ตดนั้นสำคัญไฉน??

กระทู้คำถาม
ดิฉันมีคำถามอยากจะถามผู้รู้ทั้งหลายหน่อยว่า

1. ตดนั้นจะส่งกลิ่นในอากาศกี่นาที?
2. หากปล่อยตดกลางที่สาธารณะแล้วเดินหนีจากไป ตดนั้น...จะส่งกลิ่นนานกี่นาที?
3. จากคำถามที่ 2 หากเราปล่อยกลิ่นแล้วเดินจากไป กลิ่นจะติดตามเราเป็นระยะทางเท่าไร
4. หากเรากลั้นตดเอาไว้ แรงดันภายในจะฟีบหายไป แสดงว่าแก๊ชมันย้อนเข้าทางสำไส้ใช่หรือไม่?
5. การกลั้นตดเอาไว้เป็นภัยต่อร่างกายใช่หรือไม่?
6. มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าการทานผักนั้นจะทำให้ตดกลิ่นไม่แรงกว่าทานเนื้อ ใช่หรือไม่?
7. เมื่ออยู่ในสภาวะตื่นเต้นจะเกิดอาการปวดอยากถ่ายและปล่อยกลิ่นออกมาอย่างต่อเนื่อง นั้นถือว่าเป็นความวิตกจริต ปัญหาทางจิต
     ไม่ใช่ปัญหาทางร่างกายใช่หรือไม่?
8. หญิงปล่อยก๊าชมากกว่าชายใช่หรือไม่?

ขอบคุณสำหรับทุกๆคำตอบ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
1. ตดนั้นจะส่งกลิ่นในอากาศกี่นาที?

ขึ้นอยู่กับมวล ความเข้มข้นของกลิ่น และประสาทรับรู้กลิ่นของผู้สังเกตุ และต้องคิดปัจจัยแวดล้อมด้วย เช่นการระบายอากาศในพื้นที่หรือกลิ่นเดิมที่มีอยู่ของพื้นที่ แต่เฉลี่ยแล้วจะอยู่นานไม่ถึงนาที

2. หากปล่อยตดกลางที่สาธารณะแล้วเดินหนีจากไป ตดนั้น...จะส่งกลิ่นนานกี่นาที?

อ้างอิงตามคำตอบข้อที่ 1

3. จากคำถามที่ 2 หากเราปล่อยกลิ่นแล้วเดินจากไป กลิ่นจะติดตามเราเป็นระยะทางเท่าไร

การตดแล้วเดินสะบัดตูดจากไปนั้น จะวัดระยะทางได้จากการนำเวลาที่กลิ่นคงอยู่มาคำนวนกับความเร็วในการเดิน แต่ความเร้วในการเดินนั้นจะแปรตรงกับการระบายอากาศด้วยเนื่องจากเป็นการเคลื่อนที่ โดยส่วนมากแล้ว จะอยู่ที่ประมาณ 7 - 20 เมตร

4. หากเรากลั้นตดเอาไว้ แรงดันภายในจะฟีบหายไป แสดงว่าแก๊ชมันย้อนเข้าทางสำไส้ใช่หรือไม่?

การกลั้นตดคือการบังคับปิดหูรูดปลายลำใส้ มวลแก๊สของตดจึงบรรจุพร้อมยิงอยู่ในลำใส้ตั้งแต่ตอนปวดตดแล้ว

5. การกลั้นตดเอาไว้เป็นภัยต่อร่างกายใช่หรือไม่?

ด้านระยะสั้นอาจเป็นเหมือนการสะสมแก๊สในลำใส้ การกลั้นนานๆ หรือกลั้นแบบสุดหูรูดโดยไม่ปล่อยออกมาทีละปริ๊ดสองปริ๊ด อาจทำให้กล้ามเนื้อหูรูดเกิดอาการล้า ต่อมาในระยะยาวอาจทำให้หย่อนยานจนกลั้นไม่ได้หรืออาจเป็นริดสีดวงได้

6. มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าการทานผักนั้นจะทำให้ตดกลิ่นไม่แรงกว่าทานเนื้อ ใช่หรือไม่?

เรื่องกลิ่นนั้นมักจะแตกต่างไปตามแต่ละคน แต่การทานผักบางชนิดเช่นถั่ว กะหล่ำ หรืออาหารมันๆ และอาหารที่ย่อยยากหรือร่างกายย่อยไม่ได้ จะทำให้ตดบ่อยขึ้นได้

7. เมื่ออยู่ในสภาวะตื่นเต้นจะเกิดอาการปวดอยากถ่ายและปล่อยกลิ่นออกมาอย่างต่อเนื่อง นั้นถือว่าเป็นความวิตกจริต ปัญหาทางจิต
     ไม่ใช่ปัญหาทางร่างกายใช่หรือไม่?

จะเครียดหรือสบายใจ ยังไงซะ การตดก็คือกลไลทางร่างกายอยู่ดี ปัญหาเรื่องความเครียดที่มีผลต่อระบบขับถ่ายที่พบมากกว่าคือกรดไหลย้อน

8. หญิงปล่อยก๊าชมากกว่าชายใช่หรือไม่?

ไม่ทราบแน่ชัด เพราะให้บอกกันตรงๆ ผู้ชายมักจะยอมรับว่าตด แต่ผู้หญิงจะรักษาภาพลักษณ์ บางครั้งจึงดูเหมือนว่า ผู้หญิงไม่ค่อยจะตดกันทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องผิดธรรมชาติ คนที่ไม่ตดเลยต่างหากที่น่าเป็นห่วง

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่