สวัสดีเพื่อนๆ pantip ทุกคนครับ
วันนี้จะเอาหัวข้อเกี่ยวกับสุขภาพมาเล่าสู่กันฟัง
และหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนครับ
Prebiotics, probiotics และ synbiotics คืออะไร ตาดว่าหลายๆคนก็คงจะเคยได้ยินกันมาบ้าง
หลายคนอาจจะรู้จักมานานแล้วด้วย ใครยังไม่คุ้นเคย
วันนี้ผมจะขยายความให้ฟังเข้าใจและรู้จักกับสิ่งเหล่านี้มากขึ้นครับ
เรื่องของเรื่อง ทำไมถึงต้องเป็นเรื่องนี้ ก็คือ ผมมีเพื่อนๆ+คนไข้ ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพการขับถ่ายอยู่หลายคน
แนะนำสิ่งจำเป็นพื้นฐานที่น่าจะช่วยได้แล้ว เช่น ดื่มน้ำให้มาก กินผักพลไม้เยอะๆ ออกกำลังกาย
หัดขับถ่ายเป็นเวลา งดชากาแฟ ลองแมงลักหรือลูกพรุนดูมั้ย ???
เพื่อนบอกว่าลองที่แกว่ามาหมดแล้ว ยังกุ๊กกู๋ ไม่ออก ยังแข็งเหมือนเดิม เบ่งจนเป็นอย่างนี้แล้ว มีอะไรอีกมั้ย???
แกช่วยเราด้วย
ก็คิดอยู่พักนึง แล้วก็นึกได้ว่า เออ ใช่!!! มันยังมีเคล็ดลับอาวุธเสริมอยู่อีกนี่นา
ก็คือ Prebiotics, probiotics และ synbiotics พวกนี้แหละครับ
ก่อนจะทำความรู้จักกับ Prebiotics, probiotics และ synbiotics ทั้ง 3 สิ่งนี้
เรามาเรียนรู้ร่างกายและเชื้อโรคที่มีประโยชน์ต่อร่างกายกันก่อนซักเล็กน้อยครับ
ทำไมต้องเรียนรู้จักเชื้อโรค???
เพราะจริงๆแล้ว Prebiotics ก็คืออาหารของเจ้า probiotics,
ส่วน probiotics คือ เจ้าเชื้อโรคตัวน้อยๆนั่นเอง
และ synbiotics ก็คือส่วนผสมของทั้ง 2 อย่างข้างต้นเข้าด้วยกัน
โดยธรรมชาติ ร่างกายของทั้งมนุษย์อย่างเรามีเชื้อโรคตัวน้อยๆอยู่เต็มไปหมด
ทั้งภายในตั้งแต่ในช่องปาก ทางเดินอาหาร ลำไส้ ช่องคลอด และภายนอกอย่างบนผิวหนัง
ซึ่งเราเรียกง่ายๆว่า ว่าเป็นเชื้อโรคประจำถิ่น/จุลินทรีย์ประจำถิ่น หรือ normalflora/ microbiota
เจ้าเชื้อประจำถิ่นพวกนี้มักจะไม่ก่อให้เกิดโรค ถ้าร่างกายอยู่ในภาวะปกติ
จุลินทรีย์ประจำถิ่นได้ประโยชน์จากสารอาหารในร่างกายเรา ในการดำรงชีวิต
แต่พวกมันก็ช่วยปกป้องร่างกายจากเชื้อก่อโรคต่างๆ(pathogen) ให้เราด้วย ในขณะเดียวกัน
จะเห็นได้ว่าเชื้อจุลินทรีย์ประจำถิ่นมีความสำคัญในการปกป้องร่างกายของเรา
ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ในปัจจุบันมีการปรับปรุงด้านการสาธารณสุขดีขึ้น
คนเป็นโรคติดเชื้อน้อยลง ทำให้การได้รับเชื้อโรคที่ดีตามธรรมชาติลดลง
มีการใช้ยาปฏิชีวนะ(ยาฆ่าเชื้อ)มากขึ้น ซึ่งมันไม่ได้ฆ่าแต่เชื้อก่อโรค เชื้อดีๆมันก็ฆ่าด้วย
เกิดการเสียดุลของระบบนิเวศในร่างกาย และทางเดินอาหาร
ดังนั้นในหลายๆกรณีจึงมีความจำเป็นที่ต้องเติมเจ้าเชื้อโรคที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเหล่านี้ลงไป
ซึ่งเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์อยู่ในทางเดินอาหารนี่เอง ที่เราเรียกว่า Probiotics
มาทำความรู้จักกับ Prebiotics, probiotics และ synbiotics กันครับ
วันนี้จะเอาหัวข้อเกี่ยวกับสุขภาพมาเล่าสู่กันฟัง
และหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนครับ
Prebiotics, probiotics และ synbiotics คืออะไร ตาดว่าหลายๆคนก็คงจะเคยได้ยินกันมาบ้าง
หลายคนอาจจะรู้จักมานานแล้วด้วย ใครยังไม่คุ้นเคย
วันนี้ผมจะขยายความให้ฟังเข้าใจและรู้จักกับสิ่งเหล่านี้มากขึ้นครับ
เรื่องของเรื่อง ทำไมถึงต้องเป็นเรื่องนี้ ก็คือ ผมมีเพื่อนๆ+คนไข้ ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพการขับถ่ายอยู่หลายคน
แนะนำสิ่งจำเป็นพื้นฐานที่น่าจะช่วยได้แล้ว เช่น ดื่มน้ำให้มาก กินผักพลไม้เยอะๆ ออกกำลังกาย
หัดขับถ่ายเป็นเวลา งดชากาแฟ ลองแมงลักหรือลูกพรุนดูมั้ย ???
เพื่อนบอกว่าลองที่แกว่ามาหมดแล้ว ยังกุ๊กกู๋ ไม่ออก ยังแข็งเหมือนเดิม เบ่งจนเป็นอย่างนี้แล้ว มีอะไรอีกมั้ย???
แกช่วยเราด้วย
ก็คิดอยู่พักนึง แล้วก็นึกได้ว่า เออ ใช่!!! มันยังมีเคล็ดลับอาวุธเสริมอยู่อีกนี่นา
ก็คือ Prebiotics, probiotics และ synbiotics พวกนี้แหละครับ
ก่อนจะทำความรู้จักกับ Prebiotics, probiotics และ synbiotics ทั้ง 3 สิ่งนี้
เรามาเรียนรู้ร่างกายและเชื้อโรคที่มีประโยชน์ต่อร่างกายกันก่อนซักเล็กน้อยครับ
ทำไมต้องเรียนรู้จักเชื้อโรค???
เพราะจริงๆแล้ว Prebiotics ก็คืออาหารของเจ้า probiotics,
ส่วน probiotics คือ เจ้าเชื้อโรคตัวน้อยๆนั่นเอง
และ synbiotics ก็คือส่วนผสมของทั้ง 2 อย่างข้างต้นเข้าด้วยกัน
โดยธรรมชาติ ร่างกายของทั้งมนุษย์อย่างเรามีเชื้อโรคตัวน้อยๆอยู่เต็มไปหมด
ทั้งภายในตั้งแต่ในช่องปาก ทางเดินอาหาร ลำไส้ ช่องคลอด และภายนอกอย่างบนผิวหนัง
ซึ่งเราเรียกง่ายๆว่า ว่าเป็นเชื้อโรคประจำถิ่น/จุลินทรีย์ประจำถิ่น หรือ normalflora/ microbiota
เจ้าเชื้อประจำถิ่นพวกนี้มักจะไม่ก่อให้เกิดโรค ถ้าร่างกายอยู่ในภาวะปกติ
จุลินทรีย์ประจำถิ่นได้ประโยชน์จากสารอาหารในร่างกายเรา ในการดำรงชีวิต
แต่พวกมันก็ช่วยปกป้องร่างกายจากเชื้อก่อโรคต่างๆ(pathogen) ให้เราด้วย ในขณะเดียวกัน
จะเห็นได้ว่าเชื้อจุลินทรีย์ประจำถิ่นมีความสำคัญในการปกป้องร่างกายของเรา
ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ในปัจจุบันมีการปรับปรุงด้านการสาธารณสุขดีขึ้น
คนเป็นโรคติดเชื้อน้อยลง ทำให้การได้รับเชื้อโรคที่ดีตามธรรมชาติลดลง
มีการใช้ยาปฏิชีวนะ(ยาฆ่าเชื้อ)มากขึ้น ซึ่งมันไม่ได้ฆ่าแต่เชื้อก่อโรค เชื้อดีๆมันก็ฆ่าด้วย
เกิดการเสียดุลของระบบนิเวศในร่างกาย และทางเดินอาหาร
ดังนั้นในหลายๆกรณีจึงมีความจำเป็นที่ต้องเติมเจ้าเชื้อโรคที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเหล่านี้ลงไป
ซึ่งเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์อยู่ในทางเดินอาหารนี่เอง ที่เราเรียกว่า Probiotics