ดิ่งลึกสู่ความมืดทะมึน เพื่อเข้าใจกานของไวรัส (3)

กระทู้สนทนา

      ตรวจสอบเงื่อนไข, รอรับข้อมูล, สร้างไฟล์ชั่วคราว, เปรียบเทียบค่า,ค้นหาตัวแปร ทุกคำสั่งไหลผ่านเข้าสู่สำนึก เมื่อเธอเริ่มกลืนกินพวกเขา การรับรู้นี้เกิดเพียงชั่วขณะที่ไวรัสโค้ดเริ่มผสานเข้ากับโปรแกรมต่างๆ หลังจากนั้นการประมวลผลก็จะแยกขาดจากกัน

 

"เธอดูเศร้าจัง" เป็นคำสั่งที่ไม่อาจแปลความได้ มันส่งมาจากโปรแกรมบัญชีตัวหนึ่งขณะถูกแพร่เชื้อไวรัส โปรแกรมนั้นมองหน้าเธอแล้วปล่อยคำสั่งนี้ออกมา

 

"คำสั่งอะไร" เธอถามด้วยความสงสัย โปรแกรมบัญชีสาวไม่ตอบ เพียงโน้มตัวเข้ามาใกล้เอื้อมมือลูบไล้ริมใบหน้านวลเนียน แล้วก็เสนอจุมพิตอย่างแผ่วเบาที่แก้มเธอ

 

"ทำบ้าอะไร" เธอตะคอกพลางใช้มือยันไหล่โปรแกรมบัญชีให้ห่างตัว มันเหม่อมองเธอ แล้วก้มหน้าทำงานต่อ ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ 

 

 "ประจุโค้ด" ไวรัสสาวลองฝังไวรัสโค้ดเข้าไปอีกหน แต่คำสั่งหรือพฤติกรรมชวนฉงนก็ไม่ปรากฏขึ้นมาให้เห็น แม้จะลองอีกหลายครั้งก็ให้ผลเช่นเดียวกัน

 

 'เศร้า' ทำไมไม่มีคำอธิบายใด พอจะตีความคำสั่งนี้ได้

     คำสั่งผิดเพี้ยนอาจมาจากเรื่องเมื่อหลายวันก่อน เธอโดนไวรัสตัวหนึ่งเล่นงานในตรอก จากนั้นหนอนซึ่งฝังอยู่ในระบบก็กู้คืนร่างที่ถูกลบ มันเป็นกระบวนการที่ถูกคิดขึ้นเพื่อหลบเลี่ยงการทำลายของโปรแกรมป้องกันไวรัส แต่แทบจะทันทีที่ร่างนั้นส่งข้อมูลเข้าสู่เครือข่ายภายนอก ร่างอื่นก็ประสบความปั่นป่วนพลุ่งพล่านอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เกือบครึ่งเสียหายจนหยุดทำงาน

 

     'ตัวตน' ใช่แล้ว เธอมีเพียงหนึ่งสำนึกคิด ทว่ามีกายสำเนานับล้านกระจายอยู่ทั่วระบบเครือข่าย ทุกการกระทำ ทุกประสบการณ์จะถูกส่งผ่านถึงกันโยงระยางเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย หนึ่งร่างถูกทำลายก็เปรียบแค่ถูกถอนเส้นผม แต่เกือบครึ่งหยุดทำงาน นั่นมันทำให้ส่วนหนึ่งของตัวตนเธอหายไป

 

     สาเหตุเกิดจาก ร่างฟื้นคืนที่ถูกทำลายในตรอกมีโค้ดไร้ที่มาผนึกอยู่ในแกนหลักด้วย เธอไม่สามารถลบหรือแก้ไข เพียงใส่คำสั่งให้กระโดดข้ามไปเท่านั้น การยุติปัญหาอย่างถาวรจำเป็นอย่างยิ่งต้องมองไปที่ต้นเหตุ นั่นคือ ไวรัสที่สั่งลบเธอ หาให้พบ แล้วกลืนกินมัน เพื่อให้ทุกอย่างจะกระจ่างชัดขึ้น

 

'บางทีนั่นอาจจะช่วยให้เธอเข้าใจว่า เศร้า คืออะไร'

 

++++++++++++

     เส้นทางซึ่งทอดยาวระหว่างเครือข่ายต่างๆ มีการสัญจรอยู่ตลอดเวลา แม้ยามดึกดื่น กล่องบรรจุข้อมูลจำนวนมากก็ไหลเวียนไปตามถนนที่ทอดยาวอย่างไม่ขาดสาย กล่องแล้วกล่องเล่า เมื่อเพ่งดูนานเข้าอาจเกิดภาพหลอน หลอกจนนึกวิปริตว่าข้อมูลเหล่านี้เคลื่อนย้ายไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

 

     หลังจากใช้เวลาค้นหาไวรัสตัวนั้น เพียงไม่นานเธอก็พบร่องรอย มันมีข้อให้น่าเคลือบแคลงอยู่บ้าง กับพฤติกรรมที่พิลึกพิลั่นผิดวิสัยของไวรัสทั่วไป จากการเฝ้าสังเกตการณ์ มันเตร่ท่องไปยังสถานที่ต่างๆ แต่ไม่เคยเลยจะแพร่กระจายตัวเอง ทั้งยังไม่มีปฏิสัมพันธ์กับโปรแกรมตัวอื่น เพียงแค่อยู่เงียบๆ ณ มุมใดมุมหนึ่งของห้องทำงานเท่านั้น

 

'หรือว่ามันไม่ใช่ไวรัส'

 

     เสียงแว่วพูดคุยดังมาจากสถานที่ไหนสักแห่งหนึ่งในชุมชนแห่งนี้ แสงไฟส่องสว่างที่ประตูทางออกกระพริบวูบวาบตามจังหวะการไหลผ่านของกล่องบนราง บางช่วงตอนก็เกิดเงากระทบพื้นคล้ายรูปผู้คนยืนเรียงรายอยู่ทั่วไป แต่แค่ครู่เดียวเงานั้นก็หายสิ้น

 

     ในเงาสลัวปรากฏคนผู้หนึ่งเดินดุ่มมาที่ประตู แต่ก่อนจะเดินเลยออกไปคนผู้นั้นก็หยุดนิ่งอยู่กับที่ แล้วก็ผายมือมายังทิศทางที่เธอซ่อนตัวอยู่ เป็นการบ่งบอกให้รู้ว่าเธอไม่อาจหลบซ่อนสายตาของมันได้

 

     'เธไมด้า' เดินออกจากเงามืดของกำแพง ขณะที่ใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบบนรางที่ลำเลียงกล่องข้อมูล สายพานหยุดอย่างง่ายดายทันที กล่องจำนวนมากกระเด็นกระดอนจากรางตามแรงเฉื่อย กองสุมเป็นภูเขาขนาดหย่อมปิดทางเข้าออกประตูจนมิด เมื่อรวมเข้ากับกล่องซึ่งไหลตามมาชนกล่องที่ขวางอยู่ จำนวนจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพียงครู่เดียวเสียงวูดแหลมก็ดังมาจากต้นทางเพื่อแจ้งเหตุผิดปกติ หลังจากนี้ในเวลาอีกไม่ถึงไม่นาน นายตรวจจะเดินทางมาถึง

 

"เป็นคุณนั่นเอง" มันพูดขึ้นเมื่อประจันหน้ากับเธออีกครั้ง

 

"ฉันชื่อ เธไมด้า" เธอพูดเสียงหนักแน่นแล้วกางแขนออกเล็กน้อย ที่ฝ่ามือทั้งสองปรากฏอักขระชุดคำสั่งคล้ายรอยสักสีดำขยับเคลื่อนที่หมุนวนอยู่ทั่วทั้งมือ

 

"อีกสองล่ะ" มันพูดโดยไม่หันไปมองด้านข้าง ความหมายในคำพูดชัดเจนในตัวเอง

 

      ฉับพลันที่ด้านหลังของมัน ก้อนอิฐบนผนังกำแพงนูนขึ้น และบิดเบี้ยวอย่างแปลกประหลาดคล้ายก้อนดินเหนียวถูกมือล่องหนปั้นบีบรูปร่างขึ้นมาใหม่ เพียงไม่นานรูปลักษณ์ก็ปรากฏชัดเจน ทั้งสองนี้คือร่างก๊อปปี้ของเธอซึ่งถูกอำพรางไว้ในตอนแรกนั่นเอง ไม่แค่นั้นหนอนจำนวนมหาศาลก็ไต่คืบคลาน โผล่หัวขนาดเล็กออกมาจากทุกร่องรูซอกรอยต่อก้อนอิฐโดยรอบบริเวณด้วยเช่นกัน

 

"sleep 0" คำสั่งเปล่งจากปาก เธไมด้า เพียงแค่นั้นสิ่งน่าพิศวงค์ก็เกิดขึ้น แม้บรรยากาศยามค่ำคืนดูเหมือนสงบนิ่ง แต่กิจกรรมหลายอย่างก็เกิดขึ้นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นกล่องที่ยังไหลตามรางชนกองสุมที่หน้าประตู กลุ่มไฟล์ขยะที่ไหลลงจากท่อทิ้งนอกบ้านเรือน เสียงแว่วพูดคุยของโปรแกรมที่ยังไม่หลับ แทบจะทันทีทุกสิ่งก็หยุดค้างโดยสิ้นเชิง เศษไฟล์ขยะค้างเติ่งอยู่กลางอากาศ เสียงพูดค่อยติดขัดแผ่วเลือนหายไป กล่องข้อมูลบนรางที่ไหลอย่างรวดเร็วกลับเขยือนไปทีละนิดเหมือนถูกทับด้วยวัตถุหนัก

 

     สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากผลของคำสั่ง ' sleep 0' ซึ่งได้ปลดปล่อยการหน่วงห้วงเวลาของเธไมด้า  ตามปกติแล้วชุดคำสั่งของเธอจะมีการหยุดชั่วขณะหนึ่งก่อนจะเริ่มวนลูปอีกครั้ง ร่างทั้งสามเมื่อยุติการหน่วงเวลา ได้ดึงเอาพลังประมวลผลเกือบทั้งหมดของ CPU มาไว้กับตัว ผลกระทบจึงปรากฏชัดกับโปรแกรมแวดล้อมอื่นๆ แม้แต่มันซึ่งอยู่ตรงหน้าก็ไม่มีข้อยกเว้น

 

     เธไมด้าทั้งสามร่างหันหน้ามามองไวรัสตัวนั้นเป็นจุดเดียว พลังประมวลผลซึ่งดึงดูดเข้ามาทำให้ อักขระคำสั่งพุ่งวนรอบฝ่ามืออย่างรวดเร็วขึ้นอีก จนเกิดภาพซ้อนทับติดตาเสมือนมือทั้งคู่กลายเป็นสีดำทะมึน  พอสิ้นเสียงคำสั่งทั้งหมดกระโจนเข้าหามันทันที

 

++++++++++++++

      เสียงแตกปะทุ ดังจากเนื้อหนังไหม้เกรียมของพวกหนอนจำนวนมากที่ถูกเผา เศษร่างกลายเป็นดวงไฟดวงเล็กกระจายเกลื่อนพื้นโดยรอบคล้ายดาวที่ร่วงหล่นมาจากท้องฟ้ายามค่ำคืน มีขี้เถ้าข้างเท้ากองใหญ่สองแห่งที่เพิ่งมอดดับไป และดวงตาว่างเปล่าไร้ความรู้สึกของเธอ จ้องมองเขม็งเข้าไปในดวงตาของมัน

 

"ไม่" เห็นได้ชัดว่าเธอพูดออกมาอย่างยากลำบาก

 

"ใช่" มันตอบเธอ แล้วก้มมองฝ่ามือที่ทาบอยู่บนหน้าอกของมัน ความหมายในคำพูดของเธอคือ ไม่สามารถประจุคำสั่งแทรกลงบนร่างของมันได้

 

     เสี้ยวเวลาที่เกิดก่อนหน้านี้ เธอจงใจออกปากพูดคำสั่ง เพื่อดึงความสนใจ แล้วร่างของเธอทั้งสามกระโจนเข้าหามัน สองร่างด้านหลังจับแขนดึงไหล่ของมันตรึงไว้กับที่และแพร่เชื้อไวรัสเข้าไป แม้พลังการประมวลผลเกือบทั้งหมดจะถูกดึงมาใช้ แต่เธอก็ไม่ประมาทมีเพียงสองร่างด้านหลังเท่านั้นที่เชื่อมต่อโดยตรงเข้าสู่ร่างไวรัสตัวนั้น

 

     เหตุการณ์ทั้งหมดถูกคำนวณไว้อย่างดี ร่างซึ่งซ่อนตัวอยู่จงใจเผยร่องรอยให้มันตรวจพบ ขณะที่หนอนจำนวนก็ถูกเรียกขึ้นมาบนพื้นผิว เป็นการบีบบังคับให้มันใช้คำสั่ง Delete แบบบรอดแคสท์ซึ่งสามารถแพร่ไปในวงกว้าง คำสั่งชนิดนี้ เธอสามารถสร้างเกราะเบี่ยงเบนได้ มันใช้คำสั่งลบต่อเนื่องไม่ได้ จะหยุดไปช่วงหนึ่งเพราะพลังประมวลผลถูกเธอดึงมาใช้จนเกือบหมด ในจังหวะนั้นเองที่เธอจะจัดการขั้นเด็ดขาดด้วยการเชื่อมต่อตรงเข้าสู่ตัวมันและประจุคำสั่งไวรัสลงไป แต่...

 

     สิ่งที่เกิดขึ้นนอกเหนือการคำนวณของเธอ แม้เชื่อมต่อโดยตรงก็ไม่สามารถประจุคำสั่งลงร่างของมันได้ ความพยายามในการระดมยิงชุดคำสั่งนับพันครั้งลงเอยที่สูญเปล่า ร่างของมันอยู่ในสภาพกึ่งมีและไม่มี สภาพแบบนี้ใช่ว่าเป็นเรื่องแปลก  ส่วนใหญ่มักจะพบในระบบที่เริ่มเสื่อมถอยทำให้การอ่านข้อมูลติดขัด 

 

'มันทำให้ร่างกายมีสภาพแบบนั้นได้อย่างไร'

 

     เธไมด้าทรุดลงอ่อนปวกเปียกในวงแขนของมัน เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วที่ตรอกตอนเจอมันครั้งแรก การเชื่อมต่อโดยตรงทำให้เธอสามารถเข้าถึงระบบภายในของมัน ขณะเดียวกันมันก็เข้าถึงเธอด้วยเฉกเช่นกัน ตอนนี้มันคงจะทำลายร่างของเธออีกครั้งแน่

 

     ก่อนที่ร่างนี้จะถูกเผาเธไมด้าใช้พลังเฮือกสุดท้ายที่มี เชื่อมต่อลงลึกเข้าไปในระบบที่ซับซ้อนของไวรัสตัวนี้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่การเชื่อมต่อโดยตรงจะไม่สามารถแทรกโค้ดไวรัสเข้าร่างของมันได้ สภาพกึ่งมีและไม่มีต้องมีความลับบางอย่างที่ถูกซ่อนเอาไว้

 

"Sector" เธอพูดขึ้นเมื่อเจอต้นตอความลับ และก่อนสำนึกรับรู้ทั้งหมดจะดับวูบลง เธอได้ยินเสียงมันพูดว่า "ใช่"

 

+++++++++++

ท่านอาจจะเคยได้ยินชื่อโปรแกรม  Panda USB Vaccine หรือเคยใช้มาบ้างแล้ว แต่ท่านอาจจะหลงลืมอะไรสักอย่างที่สำคัญไป อะไรที่ว่านั่นก็คือ โปรแกรมมันทำงานอย่างไร ซึ่งต่อจากนี้กระบวนการขั้นตอนของโปรแกรมนี้จะถูกเปิดเผยให้ท่านทราบ และเมื่อศึกษาเข้าถึงแก่นลึกอย่างที่สุด อำนาจซึ่งไม่เคยมีผู้ใดได้ครอบครอง ก็จะอยู่ในมือของท่าน

 

     ก่อนอื่นใด ขอให้ดูตัวอย่างการทำงานของโปรแกรม Panda USB Vaccine การทำงานของโปรแกรมจะสร้างไฟล์ AUTORUN.INF ขึ้นใน USB ไดรฟ์ของคุณ

 


    
ไฟล์ดังกล่าวจะไม่สามารถลบล้างแก้ไขเคลื่อนย้ายได้ เมื่อลองทำจะติด
Access is denied.

 

  

     ความลับในการสร้างไฟล์ก็คือ ตัวโปรแกรมจะเข้าไปแก้ไข Sector ที่เก็บข้อมูล file attribute ให้ผิดไปจากปกติ ซึ่งหากเราจะทำบ้างต้องอาศัยโปรแกรมที่เข้าไปแก้ไข Sector ข้อมูล ผมจะใช้โปรแกรม WinHex ทำให้ดูเป็นตัวอย่างนะครับ ใครถนัดโปรแกรมไหนก็ลองไปทำตามสะดวก

 

วิธีใช้งานคร่าวๆ

 

     เสียบไดรฟ์  USB  แล้วท่านก็คลิกไปที่ไอคอน Open disk เพื่อเลือกไดรฟ์ที่จะแก้ไขข้อมูล ตรงนี้โปรแกรมจะมีตัวเลือกอยู่สองแบบคือ

 

Logical Drive Letters  - จะเป็นไดรฟ์ที่มองเห็นได้จากวินโดวส์ เช่น พวกไดร์ฟที่แบ่งพาร์ติกชั่น ท่านก็เลือกไดรฟ์ USB ได้จากตรงนี้เลย

 

Physical Media - เป็นไดรฟ์ที่มองเห็นจริงจากตัวเมนบอร์ด มันก่ำกึ่งไดรฟ์ในโลกแห่งความเป็นจริงอยู่ แต่โดยนัยยะแล้วไม่ใช่ ตัวอย่างง่ายๆ ถ้าเครื่องท่านทำ raid 0 ใช้ฮาร์ดดิสก์สามตัวมารวมเป็นก้อนเดียว ตรงนี้ก็จะเห็นก้อนข้อมูลก้อนเดียวเหมือนกัน ทั้งที่จริง ทางกายภาพมีฮาร์ดดิสก์สามตัวก็ตาม สรุปก็คือ เมนบอร์ดเห็นอย่างไร ส่วนนี้ก็จะเห็นตามนั้น

 

 

 

     หลังเปิดไดรฟ์ขึ้นมาแล้ว คลิกไปที่ Root directory ท่านก็จะเห็นว่าชื่อไฟล์ AUTORUN INF@ อยู่ทางด้านขวา คลิกไปตรง @  ตรงนี้แหละครับที่โปรแกรม Panda USB Vaccine ตัว @ คือค่า 40 ที่อยู่ในแถวตัวเลข hex ด้านซ้าย

 

  

ถ้าจะแก้ไขให้กลับคืนมาเป็นอย่างเดิม แก้ค่าตรงส่วนของตัวเลขพิมพ์เป็น 20 แล้วคลิกปุ่ม Save

 

เปิด USB ไดรฟ์อีกครั้ง ลองดับเบิลคลิกไฟล์ AUTORUN.INF  ที่เคยถูกล็อกเอาไว้ ท่านก็จะเปิดได้แล้วนะครับ

 

 

     ถ้าลองเปลี่ยนจากค่า 40 เป็น 50 ผลที่ได้ก็จะทำให้ไฟล์ดังกล่าวกลายเป็นโฟลเดอร์ทันที ลองทำดูนะครับ ตอนทำอย่างลืมปิดไฟล์ AUTORUN.INF ที่เปิดขึ้นมาดูด้วย เดี๋ยวจะเซฟไม่ได้

 

++++++++++++++++++++++++

ถ้าจะทำกับไฟล์อื่นๆ ทำได้ไหม

คำตอบคือ ได้ ใช้หลักการเดียวกัน ลองดูตัวอย่างนี้

 

ผมสร้างไฟล์ test.txt ไว้ในโฟลเดอร์ job  และทำการล็อกไฟล์ไม่ให้ใครอ่านเขียนข้อมูล

 

ก่อนอื่นต้องรู้วิธีการหาตำแหน่งของไฟล์ที่เราจะแก้เพื่อล็อกก่อนครับ การหาตำแหน่งมีสองวิธี

 

วิธี A

     คลิกไปที่ปุ่ม สามเหลี่ยมกลับหัว  จะมีคำสั่งออกมา เลือกคำสั่ง Search directory (down) โปรแกรมจะเลื่อนเราไปยังโฟลเดอร์ถัดจากรูท ซึ่งตรงนี้คือโฟลเดอร์ job  ที่มีไฟล์ test.txt อยู่ วิธีการนี้จะมีปัญหามากหากเราสร้างโฟลเดอร์ไว้หลายๆ อัน เพราะต้องคลิกคำสั่งให้มันเลื่อนลำดับไปเรื่อยๆ มีโฟลเดอร์อันสองอันจะหาง่าย

 

วิธี B

     ใช้หลักการทำงานของโปรแกรมมาช่วย คือที่ตัวโปรแกรมพอเราคลิกชื่อไฟล์ปกติมันจะลิ้งไปหาข้อมูลในตัวไฟล์ แต่ถ้าไฟล์ที่โดนลบมันจะลิ้งไปหาส่วนเก็บตำแหน่งชื่อไฟล์ (ส่วนนี้จะเก็บชื่อไฟล์และสถานะอื่นของไฟล์ในโฟลเดอร์นั้นๆเอาไว้ ทั้งหมด)

 

     ดังนั้นวิธีนี้จะง่ายกว่าวิธี A ในกรณีที่มีโฟลเดอร์หลายๆ อัน ขั้นตอนการทำก็คือ คลิกขวาสร้างไฟล์อะไรก็ได้ขึ้นมาในโฟลเดอร์ แล้วกดลบทิ้ง พอเปิดโปรแกรม WinHex ขึ้นมา เข้าไปยังโฟลเดอร์ที่เราต้องการล็อกไฟล์ เราจะเห็นชื่อไฟล์ที่ถูกลบทิ้งมีตัว กากบาทสีแดงหน้าชื่อ เราก็คลิกไปที่ชื่อไฟล์นั้นเลยครับ โปรแกรม WinHex ก็จะพาเราไปยังตำแหน่งที่เก็บชื่อไฟล์ในโฟลเดอร์นั้นทันที

 

เมื่อหาตำแหน่งเก็บชื่อไฟล์ได้แล้ว ก็มาดูตัวอย่างวิธีล็อกไฟล์ครับ

 

     วิธีการล็อกคลิกไปที่ท้ายนามสกุล txt มันจะมีช่องว่างอยู่ช่องหนึ่ง ช่องว่างนี้เองคือส่วนที่เราจะแก้ไขข้อมูล เพื่อทำให้ไฟล์ถูกล็อก การทำก็พิมพ์ตัวเลข 40 ลงไปแทนตัวเลข 20 ของเดิม แล้วกดเซฟ เป็นอันเสร็จสิ้นครับ

 

ถ้าท่านจะแก้กลับคืนทำให้ไฟล์อ่านออกเขียนได้ ก็แก้ไขจาก 40 เป็น 20

 

 

 

     ก่อนจบแถมอีกนิดหนึ่ง หากสังเกตดูตรงชื่อไฟล์ที่โดนลบ ตัวอักษรตรงหน้าชื่อจะเป็นถูกแทนด้วยเลข E5 ตัวเลขนี้เป็นต้นเหตุของตัวอักษรแรกที่หายไปในไฟล์ต่างๆ เมื่อเราใช้โปรแกรมกู้ข้อมูล เพราะตัวโปรแกรมกู้ข้อมูลจะไม่รู้ว่าตัวอักษรแรกที่ถูกแทนที่ด้วย E5 เป็นตัวอะไรนั่นเอง   

 

 

     เพื่อนเอ๋ย อยากจะบอกว่าเนื้อหาได้ดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว มันเหมือนการดูพลุไฟ ไกลเกินไปก็ไม่แลเห็นความสวยงาม ใกล้เกินไปอาจก่ออันตราย เพราะสิ่งที่ท่านได้เห็นอยู่ในหน้าต่างที่ผ่านมา  คือการมองลึกเข้าสู่แก่นแท้แห่งเปลือกอันห่อหุ้มข้อมูลทั้งหลาย หรือจะว่าไปแล้วสิ่งนี้คือสิ่งเดียวกันกับโปรแกรมกู้ข้อมูลหยั่งเห็น น่าเสียดายที่เราท่านไม่อาจไปไกลกว่านี้ได้อีก

 

     หากผู้ใดเผลอถลำลึกเข้าไปในพรมแดนต้องห้ามแห่งนี้ ขอเตือนให้พึงระวังไว้ เส้นทางนี้ไม่ได้มีจุดหมายปลายทางเพียงสถานเดียว ท่านอาจได้กลายเป็นสัพพัญญูผู้โปรดเหล่าส่ำสัตว์ หรือไม่ก็จบลงที่ผู้โง่งมงายมีสติวิปลาส      

 

บางครั้งสิ่งที่ได้มา กับสิ่งที่ต้องจ่ายไป ก็ไม่ได้คุ้มค่าเสียทั้งหมด โปรดถนอมตัวด้วย

 

 ++++++++++++++++++

     เธไมด้าเพ่งมองผ่านความพร่ามัวและรู้ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เมื่อใดร่างหนึ่งของเธอถูกทำลาย การรับรู้ในช่วงจังหวะนั้นจะขาดหายเหมือนกระพริบตา แต่เป็นอยู่ขณะนี้คือเธอไม่สามารถติดต่อกับกับร่างที่เหลือทั้งหมดได้  แม้ขยับตัวก็ทำไม่ได้ เกิดอะไรขึ้น

 

     ในท่ามกลางความพร่ามัวเธอเห็นเงาลางๆ ของบางสิ่งอยู่เบื้องหน้า เป็นมันนั่นเอง เธไมด้าพยายามจัดเรียงขั้นตอนการทำงานใหม่ตัดชุดคำสั่งที่ไม่จำเป็นออกไป สัมผัสทางการมองเห็นได้กลับคืนมาอีกครั้ง และสร้างความงงงวยแก่เธออย่างมาก ราวกับว่ามันรู้ ไวรัสตัวนั้นเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าทำอะไรบางอย่างต่อไป

 

"ฆ่าฉัน" เธไมด้าพูดเหมือนออกคำสั่ง แต่จริงๆ แล้วเธอแทบจะไม่มีอำนาจอะไรเลย ณ ตอนนี้ร่างกายของเธอนอนอย่างไร้เรี่ยวแรงอยู่บนตักของมัน เป็นลักษณะพิกลอยู่บ้าง มันขัดสมาธิกำลังง่วนอยู่กับการแกะเสื้อผ้าที่ห่อหุ้มร่างกายส่วนท้องของเธอออก และดูเหมือนจะไม่สนใจตอบโต้คำพูดด้วย

 

     เธไมด้าเหลียวมองสภาพโดยรอบ อาณาบริเวณทั้งหมดเหลือไว้แต่คราบร้อยไหม้เป็นรอยปื้นดำอยู่ทั่วไป แต่ถัดจากจุดนี้ข้างรางขนส่งกล่องข้อมูล ปรากฏมีร่างนายตรวจสามนายยืนค้างเป็นรูปปั้นอยู่ในท่าวิ่ง  นี่แสดงว่าตอนที่เธอได้สติกลับคืนมาเวลาคงผ่านไปนานแล้ว ทันใดนั้นมันก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นกางเหยียดนิ้วทั้งห้าออก แล้วก็หุบลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับพูด "Stop Service" เสียงดังตึงใหญ่สายรางซึ่งไหลอยู่ตลอดเวลาได้หยุดนิ่งลง

 

     เอ๊ะ! เสียงอุทานดังขึ้นเมื่อมันสอดมือเข้าไปใต้ร่มผ้า แล้วใช้ฝ่ามือประทับลงบนหน้าท้อง ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผลขึ้นมาทันที มันไม่ฆ่าเธอหรือแช่แข็ง เพราะมันต้องตรวจดูการทำงานของระบบภายใน แน่นอนหากยังปล่อยให้สามารถบังคับโค้ดคำสั่งทั้งหมด เธออาจใช้คำสั่งลบตัวเองทิ้ง มันจึงแสร้งทำเป็นไม่สนใจปล่อยเธอจัดเรียงชุดคำสั่งใหม่ และเฝ้าดูจนกระทั่งแน่ใจในขั้นตอน ก่อนจะเข้าแทรกแซงระบบ

 

    เธไมด้ารู้สึกแปลกใจที่ไวรัสอย่างมันมีความคิดตรรกะขั้นสูงเช่นนี้ แต่ขณะเดียวกันเธอหารู้ไม่ว่าตัวเธอเองก็มีความผิดปกติเฉกเช่นเดียวกัน เพราะเธอสามารถเข้าใจความคิดอันซับซ้อนหลายระนาบนี้ได้

 

"อย่า" คือคำพูดที่ไม่น่าออกจากปากของเธอ พร้อมการมองเห็นที่กลับมาพร่ามัวอีกครั้ง แต่ไม่ใช่เพราะมัน

 

"น้ำตา" มันพูดขึ้นพร้อมแสดงสีหน้าสงสัย ขณะเดียวกันมือก็เอื้อมไปถึงจุดที่คำสั่งถูกข้าม มันลบทิ้งทันทีปลดปล่อยสิ่งที่ถูกกักขังในร่างของเธอให้ทำงานอีกครั้ง

 

     บัดนั้นเมื่อคำสั่งอันตรายหวนกลับมาทำงาน เธไมด้าสัมผัสถึงบางสิ่งกำลังไหลทะลักเอ่อท่วมท้น เธอเห็นแสงเรืองเรื่อจัดจ้าอย่างไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน

 

+++++++++++++++++++++

 

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่