ถ้าย้อนไปในช่วง 10กว่าปีก่อนคงจะเป็นการยากที่จะเชื่อว่าจะมีเกมๆใดที่ใช้ต้นทุนในการผลิตใกล้เคียงกับการผลิตภาพยนตร์ของฮอลลีวู๊ดบางเรื่องได้ เนื่องจากในยุคเริ่มต้นนั้นการพัฒนาเกมแต่ละเกมจะมีงบประมาณที่จำกัด และเทคโนโลยีต่างๆประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ และเครื่องเล่นเกมเองก็มีข้อจำกัดอยู่ด้วย อย่างเกม Doomภาคต้นฉบับนั้นใช้เงินทุนในการสร้าง 200,000ดอลลาร์สหรัฐฯซึ่งก็นับว่ามากพอควรในยุคนั้น แต่ด้วยเทคโนโลยีต่างๆที่มีการพัฒนามากขึ้น และวงการเกมที่มีการขยายกลุ่มผู้เล่นออกไปมากขึ้นทั่วโลก ทำให้การพัฒนาเกมในปัจจุบันนั้น หลายๆเกมใช้เงินในการพัฒนาไม่น้อยหน้าภาพยนตร์เลยทีเดียว รวมถึงขั้นตอนการพัฒนาเกมก็มีมากขึ้นซับซ้อนมากขึ้นตามต้นทุนที่สูงขึ้นมา ตัวอย่างของเกมที่เริ่มใช้ทุนในการพัฒนามากขึ้นนั้นก็จะเป็น Half-Life 2 ที่ใช้ทุน 40ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2004
อันดับ 10. Killzone 2: 45ล้านดอลลาร์สหรัฐฯใช้เวลาในการพัฒนาไปกว่า 4ปี จากเดิมที่ตั้งงบประมาณไว้ที่ 20ล้านดอลลาร์ แต่เนื่องจากมีการขยายระยะเวลาในการพัฒนาเกมออกไปเรื่อยๆ ต้นทุนที่มีการตั้งไว้ก็เพิ่มขึ้นไปตามการพัฒนา ซึ่งก็มีข่าวว่าได้มีการใช้เงินในการพัฒนาไปกว่า 56ล้านดอลลาร์ แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นจริงหรือไม่

อันดับ 9. Final Fantasy XII: 48ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เกมภาคต่อของเกมตระกูล Final Fantasy ที่ขึ้นชื่อในด้านคุณภาพของเกม และการทุ่มทุนในการสร้าง จนเป็นเกมที่มีต้นทุนสูงที่สุดที่ผลิตโดยสตูดิโอในญี่ปุ่น โดยต้นทุน 48ล้านดอลลาร์นี้ ยังไม่รวมค่าการตลาด การจัดจำหน่ายต่างๆ ซึ่งเกม Final Fantasy XIII ที่มีข่าวว่ากำลังจะเริ่มพัฒนาต่อไปนั้นก็มีข่าวลือกันว่าจะเพิ่มต้นทุนเข้าไปอีก 50เปอร์เซ็นต์

อันดับ 8. LA Noire: 50ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เกมนี้ก็เป็นเกมที่ติดอันดับเกมที่มีต้นทุนสูงสุดที่มีการพัฒนาโดยสตูดิโอเกมในออสเตรเลีย ซึ่ง Rockstar ได้ทุ่มทุนไปว่า 50ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างฉากของเมืองลอสแองเจลิสยุค 1940 ในเกมนั้นให้เหมือนกับชมจากภาพยนตร์ฮอลลีวู๊ดเลยทีเดียว

อันดับ 7. All Points Bulletin (APB), 50ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ใช้เวลาพัฒนามาเกือบจะ 5ปีแล้ว โดย Realtime Worlds ผู้ผลิตเกมนี้ได้ตั้งงบประมาณไว้ที่ 50ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจะมีการเพิ่มทุนไปอีกตามระยะเวลาที่ใช้พัฒนาเกมที่อาจจะต้องขยายตามไป ซึ่ง Realtime Worlds มักจะกล่าวถึงเกม APB ว่าเป็นเกมที่มีต้นทุนการสร้างที่สูงที่สุดในโลก

อันดับ 6. Halo 3, 55ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เมื่อ Bungie และ Microsoft จับมือสร้างเกมที่เป็นหัวหอกที่สำคัญในการบุกตลาดสำหรับเครื่องเล่นเกม Xbox 360 ก็ทำให้ Halo 3 เป็นเกมที่แทบจะมีงบประมาณในการสร้างไม่จำกัด โดยรวมแล้วงบประมาณในการพัฒนาเกม Halo 3 ทั้งหมดจะอยู่ที่ 55ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยังไม่รวมค่าการตลาดที่ Microsoft ใช้ในการโปรโมทเกมไปอีกกว่า 200ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเลยทีเดียว

อันดับ 5. Metal Gear Solid 4, 60ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
หนึ่งในเกมที่มีผู้รอคอยมากที่สุด และมีเนื้อเรื่อง พร้อมรายละเอียดต่างๆที่ซับซ้อนมาก ใช้เวลาพัฒนา 4ปีเต็ม โดยร่วมทุนระหว่าง Kojima Producitons และ Sony

อันดับ 4. Too Human, กว่า 60ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เกมที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากเนื่องจากหลังจากที่พัฒนาเกมจนเกือบสำเร็จ แต่ก็มีการเปลี่ยนเอ็นจิ้นของเกมใหม่หมดจาก Unreal Engine 3 มาเป็นเอ็นจิ้นที่พัฒนาขึ้นมาเอง ทำให้ต้องมีการเพิ่มต้นทุนเข้าไปอีกมาก

อันดับ 3. Shenmue, 70ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เกมที่ติดอันดับเกมที่มีต้นทุนสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาเป็นระยะเวลากว่า 10ปี ถึงแม้ว่าจะมียอดจำหน่ายเกมที่ไม่ประทับใจนัก แต่ก็เป็นเกมของ SEGA Dreamcast ที่ถูกออกแบบมาให้มีรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆมากมาย จนกระทั่งบางส่วนเกมในปัจจุบันอาจจะยังไม่ทำออกมาละเอียดได้เท่า

อันดับ 2. Gran Turismo 5: 80ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เกมแข่งรถที่เน้นความสมจริงในการขับมากที่สุดใช้เวลาในการพัฒนาไปกว่า 5ปีแล้ว ซึ่งคาดว่าทุนในการพัฒนาเกมนี้น่าจะไปอยู่ที่ 80ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อมีการพัฒนาเสร็จ

อันดับ 1. Grand Theft Auto 4: 100ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ไม่ต้องบรรยายอะไรมากสำหรับเกมนี้ไม่ว่าจะในด้านภาพ และรายละเอียดต่างๆในการเล่นเกม ที่ทำให้ไม่แปลกใจว่าจะใช้งบประมาณสูงที่สุด ถึงแม้ว่าจะถูกห้ามจำหน่ายในบางประเทศก็ตาม

ที่มา:
http://www.overclock.net/video-game-news/675975-digitalbattle-top-10-most-expensive-video.html
http://techgage.com/news/top_10_most_expensive_game_development_costs/
จากคุณ PANTIP.COM(Tech-Exchange) (A: X:)
10อันดับเกมทุนสร้างสูงสุดในประวัติศาสตร์
อันดับ 10. Killzone 2: 45ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ใช้เวลาในการพัฒนาไปกว่า 4ปี จากเดิมที่ตั้งงบประมาณไว้ที่ 20ล้านดอลลาร์ แต่เนื่องจากมีการขยายระยะเวลาในการพัฒนาเกมออกไปเรื่อยๆ ต้นทุนที่มีการตั้งไว้ก็เพิ่มขึ้นไปตามการพัฒนา ซึ่งก็มีข่าวว่าได้มีการใช้เงินในการพัฒนาไปกว่า 56ล้านดอลลาร์ แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นจริงหรือไม่
อันดับ 9. Final Fantasy XII: 48ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เกมภาคต่อของเกมตระกูล Final Fantasy ที่ขึ้นชื่อในด้านคุณภาพของเกม และการทุ่มทุนในการสร้าง จนเป็นเกมที่มีต้นทุนสูงที่สุดที่ผลิตโดยสตูดิโอในญี่ปุ่น โดยต้นทุน 48ล้านดอลลาร์นี้ ยังไม่รวมค่าการตลาด การจัดจำหน่ายต่างๆ ซึ่งเกม Final Fantasy XIII ที่มีข่าวว่ากำลังจะเริ่มพัฒนาต่อไปนั้นก็มีข่าวลือกันว่าจะเพิ่มต้นทุนเข้าไปอีก 50เปอร์เซ็นต์
อันดับ 8. LA Noire: 50ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เกมนี้ก็เป็นเกมที่ติดอันดับเกมที่มีต้นทุนสูงสุดที่มีการพัฒนาโดยสตูดิโอเกมในออสเตรเลีย ซึ่ง Rockstar ได้ทุ่มทุนไปว่า 50ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างฉากของเมืองลอสแองเจลิสยุค 1940 ในเกมนั้นให้เหมือนกับชมจากภาพยนตร์ฮอลลีวู๊ดเลยทีเดียว
อันดับ 7. All Points Bulletin (APB), 50ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ใช้เวลาพัฒนามาเกือบจะ 5ปีแล้ว โดย Realtime Worlds ผู้ผลิตเกมนี้ได้ตั้งงบประมาณไว้ที่ 50ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจะมีการเพิ่มทุนไปอีกตามระยะเวลาที่ใช้พัฒนาเกมที่อาจจะต้องขยายตามไป ซึ่ง Realtime Worlds มักจะกล่าวถึงเกม APB ว่าเป็นเกมที่มีต้นทุนการสร้างที่สูงที่สุดในโลก
อันดับ 6. Halo 3, 55ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เมื่อ Bungie และ Microsoft จับมือสร้างเกมที่เป็นหัวหอกที่สำคัญในการบุกตลาดสำหรับเครื่องเล่นเกม Xbox 360 ก็ทำให้ Halo 3 เป็นเกมที่แทบจะมีงบประมาณในการสร้างไม่จำกัด โดยรวมแล้วงบประมาณในการพัฒนาเกม Halo 3 ทั้งหมดจะอยู่ที่ 55ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยังไม่รวมค่าการตลาดที่ Microsoft ใช้ในการโปรโมทเกมไปอีกกว่า 200ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเลยทีเดียว
อันดับ 5. Metal Gear Solid 4, 60ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
หนึ่งในเกมที่มีผู้รอคอยมากที่สุด และมีเนื้อเรื่อง พร้อมรายละเอียดต่างๆที่ซับซ้อนมาก ใช้เวลาพัฒนา 4ปีเต็ม โดยร่วมทุนระหว่าง Kojima Producitons และ Sony
อันดับ 4. Too Human, กว่า 60ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เกมที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากเนื่องจากหลังจากที่พัฒนาเกมจนเกือบสำเร็จ แต่ก็มีการเปลี่ยนเอ็นจิ้นของเกมใหม่หมดจาก Unreal Engine 3 มาเป็นเอ็นจิ้นที่พัฒนาขึ้นมาเอง ทำให้ต้องมีการเพิ่มต้นทุนเข้าไปอีกมาก
อันดับ 3. Shenmue, 70ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เกมที่ติดอันดับเกมที่มีต้นทุนสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาเป็นระยะเวลากว่า 10ปี ถึงแม้ว่าจะมียอดจำหน่ายเกมที่ไม่ประทับใจนัก แต่ก็เป็นเกมของ SEGA Dreamcast ที่ถูกออกแบบมาให้มีรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆมากมาย จนกระทั่งบางส่วนเกมในปัจจุบันอาจจะยังไม่ทำออกมาละเอียดได้เท่า
อันดับ 2. Gran Turismo 5: 80ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เกมแข่งรถที่เน้นความสมจริงในการขับมากที่สุดใช้เวลาในการพัฒนาไปกว่า 5ปีแล้ว ซึ่งคาดว่าทุนในการพัฒนาเกมนี้น่าจะไปอยู่ที่ 80ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อมีการพัฒนาเสร็จ
อันดับ 1. Grand Theft Auto 4: 100ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ไม่ต้องบรรยายอะไรมากสำหรับเกมนี้ไม่ว่าจะในด้านภาพ และรายละเอียดต่างๆในการเล่นเกม ที่ทำให้ไม่แปลกใจว่าจะใช้งบประมาณสูงที่สุด ถึงแม้ว่าจะถูกห้ามจำหน่ายในบางประเทศก็ตาม
ที่มา:
http://www.overclock.net/video-game-news/675975-digitalbattle-top-10-most-expensive-video.html
http://techgage.com/news/top_10_most_expensive_game_development_costs/
จากคุณ PANTIP.COM(Tech-Exchange) (A: X:)