผิด ศาลได้ตัดสินไปแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่