เล่นเกมมากๆ ระวังเป็นโรคร้ายสมัยกรุงศรีฯ นะจ๊ะพวกเธอว์
แม้ว่าพวกเราเหล่าเกมเมอร์จะชาชินกับคำกล่าวหาต่อวีดีโอเกมที่ว่าเป็นสาเหตุของความบรรลัยวายป่วงทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นเล่นเกมมากๆ เปลืองไฟจากคุณย่า เล่นเกมมากๆ ทำให้สายตาเสียจากคุณยาย เล่นเกมมากๆ ทำให้ไม่มีเพื่อนจากคุณแม่ และเล่นเกมมากๆ ทำให้โง่จากเพื่อนๆ นักปาร์ตี้ทั้งหลาย (ทีพวกเอ็งก๊งกันทุกวันนี่ไม่โง่เลยโน๊ะ) แต่คราวนี้เกมคอมพิวเตอ์ถูกกล่าวหาอีกครั้งด้วยการถูกป้ายสีว่าเป็นตัวการที่ทำให้เชื้อโรคร้ายแรงในยุคสมัยครั้นอโยธยาเป็นเมืองหลวงกลับมาแพร่ระบาดในยุคปัจจุบันอีกครั้งหนึ่ง
โดยคำกล่าวหาที่ว่านี้มาจากงานวิจัยของนักวิจัยสายแพทย์ในประเทศสหราชฯ อังกฤษ รายละเอียดของบทความดังกล่าวนั้นได้เอ่ยถึงอาการที่เรียกว่า Rickets Cases ซึ่งอาการดังกล่าวที่ว่านั้นหายไปจากโลกนี้ตั้งแต่สมัยวิคตอเรียแล้ว (วิคตอเรียบ้านเค้า อยุธยาบ้านเราครับ) สำหรับท่านๆ ที่ไม่คุ้นเคยกับอาการ Rickets Cases อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้อย่าง นพ.Google และ พญ.Wiki โรคดึกดำบรรพ์ที่ว่าในยุคศตวรรษที่ 19 นามว่า Rickets Cases คืออาการกระดูกเปราะ ที่เกิดสืบเนื่องมาจากอาการขาดวิตามิน D ของร่างกาย และแกล่งของวิตามินที่ว่านี้ก็ไม่ใช่อะไรที่ไหน แสงแดดนั่นเองครับ

อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์ London Times อาการกระดูกเปราะ (Rickets) ที่ว่านี้เป็นเรื่องที่กำลังลุกลามเป็นเรื่องปกติของเด็กในประเทศอังกฤษ (ก็บ้านเอ็ง 10 วันจะมีแดดสักวันไง มันแปลกตรงไหน - -*) และนอกจากนั้นศาสตราจารย์ Simon Pearce หนี่งในผู้ร่วมประพันธ์ผลงานชิ้นดังกล่าวก็ได้เสริมว่า "เด็กๆ ในสมัยนี้ขลุกอยู่กับวีดีโอเกมมากกว่าที่จะไปวิ่งเล่นอยู่นอกบ้าน ดังนั้นพวกเขาจึงอดที่จะได้สัมผัสกับอากาศและแสดงแดดภายนอก และนั่นทำให้พวกเขาได้รับวิตามิน D ที่อยู่ตามแสงแดดธรรมชาติน้อยลงกว่าเด็กๆ จากยุคอื่นไปโดยบริยาย" และนอกจากนั้นผู้ร่วมประพันธ์อีกคนของบทความดังกล่าวร่วมกับ ศาสตราจารย์ Simon Pearce ด๊อกเตอร์ Tim Cheetham ก็ยังได้เพิ่มเติมอีกว่า "พวกผมท้อใจมากกับจำนวนของเด็กที่ผมว่าเข้าข่ายในกรณีที่ว่านี้ การป้องกันมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยนอกจากเสียว่าจะมีการให้เด็กๆ เหล่านั้นได้รับสารอาหารที่ควรได้ในวัยเจริญเติบโตอย่างเช่นน้ำมันตับปลา เป็นต้น " และพร้อมๆ กันนั้นทั้งคู่ก็ได้รณรงค์ให้ทางผู้ผลิตและแปรรูปอาหารใส่วิตามินที่จำเป็นอย่างวิตามิน D เข้าไปในสินค้าหลักอย่างนมและขนมปังอีกด้วย (ก็รู้สาเหตุนิหว่า แล้วมันเกี่ยวกับเกมตรงไหน?)

ภาพ : ตัวอย่างที่ไม่ดีในการเล่นเกมพร้อมๆ กับการรับวิตามินจากแสงแดด
ที่มาะ : http://www.tomsguide.com/us/Rickets-Videogames-Children-UK,news-5628.html
เล่นเกมมากๆ ระวังเป็นโรคร้ายสมัยกรุงศรีฯ นะจ๊ะพวกเธอว์
เล่นเกมมากๆ ระวังเป็นโรคร้ายสมัยกรุงศรีฯ นะจ๊ะพวกเธอว์
แม้ว่าพวกเราเหล่าเกมเมอร์จะชาชินกับคำกล่าวหาต่อวีดีโอเกมที่ว่าเป็นสาเหตุของความบรรลัยวายป่วงทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นเล่นเกมมากๆ เปลืองไฟจากคุณย่า เล่นเกมมากๆ ทำให้สายตาเสียจากคุณยาย เล่นเกมมากๆ ทำให้ไม่มีเพื่อนจากคุณแม่ และเล่นเกมมากๆ ทำให้โง่จากเพื่อนๆ นักปาร์ตี้ทั้งหลาย
(ทีพวกเอ็งก๊งกันทุกวันนี่ไม่โง่เลยโน๊ะ)แต่คราวนี้เกมคอมพิวเตอ์ถูกกล่าวหาอีกครั้งด้วยการถูกป้ายสีว่าเป็นตัวการที่ทำให้เชื้อโรคร้ายแรงในยุคสมัยครั้นอโยธยาเป็นเมืองหลวงกลับมาแพร่ระบาดในยุคปัจจุบันอีกครั้งหนึ่งโดยคำกล่าวหาที่ว่านี้มาจากงานวิจัยของนักวิจัยสายแพทย์ในประเทศสหราชฯ อังกฤษ รายละเอียดของบทความดังกล่าวนั้นได้เอ่ยถึงอาการที่เรียกว่า Rickets Cases ซึ่งอาการดังกล่าวที่ว่านั้นหายไปจากโลกนี้ตั้งแต่สมัยวิคตอเรียแล้ว (วิคตอเรียบ้านเค้า อยุธยาบ้านเราครับ) สำหรับท่านๆ ที่ไม่คุ้นเคยกับอาการ Rickets Cases อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้อย่าง นพ.Google และ พญ.Wiki โรคดึกดำบรรพ์ที่ว่าในยุคศตวรรษที่ 19 นามว่า Rickets Cases คืออาการกระดูกเปราะ ที่เกิดสืบเนื่องมาจากอาการขาดวิตามิน D ของร่างกาย และแกล่งของวิตามินที่ว่านี้ก็ไม่ใช่อะไรที่ไหน แสงแดดนั่นเองครับ
อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์ London Times อาการกระดูกเปราะ (Rickets) ที่ว่านี้เป็นเรื่องที่กำลังลุกลามเป็นเรื่องปกติของเด็กในประเทศอังกฤษ (ก็บ้านเอ็ง 10 วันจะมีแดดสักวันไง มันแปลกตรงไหน - -*) และนอกจากนั้นศาสตราจารย์ Simon Pearce หนี่งในผู้ร่วมประพันธ์ผลงานชิ้นดังกล่าวก็ได้เสริมว่า "เด็กๆ ในสมัยนี้ขลุกอยู่กับวีดีโอเกมมากกว่าที่จะไปวิ่งเล่นอยู่นอกบ้าน ดังนั้นพวกเขาจึงอดที่จะได้สัมผัสกับอากาศและแสดงแดดภายนอก และนั่นทำให้พวกเขาได้รับวิตามิน D ที่อยู่ตามแสงแดดธรรมชาติน้อยลงกว่าเด็กๆ จากยุคอื่นไปโดยบริยาย" และนอกจากนั้นผู้ร่วมประพันธ์อีกคนของบทความดังกล่าวร่วมกับ ศาสตราจารย์ Simon Pearce ด๊อกเตอร์ Tim Cheetham ก็ยังได้เพิ่มเติมอีกว่า "พวกผมท้อใจมากกับจำนวนของเด็กที่ผมว่าเข้าข่ายในกรณีที่ว่านี้ การป้องกันมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยนอกจากเสียว่าจะมีการให้เด็กๆ เหล่านั้นได้รับสารอาหารที่ควรได้ในวัยเจริญเติบโตอย่างเช่นน้ำมันตับปลา เป็นต้น " และพร้อมๆ กันนั้นทั้งคู่ก็ได้รณรงค์ให้ทางผู้ผลิตและแปรรูปอาหารใส่วิตามินที่จำเป็นอย่างวิตามิน D เข้าไปในสินค้าหลักอย่างนมและขนมปังอีกด้วย (ก็รู้สาเหตุนิหว่า แล้วมันเกี่ยวกับเกมตรงไหน?)
ภาพ : ตัวอย่างที่
ไม่ดีในการเล่นเกมพร้อมๆ กับการรับวิตามินจากแสงแดด