ตอนที่ 38: บุกป้อมนักล่า (1/3)
http://pantip.com/topic/31251106
คุยกันก่อนนะคะ
คุณ zoi: ใช่ๆ เวลาอ่านเรื่องยาวๆ ต้องใช้พลังงานอย่างสูง (อุ๊บ วกเข้าหาตัวเอง) ต้องหาเรื่องอื่นๆ มาเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง
คุณ kiikifon (709113): ขอบคุณมากที่ยังไม่หายไปไหนค่ะ (รวมทั้งคนอื่นๆ ด้วยนะคะ)
คุณ น้องอัยย์ (ตะวันรัตติกาล): ฮั่นแน่ ชื่อใหม่ Log in เท่เชียว ^^
คุณ Phoenixorus: ขอบคุณมากค่ะ, แค่มีคนอ่าน คนเขียน (ทุกคน) สู้ตายอยู่แล้วค่ะ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
ในที่สุดการดวลกันระหว่างตัวแทนจากป้อมนักล่าและจ้าววังสุริยันในก็เกิดขึ้น นักรบทั้งสองทิศต่างมุ่งมั่นเพื่อเอาชนะกันเพื่อเกียรติยศของตระกูลและเรื่องส่วนตัว แต่อารมันผู้เป็นตัวแทนเผ่าเวนไตยที่เป็นคนแรกที่ชนะในการดวลกับเผ่าคารูณอย่างขาดลอยกลับต้องการถอนตัวออกจากศึกปัญจยุทธ
38. บุกป้อมนักล่า (2/3)
ทันวาชะงัก ไม่แน่ใจครู่หนึ่งว่าตนเองได้ยินอะไร
“ขออภัยที่ข้าทำไปโดยพลการ แต่ว่า...เมื่อเช้านี้ข้าได้ส่งสารถอนตัวออกจากงานปัญจยุทธไปที่ฝ่ายพิธีการแล้วขอรับ”
“อะไรนะ!” เจ้าเผ่าเวนไตยเพิ่งได้สติ อุทานอย่างลืมตัว
“ภารกิจของข้าได้บรรลุผลไปแล้วตั้งแต่วันแรกที่งานปัญจยุทธได้ครบห้าเทพนักรบ ความจริงข้าต้องเป็นฝ่ายไปถึงที่หุบเงาก่อนคนอื่น ทว่าข้ากลับทำผิดพลาดปล่อยให้ท่านวาฬาและพิรเทพผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ เรื่องในวันนั้นผู้ที่สมควรถูกตำหนิที่สุดน่าจะเป็นข้ามากกว่าใคร”
“แต่ก็เป็นเพราะเจ้า เหล่าพิรเทพถึงรอดกลับมาอย่างปลอดภัย” ทันวาท้วง “เจ้ารออยู่นี่แหละ แม้จะอย่างไรข้ายังคงเป็นเจ้าเผ่าเวนไตย ทางฝ่ายพิธีการต้องรับคำค้านจากข้าแน่” เทพอาวุโสไม่พูดเปล่ายังทำท่าจะจากไปทันที
“ท่านทันวาอย่าได้ทำเช่นนั้นเลยขอรับ” อารมันร้องห้าม “...นั่นเป็นสิ่งที่ข้าตัดสินใจไปแล้ว ที่ผ่านมาข้าเองก็รู้ว่าท่านต้องการให้เผ่าเวนไตยได้รับเกียรติในฐานะนักรบแห่งผาสูง ขออภัยที่ข้าทำให้ท่านและพี่น้องร่วมเผ่าของข้าต้องผิดหวัง แต่ข้าเกรงว่าไม่อาจร่วมปัญจยุทธได้อีกต่อไป”
ในคราแรกเจ้าเผ่าเวนไตยอ้าปากจะบอกบางอย่าง แต่แล้วกลับหรี่ตาลง อีกครั้งที่สายตาเหยี่ยวตุลาการไม่เคยมองพลาด “เจ้าจะไปเกาะแห่งความตายใช่ไหม เจ้าจะไปช่วยศิษย์เอกจอมเทพออกมา แม้จะรู้ว่าเป็นกับดักก็ตาม เฮอะ...เจ้าบ้า...” คำหลังจงใจตำหนิ “เจ้านี่มันบ้าสมคำว่า
ลมบ้าแห่งผาพญาครุฑ จริง”
ครั้นอารมันไม่โต้ตอบ กลับหันหน้าไปทางอื่น ทันวาจึงตระหนักว่าการคาดเดาของเขาถูกต้อง “เจ้าได้ให้คำสัญญาไว้แล้ว ไม่ว่ามันจะเป็นกับดักหลอกหรือเรื่องจริง
เจ้าคนเดียว...เจ้าคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ใช่ผู้ที่จะเดินทางไปที่นั่น อารมัน...เพราะเจ้าไม่รู้ถึงอันตรายที่รอคอยอยู่”
“หากข้ากับศิษย์เอกจอมเทพเป็น
ร่างเดียวกัน ต่างหาก ข้าถึงจะมีอันตราย” อารมันสวนในทันใด
ทันวาอ้าปากค้าง “เจ้ารู้แล้ว...งั้นหรือ”
อารมันส่ายศีรษะ “ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยคิดว่าข้าเป็นศิษย์เอกจอมเทพ จะว่าไป...ข้าไม่เคยสนใจเลยด้วยซ้ำ จนกระทั่งข้าพบกับท่านเมธิน แม้เขาจะไม่ได้สาบานหรือยืนยันอย่างหนักแน่น ทว่าสามารถตอบคำถามของข้าได้หลายอย่างทีเดียว โดยเฉพาะ...” อารมันเอามือทาบลงกลางอก “เรื่องแผลเป็นที่ไม่รู้ที่มาที่ไปบนร่าง มันสาหัสเกินกว่าจะเป็นอาวุธเวทสามัญ หรือต่อให้ข้าโดนฟาดจากสี่คทาเอก ร่วงตกจากหลังนก ไฟไหม้ หรือโดนลงทัณฑ์สถานหนักจากสภาตุลาการ ร่องรอยของมันคงไม่ปรากฏเป็นแบบนี้...”
อารมันเงยหน้าขึ้น ทันวาคิดว่าในชั่วขณะนั้นเขาได้เห็นตัวตนอีกด้านหนึ่งของฝ่ายตรงข้าม เทวะหนุ่มหายใจลึกก่อนจะกล่าวช้าๆ อย่างมั่นใจ
“มันคือกรงเล็บขอรับ ไม่เพียงแต่จะคมกริบเหมือนมีดดาบแต่ยังแฝงด้วยพิษร้ายอย่างมหันต์ ข้าน่าจะตายเพราะบาดแผลฉกรรจ์หรือพิษของพญาบาดาลไปนานแล้ว ให้ตายสิ...มันต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสแน่”
“อารมัน เจ้ารู้อย่างนี้แล้ว ยังคิด...”
“ตอนนี้ข้ายังคงเป็นอารมันแห่งเวนไตย” อีกครั้งที่เทวะหนุ่มกล่าวด้วยถ้อยคำหนักแน่น “แม้ไม่มีเรื่องศิษย์เอกจอมเทพหรือเกาะแห่งความตายเข้ามาเกี่ยวข้อง การถอนตัวจากปัญจยุทธก็เป็นความตั้งใจแต่แรกของข้า” จากนั้นอารมันจงใจตั้งคำถามตรงๆ “ท่านคงไม่ได้ตั้งใจส่งข้ามาเพื่อชนะในงานปัญจยุทธใช่ไหมขอรับ”
ทว่าทันวายังไม่ทันจะตอบสิ่งใดออกไป ก็พลันบังเกิดเสียงกรีดร้องดังออกมาภายนอก ทั้งทันวาและอารมันผุดลุกเกือบพร้อมกัน
“ทุ่งม้าวิ่ง!” เป็นทันวาที่โพล่งขึ้นมาก่อน
โดยไม่ต้องรอให้เทพอาวุโสออกคำสั่ง อารมันร้องบอกให้นักล่านกส่วนหนึ่งติดตามเขาไปยังทุ่งพยุอัสดร ส่วนที่เหลือรออยู่ในโรงปักษา
*****
จ้าวจตุรทิศ ภาคจัณฑวาตา ตอนที่ 38: บุกป้อมนักล่า (2/3)
คุยกันก่อนนะคะ
คุณ zoi: ใช่ๆ เวลาอ่านเรื่องยาวๆ ต้องใช้พลังงานอย่างสูง (อุ๊บ วกเข้าหาตัวเอง) ต้องหาเรื่องอื่นๆ มาเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง
คุณ kiikifon (709113): ขอบคุณมากที่ยังไม่หายไปไหนค่ะ (รวมทั้งคนอื่นๆ ด้วยนะคะ)
คุณ น้องอัยย์ (ตะวันรัตติกาล): ฮั่นแน่ ชื่อใหม่ Log in เท่เชียว ^^
คุณ Phoenixorus: ขอบคุณมากค่ะ, แค่มีคนอ่าน คนเขียน (ทุกคน) สู้ตายอยู่แล้วค่ะ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
ในที่สุดการดวลกันระหว่างตัวแทนจากป้อมนักล่าและจ้าววังสุริยันในก็เกิดขึ้น นักรบทั้งสองทิศต่างมุ่งมั่นเพื่อเอาชนะกันเพื่อเกียรติยศของตระกูลและเรื่องส่วนตัว แต่อารมันผู้เป็นตัวแทนเผ่าเวนไตยที่เป็นคนแรกที่ชนะในการดวลกับเผ่าคารูณอย่างขาดลอยกลับต้องการถอนตัวออกจากศึกปัญจยุทธ
38. บุกป้อมนักล่า (2/3)
ทันวาชะงัก ไม่แน่ใจครู่หนึ่งว่าตนเองได้ยินอะไร
“ขออภัยที่ข้าทำไปโดยพลการ แต่ว่า...เมื่อเช้านี้ข้าได้ส่งสารถอนตัวออกจากงานปัญจยุทธไปที่ฝ่ายพิธีการแล้วขอรับ”
“อะไรนะ!” เจ้าเผ่าเวนไตยเพิ่งได้สติ อุทานอย่างลืมตัว
“ภารกิจของข้าได้บรรลุผลไปแล้วตั้งแต่วันแรกที่งานปัญจยุทธได้ครบห้าเทพนักรบ ความจริงข้าต้องเป็นฝ่ายไปถึงที่หุบเงาก่อนคนอื่น ทว่าข้ากลับทำผิดพลาดปล่อยให้ท่านวาฬาและพิรเทพผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ เรื่องในวันนั้นผู้ที่สมควรถูกตำหนิที่สุดน่าจะเป็นข้ามากกว่าใคร”
“แต่ก็เป็นเพราะเจ้า เหล่าพิรเทพถึงรอดกลับมาอย่างปลอดภัย” ทันวาท้วง “เจ้ารออยู่นี่แหละ แม้จะอย่างไรข้ายังคงเป็นเจ้าเผ่าเวนไตย ทางฝ่ายพิธีการต้องรับคำค้านจากข้าแน่” เทพอาวุโสไม่พูดเปล่ายังทำท่าจะจากไปทันที
“ท่านทันวาอย่าได้ทำเช่นนั้นเลยขอรับ” อารมันร้องห้าม “...นั่นเป็นสิ่งที่ข้าตัดสินใจไปแล้ว ที่ผ่านมาข้าเองก็รู้ว่าท่านต้องการให้เผ่าเวนไตยได้รับเกียรติในฐานะนักรบแห่งผาสูง ขออภัยที่ข้าทำให้ท่านและพี่น้องร่วมเผ่าของข้าต้องผิดหวัง แต่ข้าเกรงว่าไม่อาจร่วมปัญจยุทธได้อีกต่อไป”
ในคราแรกเจ้าเผ่าเวนไตยอ้าปากจะบอกบางอย่าง แต่แล้วกลับหรี่ตาลง อีกครั้งที่สายตาเหยี่ยวตุลาการไม่เคยมองพลาด “เจ้าจะไปเกาะแห่งความตายใช่ไหม เจ้าจะไปช่วยศิษย์เอกจอมเทพออกมา แม้จะรู้ว่าเป็นกับดักก็ตาม เฮอะ...เจ้าบ้า...” คำหลังจงใจตำหนิ “เจ้านี่มันบ้าสมคำว่า ลมบ้าแห่งผาพญาครุฑ จริง”
ครั้นอารมันไม่โต้ตอบ กลับหันหน้าไปทางอื่น ทันวาจึงตระหนักว่าการคาดเดาของเขาถูกต้อง “เจ้าได้ให้คำสัญญาไว้แล้ว ไม่ว่ามันจะเป็นกับดักหลอกหรือเรื่องจริง เจ้าคนเดียว...เจ้าคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ใช่ผู้ที่จะเดินทางไปที่นั่น อารมัน...เพราะเจ้าไม่รู้ถึงอันตรายที่รอคอยอยู่”
“หากข้ากับศิษย์เอกจอมเทพเป็น ร่างเดียวกัน ต่างหาก ข้าถึงจะมีอันตราย” อารมันสวนในทันใด
ทันวาอ้าปากค้าง “เจ้ารู้แล้ว...งั้นหรือ”
อารมันส่ายศีรษะ “ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยคิดว่าข้าเป็นศิษย์เอกจอมเทพ จะว่าไป...ข้าไม่เคยสนใจเลยด้วยซ้ำ จนกระทั่งข้าพบกับท่านเมธิน แม้เขาจะไม่ได้สาบานหรือยืนยันอย่างหนักแน่น ทว่าสามารถตอบคำถามของข้าได้หลายอย่างทีเดียว โดยเฉพาะ...” อารมันเอามือทาบลงกลางอก “เรื่องแผลเป็นที่ไม่รู้ที่มาที่ไปบนร่าง มันสาหัสเกินกว่าจะเป็นอาวุธเวทสามัญ หรือต่อให้ข้าโดนฟาดจากสี่คทาเอก ร่วงตกจากหลังนก ไฟไหม้ หรือโดนลงทัณฑ์สถานหนักจากสภาตุลาการ ร่องรอยของมันคงไม่ปรากฏเป็นแบบนี้...”
อารมันเงยหน้าขึ้น ทันวาคิดว่าในชั่วขณะนั้นเขาได้เห็นตัวตนอีกด้านหนึ่งของฝ่ายตรงข้าม เทวะหนุ่มหายใจลึกก่อนจะกล่าวช้าๆ อย่างมั่นใจ
“มันคือกรงเล็บขอรับ ไม่เพียงแต่จะคมกริบเหมือนมีดดาบแต่ยังแฝงด้วยพิษร้ายอย่างมหันต์ ข้าน่าจะตายเพราะบาดแผลฉกรรจ์หรือพิษของพญาบาดาลไปนานแล้ว ให้ตายสิ...มันต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสแน่”
“อารมัน เจ้ารู้อย่างนี้แล้ว ยังคิด...”
“ตอนนี้ข้ายังคงเป็นอารมันแห่งเวนไตย” อีกครั้งที่เทวะหนุ่มกล่าวด้วยถ้อยคำหนักแน่น “แม้ไม่มีเรื่องศิษย์เอกจอมเทพหรือเกาะแห่งความตายเข้ามาเกี่ยวข้อง การถอนตัวจากปัญจยุทธก็เป็นความตั้งใจแต่แรกของข้า” จากนั้นอารมันจงใจตั้งคำถามตรงๆ “ท่านคงไม่ได้ตั้งใจส่งข้ามาเพื่อชนะในงานปัญจยุทธใช่ไหมขอรับ”
ทว่าทันวายังไม่ทันจะตอบสิ่งใดออกไป ก็พลันบังเกิดเสียงกรีดร้องดังออกมาภายนอก ทั้งทันวาและอารมันผุดลุกเกือบพร้อมกัน
“ทุ่งม้าวิ่ง!” เป็นทันวาที่โพล่งขึ้นมาก่อน
โดยไม่ต้องรอให้เทพอาวุโสออกคำสั่ง อารมันร้องบอกให้นักล่านกส่วนหนึ่งติดตามเขาไปยังทุ่งพยุอัสดร ส่วนที่เหลือรออยู่ในโรงปักษา
*****