สวัสดีครับ
ผมอยากรบกวนปรึกษาครับ เกี่ยวกับพนักงานที่บริษัทครับ คือเรื่องมีอยู่ว่า ที่บริษัทผมมีพนักงานออฟฟิศ3คนครับ นอกนั้นเป็นฝ่ายผลิต พนักงานในออฟฟิศ มีอยู่คนนึงครับอายุมากแล้วทำงานมาจะ10ปี เงินเดือนเกือบ40000บาท อีกคนนึงพึ่งเข้ามาทำงานเเทนพนักงานเก่าที่ออกไปเมื่อปลายปี ส่วนคนสุดท้ายเป็นพนักงานทำบัญชีครับ ที่ผมอยากปรึกษาคือ ตอนนี้มีปัญหากับพนักงานที่ทำมาจะ10ปีครับ ซึ่งที่ผ่านมาเขาค่อนข้างจะดีครับ แต่มาปีที่เเล้วพนักงานคนนี้เริ่มเปลี่ยนไปมากจนกระทั่งปลายปีที่ผ่านมาพนักงานออฟฟิศคนที่เขาสนิทด้วยลาออกไป ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรครับมีหลายครั้งที่พนักงานคนนี้มักจะเอาครอบครัวของผม เเละพ่อของผมซึ่งเป็นเจ้านายโดยตรงไปด่า โดยมีบางครั้งบางครั้งมีพนักงานมาเเจ้งให้ทราบว่าพนักกงานออฟฟิศคนนี้ด่าให้ฟัง ช่วงแรกผมก็ไม่เชื่อครับ จนกระทั่งบางครั้งผมได้ยินเอง และในบางเรื่องเป็นเรื่องที่พนักงานคนอื่นไม่ทราบแต่เขามาแจ้งให้ฟังถูกต้อง ในบางครั้งด่ารุนแรงครับ ซึ่งผมตอนนี้ผมทราบมาอีกว่า เขาได้รับค่าคอมจากลูกค้าของบริษัทอีกเป็นรายเดือน ตรงนี้ไม่เท่าไหร่ครับแต่ตรงที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นคือ ทางบริษัทผมจะต้องสั่งวัสดุในการผลิตต่างๆจากบริษัทอื่นเช่นพลาสติก แต่เราจะซื้อสองถึงสามบริษัทครับเพื่อกระจายกันไป พนักงานคนนี้ก็จะสนิทกับบริษัทเหล่านี้ครับเพื่อสั่งยอดเเละรับพิเศษจากบริษัทเหล่านั้นในการสั่งสินค้าเข้ามาเก็บไว้เยอะๆ เมื่อต้นปีพนักงานออฟฟิศคนใหม่ได้ลองไปเช็คของที่นำมาส่งปรากฎว่า จำนวนที่ลงในบิลกับยอดจริงไม่ตรงกันครับ ซึ่งไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมากี่ครั้งเเล้ว พนักงานคนนี้เลยไปแจ้งกับ พนักงานที่อยู่มาจะ10ปี เขาบอกว่าไม่ต้องไปเช็คมากเดี๋ยวก็มาเพิ่ม
นอกจากนี้ในหลายๆเรื่องที่พ่อผมสั่งห้ามเขาจะทำเช่นบริษัทกำลังจะเปลี่ยนบริษัททำบัญชีโดยที่พ่อผมสั่งว่ายังไม่ต้องเอาเอกสารของปีนี้ไปให้เขา ปรากฎว่าหลังจากพ่อผมออกจากออฟฟิศ เขารีบโทรไปแจ้งบริษัทที่ทำบัญชีว่า บริษัทพ่อผมจะเปลี่ยนบริษัทบัญชี แล้วตำหนิพ่อผมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัญชีคนนั้นฟัง นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่องครับที่ผมทราบมาเพราะบางบริษัทที่สนิทกับพ่อผมโทรมาเล่าให้ฟัง
ในส่วนของเอกสารต่างๆinvoiceลูกค้าที่เขาทำ เขามักจะทำผิดเสมอโดยเฉพาะinvoiceของลูกค้าที่เขารับค่าคอมอยู่ เขามักจะคิดเงินเกินไปเสมอและตอนหลังพ่อผมจับได้ เลยตำหนิและบอกว่า พ่อผมให้โอกาสปรับปรุงตัวเพราะอยู่กันมานานเเละจะหยุดร้อความผิด เขาก็เอาพ่อผมไปว่าให้พนักงานคนอื่นฟังเช่น กลัวหาไม่เจอเเล้วหน้าเเตก และอะไรอีกหลายๆอย่างครับ นอกจากนี้ เงินเดือนพนักงานเขาจะเป็นคนทำยอดในการหักประกันสังคม ปรากฏว่าเมื่่อตรวจสอบดูปรากฎว่าพนักงานคนนี้ทำมั่วไปหมดเลยครับ หักเงินมั่วไปหมด แล้วที่ร้ายแรงกว่านี้คือ เมื่อปลายปีที่เเล้วบริษัทโดนกรมเเรงงานเข้ามาตรวจสอบ ปรากฎว่าพ่อผมพึ่งทราบมาว่าคนในเป็นคนโทรไปแจ้งให้เข้ามาตรวจสอบบริษัทเรื่องแรงงาน ยิ่งไปกว่านี้เมื่อปลายปีที่เเล้วเช่นกันครับบริษัทโดนสรรพากรเรียกตรวจสอบ และทราบมาว่ามีคนในเป็นคนให้ข้อมูลกับทางสรรพากรอย่างละเอียดทุกอย่างเเล้วให้เข้ามาตรวจสอบบริษัท ซึ่งมีคนเดียวที่ทราบข้อมูลพวกนี้คือพนักงานคนดังกล่าวครับ
นอกจากนี้ในปีที่เเล้วพ่อผมให้เขาไปเบิกเงินธนาคาร ตอนเย็นธนาคารโทรกลับมาหาพ่อผมจะขอคุยกับพนักงานคนนี้ พ่อผมเลยถามว่าเกิดไรขึ้นเจ้าหน้าที่แจ้งว่าทางธนาคารนับเงินเกินมาให้เเล้วทราบว่าพนักงานของบริษัทคนนี้รับมา พ่อผมเลยบอกว่าไม่รู้เรื่องเลยให้เบอร์พนักงานคนนี้ไป เจ้าหน้าที่เลยโทรกลับไปหาพนักงานคนนี้ พนักงานบอกว่าเขาไม่ได้นับเงินเลยเเล้วส่งเงินทั้งหมดมาให้พ่อผมแล้วเขายังถามเจ้าหน้าที่ว่ามีใครรู้เรื่องนี้ไหม เจ้าหน้าที่บอกยังไม่มีใครทราบ พนักงานคนนี้เลยบอกว่าเดี๋ยวจะเอาเงินไปคืนให้ที่ธนาคาร ซึ่งเมื่อวานพ่อผมคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารเขาบอกว่าเมื่อสองปีก่อนก็เกิดเรื่องเเบบนี้เเล้วครั้งนึงเเต่เขาไม่กล้าเเจ้งครับ
ล่าสุดพ่อผมให้เขาหยุดพักงานวันศุกร์ คืออาทิตย์นึงคนงานจะหยุด1วันครับแต่พนักงานคนนี้ไม่เคยหยุดครับตั้งเเต่เข้ามาทำงานทั้งๆที่พ่อผมอนุญาติให้หยุด แต่เขามาทำงานเขาก็ได้เงินเดือนเพิ่มนะครับไม่ได้บังคับให้มาทำงาน จนกระทั่งพ่อผมเริ่มรับอะไรไม่ได้หลายๆอย่างเลยสั่งหยุดวันศุกร์ เเต่อาทิตย์นี้เขาก็ไม่ยอมหยุดครับยังมาปกติเเล้วยังคงเอาพ่อผมไปว่าต่อครับประมาณว่าต้องการประหยัดเงินไม่ต้องจ่ายเพิ่มให้เขา
สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งครับที่เขาทำเอาไว้กับพ่อผม บริษัทพ่อผม ครอบครัวผม เพราะเขาจะด่าทุกคนในครอบครัวผมให้คนต่างๆฟังเเม้เเต่เจ้าหน้าที่ต่างๆแต่ต่อหน้าเขาดีมากนะครับ ผมเลยอยากจะรบกวนปรึกษาครับว่าในกรณีนี้ทำอย่างไรได้บ้างครับ เพราะไล่ออกก็ไม่ได้ต้องจ่าค่าชดเชยหลายแสนเพราะเราไม่มีหลักฐานอะไรที่เป็นลายลักษณ์อักษรมากนักนอกจากที่เขาทำ invoice มั่วเอาไว้ จะหักเงินเดือนก็ไม่ได้เพราะกฎหมายกำหนดไว้ และคนอย่างนี้ถ้าออกจากบริษัทไปเมื่อไหร่ต้องแกล้งบริษัทพ่อผมเเน่นอนครับ ขนาดยังไม่ออกยังโทรไปแจ้งเยอะเเยะ และเขามีข้อมูลลูกค้าทั้งบริษัทอยู่หมด เกรงว่าเขาจะส่งราคาของเเต่ละลูกค้าไปให้ลูกค้าต่างๆเพราะราคาไม่เท่ากันครับ และเขาอาจจะเอาลูกค้าเราไปให้บริษัทอื่นครับ
ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ผมพิมพ์มาเยอะผมเลยอยากขอคำเเนะนำครับ
ขอบคุณมากครับ
รบกวนช่วยเสนอความเห็นเกี่ยวกับการจัดการพนักงานด้วยครับ
ผมอยากรบกวนปรึกษาครับ เกี่ยวกับพนักงานที่บริษัทครับ คือเรื่องมีอยู่ว่า ที่บริษัทผมมีพนักงานออฟฟิศ3คนครับ นอกนั้นเป็นฝ่ายผลิต พนักงานในออฟฟิศ มีอยู่คนนึงครับอายุมากแล้วทำงานมาจะ10ปี เงินเดือนเกือบ40000บาท อีกคนนึงพึ่งเข้ามาทำงานเเทนพนักงานเก่าที่ออกไปเมื่อปลายปี ส่วนคนสุดท้ายเป็นพนักงานทำบัญชีครับ ที่ผมอยากปรึกษาคือ ตอนนี้มีปัญหากับพนักงานที่ทำมาจะ10ปีครับ ซึ่งที่ผ่านมาเขาค่อนข้างจะดีครับ แต่มาปีที่เเล้วพนักงานคนนี้เริ่มเปลี่ยนไปมากจนกระทั่งปลายปีที่ผ่านมาพนักงานออฟฟิศคนที่เขาสนิทด้วยลาออกไป ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรครับมีหลายครั้งที่พนักงานคนนี้มักจะเอาครอบครัวของผม เเละพ่อของผมซึ่งเป็นเจ้านายโดยตรงไปด่า โดยมีบางครั้งบางครั้งมีพนักงานมาเเจ้งให้ทราบว่าพนักกงานออฟฟิศคนนี้ด่าให้ฟัง ช่วงแรกผมก็ไม่เชื่อครับ จนกระทั่งบางครั้งผมได้ยินเอง และในบางเรื่องเป็นเรื่องที่พนักงานคนอื่นไม่ทราบแต่เขามาแจ้งให้ฟังถูกต้อง ในบางครั้งด่ารุนแรงครับ ซึ่งผมตอนนี้ผมทราบมาอีกว่า เขาได้รับค่าคอมจากลูกค้าของบริษัทอีกเป็นรายเดือน ตรงนี้ไม่เท่าไหร่ครับแต่ตรงที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นคือ ทางบริษัทผมจะต้องสั่งวัสดุในการผลิตต่างๆจากบริษัทอื่นเช่นพลาสติก แต่เราจะซื้อสองถึงสามบริษัทครับเพื่อกระจายกันไป พนักงานคนนี้ก็จะสนิทกับบริษัทเหล่านี้ครับเพื่อสั่งยอดเเละรับพิเศษจากบริษัทเหล่านั้นในการสั่งสินค้าเข้ามาเก็บไว้เยอะๆ เมื่อต้นปีพนักงานออฟฟิศคนใหม่ได้ลองไปเช็คของที่นำมาส่งปรากฎว่า จำนวนที่ลงในบิลกับยอดจริงไม่ตรงกันครับ ซึ่งไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมากี่ครั้งเเล้ว พนักงานคนนี้เลยไปแจ้งกับ พนักงานที่อยู่มาจะ10ปี เขาบอกว่าไม่ต้องไปเช็คมากเดี๋ยวก็มาเพิ่ม
นอกจากนี้ในหลายๆเรื่องที่พ่อผมสั่งห้ามเขาจะทำเช่นบริษัทกำลังจะเปลี่ยนบริษัททำบัญชีโดยที่พ่อผมสั่งว่ายังไม่ต้องเอาเอกสารของปีนี้ไปให้เขา ปรากฎว่าหลังจากพ่อผมออกจากออฟฟิศ เขารีบโทรไปแจ้งบริษัทที่ทำบัญชีว่า บริษัทพ่อผมจะเปลี่ยนบริษัทบัญชี แล้วตำหนิพ่อผมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัญชีคนนั้นฟัง นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่องครับที่ผมทราบมาเพราะบางบริษัทที่สนิทกับพ่อผมโทรมาเล่าให้ฟัง
ในส่วนของเอกสารต่างๆinvoiceลูกค้าที่เขาทำ เขามักจะทำผิดเสมอโดยเฉพาะinvoiceของลูกค้าที่เขารับค่าคอมอยู่ เขามักจะคิดเงินเกินไปเสมอและตอนหลังพ่อผมจับได้ เลยตำหนิและบอกว่า พ่อผมให้โอกาสปรับปรุงตัวเพราะอยู่กันมานานเเละจะหยุดร้อความผิด เขาก็เอาพ่อผมไปว่าให้พนักงานคนอื่นฟังเช่น กลัวหาไม่เจอเเล้วหน้าเเตก และอะไรอีกหลายๆอย่างครับ นอกจากนี้ เงินเดือนพนักงานเขาจะเป็นคนทำยอดในการหักประกันสังคม ปรากฏว่าเมื่่อตรวจสอบดูปรากฎว่าพนักงานคนนี้ทำมั่วไปหมดเลยครับ หักเงินมั่วไปหมด แล้วที่ร้ายแรงกว่านี้คือ เมื่อปลายปีที่เเล้วบริษัทโดนกรมเเรงงานเข้ามาตรวจสอบ ปรากฎว่าพ่อผมพึ่งทราบมาว่าคนในเป็นคนโทรไปแจ้งให้เข้ามาตรวจสอบบริษัทเรื่องแรงงาน ยิ่งไปกว่านี้เมื่อปลายปีที่เเล้วเช่นกันครับบริษัทโดนสรรพากรเรียกตรวจสอบ และทราบมาว่ามีคนในเป็นคนให้ข้อมูลกับทางสรรพากรอย่างละเอียดทุกอย่างเเล้วให้เข้ามาตรวจสอบบริษัท ซึ่งมีคนเดียวที่ทราบข้อมูลพวกนี้คือพนักงานคนดังกล่าวครับ
นอกจากนี้ในปีที่เเล้วพ่อผมให้เขาไปเบิกเงินธนาคาร ตอนเย็นธนาคารโทรกลับมาหาพ่อผมจะขอคุยกับพนักงานคนนี้ พ่อผมเลยถามว่าเกิดไรขึ้นเจ้าหน้าที่แจ้งว่าทางธนาคารนับเงินเกินมาให้เเล้วทราบว่าพนักงานของบริษัทคนนี้รับมา พ่อผมเลยบอกว่าไม่รู้เรื่องเลยให้เบอร์พนักงานคนนี้ไป เจ้าหน้าที่เลยโทรกลับไปหาพนักงานคนนี้ พนักงานบอกว่าเขาไม่ได้นับเงินเลยเเล้วส่งเงินทั้งหมดมาให้พ่อผมแล้วเขายังถามเจ้าหน้าที่ว่ามีใครรู้เรื่องนี้ไหม เจ้าหน้าที่บอกยังไม่มีใครทราบ พนักงานคนนี้เลยบอกว่าเดี๋ยวจะเอาเงินไปคืนให้ที่ธนาคาร ซึ่งเมื่อวานพ่อผมคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารเขาบอกว่าเมื่อสองปีก่อนก็เกิดเรื่องเเบบนี้เเล้วครั้งนึงเเต่เขาไม่กล้าเเจ้งครับ
ล่าสุดพ่อผมให้เขาหยุดพักงานวันศุกร์ คืออาทิตย์นึงคนงานจะหยุด1วันครับแต่พนักงานคนนี้ไม่เคยหยุดครับตั้งเเต่เข้ามาทำงานทั้งๆที่พ่อผมอนุญาติให้หยุด แต่เขามาทำงานเขาก็ได้เงินเดือนเพิ่มนะครับไม่ได้บังคับให้มาทำงาน จนกระทั่งพ่อผมเริ่มรับอะไรไม่ได้หลายๆอย่างเลยสั่งหยุดวันศุกร์ เเต่อาทิตย์นี้เขาก็ไม่ยอมหยุดครับยังมาปกติเเล้วยังคงเอาพ่อผมไปว่าต่อครับประมาณว่าต้องการประหยัดเงินไม่ต้องจ่ายเพิ่มให้เขา
สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งครับที่เขาทำเอาไว้กับพ่อผม บริษัทพ่อผม ครอบครัวผม เพราะเขาจะด่าทุกคนในครอบครัวผมให้คนต่างๆฟังเเม้เเต่เจ้าหน้าที่ต่างๆแต่ต่อหน้าเขาดีมากนะครับ ผมเลยอยากจะรบกวนปรึกษาครับว่าในกรณีนี้ทำอย่างไรได้บ้างครับ เพราะไล่ออกก็ไม่ได้ต้องจ่าค่าชดเชยหลายแสนเพราะเราไม่มีหลักฐานอะไรที่เป็นลายลักษณ์อักษรมากนักนอกจากที่เขาทำ invoice มั่วเอาไว้ จะหักเงินเดือนก็ไม่ได้เพราะกฎหมายกำหนดไว้ และคนอย่างนี้ถ้าออกจากบริษัทไปเมื่อไหร่ต้องแกล้งบริษัทพ่อผมเเน่นอนครับ ขนาดยังไม่ออกยังโทรไปแจ้งเยอะเเยะ และเขามีข้อมูลลูกค้าทั้งบริษัทอยู่หมด เกรงว่าเขาจะส่งราคาของเเต่ละลูกค้าไปให้ลูกค้าต่างๆเพราะราคาไม่เท่ากันครับ และเขาอาจจะเอาลูกค้าเราไปให้บริษัทอื่นครับ
ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ผมพิมพ์มาเยอะผมเลยอยากขอคำเเนะนำครับ
ขอบคุณมากครับ