ฌาน(สัมมาสมาธิรูปฌานทั้งสี่)ย่อมมีแก่ พราหมณ์(ผู้ลอยบาป ในธรรมวินัยนี้) ผู้เพียร (อิทธิบาท ๔) เพ่ง (ด้วยอานาปานสติ)_

กระทู้ ต่อเนื่อง จาก
http://pantip.com/topic/30015093
อานาปานสติ นอกตำรา (แต่อาสัยพระพุทธภาษิตฯ)
^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^

                                                           ประเด็นสนทนา
                  คำว่า __ ฌานย่อมมีแก่พราหมณ์ผู้เพียรเพ่งอยู่ __ มีความหมาย อย่างไร? "บ้าง"

หลักฐาน
__ ฌานย่อมมีแก่พราหมณ์ผู้เพียรเพ่งอยู่ __  กำหนดตาม
มหา  วิ ๔/๑/๑ _ โพธิสูตรที่ ๑  ๒ ๓ แห่ง โพธิวรรค อุ  ขุ ๒๕/๗๓/๓๘ _
(ปฏิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์ หน้า ๑๐ พุทธทาสภิกขุ)
*****************************************************

เมื่อใดเวย (เว้ ย?)
ธรรมทั้งหลาย (ปฏิจจฯ แบบที่ไม่เคยฟังจากใครมาก่อน)
เป็นของแจ่มแจ้ง (ด้วย วิชชา อาสวักขยญาณ) แก่ พราหมณ์ (คือ พระพุทธองค์ / ไม่ใช่ พราหมณ์ลัทธิอื่น / พรมหร์ แปลว่า ผู้ลอยบาป)

ผู้มีความเพียร เพ่งนิจอยู่  (เพียร ด้วยอิทธิบาท ๔ ใช่หรือไม่?/ เพ่ง คือ ฌาน (คือสัมมาสมาธิขั้นรูปฌาน ที่ ๔  องค์ธรรมได้แก่ ____ "ความที่สติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์ เพราะ สัมาทิฏฐิในองค์มรรคนำแล้ว และ มีบริขารเหล่านั้นคือ มรรคอีก ๖ องค์ ที่ต่อมาจากสัมมาทิฏฐิ)

                                                 ^^^^ ประเด็น สนทนา ดังนี้ ^^^^

(๑)​ ฌาน ข้างบน พระพุทธเจ้า ทรงตรัส เป็น มิจฉาสมาธิ ใช่หรือไม่?
(๒)​ ฌาน  ข้างบน พระพุทธเจ้า ทรงตรัส  ขัดกับ ที่ตรัส "อานิสงส์ ๗ ประการ ของอานาปานสติ" ใช่หรือไม่
(เอกธัมมวัคค์ อานาปานสติสังยุตตื สํ ๑๙/๓๙๗/๑๓๑๔)