ปัจจุบันนี้ ผมอยู่ปี 1 แล้ว และผมกับเธอคนนั้น เราก็ยังคุยกันประจำทาง Facebook และเมื่อมีโอกาส ผมก็จะกลับไปหาเธอที่โรงเรียน โดยเรื่องราวความรักของผมมันเริ่มจาก..........
ตอนนั้นผมอยู่ ม.5 เธออยู่ ม.1 เราสองคนอยู่โรงเรียนประจำ ช่วงนั้นเป็นช่วงเทอม 2 และเป็นช่วงที่โรงเรียนเข้าร่วมแข่งขันโรงเรียนพระราชทาน และแน่นอน โรงเรียนก็ต้องพรีเซนต์สิ่งที่ดีต่างๆของโรงเรียนให้แก่คณะกรรมการที่มาตรวจ นั่นจึงรวมไปถึงความสามารถของนักเรียนด้วย......
เธอคนนี้มีชื่อว่า เอ (นามสมมติ) เธอเป็นคนจีนแท้ๆ ที่เธอมาไทยเพราะว่าพ่อกับแม่เธอย้ายมาทำธุระกิจขายทองที่ไทย เธอจึงจำต้องย้ายมาด้วย ตอนนั้นเธอย้ายมาตอนอายุ 11 ขวบ เพื่อมาเรียนต่อที่ไทย แต่โรงเรียนใน จ.ที่เธออยู่นั้น ไม่ยอมให้เธอเรียนต่อในช่วงชั้นที่เธอจะต้องเรียน เธอจึงจำต้องเรียน ป.1 ใหม่ พร้อมพี่น้องของเธอ และนั่นทำเธอต้องเรียนช้ากว่าเด็กคนอื่นๆถึง 4 ปี แทนที่เธอจะอยู่ชั้นเดียวกับผม แต่กลับอยู่แค่ ม.1 นั่นเอง......
ด้วยความที่เธอเป็นคนจีน และอยู่เมืองไทยมาก็นานพอควร เธอจึงมีความสามารถพูดได้ทั้ง ไทย-จีน ดังนั้นทางโรงเรียนจึงได้แต่งตั้งให้เธอเป็นผู้ประชาสัมพันธ์ในการแข่งขันโรงเรียนพระราชทานในครั้งนี้...... ^_^
ครั้งแรกที่ผมเห็นน้องเอ ตามความคิดของผู้ชายทั่วไป เธอก็น่ารักดี เหมาะสมกับเด็กวัยนี้(ตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่าเธออายุพอๆกับผม ) ก็แค่ปลื้มธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อมารู้ทีหลังจากเพื่อนว่าเธออายุเท่าๆกับผม ตอนแรกผมตกใจมาก มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ ไม่เชื่อหรอก! แต่พอสืบจากเพื่อนเธอ ก็ได้รู้ว่าเรื่องที่ได้ยินจากเพื่อนมาเป็นเรื่องจริง....!
และแล้วโชคชะตาหรือฟ้าลิขิตก็ไม่รู้ วันนั้นเป็นวันศุกร์ เป็นวันหลังจากที่โรงเรียนจัดกิจกรรมปีใหม่ให้แก่นักเรียน มีดนตรี ของกินนู่นนี่นั่น ตามประสาโรงเรียนประจำ เป็นวันที่เด็กนักเรียนทุกคนรอการกลับบ้าน ผมกับเพื่อนๆอีก 3 คน ก็ต้องกลับบ้านเหมือนกัน จึงเดินไปเพื่อรอผู้ปกครองด้านหน้าโรงเรียน ปรากฏว่าเจอน้องเอ กำลังนั่งอยู่คนเดียว ด้วยความที่ผมและเพื่อนๆต่างก็ปลื้มเหมือนกัน(แต่ผมออกจะปลื้มมากเป็นพิเศษ 555) เราสี่คนจึงเดินไปนั่งคุยกับน้อง รู้สึกได้ว่าน้องเค้าคงเกร็งๆเหมือนกัน ที่ไม่รู้ว่าคนแปลกหน้าที่ไหนมาคุยด้วย แต่เมื่อเริ่มผ่อนคลาย จึงได้รู้ว่าน้องเอเป็นคนอัธยาศัยดี ไม่ถือตัว พูดง่ายๆว่าน่ารักมากกกกก 555 (เกินไปป่าวเนี่ย

) และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้คุยและรู้จักกับเธออย่างเป็นทางการ....
หลังจากนั้นผมก็เริ่มหาเฟส หา e-mail เธอ จากทางเพื่อนเธอ และแล้วในที่สุดผมก็ตัดสินใจ Add MSN เธอไป หลังจากนั้นมาเราก็ได้คุยกันเรื่อยมา จนมีเหตุการณ์นึงที่ทำให้ผมนั้นคิดไปไกล นั่นคือ วันนั้นเป็นวันเสาร์ เราทั้งคู่ต่างกลับบ้าน วันนั้นเป็นวันที่ป๊าเธอกลับมาจากเมืองจีน ซื้อของ ซื้อขนมมาเยอะแยะ เราก็คุยกันทาง MSN เธอบอกว่าจะแอบเอาขนมมาให้ที่โรงเรียน ผมก็ อืมๆ เออออไปกับเค้า แล้วเราก็นัดเวลา สถานที่กัน (ตอนที่คุยกันตอนนั้นเป็นเวลาประมาณเที่ยงคืน คือผมอาสาอยู่เป็นเพื่อนเธอเพื่อรอป๊าเธอกลับมา เธอก็คงอยากจะขอบคุณผมก็เลยจะเอาขนมมาให้ แต่หารู้ไม่ ใจผมนั้นคิดไปไกลแล้วววว ^_^ )ที่สำคัญเธอบอกว่าห้ามไปบอกใครว่าได้มาจากที่ไหน ผมก็อืมๆ รับปาก (แต่ก็นะ มันอดไม่ได้ที่จะเล่าให้เพื่อนสนิทผมฟัง ก็คนที่เราแอบชอบเค้าอุตส่าห์เอาขนมจากเมืองจีนมาให้ เป็นใคร ใครก็ปลื้มมมมมม!!! 555 ) และนั่นก็เป็นเหตุการณ์ครั้งแรกที่ทำให้ผม....."ชอบเธอ"
ก่อนอื่นผมลืมเล่าไปเรื่องนึง ว่าผมก็มีคนที่แอบมาชอบผมเหมือนกัน เธอชื่อ บี (นามสมมติ) อยู่ระดับชั้นเดียวกับผม ทุกเช้านางบีจะเขียนเนื้อเพลงสั้นๆใส่กระดาษเล็กๆฝากเพื่อนมาส่งให้ผม ผมก็รู้สึกดีนะ ที่มีคนมาชอบ จนวันนึงได้เจอหน้านางบี ได้รู้จักนางบี เธอก็ไม่ใช่คนสวยอะไรหรอก ตัวผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่าเพื่อน เพราะหัวใจของผม มันได้ไปอยู่กับน้องเอแล้ว
ตามประสาของคนที่แอบชอบใครสักคน เขาก็จะคอยสอดส่องดูว่าคนที่เราแอบชอบนั้นทำอะไร อยู่ที่ไหน ชอบอะไร และแน่นอน นางบี ก็ได้รู้ว่า ผมแอบชอบน้องเออยู่ เป็นธรรมดาที่เธอจะไม่ชอบน้องเอ เวลาเธอเจอน้องเอ เธอและเพื่อนๆก็มักจะมองด้วยสายตาเหยียดๆ และบางทีก็แกล้งน้องเอบ้าง จึงทำให้น้องเอกลัวเธอและเพื่อนๆของเธอ
พอผมขึ้น ม.6 น้องเอก็ขึ้น ม.2 ห้องเรียนของผมย้ายไปอยู่ข้างๆห้องของเธอ (โรงเรียนผมเป็นแบบมีห้องประจำ มีครูประจำชั้น ^_^ ) เธอเริ่มมีอาการแปลกๆ เริ่มหลบตาผม เวลาคุยกันก็จะรู้สึกอึดอัดบ้าง แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไร จนมาวันนึง วันนั้นเป็นวันศุกร์ ผมและน้องเอไม่ได้กลับบ้าน เพราะว่าวันรุ่งขึ้นต้องไปสอบ สอวน. วันนั้น เธอเรียกผมไปคุยด้วย ผมก็ไป พอไปถึง เธอก็ไม่ค่อยกล้าที่จะถาม แต่สุดท้ายเธอก็เอ่ยออกมาว่า "พี่ชอบหนูใช่ไหม" ผมก็อึ้งเล็กน้อย และตอบไปว่า "ใช่" หลังจากนั้นเราก็คุยกันอยู่พักนึง ผลสุดท้ายน้องเอบอกผมว่า "หนูชอบพี่ไม่ได้หรอก มีเหตุผลหลายๆอย่างที่หนูชอบพี่ไม่ได้" น้องเอบอกว่า เธอชอบผู้ชายอีกคนนึง ซึ่งเป็นรุ่นน้องผม ซึ่งเป็คนที่มาจีบเธอก่อนผม ผมยอมรับว่าตอนนั้นผมเศร้ามาก และเชื่อในคำที่น้องเอบอกทุกคำ (เพราะก่อนหน้านี่ ก็เคยมีข่าวลือว่ารุ่นน้องผมคนนี้จีบเธอจริงๆ แต่ผมไม่คิดว่าเธอจะชอบจริงๆ T^T ) คืนนั้นผมจึงหยิบไดอารี่ที่ผมเขียนถึงเธอตั้งแต่วันแรกที่เราได้คุยกัน ขึ้นมาเขียนเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาในวันนี้ (อยากจะบอกว่าผมชอบเธอคนนี้มาก ขนาดเขียนไดอารี่ให้เธอ ซึ่งตัวผมเองนั้นแทบจะขี้เกียจให้ตัวเองเลย ^_^ ) ผมเขียนหน้าสุดท้ายนี้ด้วยปากกาสีดำ (นึกบ้าอะไรก็ไม่รู้ถึงใช้สีดำ ปกติจะใช้ปากกาสีอื่นตลอด สงสัยคงอยากให้เขาหันมาสนใจเราเป็นครั้งสุดท้ายมั้ง เผื่อเธอจะเปลี่ยนใจ ฮ่าๆๆๆ) อยากเขียนอะไรก็เขียนไป ระบายความอัดอั้นในใจออกมาให้หมด แล้ววันรุ่งขึ้น ผมก็นัดเธอให้มาเจอกับผม และยื่นไดอารี่เล่มนี้ที่ผมเขียนให้เธอ ให้เธอไป.......
วันต่อมา ผมได้รู้ว่าเธอได้อ่านเนื้อความในนั้นแล้ว และเธอก็ร้องไห้ด้วย (ผมทราบมาจากเพื่อนน้องเอ) แล้วในตอนเย็นวันนั้นเราก็ได้นัดเจอกัน แล้วคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อปรับความเข้าใจกัน และวันนั้นก็จบลงไปด้วยดี ผมและเธอสัญญากันว่าเราสองคนจะเป็นพี่ชาย-น้องสาว กัน......
ช่วงนั้นเป็นช่วง เทอม 2 ซึ่งผมก็ต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ในช่วงนั้นผมยอมรับว่าผมเหงา เหงาจริงๆ ในความคิดผมคืออยากมีใครสักคนคอยโทรหากัน คอยคิดถึงกัน และคำตอบสุดท้าย เธอคนนั้นก็คือเพื่อนร่วมห้องของผมเอง เธอมีชื่อว่า ซี (นามสมมติ) ผมและซีตัดสินใจคบกัน ตอนนั้นผมรักนางซีมาก และผมก็รู้ว่านางซีก็รักผมเหมือนกัน เราสองคนก็จู๋จี๋กันอ่ะนะ ตามประสาคนรักกันใหม่ๆ แล้วยิ่งอยู่ห้องเดียวกันอีก เราก็ได้เจอกันแทบทุกเวลา เวลากลับหอผมก็จะไปส่งเธอทุกวัน ^_^
แต่แล้ว เมื่อผมใกล้จะจบ ตอนนั้นผมสอบติดคณะวิศวะ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ส่วนแฟนผมในตอนนั้นก็ติดมหาวิทยาลัยเดียวกับผม ซึ่งเหตุการณ์ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่แล้ว ก่อนจบ น้องเอ คนที่ผมเคยแอบชอบ ก็ได้นำของมาให้ผม (ก่อนหน้านี้ ผมและน้องเอ เราก็คุยกันแบบพี่ชาย-น้องสาวกันมาตลอดนะ ) ซึ่งมีข้อแม้ว่าผมจะต้องไปรับด้วยตัวเอง ผมก็อืมๆ ก็ไปรับ ปรากฏว่าเป็นของขวัญ 5 อย่าง (ผมเคยพูดแซวๆไปว่า พอถึงวันเกิดพี่ อยากได้ของขวัญตามจำนวนวันเกิดจังเลย เพราะผมเกิดวันที่ 5 นั่นเอง) ผมก็รับมา และกลับไปเปิดดูที่หอ ปรากฏว่าของ 5 อย่างนั้นประกอบไปด้วย
1.หนังสือเกี่ยวกับความรัก
2.ตุ๊กตาแร็คคูนเอาใว้ใส่ดินสอ
3.เป็นสมุดบันทึก
4.สมุดหน้ารูปคนแลบลิ้น (เพราะผมชอบ

ใส่เค้า เวลาคุยกันใน Facebook)
และชิ้นสุดท้าย เป็นไดอารี่ที่เธอเขียนให้ผม โดยใช้เวลา 3 วัน 3 คืนในการเขียนให้ผม และเธอก็ไม่เคยเขียนให้ใครมาก่อน
เธอเขียนประวัติของเธอ มุมมองด้านความรักของเธอ และคำอวยพรต่างๆ เมื่อผมเปิดอ่านข้างในนั้น ผมรู้สึกดีใจมากกกกกกกกกกกก และรู้สึกมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง ผมได้รู้ความจริงทุกอย่าง ผมได้รู้ว่าเธอไม่ได้ชอบกับคนๆนั้น(ที่เธออ้างว่ามาจีบเธอคนแรก) ผมได้รู้ว่าที่เธอชอบผมไม่ได้ก็เพราะเธอกลัวคนที่ชอบผมจะมาแกล้งเธออีก(นางบีและเพื่อนๆนั่นเอง ) เธอจึงบอกกับตัวเอง "ห้ามชอบพี่คนนี้เด็ดขาด" (เธอเขียนประโยคนี้ลงในไดอารี่เล่มนั้น) แต่ที่น่าเศร้าหน่อยๆ คือหน้าสุดท้ายของไดอารี่ เธอวาดรูปผมกับแฟนคนปัจจุบัน และเขียนข้อความว่ารักกันตลอดไปนะคะ ประมาณนั้น แต่ก็นะ แค่นี้ผมก็ดีใจมากกกกกกแล้ว
วันเวลาผ่านพ้นไป ผมจบม.6 ตอนนี้ผมอยู่ปี1 และผมกับแฟนก็ยังคบกันอยู่ ผมยอมรับว่าผมยังติดต่อกับน้องเอทางเฟสอยู่ เราคุยกัน เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น เริ่มแกล้งกัน หยอกล้อกันได้มากขึ้น Emoticon ที่เราชอบใช้กันคือ

(ตัวแลบลิ้น) ผมรู้สึกได้ว่าเราสนิทกันมากขึ้นจริงๆ ตอนนั้นผมกับแฟนก็ยังคบกันอยู่ ผมยอมรับว่าผมเริ่มรู้สึกผิดกับแฟนผม ผมจึงทำใจกับเรื่องนี้อยู่พักนึง แล้วจึงตัดสินใจเล่าเรื่องต่างๆให้เธอฟัง เธอร้องไห้ และรับฟังผม เธอเป็นฝ่ายบอกเลิกผม ซึ่งมันก็สมควรแล้ว ผมยอมรับว่าผมเปลี่ยนไป ในใจผมกลับมีอีกคน ที่สำคัญ คนๆนั้นก็ดันเป็นคนที่ผมเคยแอบชอบ และเคยหักอกผมไปแล้วครั้งนึง ผมไม่รู้จะทำยังไงต่อ ผมและแฟนเลิกกัน แต่เราสัญญาว่าเราจะเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ซึ่งผมก็รู้ว่ามันอาจจะยากในช่วงแรก แต่ ณ ตอนี้เราเริ่มเข้าใจ ถึงจะมีบ้างที่เธออยากให้ผมกลับไปรักเธอเหมือนเดิม แต่เธอก็เข้าใจผม ว่าใจผมเปลี่ยนไป.....(ปัจจุบันเราต่างคน ต่างก็โอเคกันแล้วครับ ^_^ )
ผมไม่รู้ว่าสิ่งๆนี้เรียกว่าความรักหรือไม่ ผมไม่รู้ว่าแค่ชอบ หรือแค่ปลื้ม แต่ผมรู้แค่ว่า ทุกครั้งที่ผมได้คุยกับน้องเอ แม้จะเป็นแค่ทางเฟส ผมก็รู้สึกดีใจ เวลาน้องเอมีเรื่องไม่สบายใจอะไรก็มักจะเล่าให้ผมฟัง จนบางครั้งผมก็แอบไปคิดว่าน้องเออาจจะชอบผม แต่นั้นก็ได้แค่คิด จนปัจจุบันนี้ ผมกับน้องเอก็ยังคุยกันอยู่ ทุกครั้งที่เราคุยกัน ผมจะรู้สึกได้เสมอว่าน้องเอก็มีความสุข และผมเองก็มีความสุขด้วย เวลาผมคุยกับน้องเอทุกครั้ง ผมมักจะหลีกเลี่ยงในการพูดถึงแฟนผม (เพราะน้องเอก็รู้จักแฟนผม และที่สำคัญตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่าผมเลิกกับแฟนผมแล้ว) และอีก 1 คำ ที่ผมจะหลีกเลี่ยงคือ "พี่ชาย" ซึ่งในใจผม มันไม่ได้อยากเป็นแค่พี่ชาย ณ ตอนนี้ วันนี้ ผมไม่รู้ว่าผมควรจะบอกกับเธอเลยไหมว่าผมชอบเธอ แต่ในใจลึกๆมันก็คอยเตือนอยู่เสมอว่า เธอเคยปฏิเสธเรามาแล้วหนนึง มันจึงทำให้ผมไม่กล้าพูดเรื่องนี้กับเธอ และเหตุการณ์ต่างๆ มักจะทำให้ผม "คิดเข้าข้างตัวเอง และทำให้มีความหวังขึ้นอีกหน" เช่น เหตุการณ์ในครั้งนี้
เหตุเกิดใน Facebook
ผม : คิดถึงจัง <----------- ประโยคนี้ผมไม่เคยพิมพ์หาเธอมาก่อน แต่วันนั้นนึกบ้าอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ เลยพิมพ์แหย่ๆไป
เอ :

ผม : อยากได้ยินคำว่าคิดถึงบ้างจัง
เอ :

จากนั้น ผมก็ไม่ได้คิดอะไร เราก็คุยกันถึงเรื่องอื่นตามปกติ แต่พอใกล้จะจบการสนทนานั้น
ผม : คงต้องไปแล้วล่ะ
เอ : เดี๋ยวนะคะ
เอ : มีอะไรจะบอกค่ะ
เอ : คิดถึงเหมือนกันนะคะ
แค่นั้นแหละ ความหวังของผมมันก็พุ่งปรี๊ดขึ้นอีกครั้ง T^T
และ เหตุการณ์ล่าสุด คือช่วงนี้ใกล้จะสอบของมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว ผมก็เลยตัดสินใจเลิกเล่นเฟส และจะฝากรหัสเฟสไว้กับน้องเอ (ผมเคยฝากรหัสไว้กับเธอแล้วครั้งนึงตอนผมอยู่ ม.ปลาย เธอเป็นคนดีมาก เธอไม่เปิดเฟสผมดูเลยสักครั้ง จึงทำให้ผมเชื่อใจเธอ) ผมก็พิมพ์ข้อความในเฟสไปบอกเธอ ประมาณว่าขอฝากเฟสไว้กับน้องเอด้วยนะ พอสอบเสร็จก็ให้เปลี่ยนกลับเป็นเหมือนเดิมให้หน่อย และได้พิมพ์เบอร์ของผมเอาไว้ด้วย เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้ส่ง sms มาบอกผมได้ (ตอนแรกก็ตัดสินใจอยู่นาน ว่าจะพิมพ์ไปดีหรือไม่ สุดท้ายก็ตัดสินใจลองพิมพ์ไป)
วันที่ผมพิมพ์ข้อความนี้ไปคือวันอังคาร พอถึงวันเสาร์ ผมก็อ่านหนังสือตามปกติ แต่อยู่ดีๆก็มี sms เข้ามา เป็นเบอร์ใครก็ไม่ทราบ บอกว่า "

ออนเฟสด่วน รหัส xxxxxx " ตอนแรกผมไม่ได้มีความคิดเลยว่าน้องเอจะส่งข้อความนี้มา ผมก็นึกไปว่า เอ๊ะ เพื่อนเหรอ ก็เลยส่งข้อความกลับไปว่า "มันคือรหัสอะไรครับ แล้วคุณคือใครครับ " สักพักนึงก็มี sms มาอีก จากเบอร์เดิม "ถ้าไม่ออน จะก่อกวน" ผมก็เริ่มเอะใจ รึว่านั่นจะเป็น..
หวังแค่เพียงมีใครบางคนเข้ามาอ่าน 1
ตอนนั้นผมอยู่ ม.5 เธออยู่ ม.1 เราสองคนอยู่โรงเรียนประจำ ช่วงนั้นเป็นช่วงเทอม 2 และเป็นช่วงที่โรงเรียนเข้าร่วมแข่งขันโรงเรียนพระราชทาน และแน่นอน โรงเรียนก็ต้องพรีเซนต์สิ่งที่ดีต่างๆของโรงเรียนให้แก่คณะกรรมการที่มาตรวจ นั่นจึงรวมไปถึงความสามารถของนักเรียนด้วย......
เธอคนนี้มีชื่อว่า เอ (นามสมมติ) เธอเป็นคนจีนแท้ๆ ที่เธอมาไทยเพราะว่าพ่อกับแม่เธอย้ายมาทำธุระกิจขายทองที่ไทย เธอจึงจำต้องย้ายมาด้วย ตอนนั้นเธอย้ายมาตอนอายุ 11 ขวบ เพื่อมาเรียนต่อที่ไทย แต่โรงเรียนใน จ.ที่เธออยู่นั้น ไม่ยอมให้เธอเรียนต่อในช่วงชั้นที่เธอจะต้องเรียน เธอจึงจำต้องเรียน ป.1 ใหม่ พร้อมพี่น้องของเธอ และนั่นทำเธอต้องเรียนช้ากว่าเด็กคนอื่นๆถึง 4 ปี แทนที่เธอจะอยู่ชั้นเดียวกับผม แต่กลับอยู่แค่ ม.1 นั่นเอง......
ด้วยความที่เธอเป็นคนจีน และอยู่เมืองไทยมาก็นานพอควร เธอจึงมีความสามารถพูดได้ทั้ง ไทย-จีน ดังนั้นทางโรงเรียนจึงได้แต่งตั้งให้เธอเป็นผู้ประชาสัมพันธ์ในการแข่งขันโรงเรียนพระราชทานในครั้งนี้...... ^_^
ครั้งแรกที่ผมเห็นน้องเอ ตามความคิดของผู้ชายทั่วไป เธอก็น่ารักดี เหมาะสมกับเด็กวัยนี้(ตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่าเธออายุพอๆกับผม ) ก็แค่ปลื้มธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อมารู้ทีหลังจากเพื่อนว่าเธออายุเท่าๆกับผม ตอนแรกผมตกใจมาก มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ ไม่เชื่อหรอก! แต่พอสืบจากเพื่อนเธอ ก็ได้รู้ว่าเรื่องที่ได้ยินจากเพื่อนมาเป็นเรื่องจริง....!
และแล้วโชคชะตาหรือฟ้าลิขิตก็ไม่รู้ วันนั้นเป็นวันศุกร์ เป็นวันหลังจากที่โรงเรียนจัดกิจกรรมปีใหม่ให้แก่นักเรียน มีดนตรี ของกินนู่นนี่นั่น ตามประสาโรงเรียนประจำ เป็นวันที่เด็กนักเรียนทุกคนรอการกลับบ้าน ผมกับเพื่อนๆอีก 3 คน ก็ต้องกลับบ้านเหมือนกัน จึงเดินไปเพื่อรอผู้ปกครองด้านหน้าโรงเรียน ปรากฏว่าเจอน้องเอ กำลังนั่งอยู่คนเดียว ด้วยความที่ผมและเพื่อนๆต่างก็ปลื้มเหมือนกัน(แต่ผมออกจะปลื้มมากเป็นพิเศษ 555) เราสี่คนจึงเดินไปนั่งคุยกับน้อง รู้สึกได้ว่าน้องเค้าคงเกร็งๆเหมือนกัน ที่ไม่รู้ว่าคนแปลกหน้าที่ไหนมาคุยด้วย แต่เมื่อเริ่มผ่อนคลาย จึงได้รู้ว่าน้องเอเป็นคนอัธยาศัยดี ไม่ถือตัว พูดง่ายๆว่าน่ารักมากกกกก 555 (เกินไปป่าวเนี่ย
หลังจากนั้นผมก็เริ่มหาเฟส หา e-mail เธอ จากทางเพื่อนเธอ และแล้วในที่สุดผมก็ตัดสินใจ Add MSN เธอไป หลังจากนั้นมาเราก็ได้คุยกันเรื่อยมา จนมีเหตุการณ์นึงที่ทำให้ผมนั้นคิดไปไกล นั่นคือ วันนั้นเป็นวันเสาร์ เราทั้งคู่ต่างกลับบ้าน วันนั้นเป็นวันที่ป๊าเธอกลับมาจากเมืองจีน ซื้อของ ซื้อขนมมาเยอะแยะ เราก็คุยกันทาง MSN เธอบอกว่าจะแอบเอาขนมมาให้ที่โรงเรียน ผมก็ อืมๆ เออออไปกับเค้า แล้วเราก็นัดเวลา สถานที่กัน (ตอนที่คุยกันตอนนั้นเป็นเวลาประมาณเที่ยงคืน คือผมอาสาอยู่เป็นเพื่อนเธอเพื่อรอป๊าเธอกลับมา เธอก็คงอยากจะขอบคุณผมก็เลยจะเอาขนมมาให้ แต่หารู้ไม่ ใจผมนั้นคิดไปไกลแล้วววว ^_^ )ที่สำคัญเธอบอกว่าห้ามไปบอกใครว่าได้มาจากที่ไหน ผมก็อืมๆ รับปาก (แต่ก็นะ มันอดไม่ได้ที่จะเล่าให้เพื่อนสนิทผมฟัง ก็คนที่เราแอบชอบเค้าอุตส่าห์เอาขนมจากเมืองจีนมาให้ เป็นใคร ใครก็ปลื้มมมมมม!!! 555 ) และนั่นก็เป็นเหตุการณ์ครั้งแรกที่ทำให้ผม....."ชอบเธอ"
ก่อนอื่นผมลืมเล่าไปเรื่องนึง ว่าผมก็มีคนที่แอบมาชอบผมเหมือนกัน เธอชื่อ บี (นามสมมติ) อยู่ระดับชั้นเดียวกับผม ทุกเช้านางบีจะเขียนเนื้อเพลงสั้นๆใส่กระดาษเล็กๆฝากเพื่อนมาส่งให้ผม ผมก็รู้สึกดีนะ ที่มีคนมาชอบ จนวันนึงได้เจอหน้านางบี ได้รู้จักนางบี เธอก็ไม่ใช่คนสวยอะไรหรอก ตัวผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่าเพื่อน เพราะหัวใจของผม มันได้ไปอยู่กับน้องเอแล้ว
ตามประสาของคนที่แอบชอบใครสักคน เขาก็จะคอยสอดส่องดูว่าคนที่เราแอบชอบนั้นทำอะไร อยู่ที่ไหน ชอบอะไร และแน่นอน นางบี ก็ได้รู้ว่า ผมแอบชอบน้องเออยู่ เป็นธรรมดาที่เธอจะไม่ชอบน้องเอ เวลาเธอเจอน้องเอ เธอและเพื่อนๆก็มักจะมองด้วยสายตาเหยียดๆ และบางทีก็แกล้งน้องเอบ้าง จึงทำให้น้องเอกลัวเธอและเพื่อนๆของเธอ
พอผมขึ้น ม.6 น้องเอก็ขึ้น ม.2 ห้องเรียนของผมย้ายไปอยู่ข้างๆห้องของเธอ (โรงเรียนผมเป็นแบบมีห้องประจำ มีครูประจำชั้น ^_^ ) เธอเริ่มมีอาการแปลกๆ เริ่มหลบตาผม เวลาคุยกันก็จะรู้สึกอึดอัดบ้าง แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไร จนมาวันนึง วันนั้นเป็นวันศุกร์ ผมและน้องเอไม่ได้กลับบ้าน เพราะว่าวันรุ่งขึ้นต้องไปสอบ สอวน. วันนั้น เธอเรียกผมไปคุยด้วย ผมก็ไป พอไปถึง เธอก็ไม่ค่อยกล้าที่จะถาม แต่สุดท้ายเธอก็เอ่ยออกมาว่า "พี่ชอบหนูใช่ไหม" ผมก็อึ้งเล็กน้อย และตอบไปว่า "ใช่" หลังจากนั้นเราก็คุยกันอยู่พักนึง ผลสุดท้ายน้องเอบอกผมว่า "หนูชอบพี่ไม่ได้หรอก มีเหตุผลหลายๆอย่างที่หนูชอบพี่ไม่ได้" น้องเอบอกว่า เธอชอบผู้ชายอีกคนนึง ซึ่งเป็นรุ่นน้องผม ซึ่งเป็คนที่มาจีบเธอก่อนผม ผมยอมรับว่าตอนนั้นผมเศร้ามาก และเชื่อในคำที่น้องเอบอกทุกคำ (เพราะก่อนหน้านี่ ก็เคยมีข่าวลือว่ารุ่นน้องผมคนนี้จีบเธอจริงๆ แต่ผมไม่คิดว่าเธอจะชอบจริงๆ T^T ) คืนนั้นผมจึงหยิบไดอารี่ที่ผมเขียนถึงเธอตั้งแต่วันแรกที่เราได้คุยกัน ขึ้นมาเขียนเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาในวันนี้ (อยากจะบอกว่าผมชอบเธอคนนี้มาก ขนาดเขียนไดอารี่ให้เธอ ซึ่งตัวผมเองนั้นแทบจะขี้เกียจให้ตัวเองเลย ^_^ ) ผมเขียนหน้าสุดท้ายนี้ด้วยปากกาสีดำ (นึกบ้าอะไรก็ไม่รู้ถึงใช้สีดำ ปกติจะใช้ปากกาสีอื่นตลอด สงสัยคงอยากให้เขาหันมาสนใจเราเป็นครั้งสุดท้ายมั้ง เผื่อเธอจะเปลี่ยนใจ ฮ่าๆๆๆ) อยากเขียนอะไรก็เขียนไป ระบายความอัดอั้นในใจออกมาให้หมด แล้ววันรุ่งขึ้น ผมก็นัดเธอให้มาเจอกับผม และยื่นไดอารี่เล่มนี้ที่ผมเขียนให้เธอ ให้เธอไป.......
วันต่อมา ผมได้รู้ว่าเธอได้อ่านเนื้อความในนั้นแล้ว และเธอก็ร้องไห้ด้วย (ผมทราบมาจากเพื่อนน้องเอ) แล้วในตอนเย็นวันนั้นเราก็ได้นัดเจอกัน แล้วคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อปรับความเข้าใจกัน และวันนั้นก็จบลงไปด้วยดี ผมและเธอสัญญากันว่าเราสองคนจะเป็นพี่ชาย-น้องสาว กัน......
ช่วงนั้นเป็นช่วง เทอม 2 ซึ่งผมก็ต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ในช่วงนั้นผมยอมรับว่าผมเหงา เหงาจริงๆ ในความคิดผมคืออยากมีใครสักคนคอยโทรหากัน คอยคิดถึงกัน และคำตอบสุดท้าย เธอคนนั้นก็คือเพื่อนร่วมห้องของผมเอง เธอมีชื่อว่า ซี (นามสมมติ) ผมและซีตัดสินใจคบกัน ตอนนั้นผมรักนางซีมาก และผมก็รู้ว่านางซีก็รักผมเหมือนกัน เราสองคนก็จู๋จี๋กันอ่ะนะ ตามประสาคนรักกันใหม่ๆ แล้วยิ่งอยู่ห้องเดียวกันอีก เราก็ได้เจอกันแทบทุกเวลา เวลากลับหอผมก็จะไปส่งเธอทุกวัน ^_^
แต่แล้ว เมื่อผมใกล้จะจบ ตอนนั้นผมสอบติดคณะวิศวะ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ส่วนแฟนผมในตอนนั้นก็ติดมหาวิทยาลัยเดียวกับผม ซึ่งเหตุการณ์ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่แล้ว ก่อนจบ น้องเอ คนที่ผมเคยแอบชอบ ก็ได้นำของมาให้ผม (ก่อนหน้านี้ ผมและน้องเอ เราก็คุยกันแบบพี่ชาย-น้องสาวกันมาตลอดนะ ) ซึ่งมีข้อแม้ว่าผมจะต้องไปรับด้วยตัวเอง ผมก็อืมๆ ก็ไปรับ ปรากฏว่าเป็นของขวัญ 5 อย่าง (ผมเคยพูดแซวๆไปว่า พอถึงวันเกิดพี่ อยากได้ของขวัญตามจำนวนวันเกิดจังเลย เพราะผมเกิดวันที่ 5 นั่นเอง) ผมก็รับมา และกลับไปเปิดดูที่หอ ปรากฏว่าของ 5 อย่างนั้นประกอบไปด้วย
1.หนังสือเกี่ยวกับความรัก
2.ตุ๊กตาแร็คคูนเอาใว้ใส่ดินสอ
3.เป็นสมุดบันทึก
4.สมุดหน้ารูปคนแลบลิ้น (เพราะผมชอบ
และชิ้นสุดท้าย เป็นไดอารี่ที่เธอเขียนให้ผม โดยใช้เวลา 3 วัน 3 คืนในการเขียนให้ผม และเธอก็ไม่เคยเขียนให้ใครมาก่อน
เธอเขียนประวัติของเธอ มุมมองด้านความรักของเธอ และคำอวยพรต่างๆ เมื่อผมเปิดอ่านข้างในนั้น ผมรู้สึกดีใจมากกกกกกกกกกกก และรู้สึกมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง ผมได้รู้ความจริงทุกอย่าง ผมได้รู้ว่าเธอไม่ได้ชอบกับคนๆนั้น(ที่เธออ้างว่ามาจีบเธอคนแรก) ผมได้รู้ว่าที่เธอชอบผมไม่ได้ก็เพราะเธอกลัวคนที่ชอบผมจะมาแกล้งเธออีก(นางบีและเพื่อนๆนั่นเอง ) เธอจึงบอกกับตัวเอง "ห้ามชอบพี่คนนี้เด็ดขาด" (เธอเขียนประโยคนี้ลงในไดอารี่เล่มนั้น) แต่ที่น่าเศร้าหน่อยๆ คือหน้าสุดท้ายของไดอารี่ เธอวาดรูปผมกับแฟนคนปัจจุบัน และเขียนข้อความว่ารักกันตลอดไปนะคะ ประมาณนั้น แต่ก็นะ แค่นี้ผมก็ดีใจมากกกกกกแล้ว
วันเวลาผ่านพ้นไป ผมจบม.6 ตอนนี้ผมอยู่ปี1 และผมกับแฟนก็ยังคบกันอยู่ ผมยอมรับว่าผมยังติดต่อกับน้องเอทางเฟสอยู่ เราคุยกัน เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น เริ่มแกล้งกัน หยอกล้อกันได้มากขึ้น Emoticon ที่เราชอบใช้กันคือ
ผมไม่รู้ว่าสิ่งๆนี้เรียกว่าความรักหรือไม่ ผมไม่รู้ว่าแค่ชอบ หรือแค่ปลื้ม แต่ผมรู้แค่ว่า ทุกครั้งที่ผมได้คุยกับน้องเอ แม้จะเป็นแค่ทางเฟส ผมก็รู้สึกดีใจ เวลาน้องเอมีเรื่องไม่สบายใจอะไรก็มักจะเล่าให้ผมฟัง จนบางครั้งผมก็แอบไปคิดว่าน้องเออาจจะชอบผม แต่นั้นก็ได้แค่คิด จนปัจจุบันนี้ ผมกับน้องเอก็ยังคุยกันอยู่ ทุกครั้งที่เราคุยกัน ผมจะรู้สึกได้เสมอว่าน้องเอก็มีความสุข และผมเองก็มีความสุขด้วย เวลาผมคุยกับน้องเอทุกครั้ง ผมมักจะหลีกเลี่ยงในการพูดถึงแฟนผม (เพราะน้องเอก็รู้จักแฟนผม และที่สำคัญตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่าผมเลิกกับแฟนผมแล้ว) และอีก 1 คำ ที่ผมจะหลีกเลี่ยงคือ "พี่ชาย" ซึ่งในใจผม มันไม่ได้อยากเป็นแค่พี่ชาย ณ ตอนนี้ วันนี้ ผมไม่รู้ว่าผมควรจะบอกกับเธอเลยไหมว่าผมชอบเธอ แต่ในใจลึกๆมันก็คอยเตือนอยู่เสมอว่า เธอเคยปฏิเสธเรามาแล้วหนนึง มันจึงทำให้ผมไม่กล้าพูดเรื่องนี้กับเธอ และเหตุการณ์ต่างๆ มักจะทำให้ผม "คิดเข้าข้างตัวเอง และทำให้มีความหวังขึ้นอีกหน" เช่น เหตุการณ์ในครั้งนี้
เหตุเกิดใน Facebook
ผม : คิดถึงจัง <----------- ประโยคนี้ผมไม่เคยพิมพ์หาเธอมาก่อน แต่วันนั้นนึกบ้าอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ เลยพิมพ์แหย่ๆไป
เอ :
ผม : อยากได้ยินคำว่าคิดถึงบ้างจัง
เอ :
จากนั้น ผมก็ไม่ได้คิดอะไร เราก็คุยกันถึงเรื่องอื่นตามปกติ แต่พอใกล้จะจบการสนทนานั้น
ผม : คงต้องไปแล้วล่ะ
เอ : เดี๋ยวนะคะ
เอ : มีอะไรจะบอกค่ะ
เอ : คิดถึงเหมือนกันนะคะ
แค่นั้นแหละ ความหวังของผมมันก็พุ่งปรี๊ดขึ้นอีกครั้ง T^T
และ เหตุการณ์ล่าสุด คือช่วงนี้ใกล้จะสอบของมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว ผมก็เลยตัดสินใจเลิกเล่นเฟส และจะฝากรหัสเฟสไว้กับน้องเอ (ผมเคยฝากรหัสไว้กับเธอแล้วครั้งนึงตอนผมอยู่ ม.ปลาย เธอเป็นคนดีมาก เธอไม่เปิดเฟสผมดูเลยสักครั้ง จึงทำให้ผมเชื่อใจเธอ) ผมก็พิมพ์ข้อความในเฟสไปบอกเธอ ประมาณว่าขอฝากเฟสไว้กับน้องเอด้วยนะ พอสอบเสร็จก็ให้เปลี่ยนกลับเป็นเหมือนเดิมให้หน่อย และได้พิมพ์เบอร์ของผมเอาไว้ด้วย เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้ส่ง sms มาบอกผมได้ (ตอนแรกก็ตัดสินใจอยู่นาน ว่าจะพิมพ์ไปดีหรือไม่ สุดท้ายก็ตัดสินใจลองพิมพ์ไป)
วันที่ผมพิมพ์ข้อความนี้ไปคือวันอังคาร พอถึงวันเสาร์ ผมก็อ่านหนังสือตามปกติ แต่อยู่ดีๆก็มี sms เข้ามา เป็นเบอร์ใครก็ไม่ทราบ บอกว่า "