งานนี้ ผมเข้าใจว่า รัฐบาล มีแต่ win-win ครับ
เพราะ ศาล รธน. แนะนำให้ รัฐบาล ควรทำประชามติก่อน จึงค่อยดำเนินเรื่องแก้ไข รธน. ถ้า หาก ประชามติ ได้ผลดี รัฐบาลก็สามารถยืดอก แก้ไข รธน. ได้ทันที แต่ถ้าออกมาไม่ดี รัฐบาล ก็ กลับไปใช้การ โหวตแก้ไขรายมาตรา ตาม นโยบาย ตัวเองต่อไป
โดยที่ ฝ่ายค้าน หรือ ฝ่ายตรงข้าม จะไม่สามารถนำ ความล้มเหลวของประชามติ มา กล่าวให้ร้าย โจมตี การทำงานของรัฐบาลได้เลย
ประชามติครั้งนี้ เท่ากับว่า รัฐบาล ได้รับฟังคำแนะนำ จาก ศาล รธน. และ ประชาชนทั่วไป
ส่วนตัวแล้ว ผมเชื่อว่า รัฐบาล จะได้รับ เสียงข้างมากให้เห็นชอบแก้ไข รธน. แต่...อาจจะไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการมาลงคะแนน โดยรวม
ดังนั้น สำหรับท่านที่ไม่เห็นด้วย กับการแก้ไข รธน. จริง ๆ พวกท่าน สมควรออกมา ลงคะแนนเสียง "คัดค้าน" ให้ได้มากกว่า หรือ สูสี กับ "เห็นชอบ"
เพราะ ผมเชื่อว่า ถ้าหาก ประชามติ ผลออกมา ฝ่ายที่ "คัดค้าน" มี คะแนนเสียงเยอะกว่า รัฐบาล ย่อมไม่สามารถดำเนินการ แก้ไข รธน. ได้ อีก เพราะหากเดินหน้ากระทำต่อไป เท่ากับเป็นการขัดใจประชาชน
งานนี้ รัฐบาล Win-Win
"ประชามติ" คือ คำแนะนำจาก ศาล รธน. ไม่ใช่ นโยบายจากรัฐบาล
เพราะ ศาล รธน. แนะนำให้ รัฐบาล ควรทำประชามติก่อน จึงค่อยดำเนินเรื่องแก้ไข รธน. ถ้า หาก ประชามติ ได้ผลดี รัฐบาลก็สามารถยืดอก แก้ไข รธน. ได้ทันที แต่ถ้าออกมาไม่ดี รัฐบาล ก็ กลับไปใช้การ โหวตแก้ไขรายมาตรา ตาม นโยบาย ตัวเองต่อไป
โดยที่ ฝ่ายค้าน หรือ ฝ่ายตรงข้าม จะไม่สามารถนำ ความล้มเหลวของประชามติ มา กล่าวให้ร้าย โจมตี การทำงานของรัฐบาลได้เลย
ประชามติครั้งนี้ เท่ากับว่า รัฐบาล ได้รับฟังคำแนะนำ จาก ศาล รธน. และ ประชาชนทั่วไป
ส่วนตัวแล้ว ผมเชื่อว่า รัฐบาล จะได้รับ เสียงข้างมากให้เห็นชอบแก้ไข รธน. แต่...อาจจะไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการมาลงคะแนน โดยรวม
ดังนั้น สำหรับท่านที่ไม่เห็นด้วย กับการแก้ไข รธน. จริง ๆ พวกท่าน สมควรออกมา ลงคะแนนเสียง "คัดค้าน" ให้ได้มากกว่า หรือ สูสี กับ "เห็นชอบ"
เพราะ ผมเชื่อว่า ถ้าหาก ประชามติ ผลออกมา ฝ่ายที่ "คัดค้าน" มี คะแนนเสียงเยอะกว่า รัฐบาล ย่อมไม่สามารถดำเนินการ แก้ไข รธน. ได้ อีก เพราะหากเดินหน้ากระทำต่อไป เท่ากับเป็นการขัดใจประชาชน
งานนี้ รัฐบาล Win-Win