Osaka Hokkaido Tokyo เที่ยวไป Dak ไป 13 วัน มันส์ยกแก๊ง #5sahaidakmhodjapan
ติดตามกระทู้ทั้งหมดได้จากที่นี่
♡chapter1- from DMK to KIX
http://pantip.com/topic/34425355
♡chapter2- hello universal city & dotonburi nightlife.
http://pantip.com/topic/34427250
♡chapter3- byebye osaka, say hi sapporo.
http://pantip.com/topic/34434693
♡chapter4- downtown sapporo.
http://pantip.com/topic/34440345
♡chapter5- stay a child at maruyama zoo & shiroi koibito chocolate factory
http://pantip.com/topic/34447453
♡chapter6- rainy otaru.
http://pantip.com/topic/34472663
♡chapter7- hell valley, noboribetsu.
http://pantip.com/topic/34533005
♡chapter8- breathtaking hakodate.
http://pantip.com/topic/34552687
♡chapter9- matane hokkaido,ohayo tokyo.
http://pantip.com/topic/34709894
♡special chapter- 24-hour-eating.
http://pantip.com/topic/34878346
♡chapter9- matane hokkaido, ohayo tokyo.
ขอโทษที่หายไปนานเลยค่าาาา พอดีจขกท.ติดภารกิจอ่านหนังสือสอบอันหนักหน่วง
เรากลับมาแล้ววว วันนี้เราต้องโบกมืออำลาฮอกไกโดแบบจริงจังแล้วมุ่งหน้าสู่โตเกียวกันนน ʕ•̫͡•ʕ*̫͡*ʕ•͓͡•ʔ-̫͡-ʕ•̫͡•ʔ*̫͡*ʔ-̫͡-ʔ
วันนี้เรามีเวลาในฮาโกดาเตะจนถึงประมาณ บ่ายสองโมง เราขอเริ่มต้นวันด้วยการมาเก็บตกที่ตลาดปลาฮาโกดาเตะกันอีกวัน อะไรที่อยากลองกินเราจะกินมันให้หมด
วันนี้เราเลือกกินร้านข้าวหน้าปลาดิบร้านเดิมเพราะติดใจทั้งรสชาติและราคาอันย่อมเยามากๆ
เลือกกินเมนูประหยัด 500 yenกัน เลือกเมนูได้หลากหลายอยู่ ข้าวหน้าปลาดิบรวมเมนูเดิม

ข้าวหน้าไข่ปลาแซลม่อนล้วนนนน
หลังจากกินมื้อหนักเสร็จเราก็ไปเดินเล่นชมตลาดรอบๆกัน

ไม่เคยเห็นหนวดปลาหมึกใหญ่ขนาดนี้มาก่อน จ้องนานมาก อยากกิน 55555555555
เดินผ่านร้านนี้ตั้งแต่เมื่อวานเห็นคนเยอะมากๆ เป็นร้านขายอาหารทะเลปิ้ง เลยเข้าไปจะสั่งกินซะหน่อย ดันหมดฮือออ
(เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เวลาอยากกินอะไรให้ซื้อกินไปเลย อย่ารีรอหรือลังเลไม่งั้นอาจจะเสียใจในภายหลังเหมือนพวกเรา)
เดินผ่านเห็นเมล่อนฉ่ำๆ อดใจไม่ไหวจริงๆ
สตรอเบอรี่ลูกใหญ่ๆ (แต่แอบเปรี้ยวนิดนึง)
ลูกแพร์ตอนแรกคิดว่าจะหวานกว่านี้ แต่ว่าโดยรวมก็ถือว่าใช้ได้อยู่
เดินมาเรื่อยๆแอบแวะเห็นร้านขายหอยนางรมตัวใหญ่ๆสดๆในตู้ ด้วยความที่เพื่อนจขกท.ชอบกินหอยนางรมที่สุราษฎ์มากๆ และอยากรู้ว่าหอยนางรมที่ญี่ปุ่นกับบ้านเราอันไหนมันจะแซ่บกว่า เลยต้องไปขอลองจัดหน่อย จะได้ไม่เสียเที่ยววววว
ที่นี่เค้าไม่ได้กินหอยแบบใส่น้ำจิ้มซีฟู้ดเครื่องเคียงน้ำพริกเผาหอมเจียวเยอะๆเหมือนบ้านเรา แค่เหยาะมะนาวนิดโชยุหน่อยแล้วก็ซู้ดดดด เข้าปากเลย

สัมผัสแรกที่เข้าไปคือ เค็มม สำลักน้ำทะเลสุดกลิ่นคาวๆก็หอยมันลื่นๆเมือกๆ ขนาดเพื่อนจขกท.ชอบกินหอยของเมืองไทยนะ เจอนี่เข้าไปขอยกธงขาว (คำเตือน สำหรับคนที่ยังไม่เคยผ่านด่านหอยไทยมาก่อน อย่าริอ่านลองหอยญี่ปุ่นเลย)
จัดหอยสดไปแล้ว ขอลองหอยสุกกันบ้าง เดินถัดมาตรงปากซอย มีร้านคุณลุงคนนึงขายหอย(อีกแล้ว)
ครั้งนี้เราเลยขอจัดหอยเชลล์กับหอยเป่าฮื้อกันหน่อย จับขึ้นมาแล้วปิ้งกันสดๆตรงนั้นเลย
หอยเชลล์ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ เนื้อแน่นน้ำหวานฉ่ำๆ ไม่ต้องจิ้มกับน้ำจิ้มอะไรเลย มีรสเค็มๆกลมกล่อมกำลังดีให้คะแนนเต็มเลยสำหรับเมนูนี้
ต่อมาหอยเป่าฮื้อ ตอนแรกก็ไม่กล้าสู้ราคากัน ตัวกระจึ๋งนึงราคาตัวละ 1200 yen (ประมาณ400บาท) แต่เพื่อนบอกไหนๆก็มาละวะ จะได้ไม่เสียดายตอนหลังเลยขอจัดไปหนึ่งตัว รสชาติก็อร่อยแบบหอยเป่าฮื้อนั่นแหละครับ 555555555555
อิ่มท้องแล้วจุดหมายต่อไปของเราคือ สวนโอนุมะ โดยเราขึ้น JR แล้วไปลงที่สถานี Onumakoen ใช้เวลาเดินทางประมาณ20นาทีจาก JR hakodate ถึงแล้ววววววว สถานี Onumakoen
ที่นี่เรามาสโลว์ไลฟ์กัน มาชมวิวดื่มด่ำกับธรรมชาติ ที่นี่มีทะเลสาบโอนุมะที่เค้าว่ากันว่าไม่ควรพลาดมาชมสักครั้ง
เดินมาเรื่องเลียบตามทางรถไฟมา อากาศเย็นๆกำลังดีไม่หนาวมาก เดินเพลินๆ
แปปเดียวก็เดินถึงแล้วว ทะเล(สาบ)แสนงาม ฟ้าสีครามสดใส
วันที่เรามากัน คนญี่ปุ่นเอาเรือพายมาพายเล่นด้วยยย เหนแล้วอยากขอลงเรือไปด้วยจัง

พาน้องหมาขึ้นเรือไปด้วยยย การทรงตัวเป็นเลิศศศ
เดินกลับมาเตรียมตัวขึ้นรถไฟกลับฮาโกดาเตะ ชอบสีท้องฟ้าวันนี้มากๆ
แวะกินซอฟต์ครีมกันหน่อย
รสเบสิกสุด รสนม กินรสนี้ที่ฮอกไกโกยังไม่เคยผิดหวังเลยสักร้าน
รสฟักทอง อร่อยยหวานๆนุ่มๆไม่เคยคิดว่าฟักทองจะเข้ากับซอฟต์ครีมขนาดนี้
รส squid ink มีรสชาติปลายลิ้นประหลาดๆอยู่แต่ก็ให้ผ่าน
รสเบอรี่สักอย่างงงง เพื่อนบอกว่าอร่อยเหมือนกัน
รสทูโทนวนิลากับอะไรไม่รู้จำไม่ได้ละ
นั่งรถไฟกลับมาที่ฮาโกดาเตะมาเตรียมตัวเก็บของพร้องขึ้นรถไฟไปโตเกียว เห็นยังมีเวลาเหลืออยู่เลยหาของกินกันหิวก่อนขึ้นรถไฟกันหน่อย
พวกผู้หญิงขอไปฝากท้องที่ร้านเจ้าตัวตลก Lucky pierrot กัน เมนูวันนี้เน้นรวดเร็วเราเลยสั่งเป็นแฮมเบอร์เกอร์ (ถ่ายมาให้ดูน่ากินไม่ได้ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง)
พิกัด: ร้าน Lucky pierrot พบได้ทั่วไปในเมืองฮาโกดาเตะ
ของจขกท.เป็นแฮมเบอร์เกอร์ signature ของที่นี่เป็นไก่ราดซอสจีนสักอย่าง อร่อยและอิ่มกำลังดีเลย (เมนูนี้แนะนำ)
อันนี้ของเพื่อนเป็นอารมณ์แมคฟิช
ของเพื่อนอีกคนเป็นเมนูที่ถูกที่สุดในร้าน เป็นแฮมเบอร์เกอร์เนื้อบด รสชาติเฉยๆ แอบพลาดนิดๆถ้าจะสั่งเมนูนี้ 5555555555
ส่วนพวกผู้ชายจัดหนักจัดเต็มกันกับร้านอาหารแถวๆสถานี JR
มินิซาซิมิเซ็ต ʕ⁰̈●̫⁰̈ʔ

และข้าวหน้าปลา..ซัมทิง (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นปลาฮามาจิ)
พอท้องอิ่มเราก็พร้อมออกเดินทางกันแล้ววว โดยเราจองตั๋วนั่งรถไฟ reserved seat ไว้ ออกจากฮาโกดาเตะประมาณบ่ายสอง ถึงโตเกียวประมาณสองทุ่ม (ต้องไปเปลี่ยนรถไฟที่สถานี Shin Aomori ก่อนถึงจะต่อไปลงที่โตเกียวได้)
บ๊ายบายฮาโกดาเตะะะ บ๊ายบายฮอกไกโด ・ω・
reserved ticket จาก Hakodate-Shin Aomori (สำคัญมากๆถ้าจะนั่งรถไฟข้ามเมือง อย่าลืมไปจองกันด้วยนะ ไม่งั้นยืนกันขาแข็งเลย)
ระหว่างทางก็ชมวิวทิวทํศน์ไปเรื่อยๆ โดยรถไฟจะวิ่งผ่านทะเลสาบโทยะซึ่งสวยมากๆ แต่ว่ารถไฟวิ่งเร็วเกินถ่ายไว้ไม่ทัน 5555555555555 แนะนำว่าถ้าใครอยากชมวิว ช่วงแรกๆจากฮาโกดาเตะไปชินอาโอโมรินี่วิวสวยมาก อย่าพึ่งเผลอหลับกัน ค่อยไปหลับตอนที่รถไฟมันมุดอุโมงค์ใต้น้ำไปแล้ว ตอนนั้นสัญญาณอะไรไม่มีหมด หลับลูกเดียวจ้า (แอบถ่ายมาได้รูปสองรูปแต่ยังไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่)
พอไปเปลี่ยนรถไฟที่ชินอาโอโมริ มีเวลาไม่ถึง25นาที ลนมาก กระเป๋าก็หนักต้องไปเปลี่ยนชานชลาอีก แต่ก็ยังอุตส่าห์มีเวลาวิ่งไปซื้อ Ekiben (ข้าวกล่องรถไฟ) กัน รสชาติก็ถ้ามันไม่เย็นชืดก็คงอร่อยอ่ะ 5555555555 สำหรับคนที่ไม่หิวมาก หิ้วท้องไปกินที่โตเกียวน่าจะฟินกว่าเยอะ
วาร์ปข้ามมาตอนที่ถึงโตเกียวเลยละกัน มาถึงโตเกียวตอนประมาณสองทุ่ม ต้องเอากระเป๋าไปเก็บเข้าที่พักกันก่อน ที่พักของเราวันนี้คือ Khaosan world hostel อยู่แถวย่านอาซากุสะ (ตอนแรกคิดว่าพนักงานจะเป็นคนไทย แต่ไม่ใช่นะ 55555555) ที่พักที่นี่จะมีแบบ backpacker มาพักกันเยอะมีแบบห้องครัวห้องนั่งเล่นรวม และมีปาร์ตี้ตื๊ดๆตอนค่ำๆ ถ้าใครชอบดริ้งชอบปาร์ตี้สังสรรค์กะคนใหม่ๆนี้ก็แนะนำที่นี่เลย ห้องพักก็สะอาดใช้ได้
เดินทางไกลกันมา ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะหิวโซ พวกเราเลยเลือกร้านอาหารที่ใกล้ที่สุดและรวดเร็วที่สุด สุดท้ายเลยมาจบลงที่ ร้าน matsuya (ถ้าจำไม่ผิด) เป็นร้านข้าวหน้าเนื้อราคาย่อมเยา (อีกแล้ว) วิธีสั่งก็กดตู้เหมือนเดิม ได้ใบมาละก็ยื่นให้ที่เคาน์เตอร์เลย
มาแล้วววว ข้าวหน้าหมูโรยต้นหอม (ที่เราเขี่ยต้นหอมให้เพื่อนทั้งหมด ...)
ลากันไปด้วยข้าวหน้าเนื้อเพิ่มไข่ต้ม ต้องโดปเตรียมเที่ยวพรุ่งนี้กันต่อ ・ω・
[CR] Osaka Hokkaido Tokyo เที่ยวไป Dak ไป 13 วัน มันส์ยกแก๊ง #5sahaidakmhodjapan: ♡chapter9-matane hokkaido,ohayo tokyo.
ติดตามกระทู้ทั้งหมดได้จากที่นี่
♡chapter1- from DMK to KIX
http://pantip.com/topic/34425355
♡chapter2- hello universal city & dotonburi nightlife.
http://pantip.com/topic/34427250
♡chapter3- byebye osaka, say hi sapporo.
http://pantip.com/topic/34434693
♡chapter4- downtown sapporo.
http://pantip.com/topic/34440345
♡chapter5- stay a child at maruyama zoo & shiroi koibito chocolate factory
http://pantip.com/topic/34447453
♡chapter6- rainy otaru.
http://pantip.com/topic/34472663
♡chapter7- hell valley, noboribetsu.
http://pantip.com/topic/34533005
♡chapter8- breathtaking hakodate.
http://pantip.com/topic/34552687
♡chapter9- matane hokkaido,ohayo tokyo.
http://pantip.com/topic/34709894
♡special chapter- 24-hour-eating.
http://pantip.com/topic/34878346
ขอโทษที่หายไปนานเลยค่าาาา พอดีจขกท.ติดภารกิจอ่านหนังสือสอบอันหนักหน่วง
เรากลับมาแล้ววว วันนี้เราต้องโบกมืออำลาฮอกไกโดแบบจริงจังแล้วมุ่งหน้าสู่โตเกียวกันนน ʕ•̫͡•ʕ*̫͡*ʕ•͓͡•ʔ-̫͡-ʕ•̫͡•ʔ*̫͡*ʔ-̫͡-ʔ
วันนี้เรามีเวลาในฮาโกดาเตะจนถึงประมาณ บ่ายสองโมง เราขอเริ่มต้นวันด้วยการมาเก็บตกที่ตลาดปลาฮาโกดาเตะกันอีกวัน อะไรที่อยากลองกินเราจะกินมันให้หมด
วันนี้เราเลือกกินร้านข้าวหน้าปลาดิบร้านเดิมเพราะติดใจทั้งรสชาติและราคาอันย่อมเยามากๆ
เลือกกินเมนูประหยัด 500 yenกัน เลือกเมนูได้หลากหลายอยู่ ข้าวหน้าปลาดิบรวมเมนูเดิม
ข้าวหน้าไข่ปลาแซลม่อนล้วนนนน
หลังจากกินมื้อหนักเสร็จเราก็ไปเดินเล่นชมตลาดรอบๆกัน
ไม่เคยเห็นหนวดปลาหมึกใหญ่ขนาดนี้มาก่อน จ้องนานมาก อยากกิน 55555555555
เดินผ่านร้านนี้ตั้งแต่เมื่อวานเห็นคนเยอะมากๆ เป็นร้านขายอาหารทะเลปิ้ง เลยเข้าไปจะสั่งกินซะหน่อย ดันหมดฮือออ
(เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เวลาอยากกินอะไรให้ซื้อกินไปเลย อย่ารีรอหรือลังเลไม่งั้นอาจจะเสียใจในภายหลังเหมือนพวกเรา)
เดินผ่านเห็นเมล่อนฉ่ำๆ อดใจไม่ไหวจริงๆ
สตรอเบอรี่ลูกใหญ่ๆ (แต่แอบเปรี้ยวนิดนึง)
ลูกแพร์ตอนแรกคิดว่าจะหวานกว่านี้ แต่ว่าโดยรวมก็ถือว่าใช้ได้อยู่
เดินมาเรื่อยๆแอบแวะเห็นร้านขายหอยนางรมตัวใหญ่ๆสดๆในตู้ ด้วยความที่เพื่อนจขกท.ชอบกินหอยนางรมที่สุราษฎ์มากๆ และอยากรู้ว่าหอยนางรมที่ญี่ปุ่นกับบ้านเราอันไหนมันจะแซ่บกว่า เลยต้องไปขอลองจัดหน่อย จะได้ไม่เสียเที่ยววววว
ที่นี่เค้าไม่ได้กินหอยแบบใส่น้ำจิ้มซีฟู้ดเครื่องเคียงน้ำพริกเผาหอมเจียวเยอะๆเหมือนบ้านเรา แค่เหยาะมะนาวนิดโชยุหน่อยแล้วก็ซู้ดดดด เข้าปากเลย
สัมผัสแรกที่เข้าไปคือ เค็มม สำลักน้ำทะเลสุดกลิ่นคาวๆก็หอยมันลื่นๆเมือกๆ ขนาดเพื่อนจขกท.ชอบกินหอยของเมืองไทยนะ เจอนี่เข้าไปขอยกธงขาว (คำเตือน สำหรับคนที่ยังไม่เคยผ่านด่านหอยไทยมาก่อน อย่าริอ่านลองหอยญี่ปุ่นเลย)
จัดหอยสดไปแล้ว ขอลองหอยสุกกันบ้าง เดินถัดมาตรงปากซอย มีร้านคุณลุงคนนึงขายหอย(อีกแล้ว)
ครั้งนี้เราเลยขอจัดหอยเชลล์กับหอยเป่าฮื้อกันหน่อย จับขึ้นมาแล้วปิ้งกันสดๆตรงนั้นเลย
หอยเชลล์ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ เนื้อแน่นน้ำหวานฉ่ำๆ ไม่ต้องจิ้มกับน้ำจิ้มอะไรเลย มีรสเค็มๆกลมกล่อมกำลังดีให้คะแนนเต็มเลยสำหรับเมนูนี้
ต่อมาหอยเป่าฮื้อ ตอนแรกก็ไม่กล้าสู้ราคากัน ตัวกระจึ๋งนึงราคาตัวละ 1200 yen (ประมาณ400บาท) แต่เพื่อนบอกไหนๆก็มาละวะ จะได้ไม่เสียดายตอนหลังเลยขอจัดไปหนึ่งตัว รสชาติก็อร่อยแบบหอยเป่าฮื้อนั่นแหละครับ 555555555555
อิ่มท้องแล้วจุดหมายต่อไปของเราคือ สวนโอนุมะ โดยเราขึ้น JR แล้วไปลงที่สถานี Onumakoen ใช้เวลาเดินทางประมาณ20นาทีจาก JR hakodate ถึงแล้ววววววว สถานี Onumakoen
ที่นี่เรามาสโลว์ไลฟ์กัน มาชมวิวดื่มด่ำกับธรรมชาติ ที่นี่มีทะเลสาบโอนุมะที่เค้าว่ากันว่าไม่ควรพลาดมาชมสักครั้ง
เดินมาเรื่องเลียบตามทางรถไฟมา อากาศเย็นๆกำลังดีไม่หนาวมาก เดินเพลินๆ
แปปเดียวก็เดินถึงแล้วว ทะเล(สาบ)แสนงาม ฟ้าสีครามสดใส
วันที่เรามากัน คนญี่ปุ่นเอาเรือพายมาพายเล่นด้วยยย เหนแล้วอยากขอลงเรือไปด้วยจัง
พาน้องหมาขึ้นเรือไปด้วยยย การทรงตัวเป็นเลิศศศ
เดินกลับมาเตรียมตัวขึ้นรถไฟกลับฮาโกดาเตะ ชอบสีท้องฟ้าวันนี้มากๆ
แวะกินซอฟต์ครีมกันหน่อย
รสเบสิกสุด รสนม กินรสนี้ที่ฮอกไกโกยังไม่เคยผิดหวังเลยสักร้าน
รสฟักทอง อร่อยยหวานๆนุ่มๆไม่เคยคิดว่าฟักทองจะเข้ากับซอฟต์ครีมขนาดนี้
รส squid ink มีรสชาติปลายลิ้นประหลาดๆอยู่แต่ก็ให้ผ่าน
รสเบอรี่สักอย่างงงง เพื่อนบอกว่าอร่อยเหมือนกัน
รสทูโทนวนิลากับอะไรไม่รู้จำไม่ได้ละ
นั่งรถไฟกลับมาที่ฮาโกดาเตะมาเตรียมตัวเก็บของพร้องขึ้นรถไฟไปโตเกียว เห็นยังมีเวลาเหลืออยู่เลยหาของกินกันหิวก่อนขึ้นรถไฟกันหน่อย
พวกผู้หญิงขอไปฝากท้องที่ร้านเจ้าตัวตลก Lucky pierrot กัน เมนูวันนี้เน้นรวดเร็วเราเลยสั่งเป็นแฮมเบอร์เกอร์ (ถ่ายมาให้ดูน่ากินไม่ได้ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง)
พิกัด: ร้าน Lucky pierrot พบได้ทั่วไปในเมืองฮาโกดาเตะ
ของจขกท.เป็นแฮมเบอร์เกอร์ signature ของที่นี่เป็นไก่ราดซอสจีนสักอย่าง อร่อยและอิ่มกำลังดีเลย (เมนูนี้แนะนำ)
อันนี้ของเพื่อนเป็นอารมณ์แมคฟิช
ของเพื่อนอีกคนเป็นเมนูที่ถูกที่สุดในร้าน เป็นแฮมเบอร์เกอร์เนื้อบด รสชาติเฉยๆ แอบพลาดนิดๆถ้าจะสั่งเมนูนี้ 5555555555
ส่วนพวกผู้ชายจัดหนักจัดเต็มกันกับร้านอาหารแถวๆสถานี JR
มินิซาซิมิเซ็ต ʕ⁰̈●̫⁰̈ʔ
และข้าวหน้าปลา..ซัมทิง (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นปลาฮามาจิ)
พอท้องอิ่มเราก็พร้อมออกเดินทางกันแล้ววว โดยเราจองตั๋วนั่งรถไฟ reserved seat ไว้ ออกจากฮาโกดาเตะประมาณบ่ายสอง ถึงโตเกียวประมาณสองทุ่ม (ต้องไปเปลี่ยนรถไฟที่สถานี Shin Aomori ก่อนถึงจะต่อไปลงที่โตเกียวได้)
บ๊ายบายฮาโกดาเตะะะ บ๊ายบายฮอกไกโด ・ω・
reserved ticket จาก Hakodate-Shin Aomori (สำคัญมากๆถ้าจะนั่งรถไฟข้ามเมือง อย่าลืมไปจองกันด้วยนะ ไม่งั้นยืนกันขาแข็งเลย)
ระหว่างทางก็ชมวิวทิวทํศน์ไปเรื่อยๆ โดยรถไฟจะวิ่งผ่านทะเลสาบโทยะซึ่งสวยมากๆ แต่ว่ารถไฟวิ่งเร็วเกินถ่ายไว้ไม่ทัน 5555555555555 แนะนำว่าถ้าใครอยากชมวิว ช่วงแรกๆจากฮาโกดาเตะไปชินอาโอโมรินี่วิวสวยมาก อย่าพึ่งเผลอหลับกัน ค่อยไปหลับตอนที่รถไฟมันมุดอุโมงค์ใต้น้ำไปแล้ว ตอนนั้นสัญญาณอะไรไม่มีหมด หลับลูกเดียวจ้า (แอบถ่ายมาได้รูปสองรูปแต่ยังไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่)
พอไปเปลี่ยนรถไฟที่ชินอาโอโมริ มีเวลาไม่ถึง25นาที ลนมาก กระเป๋าก็หนักต้องไปเปลี่ยนชานชลาอีก แต่ก็ยังอุตส่าห์มีเวลาวิ่งไปซื้อ Ekiben (ข้าวกล่องรถไฟ) กัน รสชาติก็ถ้ามันไม่เย็นชืดก็คงอร่อยอ่ะ 5555555555 สำหรับคนที่ไม่หิวมาก หิ้วท้องไปกินที่โตเกียวน่าจะฟินกว่าเยอะ
วาร์ปข้ามมาตอนที่ถึงโตเกียวเลยละกัน มาถึงโตเกียวตอนประมาณสองทุ่ม ต้องเอากระเป๋าไปเก็บเข้าที่พักกันก่อน ที่พักของเราวันนี้คือ Khaosan world hostel อยู่แถวย่านอาซากุสะ (ตอนแรกคิดว่าพนักงานจะเป็นคนไทย แต่ไม่ใช่นะ 55555555) ที่พักที่นี่จะมีแบบ backpacker มาพักกันเยอะมีแบบห้องครัวห้องนั่งเล่นรวม และมีปาร์ตี้ตื๊ดๆตอนค่ำๆ ถ้าใครชอบดริ้งชอบปาร์ตี้สังสรรค์กะคนใหม่ๆนี้ก็แนะนำที่นี่เลย ห้องพักก็สะอาดใช้ได้
เดินทางไกลกันมา ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะหิวโซ พวกเราเลยเลือกร้านอาหารที่ใกล้ที่สุดและรวดเร็วที่สุด สุดท้ายเลยมาจบลงที่ ร้าน matsuya (ถ้าจำไม่ผิด) เป็นร้านข้าวหน้าเนื้อราคาย่อมเยา (อีกแล้ว) วิธีสั่งก็กดตู้เหมือนเดิม ได้ใบมาละก็ยื่นให้ที่เคาน์เตอร์เลย
มาแล้วววว ข้าวหน้าหมูโรยต้นหอม (ที่เราเขี่ยต้นหอมให้เพื่อนทั้งหมด ...)
ลากันไปด้วยข้าวหน้าเนื้อเพิ่มไข่ต้ม ต้องโดปเตรียมเที่ยวพรุ่งนี้กันต่อ ・ω・