เป็นครูอีกครั้ง(ชีวิตผมตอนที่ 5)

ตอนที่  1  https://pantip.com/topic/43747784
ตอนที่  2  https://pantip.com/topic/43759690
ตอนที่  3  https://pantip.com/topic/43769052
ตอนที่  4  https://pantip.com/topic/43781023
"ชีวิตคนไม่เหมือนกัน  การต่อสู้  ดิ้นรนเพื่อตนเอง  ครอบครัว  สังคม  ก็มีตลอดเวลาเช่นกัน  ให้กำลังใจสำหรับทุกท่านที่ทำโดยสุจริตครับ"

     ในที่สุดผมก็หวนคืน   กลับมาเป็นครูอีกครั้ง  โดยใช้วุฒิ  ปกศ.  ใช้เวลาอีกหนึ่งปี ในการสอบ พม.  ยื่นปรับฐานเงินเดือนใหม่  และเรียน มสธ. ระดับปริญญาตรีอีก 2 ปี  ปรับวุฒิอีกครั้ง...  
การทำหน้าที่ครู
กิจวัตร  ผมออกจากบ้านประมาณ 06.00 น.  ถึงโรงเรียน 7.00 น. โดยประมาณ ออกจากโรงเรียน 17.30-18.00 น.  โดยประมาณ  ถึงที่พัก 18.30 น.
กิจกรรม ซ้อมกีฬา เข้า-กลางวัน-เย็นทุกวันราชการ  (ช่วงที่โดดเรียน  ผมเล่นกีฬาทุกประเภท  ดูตามจำนวนคน ..ปิงปอง ตะกร้อ วอลเล่ย์ บาส  บอล)
      ผมต้องถาม อาจาร์ใหญ่ ในที่ประชุมครู ทำไมโรงเรียนเราคุณภาพการศึกษาถึง อยู่ในลำดับท้ายของอำเภอ  อ.ใหญ่อธิบาย...ก็มีเหตุผลมากมาย(ยาว)  ในที่สุดสรุปว่าเราจะช่วยกันแก้ไขคุณภาพการศึกษาให้ดีขึ้น ใน 240 โรง  ขอขึ้นไปอยู่ กลาง ๆ ให้ได้ในเวลา 3 ปี

เริ่มด้วยการจัดครูเข้าสอนใหม่  ขออาสาสมัคร ใครที่มีคุณสมบัติยกมือ
ก่อนประถม  เลือกคนที่ใจดี  ไม่จำเป็นต้องสอนมากให้เด็กรักโรงเรียน  
ป. 1  ขอครูที่เก่งเอาใจใส่มีลาในห้องเรียนเยอะ  ไม่ต้องสนใจอะไรมาก ขออ่านออกเขียนได้  (ไม่ใช่อยู่ ป. 6 ครึ่งห้องอ่าน-เขียนไม่ได้แบบปัจจุบัน)
ป.2 -4-6  ครูต้องเก่งและเข้มข้นให้เด็กที่กำลังพัฒนา  เข้าสู่ทุกกลุ่มวิชา  ถ่ายทอดความรู้ให้เด็กได้ดี
ป.3-5  เป็นช่วงผ่อนคลายความเครียดเด็ก  สอนตามปกติ ไม่ได้เน้น
     ลงเอยด้วยดี และคุณภาพการศึกษาโรงเรียนดีวันดีคืน
     ในช่วงนี้มีการประชุมครูเพื่อเสนอความดีความชอบ 2 ขั้น  อ.ใหญ่ เสนอชื่อผมเข้ามา และอธิบายเหตุผล...ที่ประชุมทั้งหมดเห็นด้วย  ยกเว้นผม....ผมคัดค้านให้ความเห็น"กิจกรรมหลายอย่าง  ผมอาจจะดี  แต่การสอนผมสอนน้อยไม่ประจำชั้น  ผมแอบฟังการถ่ายทอดความรู้ให้เด็ก ทุก ๆคน ผมอยากให้พิจารณาคนที่สอนเก่งเป็นลำดับแรก คุณสมบัติอื่น ๆ เป็นเรื่องรอง  ผมเห็นว่าคุณ..(ระบุชื่อ).....ถ่ายท่อดความรู้ดี  สนใจเด็ก  คุณภาพการศึกษาที่ดีขึ้น ควรให้ความสนใจเรื่องนี้มากขึ้น  ไม่ควรเป็นผม   จากนั้นมีการอภิปรายสนับสนุน อ.ใหญ่..ทั้งห้อง..   ถ้าต้องการงานด้านอื่นงั้นเอาของผมไปให้...(ระบุชื่อ)...ถ้าปีนี้ผมได้สองขั้น  ผมจะเสียใจมาก   ผมจะเขียนใบย้ายออกจากโรงเรียน  " (ตอนหลังคิดได้ ผมไม่ควรใช้คำพูดแบบนั้น  อ.ใหญ่คงเสียใจในคำพูดผม ) ..  สรุป อ.ใหญ่ไปพิจารณาเอง  และปีนั้นคนที่ผมเสนอได้ 2 ขั้น   สองปีต่อมา  ผลการประเมินทางการศึกษาของโรงเรียนติด10 ลำดับแรกแทบทุกลุ่มวิชาที่ ศน.ประเมิน  ตรงนี้ผมดีใจที่สุด  นั่นคือเป้าหมายผม..ไปไหนบอกชื่อโรงเรียนแล้วไม่อายใคร  แต่ในที่สุดอีกห้าปีต่อมาผมก็ต้องย้ายเข้ามาปริมณฑล...
   ช่วงนี้เป็นช่วงท้าย ๆของการเป็นครูแล้ว  ผมไม่เห็นด้วยกับแนวนโยบายข้างบนส่งลงมาหลายเรื่อง ความเบื่อหน่ายสะสมเพิ่มขึ้น
-ห้ามนักเรียนซ้ำชั้น  ผมเชื่อว่าต้นทางป.1 ไม่พร้อม  ไม่ควรให้เลื่อนชั้น  ไม่งั้นเด็กจะมีปัญหา  แก้ไขระหว่างทางยาก
-ห้ามนักเรียนติด 0  ครูต้องซ่อมเสริม ทำให้ผ่านให้ได้  
-  ห้ามใช้ไม้เรียว  ผมเห็นว่าเด็กประถม ต้องใช้เพื่อให้อยู่ในระเบียบ  เราตีเพื่อสั่งสอนถ้าโทษก่อนหน้าเอาไม่อยู่   ส่วนมัธยม  ใช้การพูดคุยเอา...
-  ให้ครูทำงานวิชาการมากขึ้น  แผนการสอน สอนซ่อม ฯ  อันนี้ปกติ  แต่การทำเพื่อเลื่อนวิทยฐานะ  ผมไม่เห็นด้วย  ครูจะใช้เวลาทำงานส่วนนี้มากกว่าการสอนนักเรียน   แม้เป้าหมายของนโยบายเชื่อแบบนั้น  แต่ทางปฏิบัติ ยากครับ
ผมให้ความสำคัญ ในการประเมินผลงานที่  Output(นักเรียน)  มากกว่า Process(กระบวนการ-วิธีการ)    แต่นโยบายบนให้ กระบวนการสำคัญ  มากกว่าผลผลิต  ต่อไปการทำงานต่อไปผมคงไม่มีความสุข  แม้ตอนนั้นผมสอบติดและรออบรมผู้บริหาร  อีกเดือนเดียวผมก็ได้เข้าวัดไร่ขิง....ผมตัดสินใจยื่นใบลาออก จบชีวิตการทำงานทุ่มเทเพื่อสังคม
ผมเลือกเดินเส้นทางใหม่อีกครั้ง.....