
“ ผู้ฉลาด ย่อมรู้ธรรมชาติของเด็กว่า เด็กวัยใด ลักษณะใด ชอบฝึกหัดอบรมแบบใด เขาย่อมสังเกตทราบว่า
เด็กวัยหนึ่ง ต้องหัด ต้องประคับประคองให้ทำ จึงจะได้ผล
อีกวัยหนึ่ง ต้องเคี่ยวเข็ญ ต้องบังคับ ต้องกวดขันให้ทำ จึงจะได้ผล
อีกวัยหนึ่ง ต้องแสดงเหตุผลผิดชอบชั่วดีให้เห็นก่อน เพื่อชักนำให้ทำ จึงจะได้ผล
แต่ไม่ว่าจะสอนเด็กวัยใด ลักษณะใด ผู้สอนจะต้องลงมือประพฤติเป็นตัวอย่างด้วยตัวเองให้ได้เห็น ได้ดู อยู่ตลอดเวลา โดยไม่ละเลยความประพฤติ ปฏิบัติ ที่ต้องการจะให้เกิด ให้มีในตัวเด็ก เป็นอันขาด ไม่ว่าจะเป็นข้อปฏิบัติเล็กน้อย ปลีกย่อยเพียงใด ”
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วันที่ 21 มิถุนายน 2522
ถ้าหากพูดถึงการอาสา – ควบคู่กับคำว่า “ดอย” ผมคิดว่าหลายๆ คนก็คงจะนึกถึงคำว่า “ครูดอย” เป็นอันดับแรก ๆ . . . และถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ผมก็เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกว่า “ครั้งหนึ่ง” อยากจะไปสัมผัสเรื่องราว และประสบการณ์ต่างๆ บนพื้นที่ที่ห่างไกลความเจริญ
ซึ่งผมเองเป็นอีกคน ที่ได้มีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตในฐานะ “ครูอาสา” ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อาจจะเรียกได้ว่าว่าเป็นโรงเรียนที่ ติดขอบชายแดน ไทย-พม่า พอสมควรก็ไม่ผิดมากนัก และโรงเรียนแห่งนี้มีชื่อว่า “โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชมรมอนุรักษ์พุทธศิลปะไทยอนุสรณ์ 2 (บ้านปุงยาม)” ที่หมู่บ้านปุงยาม ตำบาลนาปู่ป้อม อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เดี่ยวผมจะพาพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกท่าน ไปร่วมประสบการณ์กว่า 4 เดือน (พฤษาคม - กันยายน) ที่ผมได้ไปอาสาและเรียนรู้ตัวเองไปพร้อมๆ กันนะครับ
ปล. ก่อนอื่นขออนุญาติบอกพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกท่านว่า กระทู้นี้ที่ผมจะเขียน จะเขียนในรูปแบบ 1 กระทู้จบ แต่จะแบ่งเรื่องราวต่างๆ ในความเห็นแต่ละความเห็นแทนนะครับ
และเพื่อความสะดวกในการร่วมเดินทาง พี่ๆ เพื่อนๆ สามารถ ปักความเห็นที่อ่าน หรือ เลือกอ่านเฉพาะข้อความที่เจ้าของกระทู้เขียนได้ครับ
โดยมี
บทนำ : ร่วมสมบททุน Postcard for Smiles > > >
http://pantip.com/topic/35702476/comment1 ในความเห็นที่ 1
บทที่ 1 : ปฐมบท > > >
http://pantip.com/topic/35702476/comment2 ในความเห็นที่ 2
บทที่ 2 : Day and Life > > >
http://pantip.com/topic/35702476/comment3 ในความเห็นที่ 3
บทที่ 3 : Food and Eat > > >
http://pantip.com/topic/35702476/comment4 ในความเห็นที่ 4
บทที่ 4 : Teaching and Class > > >
http://pantip.com/topic/35702476/comment6 ในความเห็นที่ 6
บทที่ 5 : Activities > > >
http://pantip.com/topic/35702476/comment7 ในความเห็นที่ 7
บทที่ 6 : Walk to border > > >
http://pantip.com/topic/35702476/comment11 ในความเห็นที่ 11
บทที่ 7 : Snake > > >
http://pantip.com/topic/35702476/comment12 ในความเห็นที่ 12
บทที่ 8 : Landscape > > >
http://pantip.com/topic/35702476/comment13 ในความเห็นที่ 13
บทที่ 9 : บทส่งท้าย > > >
http://pantip.com/topic/35702476/comment14 ในความเห็นที่ 14
ปล. 2 หลังจากประสบการณ์ครั้งนี้ ผมมีความคิดที่อยากจะระดมเงินทุน เพื่อช่วยสร้างสนามเด็กเล่น/สนามกีฬา ในโรงเรียนบนพื้นที่ห่างไกล แต่จะเป็นเรื่องของการจำหน่าย Post Card ที่เป็นรูปตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่ผมอยู่ที่นี่ ซึ่งในรายละเอียด ผมจะเล่าให้ฟังหลังจบโพสต์กระทู้นะครับ
ปล. 3 ขออนุญาตฝากเพจ
https://www.facebook.com/TheShutterJourney ที่ห่างหายเรื่องราวไปกว่า 4 เดือน
รวมถึงกระทู้เก่าๆ ให้ทุกๆ ท่านได้ติดตามครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เรื่องราวการปล่อยเบลอในประเทศเซอร์เบีย
ปล่อยเบลอ . . . ที่เซอร์เบีย ( Serbia ) : Chapter - 1 Introduction of IAESTE Srbija >>> http://pantip.com/topic/34645681
ปล่อยเบลอ . . . ที่เซอร์เบีย ( Serbia ) : Chapter - 2 ตระเวนเที่ยว ใน Belgrade >>> http://pantip.com/topic/34776056
ปล่อยเบลอ . . . ที่เซอร์เบีย ( Serbia ) : Chapter - 3 First Trip ที่ Čačak กับ หุบเขาแรงบันดาลใจแรก >>> http://pantip.com/topic/34677504
ปล่อยเบลอ . . . ที่เซอร์เบีย ( Serbia ) : Chapter - 4 หนาวแรก ณ Zlatibor ไปจับน้องหิมะกัน >>> http://pantip.com/topic/34733582
ปล่อยเบลอ . . . ที่เซอร์เบีย ( Serbia ) : Chapter - 5 ไปสัมผัส Home Stay กับพี่สะใภ้ไทย ใน Kragujevac >>> http://pantip.com/topic/34791203
ปล่อยเบลอ . . . ที่เซอร์เบีย ( Serbia ) : Chapter - 6 นั่งรถไฟไปฉลองปีใหม่ HNY ที่เมือง Novi Sad >>> http://pantip.com/topic/34826987
ปล่อยเบลอ . . . ที่เซอร์เบีย ( Serbia ) : Chapter - 7 เพราะ Nis ช่างหนาวมาก >>> http://pantip.com/topic/34839290
ปล่อยเบลอ . . . ที่เซอร์เบีย ( Serbia ) : Chapter - 8 Ski & Snow Story in Kopaonik (Last Trip) >>> http://pantip.com/topic/34994667
เที่ยวเมืองไทย
หนุ่มบ้านนา ไปเที่ยว นราฯ บ้านเพื่อน @ สุไหงโก-ลก >>> http://pantip.com/topic/34237139
วิศวะลาดกระบัง ในมุมมองของ . . . ศิษย์เก่า >>> http://pantip.com/topic/34112728
ขอขอบพระคุณที่ติดตาม และร่วมเดินทางไปด้วยกันครับ ^^
ที่มาที่ไป : จุดเริ่มต้นของเรื่องราวนี้ เกิดขึ้นตอนก่อนผมจะเรียนจบชั้นปีที่ 4 ซึ่งได้เห็นหน้า New Feed เกี่ยวกับครูอาสา ที่ต้องไปปฏิบัติภาระกิจตลอดระยะเวลา 4 เดือน (ทำให้ผมสนใจที่จะสมัคร แต่ตอนนั้นคิดว่าไม่สะดวก เพราะต้องรับปริญญา และ ไปฝึกงานในช่วงนั้นพอดี) จึงได้แต่เตรียมตัวและคิดว่าจะสมัครในรุ่นถัดไป
“ครูอาสาเกื้อฝันเด็ก”
เมื่อโครงการนี้รับสมัคร “ครูอาสาเกื้อฝันเด็ก รุ่นที่ 5” ในช่วงประมาณเดือนเมษายน โดยได้ติดตามจากโปสเตอร์ในนี้ (พี่ๆ มูลนิธิเกื้อฝันเด็ก และ พี่ๆ เครือข่ายจิตอาสา ออกแบบได้สวยมากๆ เลยครับ)
ซึ่งหลังจากยื่นในสมัครไป (พร้อมๆ กับได้โดนสัมภาษณ์) ก็ติดโครงการนี้ โดยมีบัดดี้เพื่อนอาสาอีกหนึ่งท่าน ชื่อ “ครูแรมโบ้” (โชคดีพอสมควรครับที่เพื่อนอาสาเป็นรุ่นราวคราวเดียวกัน เรียนวิศวะเหมือนกัน แต่แค่ต่างสถาบัน ทำให้หลายๆ ครั้งการสื่อสารกันค่อนข้างง่ายครับ)
โครงการครูอาสาเกื้อฝันเด็ก คืออะไร ?
ผมขอให้รายละเอียดคร่าวๆ นะครับ (เพราะเชื่อว่าทุกท่านสามารถเสิร์จข้อมูลในอากู่ Google และหาข้อมูลเบื้องต้นได้ไม่ยากครับ)
Facebook เครือข่ายจิตอาสา
http://www.volunteerspirit.org และ
Facebook ครูอาสาเกื้อฝันเด็ก
https://www.facebook.com/ครูอาสาเกื้อฝันเด็ก-1432954270276628
ด้วยวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการดังกล่าวข้างต้น เครือข่ายจิตอาสาจึงดำเนินงานในพื้นที่ภาคเหนือโดยพัฒนาความร่วมมือการทำงานกับ มูลนิธิเกื้อฝันเด็ก (Child’s Dream Foundation) ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีภารกิจและบทบาทของการช่วยเหลือ และพัฒนาเด็กและเยาวชนที่ยากจนและด้อยโอกาสทางการศึกษา รวมทั้งช่วยเหลือโรงเรียนซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลที่ขาดแคลนระบบโครงสร้างพื้นฐานในการจัดการศึกษา โดยมีเป้าหมายของการสร้าง “ครูอาสาสมัคร” ซึ่งมีภารกิจของการพัฒนากระบวนการเรียนรู้และทักษะชีวิตแก่นักเรียนของโรงเรียนซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดแม่ฮ่องสอน
1. คุณสมบัติอาสาสมัคร
1.1 เป็นผู้กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี หรือสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี
1.2 มีความสนใจด้านการศึกษา และการจัดกระบวนการเรียนรู้
1.3 มีความพร้อมปฏิบัติงานในพื้นที่เป็นระยะเวลา 4 เดือน (7 พฤศจิกายน 2559 – 7 มีนาคม 2560)
1.4 มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่เป็นโรคประจำตัวร้ายแรง ที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงาน
1.5 มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ สำหรับการใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สะดวกสบาย
1.6 มีความสนใจและใส่ใจเรียนรู้กระบวนการทำงานใหม่ๆ และเปิดกว้างทางความคิด
1.7 ผู้สมัครที่ทำงานแล้ว ต้องได้รับอนุญาตให้ลาจากต้นสังกัด และต้องมีหนังสืออนุญาตมาแสดงในวันสัมภาษณ์ด้วย
2. บทบาทอาสาสมัคร
2.1 มีบทบาทเป็นผู้ช่วยครูประจำจัดการเรียนการสอนในห้องเรียน
2.2 มีบทบาทเป็นครูพิเศษออกแบบและจัดกระบวนการเรียนรู้พัฒนาทักษะชีวิตแก่นักเรียน
2.3 มีบทบาทเป็นที่ปรึกษาสำหรับนักเรียนหอพัก
จากข้อความเบื้องต้น หลายๆ ท่านคงรู้สึกว่า มีรายละเอียดที่ค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งด้วยจุดประสงค์ของโครงการเองก็ดี และบทบาทของอาสาสมัครก็ดี ทำให้การไปเป็นครูอาสาในระยะเวลากว่า 4 เดือน หมายถึงการไป พัฒนาคน (ทั้งตัวอาสาเองและคนในพื้นที่) ซึ่งการออกจาก Comfort Zone ในระยะเวลาดังกล่าว จะว่าเป็นระยะที่สั้นก็ไม่เชิง เป็นระยะเวลาที่ยาวนานก็ไม่เชิง อยู่ที่ทัศนคติของอาสาสมัครแต่ละคนครับ
ปล. ถ้าใครที่สนใจสมัคร ในรุ่นที่ 6.1 ตอนนี้เปิดรับแล้วครับ
รายละเอียดมีดังนี้นะครับ
จากโจทย์ที่มี โครงการนี้นอกจากต้องการคนที่มีคุณสมบัติที่มี “
ใจ” แล้ว . . . อาจจะต้องการคนที่ “
เข้าใจกระบวนการ(การเรียนรู้)” พร้อมๆ กับการปรับตัว
เพราะการค้นพบศักยภาพของตัวเด็กๆ พร้อมกับครูอาสาได้รู้ว่า ศักยภาพที่เรามี ช่วยให้อนาคตตัวจิ๋ว ได้เรียนรู้ทักษะต่างๆ มันน่าภูมิใจและยิ่งใหญ่มากๆ เลยครับ
. . . ลองนึกถึงวันที่มีใครสักคนจุดประกายเราตอนปั่นจักรยานครั้งแรก . . .
. . . หรือใครสักคนที่จุดประกายการรักภาษาอังกฤษของเรา . . .
. . . หรืออาจจะเป็นกีฬาที่ชอบ ที่ได้เห็นจาก Idol ที่มาสอน . . .
. . . หรือแม้กระทั่งใครซักคนที่สอนเราวาดรูปสวย จนเป็นภาพติดตาให้เรามีความฝันขึ้นมา . . .
และนั้นแหละครับ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ ที่จะช่วยให้เด็กๆ บนนู้นได้ Inspiration จากสิ่งที่เรามี
ขอให้พี่ๆ เพื่อนๆ ที่สนใจทุกๆ ท่าน และต้องการมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ โชคดีนะครับ ^^
#ครูตวง
ครูดอยฝึกหัด . . . กับ ๔ เดือน การเป็นครูอาสาบนพื้นที่สูง
“ ผู้ฉลาด ย่อมรู้ธรรมชาติของเด็กว่า เด็กวัยใด ลักษณะใด ชอบฝึกหัดอบรมแบบใด เขาย่อมสังเกตทราบว่า
เด็กวัยหนึ่ง ต้องหัด ต้องประคับประคองให้ทำ จึงจะได้ผล
อีกวัยหนึ่ง ต้องเคี่ยวเข็ญ ต้องบังคับ ต้องกวดขันให้ทำ จึงจะได้ผล
อีกวัยหนึ่ง ต้องแสดงเหตุผลผิดชอบชั่วดีให้เห็นก่อน เพื่อชักนำให้ทำ จึงจะได้ผล
แต่ไม่ว่าจะสอนเด็กวัยใด ลักษณะใด ผู้สอนจะต้องลงมือประพฤติเป็นตัวอย่างด้วยตัวเองให้ได้เห็น ได้ดู อยู่ตลอดเวลา โดยไม่ละเลยความประพฤติ ปฏิบัติ ที่ต้องการจะให้เกิด ให้มีในตัวเด็ก เป็นอันขาด ไม่ว่าจะเป็นข้อปฏิบัติเล็กน้อย ปลีกย่อยเพียงใด ”
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วันที่ 21 มิถุนายน 2522
ถ้าหากพูดถึงการอาสา – ควบคู่กับคำว่า “ดอย” ผมคิดว่าหลายๆ คนก็คงจะนึกถึงคำว่า “ครูดอย” เป็นอันดับแรก ๆ . . . และถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ผมก็เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกว่า “ครั้งหนึ่ง” อยากจะไปสัมผัสเรื่องราว และประสบการณ์ต่างๆ บนพื้นที่ที่ห่างไกลความเจริญ
ซึ่งผมเองเป็นอีกคน ที่ได้มีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตในฐานะ “ครูอาสา” ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อาจจะเรียกได้ว่าว่าเป็นโรงเรียนที่ ติดขอบชายแดน ไทย-พม่า พอสมควรก็ไม่ผิดมากนัก และโรงเรียนแห่งนี้มีชื่อว่า “โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชมรมอนุรักษ์พุทธศิลปะไทยอนุสรณ์ 2 (บ้านปุงยาม)” ที่หมู่บ้านปุงยาม ตำบาลนาปู่ป้อม อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เดี่ยวผมจะพาพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกท่าน ไปร่วมประสบการณ์กว่า 4 เดือน (พฤษาคม - กันยายน) ที่ผมได้ไปอาสาและเรียนรู้ตัวเองไปพร้อมๆ กันนะครับ
ปล. ก่อนอื่นขออนุญาติบอกพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกท่านว่า กระทู้นี้ที่ผมจะเขียน จะเขียนในรูปแบบ 1 กระทู้จบ แต่จะแบ่งเรื่องราวต่างๆ ในความเห็นแต่ละความเห็นแทนนะครับ
และเพื่อความสะดวกในการร่วมเดินทาง พี่ๆ เพื่อนๆ สามารถ ปักความเห็นที่อ่าน หรือ เลือกอ่านเฉพาะข้อความที่เจ้าของกระทู้เขียนได้ครับ
โดยมี
บทนำ : ร่วมสมบททุน Postcard for Smiles > > > http://pantip.com/topic/35702476/comment1 ในความเห็นที่ 1
บทที่ 1 : ปฐมบท > > > http://pantip.com/topic/35702476/comment2 ในความเห็นที่ 2
บทที่ 2 : Day and Life > > > http://pantip.com/topic/35702476/comment3 ในความเห็นที่ 3
บทที่ 3 : Food and Eat > > > http://pantip.com/topic/35702476/comment4 ในความเห็นที่ 4
บทที่ 4 : Teaching and Class > > > http://pantip.com/topic/35702476/comment6 ในความเห็นที่ 6
บทที่ 5 : Activities > > > http://pantip.com/topic/35702476/comment7 ในความเห็นที่ 7
บทที่ 6 : Walk to border > > > http://pantip.com/topic/35702476/comment11 ในความเห็นที่ 11
บทที่ 7 : Snake > > > http://pantip.com/topic/35702476/comment12 ในความเห็นที่ 12
บทที่ 8 : Landscape > > > http://pantip.com/topic/35702476/comment13 ในความเห็นที่ 13
บทที่ 9 : บทส่งท้าย > > > http://pantip.com/topic/35702476/comment14 ในความเห็นที่ 14
ปล. 2 หลังจากประสบการณ์ครั้งนี้ ผมมีความคิดที่อยากจะระดมเงินทุน เพื่อช่วยสร้างสนามเด็กเล่น/สนามกีฬา ในโรงเรียนบนพื้นที่ห่างไกล แต่จะเป็นเรื่องของการจำหน่าย Post Card ที่เป็นรูปตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่ผมอยู่ที่นี่ ซึ่งในรายละเอียด ผมจะเล่าให้ฟังหลังจบโพสต์กระทู้นะครับ
ปล. 3 ขออนุญาตฝากเพจ https://www.facebook.com/TheShutterJourney ที่ห่างหายเรื่องราวไปกว่า 4 เดือน
รวมถึงกระทู้เก่าๆ ให้ทุกๆ ท่านได้ติดตามครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่มาที่ไป : จุดเริ่มต้นของเรื่องราวนี้ เกิดขึ้นตอนก่อนผมจะเรียนจบชั้นปีที่ 4 ซึ่งได้เห็นหน้า New Feed เกี่ยวกับครูอาสา ที่ต้องไปปฏิบัติภาระกิจตลอดระยะเวลา 4 เดือน (ทำให้ผมสนใจที่จะสมัคร แต่ตอนนั้นคิดว่าไม่สะดวก เพราะต้องรับปริญญา และ ไปฝึกงานในช่วงนั้นพอดี) จึงได้แต่เตรียมตัวและคิดว่าจะสมัครในรุ่นถัดไป
เมื่อโครงการนี้รับสมัคร “ครูอาสาเกื้อฝันเด็ก รุ่นที่ 5” ในช่วงประมาณเดือนเมษายน โดยได้ติดตามจากโปสเตอร์ในนี้ (พี่ๆ มูลนิธิเกื้อฝันเด็ก และ พี่ๆ เครือข่ายจิตอาสา ออกแบบได้สวยมากๆ เลยครับ)
ซึ่งหลังจากยื่นในสมัครไป (พร้อมๆ กับได้โดนสัมภาษณ์) ก็ติดโครงการนี้ โดยมีบัดดี้เพื่อนอาสาอีกหนึ่งท่าน ชื่อ “ครูแรมโบ้” (โชคดีพอสมควรครับที่เพื่อนอาสาเป็นรุ่นราวคราวเดียวกัน เรียนวิศวะเหมือนกัน แต่แค่ต่างสถาบัน ทำให้หลายๆ ครั้งการสื่อสารกันค่อนข้างง่ายครับ)
ผมขอให้รายละเอียดคร่าวๆ นะครับ (เพราะเชื่อว่าทุกท่านสามารถเสิร์จข้อมูลในอากู่ Google และหาข้อมูลเบื้องต้นได้ไม่ยากครับ)
Facebook เครือข่ายจิตอาสา http://www.volunteerspirit.org และ
Facebook ครูอาสาเกื้อฝันเด็ก https://www.facebook.com/ครูอาสาเกื้อฝันเด็ก-1432954270276628
ด้วยวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการดังกล่าวข้างต้น เครือข่ายจิตอาสาจึงดำเนินงานในพื้นที่ภาคเหนือโดยพัฒนาความร่วมมือการทำงานกับ มูลนิธิเกื้อฝันเด็ก (Child’s Dream Foundation) ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีภารกิจและบทบาทของการช่วยเหลือ และพัฒนาเด็กและเยาวชนที่ยากจนและด้อยโอกาสทางการศึกษา รวมทั้งช่วยเหลือโรงเรียนซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลที่ขาดแคลนระบบโครงสร้างพื้นฐานในการจัดการศึกษา โดยมีเป้าหมายของการสร้าง “ครูอาสาสมัคร” ซึ่งมีภารกิจของการพัฒนากระบวนการเรียนรู้และทักษะชีวิตแก่นักเรียนของโรงเรียนซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดแม่ฮ่องสอน
1. คุณสมบัติอาสาสมัคร
1.1 เป็นผู้กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี หรือสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี
1.2 มีความสนใจด้านการศึกษา และการจัดกระบวนการเรียนรู้
1.3 มีความพร้อมปฏิบัติงานในพื้นที่เป็นระยะเวลา 4 เดือน (7 พฤศจิกายน 2559 – 7 มีนาคม 2560)
1.4 มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่เป็นโรคประจำตัวร้ายแรง ที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงาน
1.5 มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ สำหรับการใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สะดวกสบาย
1.6 มีความสนใจและใส่ใจเรียนรู้กระบวนการทำงานใหม่ๆ และเปิดกว้างทางความคิด
1.7 ผู้สมัครที่ทำงานแล้ว ต้องได้รับอนุญาตให้ลาจากต้นสังกัด และต้องมีหนังสืออนุญาตมาแสดงในวันสัมภาษณ์ด้วย
2. บทบาทอาสาสมัคร
2.1 มีบทบาทเป็นผู้ช่วยครูประจำจัดการเรียนการสอนในห้องเรียน
2.2 มีบทบาทเป็นครูพิเศษออกแบบและจัดกระบวนการเรียนรู้พัฒนาทักษะชีวิตแก่นักเรียน
2.3 มีบทบาทเป็นที่ปรึกษาสำหรับนักเรียนหอพัก
จากข้อความเบื้องต้น หลายๆ ท่านคงรู้สึกว่า มีรายละเอียดที่ค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งด้วยจุดประสงค์ของโครงการเองก็ดี และบทบาทของอาสาสมัครก็ดี ทำให้การไปเป็นครูอาสาในระยะเวลากว่า 4 เดือน หมายถึงการไป พัฒนาคน (ทั้งตัวอาสาเองและคนในพื้นที่) ซึ่งการออกจาก Comfort Zone ในระยะเวลาดังกล่าว จะว่าเป็นระยะที่สั้นก็ไม่เชิง เป็นระยะเวลาที่ยาวนานก็ไม่เชิง อยู่ที่ทัศนคติของอาสาสมัครแต่ละคนครับ
รายละเอียดมีดังนี้นะครับ
จากโจทย์ที่มี โครงการนี้นอกจากต้องการคนที่มีคุณสมบัติที่มี “ใจ” แล้ว . . . อาจจะต้องการคนที่ “เข้าใจกระบวนการ(การเรียนรู้)” พร้อมๆ กับการปรับตัว
เพราะการค้นพบศักยภาพของตัวเด็กๆ พร้อมกับครูอาสาได้รู้ว่า ศักยภาพที่เรามี ช่วยให้อนาคตตัวจิ๋ว ได้เรียนรู้ทักษะต่างๆ มันน่าภูมิใจและยิ่งใหญ่มากๆ เลยครับ
. . . หรือใครสักคนที่จุดประกายการรักภาษาอังกฤษของเรา . . .
. . . หรืออาจจะเป็นกีฬาที่ชอบ ที่ได้เห็นจาก Idol ที่มาสอน . . .
. . . หรือแม้กระทั่งใครซักคนที่สอนเราวาดรูปสวย จนเป็นภาพติดตาให้เรามีความฝันขึ้นมา . . .
และนั้นแหละครับ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ ที่จะช่วยให้เด็กๆ บนนู้นได้ Inspiration จากสิ่งที่เรามี