▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวภูเขา
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ภาพถ่ายทิวทัศน์
เที่ยวยุโรป
[CR] ไปเที่ยวสวิส อย่าคิดมาก (4)
ตอนที่ 2: Luzern - Zug – Kussnacht – Interlaken – Bern อ่านได้ที่นี่ http://pantip.com/topic/35323829
ตอนที่ 3: Schynige Platte – Lauterbrunnen - Murren - Wengen อ่านได้ที่นี่ http://pantip.com/topic/35332007
ไปเที่ยวสวิส อย่าคิดมาก ตอนที่ 4: Grindelwald – First - Vevey - Montreux
วันนี้เป็นวันที่หกของการเดินทาง วันแรกที่มาถึงนอนที่ซูริค วันที่สองและสามนอนที่ลูเซิร์น วันที่สี่และห้านอนที่อินเทอร์ลาเค่น วันที่หกนี้เดิมทีแพลนว่าจะอยู่ที่อินเทอร์ลาเค่นอีกคืน แต่พอเห็นคนพูดถึงเมืองกรินเดลวาลด์ (Grindelwald) ค่อนข้างมากก็เลยอยากจะมาเห็น เปลี่ยนใจจองพักที่ Grindelwald หนึ่งคืน นั่งรถไฟสาย Berner Berland – Bahn (สีน้ำเงินเหลือง) ที่มาจาก Interlaken Ost เมื่อมาถึง Zweisimmen จะตัดขบวนแยกออกเป็นสองขบวน ขบวนหนึ่งไป Lauterbrunnen อีกขบวนหนึ่งไป Grindelwald
คณะผมเองก็เช่นกันวันนี้ต้องแยกออกเป็นสองสาย สายหนึ่ง (ผมกับลูกคนโต) อยากไป Grindelwald ตั้งแต่เช้าเพราะต้องการจะไปขึ้นยอดเขาฟิตส์ (First) ที่บนนั้นจะสามารถมองเห็นยอดเขาสามสหาย (Eiger – Monch - Jungfrau) ได้อย่างชัดเจน และจะได้มีเวลาเดินเที่ยวใน Grindelwald มากหน่อย แต่อีกสายหนึ่ง (ภรรยาและลูกคนเล็ก) อยากจะไปเที่ยวเมืองมากกว่า ตั้งใจว่าจะไปเมืองเวอเวย์ (Vevey), มงเทรอ (Montreux) และโลซานน์ (Lausanne) แล้วจึงค่อยกลับมาเจอกันตอนค่ำ ณ ที่พัก (ในเมือง Grindelwald)
ผมกับลูกคนโตมาถึง Grindelwald ประมาณสิบโมง จองที่พักลักษณะเป็น Hostel ที่ติดริมเขา ตอนแรกนึกว่าจะได้เห็นวิวภูเขาจากห้องพัก แต่ปรากฎว่าเรือนพักของเขามีหลายหลังบังกันไปบังกันมา ผมต่อว่าเขาว่าเห็นในโฆษณานึกว่าจะเห็นวิว เขาบอกว่าอยากดูวิวให้ออกนอกห้องมาดู เออ! จริงของเขานะ
จากที่พักเดินแค่ห้านาทีก็ถึงสถานีรถกระเช้าที่จะขึ้นไปยอดเขาฟิตส์ ค่าตั๋วไป-กลับ ใช้ Swiss Pass ลดราคาแล้วเหลือคนละ 29 สวิสฟรัง
นั่งกระเช้าประมาณ 20 นาที มีสถานีระหว่างทางสองสถานี (สถานี Bort และสถานี Schreckfeld) ถึงสถานีแรกผมหยุดลงไปถ่ายรูปเพราะเห็นว่าทัศนวิสัยดี กลัวว่าถ้าไม่รีบถ่ายรูปไว้เดี๋ยวตอนไปถึงยอดเขาไม่รู้ว่าเหมือนกันว่าอากาศจะเป็นยังไง
มาถึงยอดเขา ทัศนวิสัยดีกว่าที่คิดไว้ แต่อากาศค่อนข้างเย็น
เห็นคนเข้าคิวเล่น First Flyer (Flieger)
ผมกับลูกไปเดินเล่นที่บริเวณ Cliff Walk เป็นทางเดินรอบหน้าผา ดูน่ากลัวเหมือนกันนะ แต่ถ้าใครเคยขึ้นภูทอกมาแล้วที่นี่ชิลๆ มาก ดูมั่นคงแข็งแรงกว่ามาก สบายใจได้
เสร็จแล้วเดินไปเที่ยวทะเลสาบ Bachsee ที่อยู่บนยอดเขานี้ มีป้ายบอกว่าเดิน 50 นาที แต่ผมน่าจะใช้เวลาเป็นสองเท่า อาจจะเป็นเพราะมัวแต่หยุดถ่ายรูปไปเรื่อยๆ แต่ก็เหนื่อยเหมือนกันนะ
ทะเลสาบขนาดไม่ใหญ่มาก น้ำยังคงเป็นน้ำแข็งซะเป็นส่วนใหญ่
ลงจากยอดเขาฟิตส์ เห็นบ้านเรือนในเมือง Grindelwald สวยงามดี
กลับถึงที่พักเอาสัมภาระบางส่วนเก็บไว้ แล้วชวนกันไปเดินเล่นในเมือง ลูกชายเข้าไปหาข้อมูลใน Tourist Information Center ส่วนผมไปหากาแฟกับขนมกินเพิ่มพลัง ลูกบอกว่าเขาแนะให้เดินรอบเมือง มีบางส่วนต้องผ่านลำธารและป่า ฟังแล้วน่าสนใจ เดินไปถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย
ช่วงที่ถึงส่วนที่เป็นป่า พบว่ามีการจัดงาน International Land Art อ่านแล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไร เดินเข้าไปจึงรู้ว่าเขาใช้ป่านี้เป็นที่แสดงงานศิลปะ ถ่ายรูปมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ช่วงที่อยู่ในป่าฝนเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ดีนะที่มีเสื้อฝนและร่มไป ไม่เช่นนั้นคงแย่ เพราะทั้งหนาวทั้งเปียก
ภรรยากับลูกคนเล็กกลับมาเจอกันที่ที่พักประมาณทุ่มครึ่ง บอกว่าไปได้แค่สองเมือง เมืองโลซานน์ไปไม่ทัน
ภาพที่ลูกนำมาฝาก
ประติมากรรมส้อมยักษ์ที่เมืองเวอเวย์
ทะเลสาบเจนีวา
รูปปั้นชาร์ลี แชปลิน (Charlie Chaplin) ดาราและผู้กำกับหนังเงียบที่ทุกคนรู้จักกันดี ที่มาใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ทีเมืองนี้
ด้านหลังของรูปปั้นชาร์ลี แชปลิน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เรียกว่า Alimentarium ภรรยาผมบอกว่าเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารที่ดีมากๆ เสียดายที่มีเวลาน้อยไป ลูกชายถ่ายรูปแม่เขากำลังทำอะไรบางอย่างในพิพิธภัณฑ์นี้มาให้ดู
ภาพปราสาทชีลง (Chateau de Chillon) ที่เมืองมงเทรอ
ขนาดสองแม่ลูกมีเวลาเที่ยวน้อย แต่ก็ยังอุตสาห์แวะ Supermarket ซื้ออาหารสดมาด้วย ไปใช้ครัวของ Hostel ทำอาหารกัน อิ่มทั้งกายอิ่มทั้งใจไปอีกหนึ่งวัน เป็นอันจบตอนที่สี่นี้ครับ
สำหรับข้อสรุปสิ่งไม่ควรคิดมากข้อที่ 4 ก็คือ “อย่าคิดมากไปในเรื่องความแตกต่าง เป็นธรรมดาที่คนแต่ละคนชอบอะไรไม่เหมือนกัน บางคนชอบเที่ยวเขา บางคนชอบเข้าเมือง เรื่องของความหลากหลายเป็นสิ่งที่เราจะต้องอยู่ร่วมกันให้ได้” อย่าให้ความชอบที่หลากหลายมาทำลายความรู้สึกดีที่มีต่อกันเลย (ผมหมายถึงเรื่องรับร่าง/ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญด้วยนะ)