เล่าสู่กันฟัง เมื่อขับรถไม่มีประกัน ชนกับแท๊กซี่ เราเป็นฝ่ายผิด

เรื่องนี้เกิดขึ้นซัก 2 สัปดาห์ผ่านไปแล้ว
ช่วงนั้น ป้าผมเหมือนดวงซวยมาก จอดรถไว้หน้าบ้าน
ตรงนั้นเป็นเนินสะดุดพอดี รถส่งขนมปังเจ้ากรรม สงสัยจะลืมปิดฝาท้าย พอขึ้นเนิน ฝาท้ายก็เปิดมากระแทกรถ
อันนี้มีประกันทั้งคู่ เคลมให้เรียบร้อย
ระหว่างเอารถไปซ่อม ก็ยืมรถน้องสาวผมไปใช้ ซึ่งเจ้าน้องตัวดีก็ไม่ได้ต่อประกันไว้
เหตุการณ์ประมาณว่า ป้าขับออกจากซอย จะต้องเข้าเลนขวาเพื่อกลับรถ ในระยะทางสั้นมาก ประมาณ 10 เมตรเท่านั้น
ถ้าเป็นกลางวันจะไม่ทำแบบนี้ จะขับเลยไปกลับรถตรงที่กลับรถอันต่อไป
พอดีตอนนั้นเวลาประมาณ ตี 5 ป้าแกเลยประมาท ประกอบกลับรถแท๊กซี่ขับมาเร็ว ชนเข้าที่ประตูคนขับเลย
ดีที่ชนไม่แรงมาก ไม่มีใครเป็นอะไร
ฝ่ายเราประตูบุบ ฝ่ายโน้น กันชนกับแก้มซ้ายบุบ แต่ก็มีผลให้ประตูคนนั่งเปิดไม่ได้

ประเด็นอยู่ตรงนี้ครับ

ป้าผมยอมรับผิดทุกอย่าง จะรับผิดชอบให้ ส่วนแท๊กซี่มีประกันแค่ชั้น 3
ตอนแรกแท๊กซี่ก็ยึกๆยักๆ ไม่ยอมบอกว่าจะเอาเท่าไร
โทรไปนั่น ไปนี่อยู่นาน ทางผมก็รอ ผ่านไปประมาณ 30 นาที
ทางแท๊กซี่สรุปว่าให้ป้าผมรับผิดชอบดังนี้
1. ค่าซ่อม กันชน แก้มซ้าย ไฟหน้า ประตู ทำสี รวมๆ ทั้งหมด 11500
   จะเอาไปซ่อมที่อู่ของเขาเอง ไม่มีใบเสร็จให้ ให้จ่ายมาเลย
   จริงๆ แล้วเค้าแจงรายละเอียกมานะครับ แต่ผมจำไม่ได้แน่ชัด และก็รู้สึกว่ามันแพงไปอยู่ดี
2. แท๊กซี่บอกว่า  รถคันนี้ เช่าซื้อมา เป็นของตัวเอง (สีฟ้านะครับ ด้านข้างรถมีชื่อบริษัทลีสซิ่งอยู่)
   ขอค่าเสียประโยชน์จากการไม่มีรถทำมาหากิน วันละ 1500 เป็นเวลา 5 วัน รวม 7500

รวมทั้งหมด 19000 บาท

ทางผมไม่ยอมแน่ๆ
1. รถชนแค่นี่ ซ่อมรถไม่มีใบเสร็จ ยิ่งถ้าซ่อมมาตราฐานแท๊กซี่ ราคานี้ เกินไปนะ
2. รถชนก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไร นี่กะจะไม่ทำมาหากิน เอาเงินเท่ากับรายได้ฟรีๆ เนี่ยนะ หัวหมอเกินไปแระ
   ข้อนี้ ผมเลยเสนอให้ ว่าจะหารถอื่นให้ขับ และจ่ายค่าเช่าให้
   ทางโน้นก็โวยวายเลย รถสีอื่นผมไม่ขับนะ อย่างนั้นอย่างนี้ ....
   และถ้าขับรถอื่นเอาไปชนอีกจะรับผิดชอบไหม
    ผมก็บอกว่า ต้องดูเป็นกรณีไปสิ เกิดจะแกล้งขับไปชนต้นไม้ จะให้ผมรับผิดชอบได้งัย ก็ตกลงไม่รับข้อเสนอนี้

สุดท้ายก็ไม่ยอม
ผมเลยบอกงั้นไปคุยที่ สน.

ไปถึงตำรวจ อยู่กันเพียบ ช่วง 7 โมง ท่านๆ กำลังมาถึงพอดี ผู้หลักผู้ใหญ่เพียบ
ผมก็บอกตำรวจไปตรงๆ ว่า เค้าเรียกมา 19000 ซึ่งผมว่า มันแพงไป ให้ตำรวจช่วยดูราคาให้หน่อย
พี่ตำรวจก็ไปดู และแอบกระซิบบอกผมว่า แพงไปจริงๆ จะคุยให้
บอกด้วยว่า อย่าไปยอมมัน ถ้าอยากได้เท่านี้จริงๆ ก็ไปฟ้องเอา เดี๋ยวมันก็ยอมลดราคา

พอดูรถเสร็จก็ไปคุยกัน
พอต่อหน้าตำรวจเท่านั้นแหละ เจ้าแท๊กซี่ พลิกลิ้นทันที
บอกว่า รถเช่ามาวันละ 800 บาท และรถเอาไปซ่อมอู่เพื่อนกันได้ ราคาไม่เกิน 5000
แต่ต้องจ่ายค่าปรับให้บริษัทด้วยอีกนิดหน่อย (ซึ่งก็ไม่ได้บอกนะว่าปรับเท่าไร)

สุดท้ายตกลงราคาที่ 8000 บาท  เป็นค่าซ่อม, ค่าปรับ และ ค่าเสียเวลาสำหรับวันที่ชน
ก็จ่ายไปก็จบเรื่อง

เล่าสู่กันฟังครับ เป็นอุทาหรณ์ เผื่อใครไปเจอ พวกหัวหมอ
ใจเย็นๆ ตั้งสติ อย่างน้อยๆ ตำรวจก็ยังช่วยเราได้ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่