
หน.ปชป.นำทีมบุกดูนิทรรศการเงินกู้ 2.2 ล้านล้านของรัฐบาล อ้างแค่สานต่อรถไฟรางคู่ แผนงานเดิมสมัย ปชป.พ่วงรถไฟความเร็วสูงเพิ่มเข้ามา ค้านออก พ.ร.บ.หนีระบบงบประมาณ ห่วงกระทบวินัยการเงินการคลัง หวั่นซ้ำรอย พ.ร.ก.กู้ 3.5 แสนล้าน โวถ้าเป็น ปชป.ทำได้ทันทีไม่ต้องกู้ พบนิทรรศการใหญ่ไร้คนเหลียวแล ต้องเกณท์นักศึกษา กศน.เข้าชมงานแทน
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่เป็นห่วงคือการหาเงินมาทำโครงการเพราะ
ไม่เห็นด้วยต่ตอการกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท เนื่องจากเชื่อว่าจากแผนที่กำหนดจะใช้เงินปีละประมาณ 3 แสนล้านบาท สามารถบริหารจัดการระบบงบประมาณได้โดยตัดโครงการที่ไม่จำเป็น ลดการรั่วไหลจากการทุจริต แต่ถ้ามุ่งไปสู่การกู้เงินก็จะเป็นการหลีกเลี่ยงตามระบบงบประมาณ ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับการประเมินสถานะการเงินการคลัง และความโปร่งใสด้วย เพราะที่ผ่านมารัฐบาลนี้ยกเว้นระเบียบระเบียบการจัดซื้อการจัดจ้าง และใช้วิธีพิเศษแทน เช่น การออก พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท รัฐบาลก็จัดนิทรรศการเช่นนี้ แต่สุดท้ายการดำเนินการก็ไม่มีความชัดเจน
ดังนั้น การที่รัฐบาลทำให้มีเงินกู้แยกออกเป็นหลายบัญชี เชื่อว่าบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญดูออก แต่เกรงว่าคนที่ทำนโยบายเองที่จะไม่เที่ยงตรงกับตัวเอง เพราะมีการวางเป้าหมายจัดงบสมดุลในปี 60 แต่ก็มีคำถามว่าความจริงแล้วหนี้จะเพิ่มไปเท่าไหร่ แม้ว่าโครงการเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ แต่วิธีการนำเงินมาใช้ก็เป็นเรื่องสำคัญ
ตนยืนยันว่าหากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสได้บริหารงานต่อ สิ่งเหล่านี้สามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องกู้เงิน ซึ่งวิธีการนี้จะเป็นประโยชน์ว่ารัฐบาลจะต้องไปทบทวนโครงการที่ไม่จำเป็น อีกทั้งสมมติฐานหลายอย่างของรัฐบาลก็ไม่ชัดเจนว่าจะเป็นไปได้จริงหรือไม่ เช่น ระบุว่าการจำนำข้าวจะไม่ขาดทุนหลังปี 2556 ก็ไม่ทราบว่าสมมุติฐานการคลังคืออะไร เพราะในปีแรกขาดทุนไปแล้ว 2 แสนล้านบาท หากทำต่อเนื่องก็จะขาดทุนทุกปีปีละ 2 แสนกว่าล้านบาท
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000029897
ทำไม่มาร์คถึงได้เก่งจุงเบย เก่งที่สุดในสามโลก
“อภิสิทธิ์” เกทับ อ้างนิทรรศการกู้ 2.2 ล้านล้านสานต่อแผนเดิม โวถ้าเป็น ปชป.ทำได้ไม่ต้องกู้
หน.ปชป.นำทีมบุกดูนิทรรศการเงินกู้ 2.2 ล้านล้านของรัฐบาล อ้างแค่สานต่อรถไฟรางคู่ แผนงานเดิมสมัย ปชป.พ่วงรถไฟความเร็วสูงเพิ่มเข้ามา ค้านออก พ.ร.บ.หนีระบบงบประมาณ ห่วงกระทบวินัยการเงินการคลัง หวั่นซ้ำรอย พ.ร.ก.กู้ 3.5 แสนล้าน โวถ้าเป็น ปชป.ทำได้ทันทีไม่ต้องกู้ พบนิทรรศการใหญ่ไร้คนเหลียวแล ต้องเกณท์นักศึกษา กศน.เข้าชมงานแทน
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่เป็นห่วงคือการหาเงินมาทำโครงการเพราะไม่เห็นด้วยต่ตอการกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท เนื่องจากเชื่อว่าจากแผนที่กำหนดจะใช้เงินปีละประมาณ 3 แสนล้านบาท สามารถบริหารจัดการระบบงบประมาณได้โดยตัดโครงการที่ไม่จำเป็น ลดการรั่วไหลจากการทุจริต แต่ถ้ามุ่งไปสู่การกู้เงินก็จะเป็นการหลีกเลี่ยงตามระบบงบประมาณ ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับการประเมินสถานะการเงินการคลัง และความโปร่งใสด้วย เพราะที่ผ่านมารัฐบาลนี้ยกเว้นระเบียบระเบียบการจัดซื้อการจัดจ้าง และใช้วิธีพิเศษแทน เช่น การออก พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท รัฐบาลก็จัดนิทรรศการเช่นนี้ แต่สุดท้ายการดำเนินการก็ไม่มีความชัดเจน
ดังนั้น การที่รัฐบาลทำให้มีเงินกู้แยกออกเป็นหลายบัญชี เชื่อว่าบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญดูออก แต่เกรงว่าคนที่ทำนโยบายเองที่จะไม่เที่ยงตรงกับตัวเอง เพราะมีการวางเป้าหมายจัดงบสมดุลในปี 60 แต่ก็มีคำถามว่าความจริงแล้วหนี้จะเพิ่มไปเท่าไหร่ แม้ว่าโครงการเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ แต่วิธีการนำเงินมาใช้ก็เป็นเรื่องสำคัญ ตนยืนยันว่าหากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสได้บริหารงานต่อ สิ่งเหล่านี้สามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องกู้เงิน ซึ่งวิธีการนี้จะเป็นประโยชน์ว่ารัฐบาลจะต้องไปทบทวนโครงการที่ไม่จำเป็น อีกทั้งสมมติฐานหลายอย่างของรัฐบาลก็ไม่ชัดเจนว่าจะเป็นไปได้จริงหรือไม่ เช่น ระบุว่าการจำนำข้าวจะไม่ขาดทุนหลังปี 2556 ก็ไม่ทราบว่าสมมุติฐานการคลังคืออะไร เพราะในปีแรกขาดทุนไปแล้ว 2 แสนล้านบาท หากทำต่อเนื่องก็จะขาดทุนทุกปีปีละ 2 แสนกว่าล้านบาท
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000029897
ทำไม่มาร์คถึงได้เก่งจุงเบย เก่งที่สุดในสามโลก