สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
วิญญาณที่เป็นเหตุให้ นามรูปเกิด มี 2 คือ
1. วิปากวิญญาณ (ภพนี้)
ได้แก่ โลกียวิปากจิต 32
(ภพนี้มี ปฏิสนธิวิญญาณ 19 และ ปวัตติวิปากวิญญาณ 32)
2.กัมมวิญญาณ (ภพก่อน)
ได้แก่ อกุศลจิต 12 มหากุศลจิต 8
รูปาวจรกุศลจิต 5 ที่ประกอบกุศล, อกุศล เจตนาในอดีตภพ
(เว้น อรูปกุศลเจตนา 4 เพราะไม่เป็นปัจจัยให้เกิดรูป)
นามรูป ที่เป็นผลจากวิญญาณเป็นเหตุ
นาม เจตสิก 35 ที่ประกอบโลกียวิปากจิต 32 ทั้งปฏิสนธิกาลและปวัตติกาล
รูป
1. ปฏิสนธิกัมมชรูป เกิดพร้อมกับ ปฏิสนธิวิญญาณ ในภพนี้
2. ปวัตติกัมมชรูป เกิดจากกัมมวิญญาณ 25 ในภพก่อน
3. จิตตชรูป เกิดจาก ปวัตติวิปากวิญญาณ 18 ในภพนี้
หมายเหตุ โลกียวิปากวิญญาณ 32 ได้แก่ อเหตุกวิปากจิต 15, มหาวิปากจิต 8, รูปวิปากจิต 5, อรูปวิปากจิต 4
( ทวิปัญจวิญญาณจิต 10 เกิดในปัญจโวการภูมิ มีนามอย่างเดียว
อรูปวิปากจิต 4 เกิดในอรูปภูมิ มีนามอย่างเดียว)
ปวัตติวิญญาณ 18 ได้แก่ สัมปฏิจฉนจิต 2 สันตีรณจิต 3 มหาวิปากจิต 8 รูปวิปากจิต 5 มีรูปและนามทั้งสอง
เกิดในปัญจโวการภูมิ
ปฏิสนธิจิต 19 ได้แก่ สัณตีรณอกุศลจิต 1, สัณตีรณกุศลจิต 1, มหาวิปากจิต 8, รูปวิปากจิต 5, อรูปวิปากจิต 4
(ปัญจโวการปฏิสนธิ 15 มีรูปและนามทั้งสอง
อรูปวิปากจิต 4 มีนามอย่างเดียว)
ในที่นี้ นาม ได้แก่ เจตสิก 35 ที่ประกอบกับโลกียวิปากจิต 32
รูป ได้แก่ กัมมชรูป 16 คือ อวินิพโภครูป 8 ปสาทรูป 5 ภาวรูป 1 หทยรูป 1 ชีวิตรูป 1
สฬายตนะ ได้แก่ จักขายตนะ โสตายตนะ ฆานายตนะ ชิวหายตนะ กายายตนะ และ มนายตนะ คือ โลกียวิปากจิต 32
การสงเคราะห์ปัจจัย 24 เข้าใน นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ
1. นาม -----> นาม (มนายตนะ)
ปฏิสนธิกาล เกิดพร้อมกันกับตน เป็นสหชาตปัจจัย
ปวัตติกาล เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน อัญญมัญญปัจจัย,
2. นาม ------>รูป (ปัญจายตนะ)
ปฏิสนธิกาล เกิดพร้อมกัน สหชาตปัจจัย
ปวัตติกาล นามหลังๆช่วยรูปที่เกิดก่อนๆ ปัจฉาชาตปัจจัย
3. รูป -----> นาม (มนายตนะ)
หทยวัตถุ -----> มนายตนะ (ปัญจโวการปฏิสนธิจิต 15) ปฏิสนธิกาล เกิดพร้อมกัน สหชาตปัจจัย
หทยวัตถุ -----> มนายตนะ (ปัญจโวการวิปากจิต 18 ทวิปัญจวิญญาณจิต 10) ปวัตติกาล รูปที่เกิดก่อนๆช่วยนามที่เกิดหลังๆ วัตถุปุเรชาตปัจจัย
ปัญจวัตถุ -----> มนายตนะ (ทวิปัญจวิญญาณจิต 10) ปวัตติกาล รูปที่เกิดก่อนๆช่วยนามที่เกิดหลังๆ วัตถุปุเรชาตปัจจัย
4. รูป -----> รูป (ปัญจายตนะ)
กัมมชมหาภูตรูป 4 -----> ปัญจายตนะ ปฏิสนธิกาลและปวัตติกาล ตั้งอยู่ในกลาปเดียวกันกับตน สหชาตปัจจัย
รูปชีวิตตินทรีย์ -----> ปัญจายตนะ ปฏิสนธิกาลและปวัตติกาล ตั้งอยู่ในกลาปเดียวกันกับตน รูปชีวิตินทริยปัจจัย
กัมมโอชา -----> ปัญจายตนะ ปวัตติกาล ตั้งอยู่ในกลาปเดียวกันกับตน และในกลาปอื่นๆ อาหารปัจจัย
เจริญในธรรมคะ
วิญญาณปจฺจยา นามรูปํ สมฺภวติ
(เจตสิกที่ประกอบโลกียวิปาก และกัมมชรูป ย่อมปราฏเกิดขึ้นเพราะอาศัย กัมมวิญาณและวิปากวิญญาณเป็นเหตุ)
วิญญาณที่เป็นเหตุให้ นามรูปเกิด มี 2 คือ
1. วิปากวิญญาณ (ภพนี้)
ได้แก่ โลกียวิปากจิต 32
(ภพนี้มี ปฏิสนธิวิญญาณ 19 และ ปวัตติวิปากวิญญาณ 32)
2.กัมมวิญญาณ (ภพก่อน)
ได้แก่ อกุศลจิต 12 มหากุศลจิต 8
รูปาวจรกุศลจิต 5 ที่ประกอบกุศล, อกุศล เจตนาในอดีตภพ
(เว้น อรูปกุศลเจตนา 4 เพราะไม่เป็นปัจจัยให้เกิดรูป)
นามรูป ที่เป็นผลจากวิญญาณเป็นเหตุ
นาม เจตสิก 35 ที่ประกอบโลกียวิปากจิต 32 ทั้งปฏิสนธิกาลและปวัตติกาล
รูป
1. ปฏิสนธิกัมมชรูป เกิดพร้อมกับ ปฏิสนธิวิญญาณ ในภพนี้
2. ปวัตติกัมมชรูป เกิดจากกัมมวิญญาณ 25 ในภพก่อน
3. จิตตชรูป เกิดจาก ปวัตติวิปากวิญญาณ 18 ในภพนี้
หมายเหตุ โลกียวิปากวิญญาณ 32 ได้แก่ อเหตุกวิปากจิต 15, มหาวิปากจิต 8, รูปวิปากจิต 5, อรูปวิปากจิต 4
( ทวิปัญจวิญญาณจิต 10 เกิดในปัญจโวการภูมิ มีนามอย่างเดียว
อรูปวิปากจิต 4 เกิดในอรูปภูมิ มีนามอย่างเดียว)
ปวัตติวิญญาณ 18 ได้แก่ สัมปฏิจฉนจิต 2 สันตีรณจิต 3 มหาวิปากจิต 8 รูปวิปากจิต 5 มีรูปและนามทั้งสอง
เกิดในปัญจโวการภูมิ
ปฏิสนธิจิต 19 ได้แก่ สัณตีรณอกุศลจิต 1, สัณตีรณกุศลจิต 1, มหาวิปากจิต 8, รูปวิปากจิต 5, อรูปวิปากจิต 4
(ปัญจโวการปฏิสนธิ 15 มีรูปและนามทั้งสอง
อรูปวิปากจิต 4 มีนามอย่างเดียว)
--------------------------------------------------------------------------------------------
นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ สมฺภวนฺติ
อัชฌัติกายตนะ 6 มีจักขายตนะ เป็นต้น ย่อมปรากฏเกิดขึ้น เพราะอาศัย นามรูปเป็นเหตุ
ในที่นี้ นาม ได้แก่ เจตสิก 35 ที่ประกอบกับโลกียวิปากจิต 32
รูป ได้แก่ กัมมชรูป 16 คือ อวินิพโภครูป 8 ปสาทรูป 5 ภาวรูป 1 หทยรูป 1 ชีวิตรูป 1
สฬายตนะ ได้แก่ จักขายตนะ โสตายตนะ ฆานายตนะ ชิวหายตนะ กายายตนะ และ มนายตนะ คือ โลกียวิปากจิต 32
การสงเคราะห์ปัจจัย 24 เข้าใน นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ
1. นาม -----> นาม (มนายตนะ)
ปฏิสนธิกาล เกิดพร้อมกันกับตน เป็นสหชาตปัจจัย
ปวัตติกาล เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน อัญญมัญญปัจจัย,
2. นาม ------>รูป (ปัญจายตนะ)
ปฏิสนธิกาล เกิดพร้อมกัน สหชาตปัจจัย
ปวัตติกาล นามหลังๆช่วยรูปที่เกิดก่อนๆ ปัจฉาชาตปัจจัย
3. รูป -----> นาม (มนายตนะ)
หทยวัตถุ -----> มนายตนะ (ปัญจโวการปฏิสนธิจิต 15) ปฏิสนธิกาล เกิดพร้อมกัน สหชาตปัจจัย
หทยวัตถุ -----> มนายตนะ (ปัญจโวการวิปากจิต 18 ทวิปัญจวิญญาณจิต 10) ปวัตติกาล รูปที่เกิดก่อนๆช่วยนามที่เกิดหลังๆ วัตถุปุเรชาตปัจจัย
ปัญจวัตถุ -----> มนายตนะ (ทวิปัญจวิญญาณจิต 10) ปวัตติกาล รูปที่เกิดก่อนๆช่วยนามที่เกิดหลังๆ วัตถุปุเรชาตปัจจัย
4. รูป -----> รูป (ปัญจายตนะ)
กัมมชมหาภูตรูป 4 -----> ปัญจายตนะ ปฏิสนธิกาลและปวัตติกาล ตั้งอยู่ในกลาปเดียวกันกับตน สหชาตปัจจัย
รูปชีวิตตินทรีย์ -----> ปัญจายตนะ ปฏิสนธิกาลและปวัตติกาล ตั้งอยู่ในกลาปเดียวกันกับตน รูปชีวิตินทริยปัจจัย
กัมมโอชา -----> ปัญจายตนะ ปวัตติกาล ตั้งอยู่ในกลาปเดียวกันกับตน และในกลาปอื่นๆ อาหารปัจจัย
เจริญในธรรมคะ

ความคิดเห็นที่ 11
สาธุ คุณชาวมหาวิหาร คุณ chantibha และ goodsthailand
และ จขกท คุณศิษย์พระป่า
***********************
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๕ พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๒
วิภังคปกรณ์
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka3/v.php?B=35&A=3732&Z=3845
๖. ปัจจยาการวิภังค์
สุตตันตภาชนีย์
[๒๕๕] สังขารเกิดเพราะอวิชาเป็นปัจจัย
วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย
นามรูปเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย
สฬายตนะเกิดเพราะนามรูปเป็นปัจจัย
ผัสสะเกิดเพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย
เวทนาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย
ตัณหาเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย
อุปาทานเกิดเพราะตัณหาเป็นปัจจัย
ภพเกิดเพราะอุปาทานเป็นปัจจัย
ชาติเกิดเพราะภพเป็นปัจจัย
ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส เกิดเพราะชาติ
เป็นปัจจัย ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้
[๒๕๘] วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย เป็นไฉน
จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ
มโนวิญญาณ นี้เรียกว่า วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย
[๒๕๙] นามรูปเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย เป็นไฉน
นาม ๑ รูป ๑
ในนามและรูปนั้น นาม เป็นไฉน
เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ มนสิการ นี้เรียกว่า นาม
รูป เป็นไฉน
มหาภูตรูป ๔ และอุปาทายรูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔ นี้เรียกว่า รูป
นามและรูปดังกล่าวมานี้ นี้เรียกว่า นามรูปเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย
และ จขกท คุณศิษย์พระป่า
***********************
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๕ พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๒
วิภังคปกรณ์
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka3/v.php?B=35&A=3732&Z=3845
๖. ปัจจยาการวิภังค์
สุตตันตภาชนีย์
[๒๕๕] สังขารเกิดเพราะอวิชาเป็นปัจจัย
วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย
นามรูปเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย
สฬายตนะเกิดเพราะนามรูปเป็นปัจจัย
ผัสสะเกิดเพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย
เวทนาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย
ตัณหาเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย
อุปาทานเกิดเพราะตัณหาเป็นปัจจัย
ภพเกิดเพราะอุปาทานเป็นปัจจัย
ชาติเกิดเพราะภพเป็นปัจจัย
ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส เกิดเพราะชาติ
เป็นปัจจัย ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้
[๒๕๘] วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย เป็นไฉน
จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ
มโนวิญญาณ นี้เรียกว่า วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย
[๒๕๙] นามรูปเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย เป็นไฉน
นาม ๑ รูป ๑
ในนามและรูปนั้น นาม เป็นไฉน
เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ มนสิการ นี้เรียกว่า นาม
รูป เป็นไฉน
มหาภูตรูป ๔ และอุปาทายรูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔ นี้เรียกว่า รูป
นามและรูปดังกล่าวมานี้ นี้เรียกว่า นามรูปเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย
ความคิดเห็นที่ 8
อนุโมทนาสาธุกับทุกๆท่านนะครับ
-------------------------------------------------
(ตามสุตตันตภาชนียนัย)
องค์ธรรมของ นาม ในที่นี้ได้แก่ เจตสิก ๓๕ ที่ประกอบได้ใน โลกียวิบากจิต ๓๒
เจตสิก ๓๕ นี้ มาจาก
(เจตสิก ๕๒) - (อกุศลเจตสิก ๑๔) - (วีรตี ๓) = 35
(เพราะ อกุศลเจตสิก และ วีรตีเจตสิก ไม่ประกอบในวิบากจิต)
-------------------------------------------------
เจตสิก ๓๕ นี้ ก็ได้แก่
(อัญญสมานาเจตสิก)
สัพพจิตต ๗
วิตก ๑
วิจาร ๑
อธิโมกข์ ๑
วิริยะ ๑
ปีติ ๑
ฉันทะ ๑
(อกุศลเจตสิก)
โมจตุกะ ๔
โลภะ ๑
ทิฏฐิ ๑
มานะ ๑
โทจตุกะ ๔
ถีนมิทธะ ๒
วิจิกิจฉา ๑
(โสภณเจตสิก)
โสภณสาธารณ ๑๙
วีรติ ๓
อัปปมัญญา ๒
ปัญญินทรีย์ ๑
----------------------------------------------------------
ดู ตาราง สังคหนัย ด้านล่างนี้ประกอบนะครับ
จะเห็นว่า เจตสิกที่ ประกอบกับ โลกียวิบากจิต ๓๒
(คือ มหาวิบาก ๘ ฌานวิบาก ๙ อเหตุวิบาก ๑๕)
จะมีเพียงเจตสิก ๓๕ ประเภทดังที่เขียนรายการไว้
-------------------------------------------------
(ตามสุตตันตภาชนียนัย)
องค์ธรรมของ นาม ในที่นี้ได้แก่ เจตสิก ๓๕ ที่ประกอบได้ใน โลกียวิบากจิต ๓๒
เจตสิก ๓๕ นี้ มาจาก
(เจตสิก ๕๒) - (อกุศลเจตสิก ๑๔) - (วีรตี ๓) = 35
(เพราะ อกุศลเจตสิก และ วีรตีเจตสิก ไม่ประกอบในวิบากจิต)
-------------------------------------------------
เจตสิก ๓๕ นี้ ก็ได้แก่
(อัญญสมานาเจตสิก)
สัพพจิตต ๗
วิตก ๑
วิจาร ๑
อธิโมกข์ ๑
วิริยะ ๑
ปีติ ๑
ฉันทะ ๑
(อกุศลเจตสิก)
(โสภณเจตสิก)
โสภณสาธารณ ๑๙
อัปปมัญญา ๒
ปัญญินทรีย์ ๑
----------------------------------------------------------
ดู ตาราง สังคหนัย ด้านล่างนี้ประกอบนะครับ
จะเห็นว่า เจตสิกที่ ประกอบกับ โลกียวิบากจิต ๓๒
(คือ มหาวิบาก ๘ ฌานวิบาก ๙ อเหตุวิบาก ๑๕)
จะมีเพียงเจตสิก ๓๕ ประเภทดังที่เขียนรายการไว้
แสดงความคิดเห็น
องค์ธรรมของ นาม-รูป ตามนัยะของปฏิจจสมุปบาท คืออะไร ?
....เชิญคุณ ชาวมหาวิหาร หรือ เฉลิมศักดิ์ 1 หรือท่านใดที่ยังจำได้... มาตอบซะหน่อย...
...จำได้แต่ว่า ในหัวข้อ นาม-รูป ... องค์ธรรมของ รูป ในที่นี้หมายถึง กัมมัชรูป (ที่แยกเป็น หทยรูป กับ ปสาทรูป ๕ ...ถูกไหมละ?)
...แต่องค์ธรรมของ นาม คืออะไร? รู้แต่ว่าเป็นเจตสิกกลุ่มหนึ่ง แต่ลืมชื่อหมด ไม่ทราบมีเจตสิกกี่ดวง อะไรบ้าง ?
...ถ้าเป็นไปได้ ไล่เลียงองค์ธรรมของปฏิจจสมุปบาท ทุกๆหัวข้อมาลงให้คนอื่นๆดู ก็น่าจะดีนะคร๊าบบ ...เอาจากอวิชชามาเลย ไปจนจบนั่นแหละ
...ขอขอบคุณล่วงหน้านะครับ...