พระสงฆ์เปรียญ 9 แต่งหนังสือให้ร้ายศาสนาอื่น

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
พระเยซู  พระมารดาทรงพระนามว่ามาเรีย พระบิดาเลี้ยงชื่อโจเซฟ นัยว่าท่านเป็นโอรสของพระเจ้า ที่โปรดมาเรียให้มีครรภ์ขึ้น โดยเดชของพระเจ้า พระเยซูประสูติที่คอกสัตว์แห่งหนึ่งที่เมืองเบธเลเฮ็ม (เดี๋ยวนี้คือเมืองปาเลสไตน์) มณฑลยูดาย เมื่อ พ.ศ. 543 (หลังพระพุทธเจ้าประสุติ 623 ปี) ตอนเกิดนั้นทำให้เด็กเป็นอันมากถูกฆ่า เพราะมีข่าวลือว่าจะมีเด็กมาแย่งความเป็นใหญ่ กษัตริย์เฮโรดในครั้งนั้น จึงสั่งให้ฆ่าเด็ก โจเซฟจึงได้พาครอบครัวหนีไปอียิปต์จนเฮโรดสิ้นพระชนม์แล้ว จึงกลับมาอยู่เมืองนาซาเรซ มีอาชีพช่างไม้ พระเยซูได้เป็นช่างไม้ช่วยบิดาเลี้ยง ท่านเป็นคนฉลาด ช่างสังเกต ช่างคิดสามารถ โต้ตอบ ปัญหาได้คล่องแคล่ว แต่ยากจน ไม่มีโอกาสได้เล่าเรียนศึกษาตามควร เมื่อพระชนม์ได้ 30 ปี ได้เสด็จไปสู่แม่น้ำจอร์แดนเพื่อรับศีลจากนักบุญโยอัน พอขึ้นจากแม่น้ำ พระเจ้าได้มาสถิตย์อยู่บนพระองค์ดุจนกพิราบ และมีเสียงดังว่า เจ้าเป็นบุตรที่รักของเรา เราพอใจท่านมาก แล้วพระเจ้าได้นำพระเยซูไปให้ซาตานทดลอง พระองค์ทรงอดอาหาร 40 วัน ทรงหิวจัด ซาตานจึงพูดว่า ถ้าท่านเป็นโอรสของพระเจ้าจริง ท่านจงสั่งก้อนหินให้เป็นอาหาร พระเยซูตอบว่า คนจะมีชีวิตอยู่ได้ด้วยอาหารอย่างเดียวไม่ได้ แต่ด้วยโอวาทของพระเจ้าด้วย และซาตานได้นำพระเยซูไปยังเมืองบริสุทธิ์ ให้อยู่บนหลังคาโบสถ์แล้วพูดว่า ถ้าท่านเป็นโอรสของพระเจ้าจริง ท่านจงกระโดดลงมา เพราะพระเจ้าได้สั่งให้เทวทูตให้คอยรักษาท่าน พระเยซูตอบว่า อย่าทดลองพระเจ้าของตน ซาตานจึงได้นำพระเยซูขึ้นไปบนภูเขาสูง ให้พระองค์เห็นประเทศต่างๆ แล้วพูดว่า ถ้าท่านไหว้เรา เราจะให้สิ่งทั้งปวงนี้แก่ท่าน พระเยซูเลยไล่ซาตานไป และตรัสว่า จงกราบไหว้พระเจ้าของตน จงปฏิบัติพระองค์ผู้เดียว เมื่อซาตานหนีไปแล้ว เทวทูตก็มาห้อมล้อม พระองค์ก็สำเร็จเป็นผู้รู้ด้วยประการฉะนี้ พระองค์เริ่มสอนประชาชนด้วยคำว่า จงกลับใจเสียใหม่ เพราะแผ่นดินสวรรค์ใกล้เข้ามาแล้ว
           พระองค์ทรงสั่งสอนประชาชนได้ 3 ปี ได้สาวกไม่เกิน 50 คน คนทั่วไปนิยมความเป็นหมอที่ทรงใช้เป็นเครื่องมือในการสั่งสอนมากกว่าคำสอน พระองค์เชื่อในเรื่องเมไซอะฮ์ และประชาชนเห็นความสามารถในการรักษาคนไข้ได้อย่างน่าประหลาด จึงพากันพูดว่า ท่านคงเป็นเมไซอะฮ์และเป็นโอรสของพระเจ้าแน่ ข้อนี้ จึงเป็นเหตุให้พระองค์เข้าใจว่าพระองค์เป็นอย่างนั้น
           การเผยแผ่ได้ผลน้อยแต่มีศัตรูมาก เพราะพูดโจมตีคนเก่าเป็นต้น ในที่สุด ได้ถูกศิษย์ทรยศรับจ้างศัตรูเพื่อจับพระเยซูไปประหารชีวิตด้วยวิธีที่เหี้ยมโหดและเหยียดหยามอย่างโจร คือตรึงไม้กางเขนร่วมกับพวกโจร ก่อนสิ้นใจ พระองค์อ้อนวอนให้พระเจ้าช่วยแต่ไม่สำเร็จ จนท่านทรงทอดอาลัยและสิ้นพระชนม์ 3 วันต่อมาได้ฟื้นแล้ว ได้ขึ้นสวรรค ์เมื่อพระเยซูถูกจับนั้น สาวกหนีกันหมด แต่เมื่อพระเยซูสิ้นแล้วสาวกกลับได้คิดยอมสละชีวิตประกาศคำสอนของพระเยซูจนถูกจับส่งไปกรุงโรม (ตอนนั้น ปาเสไตน์เป็นเมืองขึ้นของกรุงโรม) พระเจ้าแผ่นดินแห่งโรมตัดสินว่า ไม่ผิด สาวกเหล่านั้นเลยได้โอกาสเผยแพร่คำสอนเป็นการใหญ่ จนแพร่หลายกลายเป็นศาสนา

23. การฆ่า

             ในพระพุทธศาสนาแสดงว่าการฆ่าคนฆ่าสัตว์โดยมีเจตนาเป็นความชั่วทั้งสิ้น แม้ว่าจะฆ่าเพื่อพระพุทธศาสนา พระพุทธองค์ก็ไม่ทรงสรรเสริญส่วนในศาสนาคริสต์และอิสลามแสดงว่าการฆ่าคน ฆ่าสัตว์ ถ้าเป็นฆ่าเพื่อพระเจ้าย่อมเป็นความดี ความชอบการฆ่าสัตว์เป็นอาหารและป้องกันตัวฆ่าสัตว์ที่ตนเห็นว่าเป็น สัตว์ร้ายเป็นการไม่ผิด ฆ่านอกนั้นจึงเป็นการผิด

24. การลัก

            ในพระพุทธศาสนาแสดงว่า การลักทุกชนิดเป็นความชั่ว ในศาสนาคริสต์และอิสลามแสดงว่า การลักเพื่อพระเจ้าและเพื่อพระศาสนาเป็นความดี ลักเพื่อเหตุนอกนั้นเป็นความชั่ว

26. การพูดปด

            ในพระพุทธศาสนาแสดงว่าการพูดปดทุกอย่างเป็นความชั่ว ในศาสนาคริสต์และอิสลามแสดงว่า ถ้าพูดปดเพื่อพระเจ้าและพระศาสดาแล้วเป็นความดี พูดปดเพื่อเหตุนอกนั้นเป็นความชั่ว

37. อิสรภาพ

             พระพุทธเจ้าสอนให้ทำตนให้เป็นอิสระจากเครื่องผูกมัดคือกิเลส ไม่ให้เป็นทาสของสิ่งอื่น ไม่ให้เป็นทาสของเทวดาและของความกลัว พระเยซู พระโมฮัมหมัด สอนให้เป็นทาสของพระเจ้า

38. การบำเพ็ญประโยชน์

             พระพุทธเจ้าตลอดเวลา 45 ปี ได้เสด็จไปตามเมืองน้อยใหญ่เพื่อสั่งสอนคือโปรยธรรมให้แก่ประชาชน ใครประพฤติตามธรรมก็มีความสุขพระองค์ไม่ทรงหวังผลตอบแทน ไม่ต้องการลาภยศ ชื่อเสียง ถ้าหวังก็ไม่จำเป็นต้องสละราชสมบัติออกบวช การบำเพ็ญประโยชน์ของพระพุทธองค์จึงมีลักษณะที่บริสุทธิ์ที่สุด มีแต่ให้ไม่มีการหวังผลตอบแทน ส่วนพระเยซูและพระโมฮัมหมัดทรงหวังผลตอบแทนเป็นสิ่งต่างๆ เช่นลาภ ยศ สรรเสริญ อำนาจ เป็นต้น และไปอยู่กับพระเจ้าบนสวรรค์

41. ความชนะ

             ในพระพุทธศาสนาสอนให้ชนะใจตนเองประเสริฐที่สุด ในศาสนาคริสต์และอิสลามสอนให้ชนะคนอื่นเป็นต้นเพื่อพระเจ้า

สมเด็จพระญาณวโรดม , ศาสนาเปรียบเทียบโดยสังเขป: มหามกุฏราชวิทยาลัย, 2532
http://www.yanavarodom.mbu.ac.th/index.php?option=com_content&task=view&id=26&Itemid=39&limit=1&limitstart=0

ยกมาแค่บางข้อ พระสงฆ์องค์นี้เขียนใส่ร้ายศาสนาอื่นได้เลวจริงๆ
ปล.มีของอิสลามเยอะด้วย สามารถหาอ่านได้ในลิงค์ข้างบน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่