คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
มองซ้ายมองขวา เอาละสิตูอยู่ข้างล่างแล้ว
ไม่ค่อยเข้าใจคำถามเท่าไร แต่ก็จะพยายามตอบ (ตอบไงก็ไม่รู้ละฟะ)
พื้นที่ตรงกลาง ณ จุดสมดุลระหว่างมวลทั้งสองมันจะหักลบเป็น 0 นะครับ กรณีถ้าดาวเคราะห์สองดวงโคจรรอบกัน ยิ่งระยะห่างระหว่างมวลใกล้กันเท่าไร ความเร็วการโคจรรอบกันจำเป็นต้องมีความเร็วเชิงมุมมากอย่างมหาศาลขึ้นเท่านั้นเพื่อไม่ให้แรงโน้มถ่วงดึงดาวทั้งสองเข้าปะทะกัน แต่ในกรณีนั้น ถ้าดาวอยู่ใกล้กัน ผิวดาวปรกติติดอยู่ด้วยกันแค่แรงโน้มถ่วง ไม่ได้มีแรงอะไรยึดเหนี่ยวมากมายระหว่างกัน ถ้าเข้าใกล้กันถึงจุดหนึ่ง แรงโน้มถ่วงได้รับผลกระทบถึงจุดหนึ่ง ผมว่าเนื้อดาวมันก็จะหลุดจากรูปทรงกลมแล้วก็น่าจะไหลร่วงมารวมกันละนะครับ
ไม่ค่อยเข้าใจคำถามเท่าไร แต่ก็จะพยายามตอบ (ตอบไงก็ไม่รู้ละฟะ)
พื้นที่ตรงกลาง ณ จุดสมดุลระหว่างมวลทั้งสองมันจะหักลบเป็น 0 นะครับ กรณีถ้าดาวเคราะห์สองดวงโคจรรอบกัน ยิ่งระยะห่างระหว่างมวลใกล้กันเท่าไร ความเร็วการโคจรรอบกันจำเป็นต้องมีความเร็วเชิงมุมมากอย่างมหาศาลขึ้นเท่านั้นเพื่อไม่ให้แรงโน้มถ่วงดึงดาวทั้งสองเข้าปะทะกัน แต่ในกรณีนั้น ถ้าดาวอยู่ใกล้กัน ผิวดาวปรกติติดอยู่ด้วยกันแค่แรงโน้มถ่วง ไม่ได้มีแรงอะไรยึดเหนี่ยวมากมายระหว่างกัน ถ้าเข้าใกล้กันถึงจุดหนึ่ง แรงโน้มถ่วงได้รับผลกระทบถึงจุดหนึ่ง ผมว่าเนื้อดาวมันก็จะหลุดจากรูปทรงกลมแล้วก็น่าจะไหลร่วงมารวมกันละนะครับ
แสดงความคิดเห็น
แรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อดาวเคราะห์ของระบบดาวคู่
ปล.ส่วนตัวเดาว่ากลางวันกลางคือ ฤดูกาลที่เกิดขึ้นบนดาวเคราะห์ในระบบคงเป็นอะไรที่แปลกตาน่าดู
ปล.2 จู่ๆดูหนังแล้วก็สงสัย ถึงแม้อิงตามfactแล้วรับไม่ได้ก็เหอะ