เรียนปรึกษา สมาชิกชายคาและสินธร....
(อาจจะยาวไปสักนิด ต้องขออภัยล่วงหน้า)
เกิดจากการที่อยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง โดยเป็นบ้านที่อยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมกับการเดินทางไปทำงาน ไม่นานก็ได้เจอหมู่บ้านที่อยู่ในเงื่อนไข
ได้เข้าไปชมโครงการจริง ก็ถูกใจบ้าน รวมทั้งได้รับข้อเสนอจากเซลล์ว่า สามารถกู้ได้ 100 % แน่นอน
จึงฝากเซลล์ยื่นเอกสารเพื่อดำเนินการขอวงเงินกู้กับธนาคาร ซึ่งจากนั้นไม่นาน เซลล์ก็แจ้งว่า มี 2 ธนาคาร ที่สามารถให้กู้วงเงินเต็ม 100 % ได้ โดยทางลูกค้ามีสิทธิ์ที่จะทำประกันหรือไม่ก็ได้ (ถ้าทำประกัน ก็ฟรีค่าโอน)
ทางเราก็มั่นใจในข้อมูล จึงได้เข้าไปเซนต์สัญญาการจองบ้าน (ประมาณวันที่ 25 ธันวา 2555) และได้แจ้งแล้วว่า ไม่ทำประกันบ้าน
ทางเซลล์นัดให้เข้าไปตรวจบ้านได้ในช่วงหลังปีใหม่ (จขกท. ได้เข้าไปตรวจวันที่ 12 มกรา 2556) ก็ได้เจอจุดที่ต้องแก้ไขมากมาย จึงแจ้งกับเซลล์ว่า ถ้าไม่แก้ให้เรียบร้อย ก็ไม่โอนรับบ้าน
หายไปได้ 1 สัปดาห์ ได้โทรไปตามความคืบหน้าในการแก้ไข defect ต่าง ๆ ซึ่งเซลล์แจ้งว่า แก้แล้วบางส่วน จะนัดทาง จขกท. ไปทำเรื่องโอนได้ วันที่ 24 มกรา 2556 ทางเซลล์จะนัดธนาคารมาให้ (ซึ่งจริงๆแล้วต้องเป็นวันนี้)
วันที่ 18 มกรา 2556 ยังได้คุยกับธนาคารอยู่เลย (โดนธนาคารเสนอบัตรเครดิตให้ด้วย แต่ยังไม่ตัดสินใจ)
พอวันที่ 22 มกรา 2556 โทรไปถามเซลล์ ว่าแก้เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ จะได้เข้าไปตรวจความเรียบร้อย จะได้โอนรับบ้านได้อย่างสบายใจ
แต่ต้องพบกับข่าวที่ทำให้ อึ้ง!! เพราะเซลล์บอกว่า จขกท. กู้ได้ไม่ครบ 100 % แล้ว ดังนั้นวันโอน ต้องหาเงินสดมาดาวน์ส่วนที่เหลือด้วย (ประมาณ 120,000 บาท) แต่ถ้าจะทำให้กู้ได้ 100 % เหมือนเดิม ทาง จขกท. ต้องซื้อประกันพ่วงด้วย (ตอนแรกไม่เห็นมีเงื่อนไขนี้เลย)
กรรมละทีนี้......จขกท. ได้เตรียมเงินสดไว้แค่ค่าโอน เงินเดือนก็ยังไม่ออก จะหาเงินที่ไหนมาจ่ายล่ะ
[[จากที่ จขกท. มั่นใจมาก(เกินไป) ว่าจะได้เข้าอยู่บ้านเดือนกุมภา แน่ๆ จึงแจ้งกับทางหอพักเรื่องจะย้ายออก (ต้องแจ้งล่วงหน้า 30 วัน) ทางหอก็ให้อยู่ถึงแค่วันที่ 31 มกรา 2556 ซะด้วย ถ้าไม่ได้ย้ายไปอยู่บ้าน(ใหม่) แล้วจะเอาสมบัติมากมายนี้ไปเก็บที่ไหนดี]]
จากนั้นได้ทำการโทรถามข้อมูล หาต้นตอของการเกิดเหตุการณ์เลี่ยนแปลงวงเงินกู้
ได้ความว่า "นโยบายของบริษัทที่มาประเมินบ้าน มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างในช่วงหลังปีใหม่(เซลล์บ้านบอกมา) จึงทำให้ราคาประเมินในตอนนต้นลดลง ส่งผลให้ธนาคารลดวงเงินกู้ด้วย"
ประหนึ่งว่า คนประเมินไม่ผิด เซลล์ไม่ผิด ธนาคารไม่ผิด เพราะทุกคนทำตามหน้าที่
แต่ความโชคร้าย ตกมาที่ จขกท. ที่ไม่มีเงินสดมาจ่าย + รีบแจ้งออกจากหอ
...อยากปรึกษาทุกท่านค่ะ ว่ากรณีแบบนี้ ใครจะมารับผิดชอบชีวิต จขกท. ได้บ้างคะ
ถ้าทางเซลล์หรือธนาคารแจ้งตั้งแต่แรกว่า ไม่สามาถกู้ได้ 100 % ตั้งแต่แรก ก็คงไม่ลงเงินจองบ้านไว้หรอกค่ะ
คุยกัน ตามเรื่องกันมาเป็นเดือน แต่จะมาเปลี่ยนแปลง-พลิกลลิ้น กันไม้สุดท้ายแบบนี้ รู้สึกว่าไม่ค่อยยุติธรรมกับพนักงานเงินเดือนอย่าง จขกท. สักเท่าไหร่
.......ขอบพระคุณทุกความเห็นที่ให้ปรึกษาล่วงหน้าค่ะ........
การลดวงเงินกู้...ก่อนโอนบ้าน 3 วัน ทำแบบนี้ได้ยังไง??? TT___TT
(อาจจะยาวไปสักนิด ต้องขออภัยล่วงหน้า)
เกิดจากการที่อยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง โดยเป็นบ้านที่อยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมกับการเดินทางไปทำงาน ไม่นานก็ได้เจอหมู่บ้านที่อยู่ในเงื่อนไข
ได้เข้าไปชมโครงการจริง ก็ถูกใจบ้าน รวมทั้งได้รับข้อเสนอจากเซลล์ว่า สามารถกู้ได้ 100 % แน่นอน
จึงฝากเซลล์ยื่นเอกสารเพื่อดำเนินการขอวงเงินกู้กับธนาคาร ซึ่งจากนั้นไม่นาน เซลล์ก็แจ้งว่า มี 2 ธนาคาร ที่สามารถให้กู้วงเงินเต็ม 100 % ได้ โดยทางลูกค้ามีสิทธิ์ที่จะทำประกันหรือไม่ก็ได้ (ถ้าทำประกัน ก็ฟรีค่าโอน)
ทางเราก็มั่นใจในข้อมูล จึงได้เข้าไปเซนต์สัญญาการจองบ้าน (ประมาณวันที่ 25 ธันวา 2555) และได้แจ้งแล้วว่า ไม่ทำประกันบ้าน
ทางเซลล์นัดให้เข้าไปตรวจบ้านได้ในช่วงหลังปีใหม่ (จขกท. ได้เข้าไปตรวจวันที่ 12 มกรา 2556) ก็ได้เจอจุดที่ต้องแก้ไขมากมาย จึงแจ้งกับเซลล์ว่า ถ้าไม่แก้ให้เรียบร้อย ก็ไม่โอนรับบ้าน
หายไปได้ 1 สัปดาห์ ได้โทรไปตามความคืบหน้าในการแก้ไข defect ต่าง ๆ ซึ่งเซลล์แจ้งว่า แก้แล้วบางส่วน จะนัดทาง จขกท. ไปทำเรื่องโอนได้ วันที่ 24 มกรา 2556 ทางเซลล์จะนัดธนาคารมาให้ (ซึ่งจริงๆแล้วต้องเป็นวันนี้)
วันที่ 18 มกรา 2556 ยังได้คุยกับธนาคารอยู่เลย (โดนธนาคารเสนอบัตรเครดิตให้ด้วย แต่ยังไม่ตัดสินใจ)
พอวันที่ 22 มกรา 2556 โทรไปถามเซลล์ ว่าแก้เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ จะได้เข้าไปตรวจความเรียบร้อย จะได้โอนรับบ้านได้อย่างสบายใจ
แต่ต้องพบกับข่าวที่ทำให้ อึ้ง!! เพราะเซลล์บอกว่า จขกท. กู้ได้ไม่ครบ 100 % แล้ว ดังนั้นวันโอน ต้องหาเงินสดมาดาวน์ส่วนที่เหลือด้วย (ประมาณ 120,000 บาท) แต่ถ้าจะทำให้กู้ได้ 100 % เหมือนเดิม ทาง จขกท. ต้องซื้อประกันพ่วงด้วย (ตอนแรกไม่เห็นมีเงื่อนไขนี้เลย)
กรรมละทีนี้......จขกท. ได้เตรียมเงินสดไว้แค่ค่าโอน เงินเดือนก็ยังไม่ออก จะหาเงินที่ไหนมาจ่ายล่ะ
[[จากที่ จขกท. มั่นใจมาก(เกินไป) ว่าจะได้เข้าอยู่บ้านเดือนกุมภา แน่ๆ จึงแจ้งกับทางหอพักเรื่องจะย้ายออก (ต้องแจ้งล่วงหน้า 30 วัน) ทางหอก็ให้อยู่ถึงแค่วันที่ 31 มกรา 2556 ซะด้วย ถ้าไม่ได้ย้ายไปอยู่บ้าน(ใหม่) แล้วจะเอาสมบัติมากมายนี้ไปเก็บที่ไหนดี]]
จากนั้นได้ทำการโทรถามข้อมูล หาต้นตอของการเกิดเหตุการณ์เลี่ยนแปลงวงเงินกู้
ได้ความว่า "นโยบายของบริษัทที่มาประเมินบ้าน มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างในช่วงหลังปีใหม่(เซลล์บ้านบอกมา) จึงทำให้ราคาประเมินในตอนนต้นลดลง ส่งผลให้ธนาคารลดวงเงินกู้ด้วย"
ประหนึ่งว่า คนประเมินไม่ผิด เซลล์ไม่ผิด ธนาคารไม่ผิด เพราะทุกคนทำตามหน้าที่
แต่ความโชคร้าย ตกมาที่ จขกท. ที่ไม่มีเงินสดมาจ่าย + รีบแจ้งออกจากหอ
...อยากปรึกษาทุกท่านค่ะ ว่ากรณีแบบนี้ ใครจะมารับผิดชอบชีวิต จขกท. ได้บ้างคะ
ถ้าทางเซลล์หรือธนาคารแจ้งตั้งแต่แรกว่า ไม่สามาถกู้ได้ 100 % ตั้งแต่แรก ก็คงไม่ลงเงินจองบ้านไว้หรอกค่ะ
คุยกัน ตามเรื่องกันมาเป็นเดือน แต่จะมาเปลี่ยนแปลง-พลิกลลิ้น กันไม้สุดท้ายแบบนี้ รู้สึกว่าไม่ค่อยยุติธรรมกับพนักงานเงินเดือนอย่าง จขกท. สักเท่าไหร่
.......ขอบพระคุณทุกความเห็นที่ให้ปรึกษาล่วงหน้าค่ะ........