1.เจนนาโร่ กัตตูโซ่ (อิตาลี)
- หลังจากทีมชาติอิตาลีประกาศปลด ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ ออกตำแหน่ง สุดท้ายพวกเขาก็ตัดสินใจเลือก เจนนาโร่ กัตตูโซ่ อดีตกองกลางจอมดีเดือดจากชุดแชมป์โลกปี 2006 ให้เข้ามาคุมทีมตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเป้าหมายที่กัตตูโซ่ต้องทำให้ได้ คือ การพาอิตาลีกลับไปเล่นฟุตบอลโลกอีกครั้ง หลังจากตกรอบคัดเลือกมา 2 สมัยติด
2.โรนัลด์ คูมัน (เนเธอร์แลนด์)
- อดีตกองหลังจอมยิงฟรีคิก เข้ามาคุมทีมชาติเนเธอร์แลนด์เป็นรอบที่ 2 ในปี 2023 โดยเป้าหมายหลัก คือ การคว้าแชมป์กลุ่มจีเพื่อคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลก 2026 รอบสุดท้าย
3.อีวาน ฮาเซ็ค (สาธารณรัฐเช็ก)
- กัปตันทีมชาติเช็กโกสโลวาเกียชุดฟุตบอลโลก 1990 เข้ามาคุมทีมชาติสาธารณรัฐเช็กเป็นรอบที่ 2 เมื่อช่วงต้นปี 2024 โดยเป้าหมายหลักคือ พาทีมไปเล่นฟุตบอลโลก 2026 โดยมีโครเอเชียเป็นคู่แข่งสำคัญ
4.เซอร์เก เรบรอฟ (ยูเครน)
- กองหน้าคู่หูของ อังเดร เชฟเชนโก้ ในฟุตบอลโลก 2006 เข้ามารับงานคุมทีมชาติยูเครนตั้งแต่ปี 2023 โดยเคยพาทีมเข้าไปเล่นในศึกยูโร 2024 มาแล้วและตอนนี้กำลังตั้งเป้าหมายพาทีมไปเล่นฟุตบอลโลก 2026
5.เคร็ก เบลลามี (เวลส์)
- ดาวเตะร่างเล็กแห่งทีมชาติเวลส์ในช่วงยุค 2000s กำลังมีผลงานที่ดีในการคุมทีมชาติเวลส์และกำลังลุ้นพาทีมผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกให้ได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน
6.มูรัต ยาคิน (สวิตเซอร์แลนด์)
- อดีตกองหลังทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ เข้ามารับงานคุมทีมชาติตั้งแต่ปี 2021 และพาทีมได้เข้าไปเล่นทั้งฟุตบอลโลก 2022 และฟุตบอลยูโร 2024 โดยปัจจุบันกำลังลุ้นพาทีมไปเล่นฟุตบอลโลกให้ได้อีกครั้ง
7.สตาเล่ โซบัคเค่น (นอร์เวย์)
- อดีตกองกลางทีมชาตินอร์เวย์ในทศวรรษที่ 90 เข้ามารับงานคุมทีมชาติตั้งแต่ปี 2020 โดยในการเล่นรอบคัดเลือกครั้งนี้ก็มีโอกาสดีที่เขาจะพานอร์เวย์กลับไปเล่นในฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ใหญ่อีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนานไม่ต่ำกว่า 25 ปี
8.ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ (ฝรั่งเศส)
- กัปตันทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลก 1998 และชุดแชมป์ยูโร 2000 โดยรับงานคุมทีมชาติมาตั้งแต่ปี 2012 และประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยการพาฝรั่งเศสเป็นแชมป์โลกในปี 2018 รวมทั้งได้รองแชมป์โลกปี 2022 และรองแชมป์ยูโรปี 2016
9.เซอร์เก บาบาเรซ (บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา)
- ตำนานดาวยิงของสโมสรฮัมบูร์กและอดีตดาวเตะทีมชาติบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา เข้ามารับงานคุมทีมชาติในปี 2024 โดยมีเป้าหมายในการพาบอสเนียฯได้ไปเล่นฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ 2
10.ฮอง เมียง โบ (เกาหลีใต้)
- กัปตันทีมชาติเกาหลีใต้ชุดคว้าอันดับ 4 ในฟูตบอลโลก 2002 เข้ามารับงานคุมทีมชาติเป็นรอบที่ 2 ในปี 2024 และพาทีมคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลก 2026 ได้เป็นที่เรียบร้อย
11.โทนี โปโปวิช (ออสเตรเลีย)
- อดีตปราการหลังชุดฟุตบอลโลก 2006 และเข้ามารับงานคุมทีมชาติต่อจาก เกรแฮม อาร์โนลด์ ในเดือนกันยายน 2024 ซึ่งเขาสามารถพาออสเตรเลียได้ไปเล่นฟุตบอลโลก 2026 เป็นที่เรียบร้อย
12.ดไวท์ ยอร์ค (ตรินิแดดและโตเบโก)
- ดาวยิงระดับตำนานของตรินิแดดและโตเบโก เคยไปเล่นฟุตบอลโลก 2006 โดยปัจจุบันเขาคือกุนซือของทีมชาติตรินิแดดฯและมีเป้าหมายในการพาทีมไปเล่นฟุตบอลโลก 2026
12 นักเตะดังที่กลายมาเป็นโค้ชให้ชาติบ้านเกิดของตนเอง
- หลังจากทีมชาติอิตาลีประกาศปลด ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ ออกตำแหน่ง สุดท้ายพวกเขาก็ตัดสินใจเลือก เจนนาโร่ กัตตูโซ่ อดีตกองกลางจอมดีเดือดจากชุดแชมป์โลกปี 2006 ให้เข้ามาคุมทีมตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเป้าหมายที่กัตตูโซ่ต้องทำให้ได้ คือ การพาอิตาลีกลับไปเล่นฟุตบอลโลกอีกครั้ง หลังจากตกรอบคัดเลือกมา 2 สมัยติด
2.โรนัลด์ คูมัน (เนเธอร์แลนด์)
- อดีตกองหลังจอมยิงฟรีคิก เข้ามาคุมทีมชาติเนเธอร์แลนด์เป็นรอบที่ 2 ในปี 2023 โดยเป้าหมายหลัก คือ การคว้าแชมป์กลุ่มจีเพื่อคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลก 2026 รอบสุดท้าย
3.อีวาน ฮาเซ็ค (สาธารณรัฐเช็ก)
- กัปตันทีมชาติเช็กโกสโลวาเกียชุดฟุตบอลโลก 1990 เข้ามาคุมทีมชาติสาธารณรัฐเช็กเป็นรอบที่ 2 เมื่อช่วงต้นปี 2024 โดยเป้าหมายหลักคือ พาทีมไปเล่นฟุตบอลโลก 2026 โดยมีโครเอเชียเป็นคู่แข่งสำคัญ
4.เซอร์เก เรบรอฟ (ยูเครน)
- กองหน้าคู่หูของ อังเดร เชฟเชนโก้ ในฟุตบอลโลก 2006 เข้ามารับงานคุมทีมชาติยูเครนตั้งแต่ปี 2023 โดยเคยพาทีมเข้าไปเล่นในศึกยูโร 2024 มาแล้วและตอนนี้กำลังตั้งเป้าหมายพาทีมไปเล่นฟุตบอลโลก 2026
5.เคร็ก เบลลามี (เวลส์)
- ดาวเตะร่างเล็กแห่งทีมชาติเวลส์ในช่วงยุค 2000s กำลังมีผลงานที่ดีในการคุมทีมชาติเวลส์และกำลังลุ้นพาทีมผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกให้ได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน
6.มูรัต ยาคิน (สวิตเซอร์แลนด์)
- อดีตกองหลังทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ เข้ามารับงานคุมทีมชาติตั้งแต่ปี 2021 และพาทีมได้เข้าไปเล่นทั้งฟุตบอลโลก 2022 และฟุตบอลยูโร 2024 โดยปัจจุบันกำลังลุ้นพาทีมไปเล่นฟุตบอลโลกให้ได้อีกครั้ง
7.สตาเล่ โซบัคเค่น (นอร์เวย์)
- อดีตกองกลางทีมชาตินอร์เวย์ในทศวรรษที่ 90 เข้ามารับงานคุมทีมชาติตั้งแต่ปี 2020 โดยในการเล่นรอบคัดเลือกครั้งนี้ก็มีโอกาสดีที่เขาจะพานอร์เวย์กลับไปเล่นในฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ใหญ่อีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนานไม่ต่ำกว่า 25 ปี
8.ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ (ฝรั่งเศส)
- กัปตันทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลก 1998 และชุดแชมป์ยูโร 2000 โดยรับงานคุมทีมชาติมาตั้งแต่ปี 2012 และประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยการพาฝรั่งเศสเป็นแชมป์โลกในปี 2018 รวมทั้งได้รองแชมป์โลกปี 2022 และรองแชมป์ยูโรปี 2016
9.เซอร์เก บาบาเรซ (บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา)
- ตำนานดาวยิงของสโมสรฮัมบูร์กและอดีตดาวเตะทีมชาติบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา เข้ามารับงานคุมทีมชาติในปี 2024 โดยมีเป้าหมายในการพาบอสเนียฯได้ไปเล่นฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ 2
10.ฮอง เมียง โบ (เกาหลีใต้)
- กัปตันทีมชาติเกาหลีใต้ชุดคว้าอันดับ 4 ในฟูตบอลโลก 2002 เข้ามารับงานคุมทีมชาติเป็นรอบที่ 2 ในปี 2024 และพาทีมคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลก 2026 ได้เป็นที่เรียบร้อย
11.โทนี โปโปวิช (ออสเตรเลีย)
- อดีตปราการหลังชุดฟุตบอลโลก 2006 และเข้ามารับงานคุมทีมชาติต่อจาก เกรแฮม อาร์โนลด์ ในเดือนกันยายน 2024 ซึ่งเขาสามารถพาออสเตรเลียได้ไปเล่นฟุตบอลโลก 2026 เป็นที่เรียบร้อย
12.ดไวท์ ยอร์ค (ตรินิแดดและโตเบโก)
- ดาวยิงระดับตำนานของตรินิแดดและโตเบโก เคยไปเล่นฟุตบอลโลก 2006 โดยปัจจุบันเขาคือกุนซือของทีมชาติตรินิแดดฯและมีเป้าหมายในการพาทีมไปเล่นฟุตบอลโลก 2026