สวัสดีครับ
อึดอัดจัง แต่อยากระบาย ไม่รู้จะแท็กกลุ่มอะไรบ้าง แท็กผิดขออภัยนะครับ
คือผมอายุ 21 แต่หน้าไม่ค่อยแก่เท่าไหร่ บางคนทักนึกว่า 18-19 เพราะผมตัดผมสั้นๆเกรียนๆด้วยมั้งครับ แต่งตัวเสื้อยืด กางเกงขาสั้นบ้าง ยาวบ้าง
ผมไม่รู้จะต้องทำตัว หรือแต่งตัวอย่างไรให้น่าเชื่อถือ เวลาไปไหนมาไหน ตั้งใจจะไปซื้ออะไรก็ไม่ค่อยมีคนสนใจหรือต้อนรับเลย ไปซื้อกล้องถ่ายรูปราคาครึ่งแสนถือเงินสดไปร้านยังไม่สนใจเลย ไปสนใจพวกลุงๆ ผมก็อยากจะบอกนะว่าถ้าผมไม่สนใจสินค้าของคุณ ผมไม่เข้ามาในร้านคุณหรอก
ไปดูรถยนต์กับค่ายต่างๆ ยิ่งไม่มีคนสนใจเลย บางค่ายตะโกนข้ามหัวคุยกันอีกต่างหาก ไม่เกรงใจลูกค้าเลย ผมจะมาซื้อรถนะ ไม่ได้มาส่งของ อย่างรถ พอทำเรื่องจองแล้วบอกว่าซื้อเงินสด เซลล์ถึงกับมองหน้า เหมือนผมจะมาหลอกอะไรเขางั้นแหละ อะไรฟระ ต้องอายุเท่าไรถึงจะซื้อรถเงินสดกัน
หงุดหงิดมาก อยากจะต่อว่าแรงๆว่า "ถ้าขืนคุณยังคิดและมองลูกค้าด้วยสายตาแบบนี้ คุณคงเป็นได้แค่นี้แหละ เพราะความคิดมันมีแค่นี้" จริงๆมันก็ไม่ใช่แค่นี้หรอก มันหลายอย่างหลายครั้งแล้ว เสื้อผ้า หน้า ผม ก็เรียบร้อยดี สุภาพไม่มีหนีบรองเท้าแตะด้วยเวลาไปไหน ไม่รู้จะปรับอะไรในตัวเองแล้วให้มันมีความน่าเชื่อถือ หรือต้องรับสภาพแบบนี้ต่อไป เซงมาก
ล่าสุดที่เซงงงงงงงงงงงงงงงมาก คือไปห้างดังแถวรามอินทรามา(ไปขับรถเล่น ตอน 2 ทุ่ม)จากบางใหญ่ นนทบุรี ก็ไปถูกใจชุดเครื่องนอนอยู่ชุดนึง ตอนนั้นเงินติดตัวไป 3000 เพราะมันมืดแล้วไม่ได้กะว่าจะไปไหน ก็เข้าไปถามเซลล์ขายเครื่องนอน ผมถามว่าราคาเท่าไรทั้งหมด เขาบอก 4080 ผมก็ ตกลง ไม่ได้ต่อราคาด้วยเพราะเป็นของห้าง เลยไปกดเงินเพิ่ม พอขึ้นมาจะจ่าย เขามาแจ้งที่หลังว่า4080 เนี่ย ไม่รวมผ้าปูที่นอนและปอกหมอนนะ ผมก็งง มะกี๊บอกทั้งชุด เขาก็บอกว่าทั้งชุดคือผ้าคลุมผ้านวม และก็ไส้ผ้านวม ผมก็เลยบอกว่าแล้วทำไมมะกี๊ไม่บอกให้หมด เพราะผมบอกว่าทั้งชุด(ทางห้างจัดชุดโชว์เอาไว้เลยครับ) เขาก็บอกยี่ห้อนี้มันแพงกลัวน้องตังค์ไม่พอ.........................ปรี๊ดแตก ด่าเต็มที่เลยผม ว่า" ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อมันเป็นสิทธิของลูกค้า คุณมีหน้าที่แจ้งทุกอย่างให้ลูกค้าทราบและไม่มีสิทธิไป ตัดสินลูกค้าว่า เขามีเงินเท่าไหร่ พอไหม ที่นอนชุดนี้ราคา 8000 มันไม่ได้ส่งผลให้ผมเดือดร้อนเลยนะ ซื้อ 10 ชุดเดี๋ยวนี้ก็ซื้อได้ แต่อย่าหวังเลย" เลยไปซื้อเซลล์อีกคนนึง อีกยี่ห้อนึง ทั้งชุด 6700 ผมตกลงเลย ซื้อเดี๋ยวนั้น ทำให้แม่มช้ำใจไปเลย พูดจาได้แย่มาก โมโห
ขอบคุณครับ ได้ระบายและ ^^
ขออนุญาติสรุปนะครับ
คือส่วนตัวผมเอง เวลาไปไหนมาไหนก็เป็นตัวเองครับ ไม่ชอบใส่หน้ากากอะไรมาก ไม่ใช่ไม่รู้กาลเทศะนะครับ มารยาทในสังคมครอบครัวต้องสอนมาอยู่แล้ว แต่ไม่ใส่หน้ากากในที่นี้คือเวลาเดินเที่ยว เดินช็อป มันอยากได้ฟิลที่รีแรกซ์ที่สุด ผ่อนคลาย แต่เวลาไปห้างหรืออะไรถ้าตั้งใจไปรับรองการแต่งตัวมันก็ต้องดีกว่าปรกติอยู่แล้วครับ บางคนอาจจะวางมาดใหญ่โต แต่ไม่ใช่ผมนะ ผมอาจจะยังไม่โตพอหรือมันก็ไม่ใช่นิสัยผม ส่วนตัวผมไม่ชอบคนขี้เก็ก มาดเยอะอยู่แล้ว เวลาไปซื้อของสิ่งที่ต้องการไม่ใช่คนมาเดินตามเป็นเงาตามตัว หรือ ไม่สนใจอะไรลูกค้าเลย แม้แต่ออกมาต้อนรับก็ไม่
ผมว่าพนักงานควรจะแยกเรื่องส่วนตัวกับงานออกจากกันนะครับ วันไหนอารมณ์ดีหรือไม่ดี ลูกค้าไม่ทราบหรอกครับ แต่ที่ลูกค้าทุกระดับหวังจะได้รับคือบริการจากคุณ คุณต้องแสดงความเป็นมืออาชีพออกมา คนเข้ามาในร้านก็ควรต้อนรับ เช่น "สวัสดีค่ะ สนใจสินค้าตัวไหนถามได้ค่ะ" แค่นี้ก็ปลื้มละ ไม่ใช่ทำเหมืองมองไม่เห็นลุกค้า มองข้าม ทำไม่สนใจ นั่งเล่นแต่โทรศัพท์ และการบรืการไม่ใช่เฉพาะคนชนชั้นไหน แต่มันต้องได้รับทุกชนชั้นเท่ากัน ไม่สิ!! ปัจจุบันต้องเรียกว่าไม่มีชนชั้นแล้ว ทุกคนควรได้รับบริการเท่าเทียมกัน ไม่ใช่จะดูภายนอกหรือภายใน คุณมีหน้าที่ให้บริการนะครับ กรุณาอย่ามองข้ามหัวลูกค้า
และอย่าพูดดูถูกลูกค้า อย่าคิดแทนลูกค้า แนะนำได้แต่อย่าตัดสินใจแทนว่าใครต้องซื้อหรือไม่ซื้ออะไร เขาจะมีปัญญาซื้อไหมหรือไม่มี เขาแสดงความสนใจในตัวสินค้าแล้ว เขาจะตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อมันเป็นเหตุผลส่วนตัวครับ
บางคนว่าผมงู้นงี้ ความคิดเด็กเกิน ไม่ฉลาด ผมน้อมรับครับ และยินดีขอบคุณมากครับ เพราะบางคนหัวแตกไม่รู้ตัว แต่ถ้าพี่ๆพูดเช่นนั้น ลองมองกลับกัน พี่มองในมุมผู้ใหญ่ แล้วเด็กเขาก็มองในมุมของเด็ก เด็กก็มีหัวใจและต้องการรับบริการที่ดีเหมือนกันนะครับ
บางคนก็บอกว่าอย่าไปใส่ใจเลย เรื่องเล็กน้อยเก็บมาคิดรกสมอง ผมก็ได้อ่านหลายคอมเม้นท์นะครับที่มาจากต่างประเทศ พี่ๆเหล่านั้นบอกว่าเมืองนอกมองต่างกับคนไทยมาก ความสำคัญของคนในประเทศเท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นใคร ใครมาก่อนควรได้รับบริการก่อน ไม่มีลัดคิวเอาใจ ปัญหาเหล่านี้ถูกซุกไว้ใต้พรมมานานมากแล้ว
ใครคิดต่างคือคนผิด ใครไม่มองในมุมของตัวเองคือคิดต่าง อย่างงั้นหรอครับ ยังไงผมว่า 1 ในคอมเม้นท์นี้คงต้องมีพนักงานขายบ้างล่ะ เริ่มจากจุดเล็กๆก็ได้ นี่ก็คือเสียงสะท้อนส่วนหนึ่งของลูกค้าคนนึง ที่สื่อออกมาครับ
ขอบคุณครับ
จริงๆกระทู้นี้ก็ไม่น่าเป็นกระทู้แนะนำเลย เป็นแค่กระทู้บ่นกระทู้นึง ถ้าผมเกิดคอมเม้นท์ไม่ดีหรือแสดงอะไรที่ทำให้พี่ๆไม่พอใจ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ แต่สิ่งที่ผมเจอมามันเป็นความจริง บางสิ่งบางอย่างผมอาจจะสื่อไม่เข้าใจ ขออภัยนะครับ แต่ถ้าใครไม่เจอแบบผมอาจจะเข้าใจยากนิดนึงและคิดว่าเรื่องพวกนี้เวอร์และไร้สาระมาก เช่นกันครับ ชีวิตของพี่ๆคงมีอะไรที่น่าประหลาดใจ ที่เล่าไปคงไม่มีใครเชื่อ ยังไงก็คงต้องดำเนินชีวิตต่อไปครับ คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ก็จะปรับปรุงตัวครับ และน้อมรับทุกคำตินะครับ ยังไงก็ถือว่าผมเป็นเด็กคนนึงแล้วกันนะครับ อยากจะไปกรี๊ดอัดหน้าใครก็คงทำไม่ได้ ยังไงก็ช่วยรับฟังผมด้วยนะครับ 55
เลิกดูถูกคนได้แล้วนะ
อึดอัดจัง แต่อยากระบาย ไม่รู้จะแท็กกลุ่มอะไรบ้าง แท็กผิดขออภัยนะครับ
คือผมอายุ 21 แต่หน้าไม่ค่อยแก่เท่าไหร่ บางคนทักนึกว่า 18-19 เพราะผมตัดผมสั้นๆเกรียนๆด้วยมั้งครับ แต่งตัวเสื้อยืด กางเกงขาสั้นบ้าง ยาวบ้าง
ผมไม่รู้จะต้องทำตัว หรือแต่งตัวอย่างไรให้น่าเชื่อถือ เวลาไปไหนมาไหน ตั้งใจจะไปซื้ออะไรก็ไม่ค่อยมีคนสนใจหรือต้อนรับเลย ไปซื้อกล้องถ่ายรูปราคาครึ่งแสนถือเงินสดไปร้านยังไม่สนใจเลย ไปสนใจพวกลุงๆ ผมก็อยากจะบอกนะว่าถ้าผมไม่สนใจสินค้าของคุณ ผมไม่เข้ามาในร้านคุณหรอก
ไปดูรถยนต์กับค่ายต่างๆ ยิ่งไม่มีคนสนใจเลย บางค่ายตะโกนข้ามหัวคุยกันอีกต่างหาก ไม่เกรงใจลูกค้าเลย ผมจะมาซื้อรถนะ ไม่ได้มาส่งของ อย่างรถ พอทำเรื่องจองแล้วบอกว่าซื้อเงินสด เซลล์ถึงกับมองหน้า เหมือนผมจะมาหลอกอะไรเขางั้นแหละ อะไรฟระ ต้องอายุเท่าไรถึงจะซื้อรถเงินสดกัน
หงุดหงิดมาก อยากจะต่อว่าแรงๆว่า "ถ้าขืนคุณยังคิดและมองลูกค้าด้วยสายตาแบบนี้ คุณคงเป็นได้แค่นี้แหละ เพราะความคิดมันมีแค่นี้" จริงๆมันก็ไม่ใช่แค่นี้หรอก มันหลายอย่างหลายครั้งแล้ว เสื้อผ้า หน้า ผม ก็เรียบร้อยดี สุภาพไม่มีหนีบรองเท้าแตะด้วยเวลาไปไหน ไม่รู้จะปรับอะไรในตัวเองแล้วให้มันมีความน่าเชื่อถือ หรือต้องรับสภาพแบบนี้ต่อไป เซงมาก
ล่าสุดที่เซงงงงงงงงงงงงงงงมาก คือไปห้างดังแถวรามอินทรามา(ไปขับรถเล่น ตอน 2 ทุ่ม)จากบางใหญ่ นนทบุรี ก็ไปถูกใจชุดเครื่องนอนอยู่ชุดนึง ตอนนั้นเงินติดตัวไป 3000 เพราะมันมืดแล้วไม่ได้กะว่าจะไปไหน ก็เข้าไปถามเซลล์ขายเครื่องนอน ผมถามว่าราคาเท่าไรทั้งหมด เขาบอก 4080 ผมก็ ตกลง ไม่ได้ต่อราคาด้วยเพราะเป็นของห้าง เลยไปกดเงินเพิ่ม พอขึ้นมาจะจ่าย เขามาแจ้งที่หลังว่า4080 เนี่ย ไม่รวมผ้าปูที่นอนและปอกหมอนนะ ผมก็งง มะกี๊บอกทั้งชุด เขาก็บอกว่าทั้งชุดคือผ้าคลุมผ้านวม และก็ไส้ผ้านวม ผมก็เลยบอกว่าแล้วทำไมมะกี๊ไม่บอกให้หมด เพราะผมบอกว่าทั้งชุด(ทางห้างจัดชุดโชว์เอาไว้เลยครับ) เขาก็บอกยี่ห้อนี้มันแพงกลัวน้องตังค์ไม่พอ.........................ปรี๊ดแตก ด่าเต็มที่เลยผม ว่า" ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อมันเป็นสิทธิของลูกค้า คุณมีหน้าที่แจ้งทุกอย่างให้ลูกค้าทราบและไม่มีสิทธิไป ตัดสินลูกค้าว่า เขามีเงินเท่าไหร่ พอไหม ที่นอนชุดนี้ราคา 8000 มันไม่ได้ส่งผลให้ผมเดือดร้อนเลยนะ ซื้อ 10 ชุดเดี๋ยวนี้ก็ซื้อได้ แต่อย่าหวังเลย" เลยไปซื้อเซลล์อีกคนนึง อีกยี่ห้อนึง ทั้งชุด 6700 ผมตกลงเลย ซื้อเดี๋ยวนั้น ทำให้แม่มช้ำใจไปเลย พูดจาได้แย่มาก โมโห
ขอบคุณครับ ได้ระบายและ ^^
ขออนุญาติสรุปนะครับ
คือส่วนตัวผมเอง เวลาไปไหนมาไหนก็เป็นตัวเองครับ ไม่ชอบใส่หน้ากากอะไรมาก ไม่ใช่ไม่รู้กาลเทศะนะครับ มารยาทในสังคมครอบครัวต้องสอนมาอยู่แล้ว แต่ไม่ใส่หน้ากากในที่นี้คือเวลาเดินเที่ยว เดินช็อป มันอยากได้ฟิลที่รีแรกซ์ที่สุด ผ่อนคลาย แต่เวลาไปห้างหรืออะไรถ้าตั้งใจไปรับรองการแต่งตัวมันก็ต้องดีกว่าปรกติอยู่แล้วครับ บางคนอาจจะวางมาดใหญ่โต แต่ไม่ใช่ผมนะ ผมอาจจะยังไม่โตพอหรือมันก็ไม่ใช่นิสัยผม ส่วนตัวผมไม่ชอบคนขี้เก็ก มาดเยอะอยู่แล้ว เวลาไปซื้อของสิ่งที่ต้องการไม่ใช่คนมาเดินตามเป็นเงาตามตัว หรือ ไม่สนใจอะไรลูกค้าเลย แม้แต่ออกมาต้อนรับก็ไม่
ผมว่าพนักงานควรจะแยกเรื่องส่วนตัวกับงานออกจากกันนะครับ วันไหนอารมณ์ดีหรือไม่ดี ลูกค้าไม่ทราบหรอกครับ แต่ที่ลูกค้าทุกระดับหวังจะได้รับคือบริการจากคุณ คุณต้องแสดงความเป็นมืออาชีพออกมา คนเข้ามาในร้านก็ควรต้อนรับ เช่น "สวัสดีค่ะ สนใจสินค้าตัวไหนถามได้ค่ะ" แค่นี้ก็ปลื้มละ ไม่ใช่ทำเหมืองมองไม่เห็นลุกค้า มองข้าม ทำไม่สนใจ นั่งเล่นแต่โทรศัพท์ และการบรืการไม่ใช่เฉพาะคนชนชั้นไหน แต่มันต้องได้รับทุกชนชั้นเท่ากัน ไม่สิ!! ปัจจุบันต้องเรียกว่าไม่มีชนชั้นแล้ว ทุกคนควรได้รับบริการเท่าเทียมกัน ไม่ใช่จะดูภายนอกหรือภายใน คุณมีหน้าที่ให้บริการนะครับ กรุณาอย่ามองข้ามหัวลูกค้า
และอย่าพูดดูถูกลูกค้า อย่าคิดแทนลูกค้า แนะนำได้แต่อย่าตัดสินใจแทนว่าใครต้องซื้อหรือไม่ซื้ออะไร เขาจะมีปัญญาซื้อไหมหรือไม่มี เขาแสดงความสนใจในตัวสินค้าแล้ว เขาจะตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อมันเป็นเหตุผลส่วนตัวครับ
บางคนว่าผมงู้นงี้ ความคิดเด็กเกิน ไม่ฉลาด ผมน้อมรับครับ และยินดีขอบคุณมากครับ เพราะบางคนหัวแตกไม่รู้ตัว แต่ถ้าพี่ๆพูดเช่นนั้น ลองมองกลับกัน พี่มองในมุมผู้ใหญ่ แล้วเด็กเขาก็มองในมุมของเด็ก เด็กก็มีหัวใจและต้องการรับบริการที่ดีเหมือนกันนะครับ
บางคนก็บอกว่าอย่าไปใส่ใจเลย เรื่องเล็กน้อยเก็บมาคิดรกสมอง ผมก็ได้อ่านหลายคอมเม้นท์นะครับที่มาจากต่างประเทศ พี่ๆเหล่านั้นบอกว่าเมืองนอกมองต่างกับคนไทยมาก ความสำคัญของคนในประเทศเท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นใคร ใครมาก่อนควรได้รับบริการก่อน ไม่มีลัดคิวเอาใจ ปัญหาเหล่านี้ถูกซุกไว้ใต้พรมมานานมากแล้ว
ใครคิดต่างคือคนผิด ใครไม่มองในมุมของตัวเองคือคิดต่าง อย่างงั้นหรอครับ ยังไงผมว่า 1 ในคอมเม้นท์นี้คงต้องมีพนักงานขายบ้างล่ะ เริ่มจากจุดเล็กๆก็ได้ นี่ก็คือเสียงสะท้อนส่วนหนึ่งของลูกค้าคนนึง ที่สื่อออกมาครับ
จริงๆกระทู้นี้ก็ไม่น่าเป็นกระทู้แนะนำเลย เป็นแค่กระทู้บ่นกระทู้นึง ถ้าผมเกิดคอมเม้นท์ไม่ดีหรือแสดงอะไรที่ทำให้พี่ๆไม่พอใจ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ แต่สิ่งที่ผมเจอมามันเป็นความจริง บางสิ่งบางอย่างผมอาจจะสื่อไม่เข้าใจ ขออภัยนะครับ แต่ถ้าใครไม่เจอแบบผมอาจจะเข้าใจยากนิดนึงและคิดว่าเรื่องพวกนี้เวอร์และไร้สาระมาก เช่นกันครับ ชีวิตของพี่ๆคงมีอะไรที่น่าประหลาดใจ ที่เล่าไปคงไม่มีใครเชื่อ ยังไงก็คงต้องดำเนินชีวิตต่อไปครับ คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ก็จะปรับปรุงตัวครับ และน้อมรับทุกคำตินะครับ ยังไงก็ถือว่าผมเป็นเด็กคนนึงแล้วกันนะครับ อยากจะไปกรี๊ดอัดหน้าใครก็คงทำไม่ได้ ยังไงก็ช่วยรับฟังผมด้วยนะครับ 55