รถยนต์คันแรก

กระทู้สนทนา
ลอกมาจาก สำนักข่าวไทยครับ

รถยนต์คันแรกพ่นพิษ สละสิทธิ์ขอคืนเงินภาษีแล้ว 2,000 คน

กรุงเทพฯ 17 มี.ค.

- รายงานข่าวจากกรมสรรพสามิตเปิดเผยว่า ขณะนี้มีตัวเลขแจ้ง
เข้ามา ในระบบติดตามการดำเนินโครงการคืนเงินรถยนต์คันแรก
ว่ามีผู้ใช้สิทธิซื้อรถยนต์ในโครงการแจ้งขอสละสิทธิ์การเข้าโครง
การแล้วทั้งสิ้น 2,000 คน โดยมาจากหลายสาเหตุทั้งผิดเงื่อนไข
ตั้งแต่แรก เช่น อายุไม่ถึง 21 ปี ไม่ใช่รถคันแรกจริง ซื้อก่อนเริ่ม
โครงการ เป็นต้น ซึ่งกรมฯ จะตรวจสอบ และดึงเรื่องการจ่ายเงิน
คืนให้ไว้ก่อน และยังมีกรณีไม่ทำตามเงื่อนไขที่โครงการกำหนด
เช่น ถือครองไม่ครบ 5 ปี เพราะบางคนซื้อมาปีหนึ่ง หรือไม่ถึงปี
ก็จะขายรถต่อ ซึ่งกรณีนี้มีจำนวนมาก

“ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขการถือ
ครองรถยนต์ 5 ปีได้ หรือไม่สามารถส่งค่างวด ที่ต้องผ่อนส่งราย
เดือนกับบริษัทเช่าซื้อหรือลิสซิ่งได้ ทำให้ถูกยึดรถ รวมถึง กรณี
เกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ซึ่งกรณีนี้หากได้รับเงินคืนไปแล้วก็แล้ว
กันไป ไม่ติดตามทวงคืนจากครอบครัวเจ้าของรถ” รายงานข่าวระบุ

นอกจากนี้ คงต้องตรวจสอบด้วยว่า ในจำนวนที่สละสิทธิ์ มีผู้ถือ
ครองรถยนต์ครบ 1 ปี และได้รับเงินคืนไม่เกิน 100,000 บาทไป
แล้วหรือไม่ หากรับแล้ว และไม่นำเงินมาคืนให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยว
ข้อง ต้องนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการติดตามทวงเงินคืนต่อไป แต่ก็
มีผู้นำเงินมาคืนแล้วบางส่วน และบางคนขอผ่อนจ่ายคืน เพราะใช้
เงินหมดไปแล้ว กรณีนี้กรมสรรพสามิตต้องทำเรื่องเสนอไปยังกรม
บัญชีกลางให้พิจารณาในฐานะผู้ติดตามเงินภาษีคืนให้แผ่นดิน

สำหรับวิธีการติดตามทวงเงินคืนนั้น กรมสรรพสามิตจะทำหนังสือ
แจ้งไปยังเจ้าของรถให้นำเงินมาคืนภายใน 15 วันที่ได้รับหนังสือ
หากยังเงียบเฉยจะออกหนังสือเตือนไปอีกครั้ง และให้เวลาอีก 15
วัน รวมเป็น 30 วันที่ต้องนำเงินมาจ่ายคืน ซึ่งการออกหนังสือเตือน
หมายความว่า เจ้าของรถผิดนัดชำระหนี้แล้ว ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้
หลวงด้วย ร้อยละ 15 ต่อปี โดยคำนวณเฉลี่ยเป็นวันจนถึงวันที่จ่าย
เงินคืนครบตามจำนวน แต่หากยังนิ่งเฉยก็จะส่งเรื่องไปให้กรมบัญชี
กลางดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนยอดการคืนเงิน
ภาษีให้ผู้ถือครองรถยนต์ครบ 1 ปีตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน
มีการคืนเงินไปแล้วจำนวน 58,300 ราย จากจำนวนผู้เข้าโครงการ
ทั้งสิ้น 1.25 ล้านราย และคืนเงินภาษีไปแล้วเป็นเงินทั้งสิ้น 4,231
ล้านบาท จากวงเงินงบประมาณที่ตั้งไว้ปีนี้กว่า 7,000 ล้านบาท

ด้านนายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ทางกรมฯ
มีหน้าที่จ่ายเงินคืนภาษีเข้าบัญชี ให้ผู้มีสิทธิเป็นรายเดือนเท่านั้น
ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยติดตามเรียกเงินคืนจากผู้ที่ได้เงินไปแล้วแต่ทำ
ผิดเงื่อนไขการถือครองรถยนต์ 5 ปี โดยหน้าที่ในการติดตามหนี้นั้น
กรมสรรพสามิตจะเป็นผู้ดำเนินการ หากเจ้าของรถนิ่งเฉยก็จะส่ง
เรื่องมาให้กรมบัญชีกลางดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย
ต่อไป

“เมื่อกรมสรรพสามิตยื่นโนติสให้นำเงินมาคืนแล้ว ไม่มาตามกำหนด
ก็จะส่งเรื่องมาที่กรมบัญชีกลาง กรมฯ ก็จะส่งเรื่องให้อัยการดำเนิน
การฟ้องร้องต่อไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการถึงขั้นส่งฟ้องร้อง
แต่อย่างใด” นายมนัสกล่าว

ส่วนการคืนเงินภาษีในปีงบประมาณ 2556 ที่ตั้งงบประมาณไว้ 7,000
ล้านบาทและอาจไม่เพียงพอนั้น อาจไม่ใช้เงินจากงบกลาง แต่กำลัง
พิจารณาหาเงินจากส่วนอื่นเพื่อมาคืนให้ผู้มีสิทธิในโครงการ จากนั้น
จะตั้งงบปี 2557 มาชดเชยต่อไป.

- สำนักข่าวไทย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่