'อภิสิทธิ์' ขวางแก้ รธน.มาตรา68 เหตุริดรอนสิทธิ์ประชาชน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลั่นขวางแก้ รธน.ตัดสิทธิ์ประชาชน สับแก้ ม.190 เปิดช่องนายใหญ่ทำธุรกิจพลังงาน อัดอำนาจนิยมยุคเถื่อนป้ายสีคนเห็นต่าง…..
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญของรัฐบาลว่า พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันแล้วว่า ไม่เห็นด้วย ซึ่งเราพร้อมปกป้องสิทธิ์ของประชาชน เพราะมาตรา 68 นี้เป็นมาตราที่ให้สิทธิ์ประชาชนในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ แต่อยู่ดีๆ รัฐบาลมาบอกว่า คนที่คิดจะล้มล้างการปกครอง ใช้สิทธิเสรีภาพในทางที่ผิด มาล้มล้างการปกครอง ประชาชนไม่สามารถที่จะนำเรื่องนี้ขึ้นสู่ศาลรัฐธรรมนูญโดยตรงได้อีก แถมยังจำกัดขอบเขตอีกว่า ยื่นเรื่องได้เฉพาะคนที่ใช้สิทธิ เสรีภาพตามหมวด 3 ถ้าเป็นพรรคการเมือง ถ้าเป็นนักการเมืองที่มีความคิดเรื่องแบบนี้ โดยอาศัยอำนาจของตนในทางนิติบัญญัติ ประชาชนกลับหมดสิทธิ์ตรงนี้ไป ฉะนั้น ถ้าบอกว่า พรรคประชาธิปัตย์ขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ตนขวางไม่ให้คนที่จะคิดล้มล้างการปกครองโดยการใช้อำนาจของตนเอง มาทำโดยไม่ให้ประชาชนและศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นองค์กรซึ่งพิทักษ์รัฐธรรมนูญนั้นทำงานของตนเองได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการแก้ไขมาตรา 190 สาเหตุที่เราขวาง เพราะปัจจุบันทุกคนรู้อยู่แล้วว่า ข้อตกลงระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจ ซึ่งหลายเรื่องมีผลกระทบอย่างกว้างขวางมาก แต่ทำไมไม่ให้ตัวแทนของประชาชนได้มีโอกาสในการตรวจสอบ ส่วนที่อ้างว่า ไม่คล่องตัวนั้น เราแก้รัฐธรรมนูญในประเด็นนั้นไปแล้ว เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐบาลไปออกกฎหมาย กำหนดขั้นตอน ให้มันเกิดความคล่องตัว แต่รัฐบาลจงใจไม่ออกกฎหมายลูก เพื่อที่จะมาแก้มาตรานี้ เพื่อเวลาที่ตัวเองไปเจรจาหลายสิ่งหลายอย่าง ก็จะทำได้โดยการตรวจสอบของสภาก็จะทำไม่ได้ บทเรียนนี้ก็มีมาแล้ว เช่นการไปทำธุรกิจในพม่า ในยุคหนึ่งที่ลูกของผู้มีอำนาจของทั้ง 2 ประเทศ สุดท้ายก็มีปัญหาเรื่องการทุจริต คอรัปชัน และเป็นที่รู้กันว่า มีคนที่มีอำนาจ เจ้าของอำนาจตัวจริง กำลังคิดทำธุรกิจในพื้นที่ในทะเลบ้าง ในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่คาบเกี่ยวของประเทศเรากับประเทศเพื่อนบ้าน ก็มาจงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้ข้อตกลงเหล่านี้จะต้องเข้าสู่การพิจารณา ของสภาฯ มีลับลมคมใน แสวงหาผลประโยชน์ ทั้งนี้ ยอมรับว่า เราขวางคนโกง ทำหน้าที่ของตนในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ซึ่งเป็นการขวางตามกฎ กติกา ที่ให้บทบาท ส.ส.ทำได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า เป็นยุทธวิธีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาโดยตลอด คือใครก็ตามที่พยายามดูทุกอย่างตามเนื้อหาสาระ ตามกติกา ตามข้อกฎหมาย แต่ไปขวางทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้า แทนที่จะใช้เหตุใช้ผลกัน ก็จะใช้วิธีการป้ายสีว่าคนเหล่านี้มีผลประโยชน์มาขัดขวาง เพราะความอิจฉา ไม่เว้นเลยแม้แต่องค์กร หรือสถาบันใด ใช้ยุทธวิธีนี้มาโดยตลอด พูดง่ายๆ ว่า คนที่เขาทำหน้าที่ต่างๆ ในสังคมนั้น ใครไม่เอาตามเขา จะถูกผลักว่านั่นคือฝ่ายตรงกันข้าม แล้วก็ใช้อำนาจที่ตนเองมีอยู่ จะเป็นอำนาจเงิน อำนาจรัฐ เข้าไปบดขยี้ฝ่ายตรงกันข้าม เอากำลังกันเข้าว่า ไม่เอาหลัก ไม่เอากติกา นี่แหละคือสิ่งที่เขาทำ ซึ่งการที่ฝ่ายการเมืองวิพากษ์วิจารณ์องค์กรอิสระแต่ดึงประชาชนมาลุยด้วยนั้น เป็นเรื่องอันตราย มันก็เป็นการใช้อำนาจแบบยุคเถื่อน.
ไทยรัฐออนไลน์
โดย ไทยรัฐออนไลน์
12 เมษายน 2556, 19:00 น.
http://www.thairath.co.th/content/pol/338520
'อภิสิทธิ์' ขวางแก้ รธน.มาตรา68 เหตุริดรอนสิทธิ์ประชาชน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลั่นขวางแก้ รธน.ตัดสิทธิ์ประชาชน สับแก้ ม.190 เปิดช่องนายใหญ่ทำธุรกิจพลังงาน อัดอำนาจนิยมยุคเถื่อนป้ายสีคนเห็นต่าง…..
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญของรัฐบาลว่า พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันแล้วว่า ไม่เห็นด้วย ซึ่งเราพร้อมปกป้องสิทธิ์ของประชาชน เพราะมาตรา 68 นี้เป็นมาตราที่ให้สิทธิ์ประชาชนในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ แต่อยู่ดีๆ รัฐบาลมาบอกว่า คนที่คิดจะล้มล้างการปกครอง ใช้สิทธิเสรีภาพในทางที่ผิด มาล้มล้างการปกครอง ประชาชนไม่สามารถที่จะนำเรื่องนี้ขึ้นสู่ศาลรัฐธรรมนูญโดยตรงได้อีก แถมยังจำกัดขอบเขตอีกว่า ยื่นเรื่องได้เฉพาะคนที่ใช้สิทธิ เสรีภาพตามหมวด 3 ถ้าเป็นพรรคการเมือง ถ้าเป็นนักการเมืองที่มีความคิดเรื่องแบบนี้ โดยอาศัยอำนาจของตนในทางนิติบัญญัติ ประชาชนกลับหมดสิทธิ์ตรงนี้ไป ฉะนั้น ถ้าบอกว่า พรรคประชาธิปัตย์ขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ตนขวางไม่ให้คนที่จะคิดล้มล้างการปกครองโดยการใช้อำนาจของตนเอง มาทำโดยไม่ให้ประชาชนและศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นองค์กรซึ่งพิทักษ์รัฐธรรมนูญนั้นทำงานของตนเองได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการแก้ไขมาตรา 190 สาเหตุที่เราขวาง เพราะปัจจุบันทุกคนรู้อยู่แล้วว่า ข้อตกลงระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจ ซึ่งหลายเรื่องมีผลกระทบอย่างกว้างขวางมาก แต่ทำไมไม่ให้ตัวแทนของประชาชนได้มีโอกาสในการตรวจสอบ ส่วนที่อ้างว่า ไม่คล่องตัวนั้น เราแก้รัฐธรรมนูญในประเด็นนั้นไปแล้ว เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐบาลไปออกกฎหมาย กำหนดขั้นตอน ให้มันเกิดความคล่องตัว แต่รัฐบาลจงใจไม่ออกกฎหมายลูก เพื่อที่จะมาแก้มาตรานี้ เพื่อเวลาที่ตัวเองไปเจรจาหลายสิ่งหลายอย่าง ก็จะทำได้โดยการตรวจสอบของสภาก็จะทำไม่ได้ บทเรียนนี้ก็มีมาแล้ว เช่นการไปทำธุรกิจในพม่า ในยุคหนึ่งที่ลูกของผู้มีอำนาจของทั้ง 2 ประเทศ สุดท้ายก็มีปัญหาเรื่องการทุจริต คอรัปชัน และเป็นที่รู้กันว่า มีคนที่มีอำนาจ เจ้าของอำนาจตัวจริง กำลังคิดทำธุรกิจในพื้นที่ในทะเลบ้าง ในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่คาบเกี่ยวของประเทศเรากับประเทศเพื่อนบ้าน ก็มาจงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้ข้อตกลงเหล่านี้จะต้องเข้าสู่การพิจารณา ของสภาฯ มีลับลมคมใน แสวงหาผลประโยชน์ ทั้งนี้ ยอมรับว่า เราขวางคนโกง ทำหน้าที่ของตนในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ซึ่งเป็นการขวางตามกฎ กติกา ที่ให้บทบาท ส.ส.ทำได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า เป็นยุทธวิธีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาโดยตลอด คือใครก็ตามที่พยายามดูทุกอย่างตามเนื้อหาสาระ ตามกติกา ตามข้อกฎหมาย แต่ไปขวางทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้า แทนที่จะใช้เหตุใช้ผลกัน ก็จะใช้วิธีการป้ายสีว่าคนเหล่านี้มีผลประโยชน์มาขัดขวาง เพราะความอิจฉา ไม่เว้นเลยแม้แต่องค์กร หรือสถาบันใด ใช้ยุทธวิธีนี้มาโดยตลอด พูดง่ายๆ ว่า คนที่เขาทำหน้าที่ต่างๆ ในสังคมนั้น ใครไม่เอาตามเขา จะถูกผลักว่านั่นคือฝ่ายตรงกันข้าม แล้วก็ใช้อำนาจที่ตนเองมีอยู่ จะเป็นอำนาจเงิน อำนาจรัฐ เข้าไปบดขยี้ฝ่ายตรงกันข้าม เอากำลังกันเข้าว่า ไม่เอาหลัก ไม่เอากติกา นี่แหละคือสิ่งที่เขาทำ ซึ่งการที่ฝ่ายการเมืองวิพากษ์วิจารณ์องค์กรอิสระแต่ดึงประชาชนมาลุยด้วยนั้น เป็นเรื่องอันตราย มันก็เป็นการใช้อำนาจแบบยุคเถื่อน.
ไทยรัฐออนไลน์
โดย ไทยรัฐออนไลน์
12 เมษายน 2556, 19:00 น.
http://www.thairath.co.th/content/pol/338520