ทุกวันนี้เคยคิดกันบ้างไหม..ที่เราแก่งแย่งกัน...จนวุ่นวาย
ที่เราต้อง...จิกตีกันมากมาย ที่เราแข่งขันกัน...จนวันตาย
เราทำไปเพื่ออะไร...เราต้องการสิ่งใด
ในการดำรงอยู่ต่อไปในโลกและสังคมใบนี้ ทุกวันนี้เราต้องการอะไร
เรา...."ปราถนา...สิ่งใดฤา".....
เชื่อนะคะว่าหลายๆคนก็ยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าทำไปเพื่ออะไร
เราต่างค้นคว้า ค้นหาตัวเองเสียเวลาไปมากมาย
สุดท้ายเราอาจพบว่าสิ่ง ที่ให้ความสุขกะเราได้อยู่ใกล้จนเราไม่ต้องเสียเวลาค้นหา
วันนี้เราค้นพบแล้วค่ะ บ้านของเรา ครอบครัวของเรา แม่ของเรา บ้านเกิดของเรา
เราไม่ได้จะอะไรนะคะ ใครไม่เห็นด้วยก็ไม่ว่า แต่ตอนนี้เมื่อเรากลับมาอยู่บ้าน เรามีความสุขมากจริงๆค่ะ
สำหรับใครที่คิดถึงบ้าน เราขออวยพรให้สักวันหนึ่งอันใกล้ข้างหน้า
คุณได้กลับไปอยู่บ้านที่จากมานานเสียที เงินเดือนที่ได้อาจน้อยนิดมากๆเมื่อเทียบกะใครอีกหลายคน
อาจจะมีปัญหามากๆในที่ทำงาน แม้อาจจะท้อ แต่จะไม่ยอมแพ้แม้ว่าน้ำตากำลังจะไหล เพราะเราจะไม่มีวันปล่อยให้งานนี้หลุดมือไป
แม้เพื่อนๆหลายคนจะถามว่า งานที่ดีกว่านี้ก็มี คนที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจกว่าที่นี่ก็มี ทำไมไม่ไป เราก็บอกว่า แต่ที่นั่น ไกลกับที่บ้าน ไม่ได้อยู่ใกล้ๆแม่
ไม่ได้กลับบ้านไปกินข้าวกะที่บ้าน อ่ะ ข้อนี้ทำให้เรายังอยู่กับความทุกข์ได้ เราคิดว่า ยิ่งเราหนี ไปที่ใหม่ แรกๆอาจจะดี แต่ไม่หรอก
อุปสรรคที่ไหนก็มีทั้งนั้น หนีไป ถ้าไปเจอคนแบบนี้ที่ทำงานใหม่อีก เรามิต้องหนีอีกเหรอ เรียนรู้และยอมรับ กับมันดีกว่าไหม?
เชื่อนะคะว่าหลายๆคนก็ยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าทำไปเพื่ออะไรเหมือนกับที่ช่วงขีวิตหนึ่งของเราก็ยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าทุกสิ่งที่เราทำ ทำไปเพื่ออะไร
ไม่ได้อิจฉาใคร ไม่ต้องการแก่งแย่ง ใคร ใครได้ดีเราดีใจด้วย คนทุกคนก็มีภาระ เพียงแต่ว่าคนเหมือนกัน จะจิกกัดกันไปทำไม
แค่คิดว่าคนเรา ควรให้เกียรติกันบ้าง อาชีพทุกอาชีพมีคุณค่าในตัวเองไม่ใช่แค่ข้าราชการหรอกนะที่มันโก้เก๋และมีหน้ามีตา แต่คนกวาดขยะเค้าหรืออาชีพอะไรเค้าก็มีศักดิ์ศรีของเค้า
ทุกวันนี้พออยู่ในวัยทำงาน เป็นกันไหมคะ ที่คิดถึงช่วงเวลาสมัยเรียนหนังสือและคิดถึงเพื่อนสมัยนั้น
รู้สึกว่า นอกจากช่วงเวลาที่อยู่กะครอบครัวแล้ว ช่วงเวลาสมัยรั้วมหาวิทยาลัย เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด สบายใจที่สุด
เพราะไม่มีหน้าที่อะไรให้ต้องแบกรับ รับผิดชอบก็น้อย คนที่อยู่ใกล้ตัวก็คือเพื่อนๆ ที่เรารักและๆไว้ใจได้รองมาจาก ที่บ้าน
แค่คิดก็อยากย้อนเวลากลับไปถ้าทำได้ แต่ก็รู้ว่าอดีต มันก็ผ่านไปแล้วเนอะ คงไม่มีวันหวนคืน
เขียนมาจนถึงบรรทัดนี้ สิ่งเดียวที่รู้สึกได้ ความปราถนาในใจที่มีคืออย่างเดียว ความสุขใจ ที่ได้อยู่กะคนที่เรารักและรักเรา
ได้อยู่กับครอบครัวที่เราไว้ใจได้ และไม่มีวันทำร้ายเรา และรักเราที่สุดในโลก อะไรอย่างอื่นน่ะ ไม่สำคัญอีกแล้ว
---------"โลภกันไปมากมาย ตอนตายได้อะไรไป นอกจากสิ่งที่ติดตัวมาตอนเกิดเท่านั้น"---------
+++ ในชีวิตของคนเรา ถามจริงๆนะ เราปราถนาสิ่งใด ฤา +++
ที่เราต้อง...จิกตีกันมากมาย ที่เราแข่งขันกัน...จนวันตาย
เราทำไปเพื่ออะไร...เราต้องการสิ่งใด
ในการดำรงอยู่ต่อไปในโลกและสังคมใบนี้ ทุกวันนี้เราต้องการอะไร
เรา...."ปราถนา...สิ่งใดฤา".....
เชื่อนะคะว่าหลายๆคนก็ยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าทำไปเพื่ออะไร
เราต่างค้นคว้า ค้นหาตัวเองเสียเวลาไปมากมาย
สุดท้ายเราอาจพบว่าสิ่ง ที่ให้ความสุขกะเราได้อยู่ใกล้จนเราไม่ต้องเสียเวลาค้นหา
วันนี้เราค้นพบแล้วค่ะ บ้านของเรา ครอบครัวของเรา แม่ของเรา บ้านเกิดของเรา
เราไม่ได้จะอะไรนะคะ ใครไม่เห็นด้วยก็ไม่ว่า แต่ตอนนี้เมื่อเรากลับมาอยู่บ้าน เรามีความสุขมากจริงๆค่ะ
สำหรับใครที่คิดถึงบ้าน เราขออวยพรให้สักวันหนึ่งอันใกล้ข้างหน้า
คุณได้กลับไปอยู่บ้านที่จากมานานเสียที เงินเดือนที่ได้อาจน้อยนิดมากๆเมื่อเทียบกะใครอีกหลายคน
อาจจะมีปัญหามากๆในที่ทำงาน แม้อาจจะท้อ แต่จะไม่ยอมแพ้แม้ว่าน้ำตากำลังจะไหล เพราะเราจะไม่มีวันปล่อยให้งานนี้หลุดมือไป
แม้เพื่อนๆหลายคนจะถามว่า งานที่ดีกว่านี้ก็มี คนที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจกว่าที่นี่ก็มี ทำไมไม่ไป เราก็บอกว่า แต่ที่นั่น ไกลกับที่บ้าน ไม่ได้อยู่ใกล้ๆแม่
ไม่ได้กลับบ้านไปกินข้าวกะที่บ้าน อ่ะ ข้อนี้ทำให้เรายังอยู่กับความทุกข์ได้ เราคิดว่า ยิ่งเราหนี ไปที่ใหม่ แรกๆอาจจะดี แต่ไม่หรอก
อุปสรรคที่ไหนก็มีทั้งนั้น หนีไป ถ้าไปเจอคนแบบนี้ที่ทำงานใหม่อีก เรามิต้องหนีอีกเหรอ เรียนรู้และยอมรับ กับมันดีกว่าไหม?
เชื่อนะคะว่าหลายๆคนก็ยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าทำไปเพื่ออะไรเหมือนกับที่ช่วงขีวิตหนึ่งของเราก็ยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าทุกสิ่งที่เราทำ ทำไปเพื่ออะไร
ไม่ได้อิจฉาใคร ไม่ต้องการแก่งแย่ง ใคร ใครได้ดีเราดีใจด้วย คนทุกคนก็มีภาระ เพียงแต่ว่าคนเหมือนกัน จะจิกกัดกันไปทำไม
แค่คิดว่าคนเรา ควรให้เกียรติกันบ้าง อาชีพทุกอาชีพมีคุณค่าในตัวเองไม่ใช่แค่ข้าราชการหรอกนะที่มันโก้เก๋และมีหน้ามีตา แต่คนกวาดขยะเค้าหรืออาชีพอะไรเค้าก็มีศักดิ์ศรีของเค้า
ทุกวันนี้พออยู่ในวัยทำงาน เป็นกันไหมคะ ที่คิดถึงช่วงเวลาสมัยเรียนหนังสือและคิดถึงเพื่อนสมัยนั้น
รู้สึกว่า นอกจากช่วงเวลาที่อยู่กะครอบครัวแล้ว ช่วงเวลาสมัยรั้วมหาวิทยาลัย เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด สบายใจที่สุด
เพราะไม่มีหน้าที่อะไรให้ต้องแบกรับ รับผิดชอบก็น้อย คนที่อยู่ใกล้ตัวก็คือเพื่อนๆ ที่เรารักและๆไว้ใจได้รองมาจาก ที่บ้าน
แค่คิดก็อยากย้อนเวลากลับไปถ้าทำได้ แต่ก็รู้ว่าอดีต มันก็ผ่านไปแล้วเนอะ คงไม่มีวันหวนคืน
เขียนมาจนถึงบรรทัดนี้ สิ่งเดียวที่รู้สึกได้ ความปราถนาในใจที่มีคืออย่างเดียว ความสุขใจ ที่ได้อยู่กะคนที่เรารักและรักเรา
ได้อยู่กับครอบครัวที่เราไว้ใจได้ และไม่มีวันทำร้ายเรา และรักเราที่สุดในโลก อะไรอย่างอื่นน่ะ ไม่สำคัญอีกแล้ว
---------"โลภกันไปมากมาย ตอนตายได้อะไรไป นอกจากสิ่งที่ติดตัวมาตอนเกิดเท่านั้น"---------