[CR] ไปเที่ยวสวิส อย่าคิดมาก (2)

ตอนที่ 1: Bangkok – Dubai – Zurich – Luzern อ่านได้ที่นี่  http://pantip.com/topic/35320750

ไปเที่ยวสวิส อย่าคิดมาก ตอนที่ 2: Luzern - Zug – Kussnacht – Interlaken – Bern

       เช้าวันนี้เป็นวันที่สามของการเดินทาง ตื่นขึ้นมาแดดจ้ามากคนละเรื่องกับเมื่อวานเลย ภรรยาแซวเล่นว่าน่าจะกลับไปยอดเขาริกิใหม่เป็นการแก้ตัว แต่ผม “มิสเตอร์เป๊ะ” รีบบอกทันทีว่าวันนี้มีแพลนไปขึ้นเขาพิลาตุส (Pilatus) ยอดเขาคู่บ้านคู่เมืองของเมืองลูเซิร์น การเดินทางวันนี้เป็นสิ่งที่ท้าทายมากเพราะเป็นการเดินทางขึ้นเขาด้วยรถไฟที่สูงชันที่สุดในโลก ผมบอกภรรยาว่าให้ลืมเขาริกิไปได้เลย ไม่ต้องพูดถึงอีกต่อไป (ยังงอนไม่หายที่ไปถึงบนยอดแล้วมองไม่เห็นอะไรเลย)

       มื้อเช้าที่โรงแรมวันนี้มีไข่ต้มชุบสีด้วย ตอนแรกนึกว่าเป็นลูกเล่นเฉพาะที่โรงแรมนี้


       ระหว่างทานอาหารเช้าก็ปรึกษากันว่าจะไปเส้นทางไหนดี เพราะมีหลายเส้นทางมาก แต่ที่ลูกชายเสนอก็คือนั่งรถบัสที่หน้าโรงแรม (น่าจะเป็นสาย 1 หรือสาย 10) ไปลงที่เมือง Kriens เพื่อต่อ Cable Car ขึ้นไปยังยอดเขา แล้วขากลับค่อยนั่งรถไฟลงมาที่เมือง Alpnachstad แต่ในขณะที่ปรึกษาหารือกันอยู่นั้น แดดที่จ้าตั้งแต่เมื่อตอนตื่นนอนเริ่มริบหรี่ลงเรื่อยๆ (ใครปิดสวิทช์ว่ะ?) ลูกชายเปิดมือถือดูเว๊ปแคมรายงานสภาพอากาศบนยอดเขาบอกว่าดูแล้วไม่ค่อยจะดีเลย หมอกเยอะมาก ผมยังคงไว้ซึ่งความมุ่งมั่นพูดว่าให้ไปกันเลยดีกว่า

       ในระหว่างที่เดินทางไปนั้น ลูกชายอัพเดทสภาพอากาศบนยอดเขาให้ฟัง บอกว่าตอนนี้ฝนตกแล้วนะ ซึ่งเป็นเวลาที่พวกเรามาถึง Kriens พอดี ต้องตัดสินใจแล้วว่าจะซื้อตั๋ว Cable Car ขึ้นยอดเขาไหม ยังไม่ได้ไปถามราคาตั๋ว แต่รู้ว่าถ้าโชว์ Swiss Pass ก็จะได้ลดครึ่งราคา (น่าจะเหลือคนละประมาณ 40 สวิสฟรัง หรือประมาณ 1400 บาท) ระหว่างที่ตัดสินใจอยู่นั้นฝนก็เริ่มตกหนักขึ้น ลูกชายอัพเดทว่าบนยอดเขามีสภาพไม่ต่างจากที่ริกิวันเมื่อวาน พร้อมทั้งทิ้งท้ายด้วยคำถามว่า “แล้วจะขึ้นไปทำไม?” ในที่สุดก็เลยตกลงใจนั่งบัสกลับไปที่สถานีรถไฟลูเซิร์น เข้าไปที่ Tourist Information Center ถามสภาพอากาศบนพิลาตุสให้แน่ใจอีกครั้ง ซึ่งเขาก็คอนเฟิร์มว่าไม่ค่อยดี ถามเขาว่ามีที่เที่ยวอะไรจะแนะนำบ้างไหม ซึ่งเขาก็ไม่สามารถแนะนำอะไรได้ เพราะดูเหมือนว่าฝนจะตกเกือบทุกที่

       ลองเช็คเว๊ปแคมสภาพอากาศที่ริกิดูอีกที ดูเหมือนว่าจะดีกว่าเมื่อวาน แต่ใครจะไปการันตีได้ว่าเมื่อไปถึงแล้วจะเป็นอย่างไรเพราะอากาศที่นี่ค่อนข้างแปรปรวนมาก “ทำไงดี? ทำไงดี? ไปไหนดี?” ลูกชายบอกว่าวันนี้ให้ตัดเรื่องเที่ยวภูเขา (ชมวิว) ไปเลยดีกว่า เปลี่ยนแผนเป็นเที่ยวชมเมืองถ้าฝนตกหนักก็หนีเข้าศูนย์การค้าน่าจะดีกว่ามาเสียเวลาปรึกษากัน มีคนเสนอว่ามีเมืองที่ชื่อว่า Zug มีอะไรให้ดูเยอะเหมือนกัน และอยู่ไม่ไกลจากลูเซิร์นด้วย

       โอเคเราตกลงกันว่าเป้าหมายคือเมืองซุก (Zug) ซุกเป็นเมืองริมทะเลสาบ เป็นเมืองที่ไม่ใหญ่มากและดูน่ารักดี ไปถึงโชคดีที่เมืองนี้ไม่มีฝน สิ่งแรกที่เห็นตอนไปถึงสถานีรถไฟก็คือร้าน Coop (เจออีกแล้ว) คงเป็นเพราะตอนนั้นเลยเวลาอาหารเที่ยงมาแล้วตาก็เลยสอดส่ายหาแหล่งอาหารจนเจอ แล้วมีหรือที่จะไม่เดินเข้าไป แต่คราวนี้หาไก่ที่เป็นส่วนน่องไม่ได้ ได้แต่ส่วนที่เป็นอกมาแทน ซึ่งกินยากกว่าส่วนน่องที่สามารถถือกินได้เลย หลังจากตุนเสบียงสำหรับมื้อเที่ยงเรียบร้อยก็นั่งบัสไปบริเวณเมืองเก่า เดินเที่ยวถ่ายรูปแถวๆ นั้น พร้อมทั้งมองหามุมที่จะนั่งกินมื้อกลาง ซึ่งปรากฎว่าลูกชายได้เจอโต๊ะใต้ต้นไม้ที่ดูร่มรื่นมาก เห็นแล้วก็รีบปรี่เข้าไปยึดพื้นที่แล้วเริ่มโซ้ยไก่กันทันที







โต๊ะที่นั่งกินมื้อกลางวันในเมืองซุก



กินเสร็จก็ไปเดินเล่น (ถ่ายรูป) แถวๆ ริมทะเลสาบซุก

ลูกคนเล็กเป็นนายแบบให้


ลูกคนโตกับฝูงเป็ด


ก่อนถึงสถานีรถไฟ


       แวะเข้าไปที่ Tourist Information Center ของเมืองซุกถามว่ามีที่เที่ยวแถวนี้ที่แนะนำไหม เขาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเมืองเล็กๆ ในชนทบที่ชื่อว่าเมือง Kussnacht เขาบอกว่าจากเมืองนี้สามารถขึ้นไปเขาริกิได้ (ริกิอีกแล้วหรือนี่ จะตามหลอกหลอนกันไปถึงไหน) และถ้าจะกลับลูเซิร์นก็นั่งเรือจากเมืองนี้กลับได้ ฟังดูแล้วน่าสนใจ ก็เลยนั่งรถบัสไปตามที่เขาบอก รถบัสใช้เวลานานเหมือนกันวิ่งผ่านถนนที่เป็นชนบทของสวิสแล้วก็มาจอดที่ในเมือง

เดินดูโบส์ถสวยงามดี



       หลังจากเดินเที่ยว (ถ่ายรูป) ได้ไม่นาน ทราบว่ามีเรือที่จะไปลูเซิร์นกำลังจะออก ก็เลยโดดขึ้นเรือกันทันที การนั่งเรือครั้งนี้ทัศนวิสัยดีกว่าเมื่อวานมาก ถ่ายรูประหว่างทางไปเรื่อยๆ อย่างเพลิดเพลิน








       เรือพาไปถึงลูเซิร์นประมาณสี่โมงเย็น วันนี้ผมน้ำมูกไหลแพ้อากาศมาทั้งวัน เข้าใจว่าน่าจะไปรับละอองเกษรดอกไม้ที่ไหนมาซักแห่งจึงทำให้ภูมิแพ้กำเริบจามและน้ำมูกไหลตลอดเวลา เรือพามาถึงสถานีลูเซิร์นผมขอเดินแยกตัวกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมก่อน ส่วนลูกชายบอกว่าจะไปเดินพิพิธภัณฑ์ที่ตรงสถานีรถไฟและหลังจากนั้นจะไปเชียร์บอลยูโรเพราะวันนี้สวิสแข่งกับโรมาเนีย ผมเดินผ่านร้าน Coop ที่สถานี แวะเข้าไป . .  (ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทำอะไร)

       กลับถึงโรงแรมนอกจากของที่ซื้อมาจาก Coop แล้ว เมนูพิเศษมื้อนี้มี Noddle Cup ที่นำมาจากเมืองไทยด้วย พอได้กินของร้อนก็ทำให้อาการภูมิแพ้ที่เป็นมาทั้งวันทุเลาขึ้นทันที แล้ววันนี้ก็รีบเข้านอนเพราะเพลียมาทั้งวันเนื่องจากอาการภูมิแพ้

       วันที่สี่ของการเดินทาง เช้านี้ตื่นตั้งแต่ตีห้า คงเป็นเพราะว่าเมื่อวานนอนแต่หัวค่ำ วันนี้ไม่มีอาการภูมิแพ้แล้ว วันนี้เป็นวันที่ต้องเช็คเอาท์ออกจากที่พักในลูเซิร์น (นอนมาแล้วสองคืน) เช็คเอาท์ประมาณเก้าโมงนั่งรถไฟไปเมืองอินเทอร์ลาเค่น (Interlaken) ระหว่างเดินทางก็ถ่ายภาพทัศนียภาพข้างทางอีกตามเคย



       เดินทางประมาณ 2  ชั่วโมงลงรถไฟที่สถานี Interlaken Ost นั่งรถบัสไป 3 ป้าย ก็ถึงที่พัก จองโรงแรม Blume ไว้ เป็นโรงแรมเล็กๆ ชั้นล่างของโรงแรมเป็นร้านอาหารแม็กซิกัน จองไว้สองคืน หลังจากฝากกระเป๋าก็เตรียมพร้อมไปเที่ยวเมืองเบิร์น (Bern)  แต่ไม่ได้ย้อนไปสถานีเดิม เดินไปทางสถานี Interlaken West เพราะอยู่ใกล้กว่า



ห้องที่พักดูเรียบง่าย แต่ก็สะอาดใช้ได้


       เตรียมหาอาหารไปกินกันระหว่างทาง (บนรถไฟ) โชคดีจังครั้งนี้ที่สถานีไม่มีร้าน Coop แล้ว มีแต่ร้าน Denner ซึ่งเป็น Supermarket เหมือนกัน เข้าไปซื้อแซนวิชคนละอัน ผลไม้ และของขบเคี้ยวเพื่อไปกินบนรถไฟ เท่าที่ดูแล้วผมว่าของที่ร้านนี้ถูกกว่าร้าน Coop แทบทุกอย่าง รถไฟจากอินเทอร์ลาเค่นไปเบิร์นใช้เวลาแค่ 50 นาที สิ่งที่ไปชมเป็นแห่งแรกก็คือหอนาฬิกาไซท์ล็อค (Zytglogge) ที่เป็นสัญญลักษณ์สำคัญของเมืองเบิร์น




เดินชมเมืองตามถนน Marktgasse ไปเรื่อยๆ


มีรูปปั้นต่างๆ ดูแปลกดี



สามล้อดูเท่ไม่ใช่เล่น


แต่คงเสียวเหมือนกันถ้าถูกรถใหญ่ไล่หลังแบบนี้


ถัดจากหอนาฬิกาเดินมาไม่ไกลก็จะเห็น Einstien Haus บ้านที่ไอน์สไตน์เคยอยู่สมัยทำงานที่เบิร์น


       ออกจากไอน์สไตน์เฮ้าส์เดินไปชมมหาวิหารมึนสเตอร์ (Munster) ที่มียอดหอคอยสูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์คือสูง 100 เมตร และที่สำคัญเขาเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปได้แต่ต้องเดินตามบันไดวนขึ้นไปเองเพราะไม่มีลิฟต์ ค่าขึ้นคนละ  5 สวิสฟรัง ผมอยากเห็นบริเวณเมืองก็เลยตัดสินใจค่อยๆ ไต่บันไดวนขึ้นไปเหนื่อยมากแต่ก็คุ้มค่าเวลาที่ได้เห็นภาพมุมสูงนะ















ลงจากหอคอยนั่งบัสไปชมสวนกุหลาบ (Rosengarten) ที่ตั้งอยู่บนเนินสูง ซึ่งทำให้มองเห็นเมืองเบิร์นชัดเจน





จากสวนกุหลาบก็เดินไปดูสวนหมี

หมีหนึ่งตัว

หมีสองตัว


       ปิดท้ายด้วยการไปชมพิพิธภัณฑ์ไอน์สไตน์ 10 นาทีก่อนที่เขาจะปิด และนั่งบัสไปอาคารรัฐสภา ซึ่งด้านหน้ามีการโชว์รถหรูซูเปอร์คาร์แต่เป็นรุ่นเก่าคลาสซิค ก่อนที่จะขึ้นรถไฟกลับไปโรงแรมที่ในเมืองอินเทอร์ลาเค่น



เฮ้อ . . เหนื่อยเหมือนกันนะการเขียนรีวิวท่องเที่ยวนี่ เหนื่อยพอๆ กับการเดินเที่ยวเลยล่ะ ยิ้ม  ยิ้ม  ยิ้ม

สรุป
ชื่อสินค้า:   ตอนที่ 2: Luzern - Zug – Kussnacht – Interlaken – Bern
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่