ตอนที่ 34: ผลึกลับ (ครึ่งหลัง)
http://pantip.com/topic/30108749
คุยกันก่อนนะคะ
(คราวที่แล้วงงกับระบบของพันทิปจริงๆ กลายเป็นว่ามาตอบสองรอบ ^^” คงไม่ทำให้รำคาญนะคะ)
คุณ ซาลาสซา: เพราะเจ้าตัวมีความหลังเป็นปริศนาเลยไม่อยากให้คนอื่นรู้ค่ะ
(สำหรับเนื้อเรื่อง ตัวเรามาอ่านซ้ำอีกก็ยังเจอที่เขียนตกหล่น ว้า...แย่จัง)
คุณ Psycho man: อารมันมันก็กวนอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เป็นทีเด็ดของมันเลยนา
คุณ zoi: เห็นเจ้าพอแว้บๆ แต่การงานและเรื่องส่วนตัวของเรายุ่งเหยิงไปหมด (แถมหมู่นี้กระทู้ในถนนฯ ตกเร็วจริงๆ) เดี๋ยวพรุ่งนี้มาตามเก็บนะคะ
คุณ Scottie: ใกล้เคียงมว๊ากกก (ว้ากกกก << เสียงกรีดร้องของคนเขียน)
คุณ Cool_Blue: นั่นสิใครกัน? แต่รามิตกับอารมันไม่ใช่ฝาแฝดแน่ อันนี้คนเขียนฟันธงให้นะ ^^”
คุณ น้องอัญญ์: น้องจำแม่นเป๊ะเลย ไม่ผิดค่ะ (อย่าลืมอ่านหนังสือน๊ะจ๊ะ เข้าฤดูกาลสอบอีกแล้ว)
คุณ ลูนาติก: โดนจับได้อีกละ (อุตส่าห์เนียน)
คุณ kiikifon: ปริศนารามิตกับอารมันต้องรออ่านต่อไปค่ะ ^^,
และขอขอบคุณผู้ให้ Give นะคะ: คุณ ลูนาติก, คุณ Phoenixorus , คุณ ชัดเจนน้องนาง, คุณ lovereason (เย้! น้องใหม่), คุณ zoi, คุณ Psycho man , และ คุณ ซาลาสซา ค่ะ,
ขอบคุณสำหรับคุณ loveseason, คุณ Psycho man และ คุณ ซาลาสซา อีกครั้งที่แบ่ง give ให้ทุกตอนค่ะ ^^
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
อารมันเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากบุษบามินตราเพื่อให้เธอใช้เวทวิวัฒน์เพื่อตรวจสอบผลึกประหลาดชิ้นหนึ่งโดยใช้ร่วมกับการใช้วงจตุบรรพ์ของอารมัน และของชิ้นนั้นนำทางทั้งสองใปสู่สถานที่ประหลาดแห่งหนึ่ง ทว่าที่สำคัญกว่าคือทั้งสองคิดว่าได้พบกับผู้ที่ตนกำลังตามหาอยู่ในสถานที่นั้นด้วย
35. เทวะที่สาบสูญ
“กับดัก!” อารมันโพล่งขึ้นกลางห้อง หลังจากเดินวนไปเวียนมาในห้องแผนที่ของโรงปักษาจนแม้แต่ทันวายังแปลกใจในท่าทีของฝ่ายตรงข้าม เจ้าเผ่าเวนไตยรีบเดินทางมาหาเทวะหนุ่มทันทีที่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการว่าตัวแทนของเผ่าตน ‘ชนะขาด’ แบบไร้สิ้นข้อกังขาในงานปัญจยุทธ แม้ว่าแท้จริงแล้วการที่เขาให้อารมันมาแข่งขันในนามนักรบแห่งเวนไตยเพื่อป้องกันภัยให้เหล่าพิรเทพไปพร้อมกับให้งานปัญจยุทธสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีเพราะหลังจากที่จ้าวแดนตะวันออกได้ผ่านด่านคัดเลือกเป็นพิรเทพ ไม่ปรากฎเลยว่าจะมีเทพนักรบใดหาญเข้ามาร่วมอีก อารมันจึงเข้ามาเพราะการณ์นั้นตามคำสั่งของเขาเอง มิได้หมายว่าอยากให้เผ่าตนกำชัยชนะ หากทว่าในความเป็นจริงลึกๆ ทันวาก็ปฎิเสธตนเองไม่ได้เหมือนกันว่า มันไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ บังเอิญหรือโชคช่วย หากอารมันจะได้ชัยในปัญจยุทธครานี้
หากเป็นเช่นนั้นจริงมันมีข้อดีและไม่ดีรวมอยู่ด้วย ข้อดีคือในที่สุด...เหล่าเทพนักรบได้ประจักษ์ว่า ‘ลมบ้าแห่งผาครุฑ’ ที่เคยเกรียงไกรในยุคก่อนว่าเป็นอย่างไร ส่วนข้อตรงข้ามคือ นับบัดนี้อารมันจะกลายเป็นเป้าหมายที่เด่นชัดทันที ไม่ว่าจากมิตรหรือศัตรู... และที่เขาต้องรีบมาเตือนอารมันเพราะข้อหลังนี้เป็นสำคัญ ที่ผ่านมาทันวานึกตำหนิตัวเองว่าคิดเข้าข้างแต่เผ่าตนเองจนลืมความปลอดภัยของเทวะหนุ่ม ลืมไปว่าเขายังมีความลับที่ไม่สามารถทำให้เปิดเผยตัวตนได้โจ่งแจ้ง ลืมว่าไปว่าเขายังมีศัตรูรอคอยไล่ล่าอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่เบื้องนอก
ที่สำคัญหากจ้าวแดนตะวันออกมีชัยชนะเหนือตัวแทนป้อมนักล่าเมื่อไร อารมันคงไม่มีทางเลี่ยงศึกกับจ้าววังสุริยัน เมื่อนั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เขาไม่อาจนึกได้ ทว่าเมื่อมาถึงยังโรงปักษาของอารมัน กลับพบเจ้าตัวกำลังโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง ครั้นเมื่อเลียบๆ เคียงๆ ถามกับเมธินจึงได้ความ
“มันเป็นกับดักแน่ขอรับ” อารมันย้ำท่าทียังกระฟัดกระเฟียด ไม่สบอารมณ์เหมือนกำลังโมโหใครสักคน ทันวามองปฎิกิริยาของฝ่ายตรงข้ามจึงรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพูดปราม
อย่าเอาเรือขวางจะดีกว่า
“เจ้าจะอ้างข้าก็ได้นะอารมัน” อดีตเทพตุลาการว่าขึ้น “เพราะข้าเป็นผู้สั่งให้เจ้านำหลักฐานชิ้นนั้นไปให้บุษบามินตราเอง หากเรื่องนี้จะมีใครผิด น่าจะเป็นข้าละ เหมาะที่สุด”
แม้แต่คำพูดของทันวาก็ไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปสักพักอารมันจึงเพิ่งรู้สึกตัว พลันถอนหายใจยาว “ขออภัยขอรับท่านทันวา แต่ข้าไม่ได้ต้องการจะโทษใครในเรื่องที่เกิดขึ้น เพียงแต่...ที่ข้าโกรธ เพราะข้าอยู่ที่นั่น แต่ข้าก็ยังปล่อยให้เกิดเรื่องจนได้ ทั้งหมดมาจากความประมาทของข้าเอง”
“ไม่มีใครรู้ล่วงเหตุล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งเจ้าไม่รู้ตัวนี่ว่ากำลังจะเผชิญหน้ากับอะไรมาก่อน เลิกโทษตัวเองเถอะ ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก อุมาเมขลาเองก็ตกใจและรู้สึกผิดไม่น้อยไปกว่าเจ้าหรอก” ว่าแล้วจึงกระแอมเบาๆ เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “บางทีมันอาจจะไม่ใช่กับดักก็ได้นะอารมัน ลองเล่าให้ข้าฟังอีกทีสิว่าผลึกชิ้นนั้นนำเจ้าไปที่ใดมาบ้าง ช้าๆ ใจเย็นๆ” เขากำกับ
จ้าวจตุรทิศ ภาคจัณฑวาตา: ตอนที่ 35 เทวะที่สาบสูญ (ส่วนแรก 1/3)
คุยกันก่อนนะคะ
(คราวที่แล้วงงกับระบบของพันทิปจริงๆ กลายเป็นว่ามาตอบสองรอบ ^^” คงไม่ทำให้รำคาญนะคะ)
คุณ ซาลาสซา: เพราะเจ้าตัวมีความหลังเป็นปริศนาเลยไม่อยากให้คนอื่นรู้ค่ะ
(สำหรับเนื้อเรื่อง ตัวเรามาอ่านซ้ำอีกก็ยังเจอที่เขียนตกหล่น ว้า...แย่จัง)
คุณ Psycho man: อารมันมันก็กวนอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เป็นทีเด็ดของมันเลยนา
คุณ zoi: เห็นเจ้าพอแว้บๆ แต่การงานและเรื่องส่วนตัวของเรายุ่งเหยิงไปหมด (แถมหมู่นี้กระทู้ในถนนฯ ตกเร็วจริงๆ) เดี๋ยวพรุ่งนี้มาตามเก็บนะคะ
คุณ Scottie: ใกล้เคียงมว๊ากกก (ว้ากกกก << เสียงกรีดร้องของคนเขียน)
คุณ Cool_Blue: นั่นสิใครกัน? แต่รามิตกับอารมันไม่ใช่ฝาแฝดแน่ อันนี้คนเขียนฟันธงให้นะ ^^”
คุณ น้องอัญญ์: น้องจำแม่นเป๊ะเลย ไม่ผิดค่ะ (อย่าลืมอ่านหนังสือน๊ะจ๊ะ เข้าฤดูกาลสอบอีกแล้ว)
คุณ ลูนาติก: โดนจับได้อีกละ (อุตส่าห์เนียน)
คุณ kiikifon: ปริศนารามิตกับอารมันต้องรออ่านต่อไปค่ะ ^^,
และขอขอบคุณผู้ให้ Give นะคะ: คุณ ลูนาติก, คุณ Phoenixorus , คุณ ชัดเจนน้องนาง, คุณ lovereason (เย้! น้องใหม่), คุณ zoi, คุณ Psycho man , และ คุณ ซาลาสซา ค่ะ,
ขอบคุณสำหรับคุณ loveseason, คุณ Psycho man และ คุณ ซาลาสซา อีกครั้งที่แบ่ง give ให้ทุกตอนค่ะ ^^
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
อารมันเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากบุษบามินตราเพื่อให้เธอใช้เวทวิวัฒน์เพื่อตรวจสอบผลึกประหลาดชิ้นหนึ่งโดยใช้ร่วมกับการใช้วงจตุบรรพ์ของอารมัน และของชิ้นนั้นนำทางทั้งสองใปสู่สถานที่ประหลาดแห่งหนึ่ง ทว่าที่สำคัญกว่าคือทั้งสองคิดว่าได้พบกับผู้ที่ตนกำลังตามหาอยู่ในสถานที่นั้นด้วย
35. เทวะที่สาบสูญ
“กับดัก!” อารมันโพล่งขึ้นกลางห้อง หลังจากเดินวนไปเวียนมาในห้องแผนที่ของโรงปักษาจนแม้แต่ทันวายังแปลกใจในท่าทีของฝ่ายตรงข้าม เจ้าเผ่าเวนไตยรีบเดินทางมาหาเทวะหนุ่มทันทีที่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการว่าตัวแทนของเผ่าตน ‘ชนะขาด’ แบบไร้สิ้นข้อกังขาในงานปัญจยุทธ แม้ว่าแท้จริงแล้วการที่เขาให้อารมันมาแข่งขันในนามนักรบแห่งเวนไตยเพื่อป้องกันภัยให้เหล่าพิรเทพไปพร้อมกับให้งานปัญจยุทธสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีเพราะหลังจากที่จ้าวแดนตะวันออกได้ผ่านด่านคัดเลือกเป็นพิรเทพ ไม่ปรากฎเลยว่าจะมีเทพนักรบใดหาญเข้ามาร่วมอีก อารมันจึงเข้ามาเพราะการณ์นั้นตามคำสั่งของเขาเอง มิได้หมายว่าอยากให้เผ่าตนกำชัยชนะ หากทว่าในความเป็นจริงลึกๆ ทันวาก็ปฎิเสธตนเองไม่ได้เหมือนกันว่า มันไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ บังเอิญหรือโชคช่วย หากอารมันจะได้ชัยในปัญจยุทธครานี้
หากเป็นเช่นนั้นจริงมันมีข้อดีและไม่ดีรวมอยู่ด้วย ข้อดีคือในที่สุด...เหล่าเทพนักรบได้ประจักษ์ว่า ‘ลมบ้าแห่งผาครุฑ’ ที่เคยเกรียงไกรในยุคก่อนว่าเป็นอย่างไร ส่วนข้อตรงข้ามคือ นับบัดนี้อารมันจะกลายเป็นเป้าหมายที่เด่นชัดทันที ไม่ว่าจากมิตรหรือศัตรู... และที่เขาต้องรีบมาเตือนอารมันเพราะข้อหลังนี้เป็นสำคัญ ที่ผ่านมาทันวานึกตำหนิตัวเองว่าคิดเข้าข้างแต่เผ่าตนเองจนลืมความปลอดภัยของเทวะหนุ่ม ลืมไปว่าเขายังมีความลับที่ไม่สามารถทำให้เปิดเผยตัวตนได้โจ่งแจ้ง ลืมว่าไปว่าเขายังมีศัตรูรอคอยไล่ล่าอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่เบื้องนอก
ที่สำคัญหากจ้าวแดนตะวันออกมีชัยชนะเหนือตัวแทนป้อมนักล่าเมื่อไร อารมันคงไม่มีทางเลี่ยงศึกกับจ้าววังสุริยัน เมื่อนั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เขาไม่อาจนึกได้ ทว่าเมื่อมาถึงยังโรงปักษาของอารมัน กลับพบเจ้าตัวกำลังโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง ครั้นเมื่อเลียบๆ เคียงๆ ถามกับเมธินจึงได้ความ
“มันเป็นกับดักแน่ขอรับ” อารมันย้ำท่าทียังกระฟัดกระเฟียด ไม่สบอารมณ์เหมือนกำลังโมโหใครสักคน ทันวามองปฎิกิริยาของฝ่ายตรงข้ามจึงรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพูดปราม อย่าเอาเรือขวางจะดีกว่า
“เจ้าจะอ้างข้าก็ได้นะอารมัน” อดีตเทพตุลาการว่าขึ้น “เพราะข้าเป็นผู้สั่งให้เจ้านำหลักฐานชิ้นนั้นไปให้บุษบามินตราเอง หากเรื่องนี้จะมีใครผิด น่าจะเป็นข้าละ เหมาะที่สุด”
แม้แต่คำพูดของทันวาก็ไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปสักพักอารมันจึงเพิ่งรู้สึกตัว พลันถอนหายใจยาว “ขออภัยขอรับท่านทันวา แต่ข้าไม่ได้ต้องการจะโทษใครในเรื่องที่เกิดขึ้น เพียงแต่...ที่ข้าโกรธ เพราะข้าอยู่ที่นั่น แต่ข้าก็ยังปล่อยให้เกิดเรื่องจนได้ ทั้งหมดมาจากความประมาทของข้าเอง”
“ไม่มีใครรู้ล่วงเหตุล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งเจ้าไม่รู้ตัวนี่ว่ากำลังจะเผชิญหน้ากับอะไรมาก่อน เลิกโทษตัวเองเถอะ ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก อุมาเมขลาเองก็ตกใจและรู้สึกผิดไม่น้อยไปกว่าเจ้าหรอก” ว่าแล้วจึงกระแอมเบาๆ เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “บางทีมันอาจจะไม่ใช่กับดักก็ได้นะอารมัน ลองเล่าให้ข้าฟังอีกทีสิว่าผลึกชิ้นนั้นนำเจ้าไปที่ใดมาบ้าง ช้าๆ ใจเย็นๆ” เขากำกับ