คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ไม่มีคำว่า "ในระบบ" หรือ "นอกระบบ" หรอกครับ มันเป็นเพียงวาทกรรมในทางการเมืองเท่านั้น
การทำโครงการอะไรก็แล้วแต่ของรัฐบาล มีวิธีการให้เลือกอยู่หลายอย่าง เช่น กู้เงิน ตั้งเอาไว้ในงบประมาณประจำปี ให้สัมปทานเอกชนทำ ร่วมทุนกับต่างประเทศหรือเอกชน
แต่ข้อดีข้อเสียมันก็มีแตกต่างกันไป เช่น
1 ตั้งเอาไว้ในงบประมาณแต่ละปี มีข้อดีคือไม่ต้องเป็นหนี้นอกงบประมาณ แต่ข้อเสียก็คือ งบประมาณในแต่ละปีมันไม่แน่นอน และส่วนใหญ่มันเป็นงบประมาณประจำ เช่น เงินเดือนข้าราชการ งบลงทุนที่ผูกพันมาจากปีก่อนๆ งบที่ต้องชำระหนี้ต่างๆ
ถ้าทำวิธีนี้ถ้าปีไหนงบประมาณไม่ดี รัฐบาลจำเป็นต้องเอาเงินไปใช้อย่างอื่น ก็อาจตัดงบลงทุนส่วนนี้ได้ เพราะไม่มีกฎหมายบังคับไว้ ตัวอย่างเช่น การสร้างรถไฟฟ้า กทม. ในสมัยรัฐบาลชวน มีวิกฤต รัฐบาลชวนก็ตัดงบฯ นี้ทิ้ง ไม่สร้างต่อ
2. ให้สัมปทานเอกชนลงทุนสร้าง และให้จัดเก็บผลประโยชน์ อันนี้รัฐบาลไม่ต้องลงทุน แต่ในสมัยปัจจุบันนี้ ไม่มีใครเขาทำแล้ว เพราะผลประโยชน์จะตกไปอยู่กับเอกชนตามอายุสัมปทาน เอกชนจะขึ้นราคาอย่างไรก็ได้ รัฐบาลไม่มีสิทธิคัดค้านอะไรเลย
ตัวอย่างเช่น ดอนเมืองโทลล์เวย์ ตอนนี้ค่าผ่านทางเท่าไหร่? รัฐบาลไม่มีท่าอะไรเลย มิหนำซ้ำพอมีเรื่องกัน เขาก็ไปยึดเครื่องบินพระที่นั่งเอาอีก รู้ข่าวนี้ มั้ยครับ?
3. ร่วมทุน อันนี้ก็ไม่ต่างจากข้อสอง คือ ประเทศที่เอาเงินมาลงทุนร่วมเขาก็ต้องเรียกร้องต่อรองผลประโยชน์ เราก็ต้องเสียผลประโยชน์ ไม่ต่างอะไรกับให้สัมปทานเขา
ทุกอย่างไม่ใช่ นอกระบบ ครับ มันอยู่ในระบบทั้งนั้น
แต่เลือกว่า จะลงทุน อย่างไร ให้ประเทศชาติ ประชาชน ได้รับประโยชน์สูงสุด
ในระยะยาว ครับ
การทำโครงการอะไรก็แล้วแต่ของรัฐบาล มีวิธีการให้เลือกอยู่หลายอย่าง เช่น กู้เงิน ตั้งเอาไว้ในงบประมาณประจำปี ให้สัมปทานเอกชนทำ ร่วมทุนกับต่างประเทศหรือเอกชน
แต่ข้อดีข้อเสียมันก็มีแตกต่างกันไป เช่น
1 ตั้งเอาไว้ในงบประมาณแต่ละปี มีข้อดีคือไม่ต้องเป็นหนี้นอกงบประมาณ แต่ข้อเสียก็คือ งบประมาณในแต่ละปีมันไม่แน่นอน และส่วนใหญ่มันเป็นงบประมาณประจำ เช่น เงินเดือนข้าราชการ งบลงทุนที่ผูกพันมาจากปีก่อนๆ งบที่ต้องชำระหนี้ต่างๆ
ถ้าทำวิธีนี้ถ้าปีไหนงบประมาณไม่ดี รัฐบาลจำเป็นต้องเอาเงินไปใช้อย่างอื่น ก็อาจตัดงบลงทุนส่วนนี้ได้ เพราะไม่มีกฎหมายบังคับไว้ ตัวอย่างเช่น การสร้างรถไฟฟ้า กทม. ในสมัยรัฐบาลชวน มีวิกฤต รัฐบาลชวนก็ตัดงบฯ นี้ทิ้ง ไม่สร้างต่อ
2. ให้สัมปทานเอกชนลงทุนสร้าง และให้จัดเก็บผลประโยชน์ อันนี้รัฐบาลไม่ต้องลงทุน แต่ในสมัยปัจจุบันนี้ ไม่มีใครเขาทำแล้ว เพราะผลประโยชน์จะตกไปอยู่กับเอกชนตามอายุสัมปทาน เอกชนจะขึ้นราคาอย่างไรก็ได้ รัฐบาลไม่มีสิทธิคัดค้านอะไรเลย
ตัวอย่างเช่น ดอนเมืองโทลล์เวย์ ตอนนี้ค่าผ่านทางเท่าไหร่? รัฐบาลไม่มีท่าอะไรเลย มิหนำซ้ำพอมีเรื่องกัน เขาก็ไปยึดเครื่องบินพระที่นั่งเอาอีก รู้ข่าวนี้ มั้ยครับ?
3. ร่วมทุน อันนี้ก็ไม่ต่างจากข้อสอง คือ ประเทศที่เอาเงินมาลงทุนร่วมเขาก็ต้องเรียกร้องต่อรองผลประโยชน์ เราก็ต้องเสียผลประโยชน์ ไม่ต่างอะไรกับให้สัมปทานเขา
ทุกอย่างไม่ใช่ นอกระบบ ครับ มันอยู่ในระบบทั้งนั้น
แต่เลือกว่า จะลงทุน อย่างไร ให้ประเทศชาติ ประชาชน ได้รับประโยชน์สูงสุด
ในระยะยาว ครับ
แสดงความคิดเห็น
การกู้ 2.2 ล้านๆ ของรัฐบาล นอกระบบ กับในระบบแตกต่างกันอย่างไรครับ
ขอบคุณครับ