
.
เปลี่ยนคู่ฟัด! วุฒิสภาประท้วงวุ่น หลัง ‘วาโย’ แฉ กลไกฮั้ว สว. ขณะที่ ‘ประเทือง’ เดือด ท้าเดี๋ยวเจอกัน จี้ ครม.ทำให้เกิดความมั่นใจ ปฏิบัติตามนโยบายเรื่องนิติรัฐนิติธรรมจริงๆ
.
เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 ) เป็นพิเศษ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ
.
จากนั้น เวลา 15.35 น. บรรยากาศในห้องประชุมเกิดความปั่นป่วนขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อ นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายเรื่องกระบวนการฮั้ว ส.ว. โดยมีการลงรายละเอียดพฤติกรรมและขั้นตอนในกระบวนการตั้งแต่การใส่เสื้อเหลือง เนกไทเหลือง การมีโพยเหมือนกันและความผิดปกติของคะแนน ทำให้ส.ว.หลายคน อาทิ นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ และ พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย พากันลุกขึ้นประท้วง ระบุว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการอภิปรายนโยบายของรัฐบาล และเป็นเรื่องที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมไม่สมควรนำมาชี้นำ ซึ่ง นายวันมูหะมัดนอร์ วินิจฉัยว่า ไม่ควรไปลงรายละเอียด เพราะเรื่องยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ทำให้สส.พรรคปชน. ไม่พอใจ ลุกขึ้นประท้วง อาทิ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. ที่ยืนยันว่าสิ่งที่นพ.วาโยอภิปรายเป็นการพูดถึงนโยบายที่ไม่ปฏิบัติตามหลักนิติรัฐนิติธรรม และยังไม่ได้พาดพิงไปถึงสว.คนไหน แค่บอกว่า สิ่งใดที่นพ.วาโยพาดพิงคือเนกไทเหลือง ใครจะร้อนคอก็แล้วแต่ แต่วันนี้เราต้องเดินหน้าต่อ
.
ขณะที่ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ ยืนยันว่า ต้องอภิปรายลงไปในรายละเอียดเพราะเรื่องนี้มีรายละเอียดมาก ท้ายที่สุดนายวันมูหะมัดนอร์ อนุญาตให้นพ.วาโยอภิปรายต่อได้ แต่อย่าลงลึกในรายละเอียดมากเกินไป ไม่เช่นนั้นจะเกิดการประท้วงไม่สิ้นสุด แต่ปรากฎว่า นพ.วาโย ยังอภิปรายลงลึกในรายละเอียดเรื่องกระบวนการฮั้วส.ว. ทำให้สว.ไม่พอใจประท้วงกันอีกรอบ บรรยากาศจึงเริ่มตึงเครียด จน นายประเทือง มนตรี ส.ว. อภิปรายเสียงดังด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า จะอภิปรายสว.หรือนโยบายรัฐบาล ตอบมา เดี๋ยวได้เจอกัน ทำให้สส.พรรคปชน. รุมประท้วงขอให้นายประเทืองถอนคำพูด ซึ่งนายประเทืองยังไม่ยอมถอนคำพูด บอกว่า จะให้ถอนเรื่องอะไร ทำให้ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า จะไม่ถอนพฤติกรรมข่มขู่เพื่อนสมาชิกใช่หรือไม่ ถ้าไม่ถอนก็ให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน
.
นายวันมูหะมัดนอร์ จึงวินิจฉัยให้นายประเทืองถอนคำพูด หากไม่ถอนก็จะไม่อนุญาตให้อยู่ในห้องประชุม นายประเทืองจึงยอมถอนคำพูด และให้นพ.วาโยอภิปรายต่อ โดยเตือนว่า หากยังฝ่าฝืน อภิปรายลงลึกในรายละเอียดก็จะไม่อนุญาตให้พูดอีก เพราะถือว่า ไม่เคารพในสิ่งที่ประธานพูด จะให้โอกาสอีกครั้ง ในที่สุดนพ.วาโยตัดบทสรุปว่า การมีโพยเลือกสว.ไม่ใช่เรื่องผิด หากมาด้วยอุดมการณ์เดียวกัน แต่ถ้ามีผลประโยชน์และการจ้างวานกัน มีเส้นทางการเงินถือเป็นเรื่องผิด เชื่อว่าดีเอสไอมีหลักฐานแล้ว จึงฝากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปดูแลให้เกิดความมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีและครม. จะปฏิบัติตามนโยบายเรื่องนิติรัฐนิติธรรมจริงๆ เพราะตอนนี้เรายังไม่ได้รับคำมั่นสัญญา
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นายประเทือง เป็นอดีตผู้สมัครส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย เป็นพี่ชาย นางนาที รัชกิจประการ ภรรยา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แกนนำพรรคภูมิใจไทย ในพื้นที่ภาคใต้
.
.
เปิดจดหมาย จุลพงศ์ ขอโทษ เนวิน ยอมรับอภิปรายที่ดินเขากระโดง เป็นข้อมูลเท็จ
.
เปิดจดหมาย “จุลพงศ์” ส.ส.ปชน. ขอโทษ “เนวิน-ตระกูลชิดชอบ-ชาวบุรีรัมย์” ยอมรับอภิปรายที่ดินเขากระโดงเป็นข้อมูลเท็จทั้งหมด พร้อมบริจาค รพ. 1 หมื่น ลงขอโทษหน้าเฟซบุ๊ก 7 วัน แสดงความรับผิดชอบ
.
นายจุลพงศ์ อยู่เกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ทำหนังสือถึง นายเนวิน ชิดชอบ และครอบครัวตระกูลชิดชอบ เพื่อขอโทษและแสดงความรับผิดชอบต่อการอภิปรายเกี่ยวกับที่ดินเขากระโดง ที่ได้อภิปรายในสภาฯ เพื่อลงมตีไม่ไว้างโจนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568 ที่เนื้อหาในการอภิปรายที่พาดพิงถึงครอบครัวตระกูลชิดชอบเกี่ยวกับที่ดินเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นข้อมูลเท็จ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงว่าใช้อิทธิพลทางการเมือง ขัดขวางหน่วยราชการในการปฏิบัติตามกฎหมายและคำพิพากษาของศาลฎีกา เพื่อยึดถือที่ดินเขากระโดงกว่า 5,000 ไร่ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อ้างว่าเป็นที่ดินของ รฟท.
.
นายจุลพงศ์ กล่าวว่า เนื้อหาที่ใช้ในการอภิปรายเป็นไปตามสคริปต์ที่ทีมงานจัดทำให้ โดยตนเองเป็น ส.ส.สมัยแรก และประมาทเลินเล่อไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และแผนที่ที่ได้รับจากการรถไฟฯ อย่างละเอียด จึงหลงเชื่อว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง หลังจากที่ได้รับทราบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจากผู้รับมอบอำนาจและทนายความของนายเนวิน ชิดชอบ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 จึงได้เข้าใจอย่างชัดเจนว่า ครอบครัวตระกูลชิดชอบมิได้มีเจตนาที่จะครอบครองที่ดินเขากระโดงโดยผิดกฎหมายมาตั้งแต่ต้น และไม่เคยใช้อิทธิพลทางการเมือง บังคับให้หน่วยราชการดำเนินการใด ๆ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน และมีเจตนาที่จะปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อรักษากระบวนการยุติธรรมของประเทศ
.
“ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น จึงสำนึกผิดในการกระทำ และยอมรับว่าเนื้อหาการอภิปรายดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จทั้งหมด จึงขอแสดงความสำนึกผิด โดยขอแสดงความเสียใจและขออภัยอย่างสูงต่อ นายเนวิน ชิดชอบ ครอบครัวตระกูลชิดชอบทุกท่าน และชาวบุรีรัมย์ และเพื่อแสดงความจริงใจในความสำนึกผิดในครั้งนี้ จะขอบริจาคเงิน 10,000 บาท เพื่อเป็นการขอโทษแก่ประชาชนชาวบุรีรัมย์ที่ได้รับผลกระทบจากการอภิปรายของผม รวมทั้งเผยแพร่เนื้อหาตามหนังสือที่ขอโทษบนหน้าเพจเฟซบุ๊ก โดยปักหมุดไว้บนหน้าแรกเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 7 วัน หวังว่าท่านและครอบครัว จะเห็นความจริงใจและให้อภัยในการกระทำที่ผิดพลาดในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการกระทำผิดในฐานความผิดนี้ครั้งแรกในชีวิต” นายจุลพงศ์ กล่าว
.
.
เทวฤทธิ์ ชี้ช่อง ศาลรธน.ไม่ได้ห้ามรัฐบาลให้ปชช.เลือกส.ส.ร. แนะถามวันทำประชามติ เลือกเองได้หรือไม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_5388910
.
‘ส.ว.เทวฤทธิ์’ ชี้ช่องศาล รธน.ห้ามรัฐสภาให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้ห้ามรัฐบาลทำ แนะพิสูจน์ความจริงใจ ถามประชามติว่าประชาชนอยากเลือก ส.ส.ร.โดยตรงหรือไม่
.
เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 29 กันยายน ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) เป็นพิเศษ เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ นาย
เทวฤทธิ์ มณีฉาย ส.ว. อภิปรายนโยบายของรัฐบาลในส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า มี 3 ประเด็นฝากส่งถึงรัฐบาล ได้แก่ 1.ฝากขอโอกาสให้ประชาชนสามารถเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรงได้ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยมา 3 สัปดาห์ มีปมที่ 3 พรรคการเมืองพยายามแก้ไข คือศาลวินิจฉัยว่ารัฐสภาไม่สามารถให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง สิ่งนั้นเป็นเพียงจดหมายข่าวของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่ใช่คำวินิจฉัยฉบับเต็ม วันที่ 14-15 ต.ค.นี้ รัฐสภาจะพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หมวด 15/1 ของทั้ง 3 พรรคการเมือง อย่างน้อยที่สุดอยากวิงวอนไปยังเพื่อนสมาชิกรัฐสภาว่าอย่าเพิ่งปิดโอกาสให้สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาจากการเลือกตั้งโดยตรง
.
นาย
เทวฤทธิ์กล่าวต่อว่า ถ้าย้อนดูคำวินิจฉัยที่เราตั้งสมมุติฐานว่าเป็นคำแถม ไม่ใช่คำถามของผู้ถามว่า “รัฐสภาไม่อาจ” แต่ไม่ได้กำหนดว่ารัฐบาลจะทำไม่ได้ ดังนั้น เป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีที่บอกว่าประชาชนมีบุญคุณ และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ก็บอกว่าต้องทำประชามติเพื่อพิสูจน์ว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ดังนั้น เราพิสูจน์กันเลยดีหรือไม่ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 4/2564 ระบุว่าอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญเป็นของประชาชน ก็ควรถามในประชามติที่จัดทำพร้อมการเลือกตั้งว่าประชาชนประสงค์จะเลือกตั้ง ส.ส.ร.โดยตรงเองหรือไม่
.
“
ตรงนี้จะเป็นการพิสูจน์ว่า เรามองประชาชนเป็นผู้มีบุญคุณ เป็นผู้มีอำนาจอธิปไตย มีอำนาจในการสถาปนารัฐธรรมนูญจริงหรือเปล่า ผมคิดว่าเป็นภาระที่รัฐบาลรักษาการต้องทำ” นาย
เทวฤทธิ์กล่าว
.
นาย
เทวฤทธิ์กล่าวว่า 2.การทำประชามติ สิ่งที่จะการันตีว่าจะเป็นประชามติอย่างแท้จริง บรรยากาศต้องเสรีและเป็นธรรม สิ่งนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้ รัฐบาลต้องสร้างบรรยากาศเหล่านั้น จะอยู่เฉยมิได้ หากย้อนไปเมื่อประชามติ ปี 2559 ก็มีกลไกองคาพยพของรัฐต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักรู้และออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติ และ 3.เรียกร้องให้รัฐบาลต้องมี Action Plan ว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิออกเสียงประชามติได้อย่างเสรีและเป็นธรรม อย่างน้อยภายในวันที่ 20 มกราคม ต้องมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการออกเสียงประชามติแล้ว เวลาเหลือน้อย รัฐบาลต้องมีความจริงใจกับประชาชน
.
.
ปิดด่านไทย-กัมพูชา กระทบค้าชายแดน ส.ค.68 ลด 99.9% พบเขมรยังนำเข้าไวน์-วิสกี้ จากไทย https://www.matichon.co.th/economy/news_5389090
.
แม้ปิดด่าน ส.ค. กัมพูชายังนำเข้าไวน์-วิสกี้ พณ. ชี้ยอดค้าชายแดนอาจวูบ 3 แสนล้าน แต่ยอดไปปูดค้าผ่านแดน ‘จีน’ โดดเด่น
.
เมื่อวันที่ 29 กันยายน นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา คาดว่าจะมีผลต่อการปิดด่านต่อเนื่อง รวมถึงอุปสรรคการค้าผ่านด่านโดยรวมในอนาคต ดังนั้น กรมต้องปรับแผนงานการผลักดันการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนงบประมาณ 2569 โดยมุ่งการเพิ่มตลาดใหม่และช่องทางการค้าขายใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการ ทั้งที่ได้รับผลกระทบจากโดยตรงและโดยอ้อมจากการปิดด่านและติดขัดการขนส่งทางบก ปรับเป็นการส่งออกทางเรือ และประเทศติดชายแดนด่านอื่นมากขึ้น ซึ่งกรมเตรียมทั้งโครงการและออกมาตรการช่วยเหลือ เช่น ประสานผู้ประกอบการขนส่งและโลจิสติกส์ช่วยเหลือต้นทุนและสภาพคล่อง และสนับสนุนมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการภาพรวมของรัฐบาลที่กำลังออกมา เช่น ซอฟต์โลน
.
นางอารดากล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เป้าผลักดันการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนปี 2569 จะแยกกัมพูชาออกมา โดยกรมจะทบทวนแผนงานเพื่อผลักดันเป้ามูลค่าการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนโดยรวมให้เกิน 1.8 ล้านล้านบาท ใกล้เคียงคาดการณ์ปี 2568 มูลค่า 1.81-1.85 ล้านล้านบาท หรือขยายตัว 1-2%
.
“ปัจจุบันถ้าแยกเป็นมูลค่าค้าชายแดน กับการค้าผ่านแดน จะมีสัดส่วนใกล้เคียงกัน โดยค้าชายแดน 8 เดือนมีมูลค่า 6.3 แสนล้านบาท โดยทั้งปีก่อนรวม 9 แสนล้านบาท ส่วนการค้าผ่านแดน 8 เดือนปีนี้อยู่ที่ 7.02 แสนล้านบาท โดยรวมทั้งปีก่อนอยู่ที่ 8.4 แสนล้านบาท สะท้อนได้จากตัวเลขการค้าชายแดนไทยกับกัมพูชาที่ลดลงเกือยร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว” นางอารดากล่าว
JJNY : 5in1 วาโยแฉกลไกฮั้วส.ว.│เปิดจม.จุลพงศ์ขอโทษเนวิน│เทวฤทธิ์ชี้ช่อง│ปิดด่านกระทบค้าชายแดน│บัวลอยทำให้เสียชีวิต 8 ราย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5389145
.
เปลี่ยนคู่ฟัด! วุฒิสภาประท้วงวุ่น หลัง ‘วาโย’ แฉ กลไกฮั้ว สว. ขณะที่ ‘ประเทือง’ เดือด ท้าเดี๋ยวเจอกัน จี้ ครม.ทำให้เกิดความมั่นใจ ปฏิบัติตามนโยบายเรื่องนิติรัฐนิติธรรมจริงๆ
.
เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 ) เป็นพิเศษ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ
.
จากนั้น เวลา 15.35 น. บรรยากาศในห้องประชุมเกิดความปั่นป่วนขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อ นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายเรื่องกระบวนการฮั้ว ส.ว. โดยมีการลงรายละเอียดพฤติกรรมและขั้นตอนในกระบวนการตั้งแต่การใส่เสื้อเหลือง เนกไทเหลือง การมีโพยเหมือนกันและความผิดปกติของคะแนน ทำให้ส.ว.หลายคน อาทิ นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ และ พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย พากันลุกขึ้นประท้วง ระบุว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการอภิปรายนโยบายของรัฐบาล และเป็นเรื่องที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมไม่สมควรนำมาชี้นำ ซึ่ง นายวันมูหะมัดนอร์ วินิจฉัยว่า ไม่ควรไปลงรายละเอียด เพราะเรื่องยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ทำให้สส.พรรคปชน. ไม่พอใจ ลุกขึ้นประท้วง อาทิ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. ที่ยืนยันว่าสิ่งที่นพ.วาโยอภิปรายเป็นการพูดถึงนโยบายที่ไม่ปฏิบัติตามหลักนิติรัฐนิติธรรม และยังไม่ได้พาดพิงไปถึงสว.คนไหน แค่บอกว่า สิ่งใดที่นพ.วาโยพาดพิงคือเนกไทเหลือง ใครจะร้อนคอก็แล้วแต่ แต่วันนี้เราต้องเดินหน้าต่อ
.
ขณะที่ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ ยืนยันว่า ต้องอภิปรายลงไปในรายละเอียดเพราะเรื่องนี้มีรายละเอียดมาก ท้ายที่สุดนายวันมูหะมัดนอร์ อนุญาตให้นพ.วาโยอภิปรายต่อได้ แต่อย่าลงลึกในรายละเอียดมากเกินไป ไม่เช่นนั้นจะเกิดการประท้วงไม่สิ้นสุด แต่ปรากฎว่า นพ.วาโย ยังอภิปรายลงลึกในรายละเอียดเรื่องกระบวนการฮั้วส.ว. ทำให้สว.ไม่พอใจประท้วงกันอีกรอบ บรรยากาศจึงเริ่มตึงเครียด จน นายประเทือง มนตรี ส.ว. อภิปรายเสียงดังด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า จะอภิปรายสว.หรือนโยบายรัฐบาล ตอบมา เดี๋ยวได้เจอกัน ทำให้สส.พรรคปชน. รุมประท้วงขอให้นายประเทืองถอนคำพูด ซึ่งนายประเทืองยังไม่ยอมถอนคำพูด บอกว่า จะให้ถอนเรื่องอะไร ทำให้ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า จะไม่ถอนพฤติกรรมข่มขู่เพื่อนสมาชิกใช่หรือไม่ ถ้าไม่ถอนก็ให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน
.
นายวันมูหะมัดนอร์ จึงวินิจฉัยให้นายประเทืองถอนคำพูด หากไม่ถอนก็จะไม่อนุญาตให้อยู่ในห้องประชุม นายประเทืองจึงยอมถอนคำพูด และให้นพ.วาโยอภิปรายต่อ โดยเตือนว่า หากยังฝ่าฝืน อภิปรายลงลึกในรายละเอียดก็จะไม่อนุญาตให้พูดอีก เพราะถือว่า ไม่เคารพในสิ่งที่ประธานพูด จะให้โอกาสอีกครั้ง ในที่สุดนพ.วาโยตัดบทสรุปว่า การมีโพยเลือกสว.ไม่ใช่เรื่องผิด หากมาด้วยอุดมการณ์เดียวกัน แต่ถ้ามีผลประโยชน์และการจ้างวานกัน มีเส้นทางการเงินถือเป็นเรื่องผิด เชื่อว่าดีเอสไอมีหลักฐานแล้ว จึงฝากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปดูแลให้เกิดความมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีและครม. จะปฏิบัติตามนโยบายเรื่องนิติรัฐนิติธรรมจริงๆ เพราะตอนนี้เรายังไม่ได้รับคำมั่นสัญญา
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นายประเทือง เป็นอดีตผู้สมัครส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย เป็นพี่ชาย นางนาที รัชกิจประการ ภรรยา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แกนนำพรรคภูมิใจไทย ในพื้นที่ภาคใต้
.
.
.
เทวฤทธิ์ ชี้ช่อง ศาลรธน.ไม่ได้ห้ามรัฐบาลให้ปชช.เลือกส.ส.ร. แนะถามวันทำประชามติ เลือกเองได้หรือไม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_5388910
.
‘ส.ว.เทวฤทธิ์’ ชี้ช่องศาล รธน.ห้ามรัฐสภาให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้ห้ามรัฐบาลทำ แนะพิสูจน์ความจริงใจ ถามประชามติว่าประชาชนอยากเลือก ส.ส.ร.โดยตรงหรือไม่
.
เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 29 กันยายน ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) เป็นพิเศษ เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย ส.ว. อภิปรายนโยบายของรัฐบาลในส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า มี 3 ประเด็นฝากส่งถึงรัฐบาล ได้แก่ 1.ฝากขอโอกาสให้ประชาชนสามารถเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรงได้ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยมา 3 สัปดาห์ มีปมที่ 3 พรรคการเมืองพยายามแก้ไข คือศาลวินิจฉัยว่ารัฐสภาไม่สามารถให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง สิ่งนั้นเป็นเพียงจดหมายข่าวของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่ใช่คำวินิจฉัยฉบับเต็ม วันที่ 14-15 ต.ค.นี้ รัฐสภาจะพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หมวด 15/1 ของทั้ง 3 พรรคการเมือง อย่างน้อยที่สุดอยากวิงวอนไปยังเพื่อนสมาชิกรัฐสภาว่าอย่าเพิ่งปิดโอกาสให้สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาจากการเลือกตั้งโดยตรง
.
นายเทวฤทธิ์กล่าวต่อว่า ถ้าย้อนดูคำวินิจฉัยที่เราตั้งสมมุติฐานว่าเป็นคำแถม ไม่ใช่คำถามของผู้ถามว่า “รัฐสภาไม่อาจ” แต่ไม่ได้กำหนดว่ารัฐบาลจะทำไม่ได้ ดังนั้น เป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีที่บอกว่าประชาชนมีบุญคุณ และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ก็บอกว่าต้องทำประชามติเพื่อพิสูจน์ว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ดังนั้น เราพิสูจน์กันเลยดีหรือไม่ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 4/2564 ระบุว่าอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญเป็นของประชาชน ก็ควรถามในประชามติที่จัดทำพร้อมการเลือกตั้งว่าประชาชนประสงค์จะเลือกตั้ง ส.ส.ร.โดยตรงเองหรือไม่
.
“ตรงนี้จะเป็นการพิสูจน์ว่า เรามองประชาชนเป็นผู้มีบุญคุณ เป็นผู้มีอำนาจอธิปไตย มีอำนาจในการสถาปนารัฐธรรมนูญจริงหรือเปล่า ผมคิดว่าเป็นภาระที่รัฐบาลรักษาการต้องทำ” นายเทวฤทธิ์กล่าว
.
นายเทวฤทธิ์กล่าวว่า 2.การทำประชามติ สิ่งที่จะการันตีว่าจะเป็นประชามติอย่างแท้จริง บรรยากาศต้องเสรีและเป็นธรรม สิ่งนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้ รัฐบาลต้องสร้างบรรยากาศเหล่านั้น จะอยู่เฉยมิได้ หากย้อนไปเมื่อประชามติ ปี 2559 ก็มีกลไกองคาพยพของรัฐต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักรู้และออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติ และ 3.เรียกร้องให้รัฐบาลต้องมี Action Plan ว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิออกเสียงประชามติได้อย่างเสรีและเป็นธรรม อย่างน้อยภายในวันที่ 20 มกราคม ต้องมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการออกเสียงประชามติแล้ว เวลาเหลือน้อย รัฐบาลต้องมีความจริงใจกับประชาชน
.
.
ปิดด่านไทย-กัมพูชา กระทบค้าชายแดน ส.ค.68 ลด 99.9% พบเขมรยังนำเข้าไวน์-วิสกี้ จากไทย https://www.matichon.co.th/economy/news_5389090
.