โบรกให้เป้า BJC น่าสนใจ

หุ้น'เบอร์ลี่ฯ'แพงพี/อี สูงลิ่วโบรกฯแนะ'ขาย'
วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2013 เวลา 19:09 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ การเงิน FINANCIAL

บล.ดีบีเอสฯ แนะขายหุ้น"เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ " เหตุราคาแพง พี/อีสูงถึง 42 เท่า ด้านผู้บริหารเผยอยู่ระหว่างศึกษาควบรวม "ไทอัน-ไทคอป" ในเวียดนาม คาดสรุป 3-6 เดือนข้างหน้า พร้อมคงเป้ายอดขาย 5 ปี
โตเฉลี่ยปีละ 15% ไตรมาส 3 เปิดตัว 2 ธุรกิจใหม่ภายใต้แบรนด์ตัวเอง เครือข่ายร้านขายยาภายใต้ชื่อ "Ogenki" และธุรกิจค้าปลีกภายใต้แบรนด์ "BJC Smart"

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส จำกัด ระบุในบทวิจัยว่าบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน)(BJC) เตรียมเปิดตัว 2 ธุรกิจใหม่ในไตรมาส 3/56 คือ ธุรกิจเครือข่ายร้านขายยาภายใต้ชื่อ "Ogenki" (เป็นแบรนด์ของ BJC เอง) และธุรกิจค้าปลีกภายใต้แบรนด์ "BJC Smart" (ภายใต้แนวคิดอี-คอมเมิร์ซ) โดยในปีนี้ตั้งเป้าที่จะเปิดเครือข่ายร้านขายยาจำนวน 8 สาขา และอีก 20 สาขา ในปีหน้า โดยทุกสาขาจะตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

สำหรับ BJC smart นั้น BJC จะติดตั้งกระดานโฆษณาสินค้าตามพื้นที่หลักที่มีผู้คนเดินทางจำนวนมาก เช่น สถานีรถไฟฟ้า BTS/MRT โดยลูกค้าสามารถสแกนสินค้าที่ต้องการและสั่งซื้อผ่าน "QR Code" ซึ่งเครื่องจะรับคำสั่งพร้อมจัดส่งสินค้าไปยังสถานที่ที่ต้องการหลังจากได้รับชำระค่าสินค้าเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์บล.ดีบีเอสฯคาดว่าในระยะสั้น BJC จะรับรู้กำไรจากธุรกิจทั้งสองไม่มากนัก

ขณะที่คงคำแนะนำ "ขาย" หุ้นBJCโดยมีราคาเป้าหมายที่ 44 บาท เนื่องจากปัจจุบันหุ้นซื้อขายกันที่ อัตราราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น(พีอี เรโช) ปี 2556 สูงถึง 42 เท่า ด้วยอัตราการเติบโตของกำไรในปีนี้ที่ระดับ 23% โดยมูลค่าหุ้นในปัจจุบันค่อนข้างที่จะสูงเกินไป แม้ว่าแนวโน้มกำไรจะยังแข็งแกร่งก็ตาม

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ BJC กล่าวในงานบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุนเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา ว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการควบรวมกิจการบริษัทในเวียดนาม 2 แห่ง คือ บริษัทไทคอป อินเตอร์เนชั่นแนลฯ กับบริษัท ไทอันเวียดนาม จอยส์ สต็อก คัมปะนีฯ หรือไทอัน เพื่อจัดระบบช่องทางการกระจายสินค้าไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกัน โดยคาดว่าใช้เวลา 3-6 เดือนได้ข้อสรุป

อนึ่ง เมื่อเร็วๆนี้บริษัท บีเจซี อินเตอร์เนชั่นแนล คัมปะนี ลิมิเต็ดฯ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ BJC ถือหุ้น 100% ได้เข้าซื้อหุ้นไทอันสัดส่วน 65% มูลค่า 989.96 ล้านบาท บริษัทดังกล่าวประกอบธุรกิจลงทุนในธุรกิจจัดจำหน่าย นำเข้า ส่งออกค้าปลีก ค้าส่ง สินค้าอุปโภคบริโภค

นายอัศวิน กล่าวว่า บริษัทคาดการณ์ยอดขายปี 2556 เติบโตมากกว่า 15% จากปีก่อน (ปี 2555 มีรายได้รวม 3.8 หมื่นล้านบาท มีกำไรสุทธิ 2.41 พันล้านบาท ) ขณะที่ตั้งเป้าในช่วง 5 ปีข้างหน้า นับจากปี 2557 ยอดขายจะเติบโต 15% ต่อปี โดยมีเป้าหมายให้ยอดขายในประเทศและต่างประเทศมีสัดส่วนเท่ากันที่ 50% ทั้งนี้จะมุ่งเน้นการเพิ่มยอดขายจากสินค้าประเภทคอนซูเมอร์โปรดักต์ และเฮลธ์แคร์ ตลอดจนการหาช่องทางการจำหน่ายและสินค้าใหม่ๆ เข้ามาเพิ่ม

ส่วนธุรกิจด้านสุขภาพ ปีนี้บริษัทจะเปิดร้านขายยา และโรงงานผลิตยาเพิ่มขึ้น รวมถึงธุรกิจด้านเครื่องมือแพทย์ เพื่อนำมาจำหน่ายมากขึ้นด้วย โดยเน้นสินค้าเครื่องมือแพทย์ที่มีกำไรขั้นต้นที่สูง ส่วนธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์ ปีนี้จะเพิ่มกำลังการผลิต หลังจากอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานเตาหลอมผลิตขวดแก้วแห่งใหม่ที่จังหวัดสระบุรี คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์และรับรู้รายได้เข้ามาในปี 2557 พร้อมทั้งศึกษาการตั้งโรงงานใหม่คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในครึ่งปีแรก

นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาเพิ่มกำลังการผลิตโรงงานนมของดาน่อนซึ่งอยู่ระหว่างหารือกับพันธมิตร คาดว่าจะใช้เงินไม่มากและใช้เวลาประมาณ 15 เดือน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,831
วันที่ 31 มีนาคม - 3 เมษายน พ.ศ. 2556
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่