ราอูลล์ มหาเวทย์ป่วนฟ้า (แฟนตาซี) ตอนที่ 16 กระแสลมสู่บูรพทิศ



ตอนก่อนหน้า

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

**************************************


ขออนุญาตเปลี่ยนนามแฝงนิดหนึ่งนะคะ  

ชชัชญา

ออกจะหวานเย็นไปสักนิด
เลยลองเปลี่ยนเป็น

ซีพียูว์

ก็ยังคือ ชญา คนเดิมนะคะ


ขอบคุณนักอ่านทุกท่านสำหรับการติดตาม ราอูลล์ มหาเวทย์ป่วนฟ้า นะคะ

ขอบคุณมากมายสำหรับทุกกิ๊บ ทุกโหวตกำลังใจ


จากหัวกระทู้ที่แล้ว
Lady Star 919 ถูกใจ, Waasuthep ถูกใจ, lovereason ทึ่ง, ออมอำพัน ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 1182478 ขำกลิ้ง, Inverness ถูกใจ

จากความคิดเห็นที่หนึ่ง
Lady Star 919 ถูกใจ, Waasuthep ถูกใจ, ออมอำพัน ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1182478 ถูกใจ, Inverness ถูกใจ

ขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับความคิดเห็นด้วยค่ะ
จากกระทู้ที่แล้ว http://pantip.com/topic/34340919 ขอยกมาตอบในกระทู้นี้นะคะ

ตอบคุณ สมาชิกหมายเลข 1182478
สงสัยช่วงนี้ต้องมุ่งหน้า ภูทับเบิก ละค่ะ ถึงจะได้นอนทับยอดกะหล่ำ แหงนมองดาว พลางเบียดเสียดแออัด กับสารพัดกลิ่นจะโช้ยโชย...

ตอบคุณ ออมอำพัน
ดีใจที่อ่านสนุกค่ะ ติดตามกันอย่าทิ้งไปไหนนะคะ

ตอบคุณ Waasuthep
ตอนดู พี่ลีโอนาโดแสดงเรื่องนั้น... ที่ฝันซ้อนฝัน เข้าฝันแก้ฝันกันสนุกสนานนั่น... ต้องสารภาพเลยค่ะว่า ต้องซื้อแผ่นมาดูซ้ำอีกสองรอบถึงจะเข้าใจกระบวนการนั้น ตัวจริงคนเขียนขมองไม่ค่อยได้ไปแนวจิตวิทยาเช่นนั้นเท่าไหร่อ่อค่ะ


ขอบคุณทุกท่านจากใจ เช่นเคยนะคะ

******************************************





ราอูลล์
016

กระแสลมสู่บูรพทิศ




เทอร์กิสเป็นเมืองท่าด้านในของทะเลกลาง ทันทีที่ก้าวพ้นสะพานท่าเรือโดยสารเข้ามา ราอูลล์กับซีรินซ์ก็ได้เห็นคล้ายกับว่า ทั้งเมืองกำลังมีการเฉลิมฉลอง บ้านเรือนซึ่งก่อจากอิฐเผา ตามชายคาต่างประดับธงราวหลากสีสัน บนถนนผู้คนแต่งตัวสดสวยจับกลุ่มกัน ชมการแสดงรื่นเริงริมถนน

ชายหนุ่มนอกจากสะพายดาบคู่ไว้ด้านหลัง ยังมีเพียงถุงย่ามที่ออกแบบให้มีสายคล้องกับสองไหล่ เขาจึงอาสาจะรับโถกระดูกแม่เฒ่าโอราลล์มาอุ้มไว้เสียเอง

“ไม่เป็นไร แม่เฒ่าลำบากเลี้ยงข้ามาตั้งแต่เล็กจนโต ลำบากเพียงแค่นี้ เทียบกับที่ท่านทุ่มเทมากับข้าไม่ได้หรอก”

บรรยากาศรอบข้าง ทำให้ซีรินซ์รู้สึกปลอดโปร่งขึ้นมาก ยิ่งพอได้เหยียบแผ่นดิน ก็คล้ายความหวังจะกลับถึงบ้านเกิดใกล้เข้ามา ระหว่างอธิบายกับชายหนุ่ม หล่อนยังยิ้มแย้มได้ตลอดเวลา

“ตลอดมา ท่านเก็บตัวอยู่แต่ในเกาะแก้วมรกต ข้าเสียอีกที่เคยหนีมาเที่ยวที่ทอร์สกับพวกพี่ดาราว์ คราวนี้... ระหว่างเดินทาง ข้าจะพาแม่เฒ่าเปิดหูเปิดตาให้ทั่ว ว่าที่ไหนเป็นอย่างไรบ้าง”

ยังไม่ได้คุยอะไรกันได้มากกว่านั้น สิ่งที่ชาวเมืองกำลังรอคอยคงจะมาถึงแล้ว พวกเขามุ่งไปรวมกันบนทางสายหลัก คล้ายรอรับขบวนแห่บางอย่าง

เมื่อสองคนตกลงใจได้ว่า จะเดินทางให้เพลิดเพลิน เสมือนหนึ่งนำพาผู้เฒ่าโอราลล์มาท่องเที่ยวไประหว่างทาง เมื่อเห็นมีสิ่งไรน่าสนใจ ก็คิดจะพากันไปชมดูเป็นประสบการณ์

“ข้าว่าที่ทอร์สครึกครื้นแล้ว ที่นี้ยังมากกว่า ผู้คนก็สารพัดสารพัน”

ราอูลล์ชวนคุยอีกครั้ง ระหว่างมุ่งหน้าตามผู้คนทั้งหลาย

พ้นย่านการค้าแผงลอยมาได้ ก็พอดีกับได้เห็นหัวขบวน เป็นธงทิวและป้ายผ้าแผ่นสูง เป็นคำประกาศเกียรติคุณ ของชาวเผ่ามหาปราชญ์ผู้หนึ่ง ตามมาด้วยขบวนดนตรี อันมีทั้งประดิษฐ์จากไม้ท่อนยาว เขาสัตว์และโลหะเรียบแบน

เพราะเป็นมุมย้อนแสง พอม้าตัวใหญ่กลางขบวนผ่านเข้ามา สองหนุ่มสาวจึงยังไม่ได้เห็นหน้า คนบนหลังอาชาสง่างามตรงหน้า เห็นแค่เงาดำๆ เป็นท่าทีสง่าเผย แผ่นหลังหยัดตรง โบกมือทักทายชาวเมืองอยู่เป็นระยะ

และพวกที่ยืนชุมนุมกันอยู่ทางฟากด้านนี้ คงอยากเห็นมหาปราชญ์ผู้นั้นชัดๆ ด้วยกันทุกคน จึงเบียดกันเข้ามา เพื่อตัดหน้าหรือตามหลังขบวน ไปยังอีกฟากถนน อีกสองสามอึดใจก็กลายเป็นความชุลมุน การเบียดเสียดผลักดัน กระทั่งซีรินซ์ถูกแยกจากราอูลล์ เพราะกระแสคลื่นของผู้คน

“ซีรินซ์! ซีรินซ์....!!”

เขาพยายามตะโกนเรียก ให้หล่อนหันมาตลอด จะได้เห็นว่าต้องติดตามไปทางใด

ซีรินซ์ตัวเล็กกว่าใครต่อใคร พยายามมุดหลบและหาช่องว่าง ให้พ้นจากการผลักดัน แต่ฝูงชนยังมากมาย หล่อนเป็นห่วงโถกระดูกแม่เฒ่า กอดเอาไว้แน่น ยอมถูกกระทบกระแทกเท่าไรก็ได้ แต่โถกระเบื้องต้องปลอดภัย

หญิงสาวหยุดเดินไม่ได้ ต้องก้าวเท้าถอย พร้อมกับที่หลังไหล่ถูกเบียดเสียด จังหวะหนึ่งที่จะหันกลับไปมองราอูลล์ หล่อนก็พลาด คล้ายอยู่ๆ กำแพงที่อิงพิงมลายหาย พลาดล้มหงายหลังตรงกลางขบวน

ม้าใหญ่ตื่นตกใจ ยกขาหน้าตะกายอากาศ นั่นคล้ายคนบนหลังแทบไม่สามารถควบคุมมันได้ คนอารักขาต้องช่วยกรูกันเข้าคุม อีกส่วนตรงเข้าหมายลงโทษซีรินซ์ ที่บังอาจตัดขบวน

“เจ้าบังอาจมาก กล้ามาขวางทางท่านมหาปราชญ์เดบริส!”

ทหารนายหนึ่งเงื้อแส้ในมือ จะฟาดซีรินซ์ แต่มีเสียงนุ่มๆ ของชายคนหนึ่งห้ามเอาไว้

“ถ้างั้นก็ควบคุมตัวไว้ก่อน”

คนจะใช้แส้ขัดใจ เปลี่ยนเป็นจะจับตัวนักโทษ ทว่าชายเสียงนุ่มๆ เดินเข้ามาถึงตัวหญิงสาวพอดี

หล่อนไม่เห็นว่า เขาลงจากหลังม้ามาได้อย่างไร พอมายืนห่างไปสองสามก้าว เขาก็ค้อมกายโน้มศีรษะให้หล่อน

“คุณผู้หญิง เป็นอย่างไรบ้าง”

ซีรินซ์มองหน้าเขา เป็นชายหนุ่มอายุไม่น่าจะมากกว่าราอูลล์สักเท่าไร แต่ป้ายประกาศเกียรติยศนั่น เหตุไรจึงบอกว่าเป็นมหาปราชญ์

“... ไม่เป็นไรใช่ไหม”

เขาถามย้ำอีกครั้ง ทำให้หญิงสาวต้องรีบตอบ สองมือยังกอดโถกระเบื้องไว้แน่น

“ไม่เป็นไร ข้าไม่เป็นไร”

เขายังจ้องหน้าหล่อนไม่วางตา ส่งยิ้มละมุนละไมมาให้

“หลีกๆๆ หลีกไปให้พ้น!”

เป็นเสียงของราอูลล์ที่แผดดังขึ้น คล้ายตั้งใจทำลายฉากรักแรกพบ ของนางเอกกับตัวร้ายเจ้าเล่ห์ พร้อมกันนั้นเขาก็แหวกฝ่าวงล้อม ที่คล้ายกำลังป้องกันชายหนุ่มมาดดีผู้นั้น เพื่อเข้ามาให้ถึงตัวซีรินซ์

เหล่าทหารฮือกันเข้ามาจะล้อมจับ แต่ผู้ได้รับยกย่องเป็นมหาปราชญ์ ก็ออกคำสั่งยับยั้งให้อีกครั้ง

ด้วยความเป็นห่วง ราอูลล์กุมมือหญิงสาวเพื่อปลอบขวัญ แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อรู้สึกว่า ผิวเนื้อหล่อนร้อนผ่าว

“เจ้าไม่สบาย?”

“ไม่... ข้าไม่เป็นไรมาก แค่วิงเวียนนิดหน่อย”

“แต่ตัวร้อนจัดขนาดนี้”

“แค่รู้สึกไม่สบายตัวนิดหน่อย ไม่ได้เจ็บป่วยอะไรมากมาย”

หล่อนจ้องตาเขาตรงๆ นึกอยากมองให้ลึกลงไปในหัวใจ ว่าความเป็นห่วงที่แสดงออกมาในขณะนี้ เป็นความจริงจากใจ หรือเพียงแค่ทำไปตามหน้าที่

“รีบพาไปหาหมอเถอะ”

หนุ่มมาดผู้ดีแทรกเข้ามา ทำให้ราอูลล์หันไปมองตาขวาง

“เฮอะ! ทำเป็นคนดี พูดดี หากไม่เป็นเพราะเจ้า เราจะเป็นอย่างนี้ไหม!”

เขาตวาดถาม แต่อีกฝ่ายยังมีท่าทางอารมณ์ดีไม่เสื่อมคลาย

“อย่างนั้นต้องขออภัย ที่ขบวนแห่นี้ใหญ่โตไปหน่อย ก็เพียงแค่ให้สมกับเกียรติยศของข้าเท่านั้น ไม่คิดว่าจะรบกวนใครๆ เลย”

พูดไปก็ยิ้มไป จนราอูลล์ยิ่งหมั่นไส้ ยิ่งเมื่อมองเห็นสายตาหล่อนกำลังชื่นชมคนมาดดี ราอูลล์ก็ยิ่งรู้สึกอยากไปๆ ให้พ้นจากตรงนี้

“ซีรินซ์ เรารีบไปกันดีกว่า อยู่ตรงนี้นานๆ เดี๋ยวกลิ่นผู้ดีมันจะเหม็นติดตัวเอาได้”

ไม่ทันพูดจบด้วยซ้ำ ตอนเขาฉุดมือของหญิงสาวให้ห่างออกมา ไม่สนใจว่า ชายแปลกหน้ายังมองตามจนลับสายตา



เมื่อมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ทั้งสองก็ตกลงกันว่า จะไม่เก็บเรื่องราวร้ายๆ ระหว่างทางทำให้ระคายใจ หากมีเรื่องราวไม่สบอารมณ์ผ่านเข้ามา ก็จะปล่อยให้มันผ่านเลยไป จะเก็บไว้เฉพาะความทรงจำดีๆ เพียงเท่านั้น

เทอร์กีสเป็นเมืองท่าท่องเที่ยวอันสวยงาม ท้ายเมืองเป็นเชิงผาหันหน้าออกสู่ทะเล เป็นจุดชื่นชมทัศนียภาพ ที่แทบจะเป็นมุมมองหมุนได้รอบตัว สองคนอยู่ตรงนั้นนานกว่าที่อื่น ก่อนจะกลับลงมาเที่ยวชมบรรยากาศครึกครื้นในเมืองอีกครั้ง

มื้ออาหารที่ผ่านไปทั้งกลางวันและเย็น ก็เป็นของแปลกๆ สองคนสั่งเป็นจานเดี่ยว เส้นแป้งสีดำๆ พ่อครัวบอกว่าผสมจากดีหมึกทะเล ดีว่ามีเนื้อกุ้งใหญ่ชิ้นโต ทำให้ราอูลล์ฝืนกินลงไปจนได้ ส่วนซีรินซ์นั้น แม้อุณหภูมิในร่างกายจะลดลงไปมากแล้ว แต่อาการเหม็นหื่นคลื่นเหียนกลับเข้ามาแทนที่ สองสามมื้อที่ผ่านไป หล่อนแทบจะจิบได้แค่เพียงน้ำผลไม้

แต่พอพลบค่ำ ก็คล้ายอาการไข้ของซีรินซ์จะหายเป็นปกติ ราอูลล์รีบหาซื้อขนมปังย่างราดน้ำผึ้งให้หล่อนรับประทานเรียกพลกำลัง

ซีรินซ์เห็นดวงดาวสวยงามน่าชม จึงชวนราอูลล์ออกเดินชมฟากฟ้าราตรี บอกว่าอยากพาแม่เฒ่า มาชื่นชมบรรยากาศยามค่ำคืน โดยยอมให้เขาเป็นคนอุ้มโถกระดูก เมื่อชายหนุ่มรับอาสา

“แม่เฒ่า พวกเราพาท่านออกมาดูดาว ท่านเห็นหรือเปล่าคะ”

หล่อนหันมาถาม กับโถกระเบื้องที่ชายหนุ่มกอดประคองไว้อย่างระมัดระวัง และเมื่อเขาได้ยิน ก็นึกสนุก ทำเป็นเลียนเสียงหญิงชรา พูดจางกๆ เงิ่นๆ ว่า

“อ๋อ... เห็นสิ ดาวทางเมืองในนี้ สวยกระจ่างไม่แพ้บ้านเราจริงๆ”

คนฟังหันขวับ ทุบเขาเบาๆ ที่ต้นแขน บ่นว่าไม่จริงจังนัก

“เล่นอะไรบ้าๆ ก็ไม่รู้ แม่เฒ่าไม่ได้เสียงน่าเกลียดอย่างนั้นเสียหน่อย”

แล้วหล่อนก็ยิ้มออกมา ทำให้ราอูลล์พลอยยิ่งสุขใจไปด้วย

กลางคืนยามนี้ บ้านเรือนร้านรวงล้วนปิดเงียบ บรรยากาศโดยรอบ แม้ค่อนข้างวังเวงแต่ก็เป็นความเงียบสงบ ที่ช่วยให้อารมณ์ปลอดโปร่งได้ไม่น้อย

สองหนุ่มสาวเพลิดเพลินชมเมืองยามราตรี มาจนใกล้สุดทางลงชายหาด แล้วก็มีชายแต่งตัวมอซอ เดินเอียงๆ เหมือนขาสองข้างไม่เท่ากัน เข้ามาหาพร้อมยกสองมือแบรอตรงหน้า

“คุณผู้หญิง คุณผู้ชาย จิตใจอารี มีเศษเหรียญเศษเงินให้ข้าบ้างหรือไม่ หรืออาหาร หรือขนมปัง หรือผลไม้ หรือน้ำสักอึก ข้าอดข้าวอดน้ำมาหลายวันแล้ว”

หน้าตาและมือไม้ของขอทานที่พร่ำพูด ดำด่างไปด้วยคราบไคล ผมเผ้ากระเซิงเหมือนไม่เคยถูกใส่ใจ สองคนที่ได้ยิน ลืมสังเกตไปว่า ภายใต้สภาพที่และดูทุเรศทุรังน่าสมเพชนี้ ไม่ได้มีกลิ่นสาบสางของคนจรจัดรวมด้วยอยู่เลย

ราอูลล์ไม่อยากให้บรรยากาศดีๆ ต้องเสียไป เขาเปลี่ยนไปอุ้มโถกระดูกไว้ข้างเอว ใช้มือถนัดล้วงถุงเงินออกมา

ขณะจะส่งให้ซีรินซ์ล้วงหยิบส่วนหนึ่งให้ทาน ไอ้วายร้ายในคราบยาจกก็พุ่งตัวเข้ามา!

มันฉวยถุงเงินไปทันที เล็งถีบเข้าที่ยอดอกราอูลล์ เขาหลบพ้นเท้าแรกหวุดหวิด และเบี่ยงตัวพ้นลูกเตะที่สอง ทว่าโถกระดูกของแม่เฒ่าโอราลล์กลับรับเคราะห์แทน

สองหนุ่มสาวต่างตกตะลึง ไม่สนใจว่าไอ้ชั่วนั่นจะวิ่งหนีไปทางไหน ราอูลล์รีบกระโจนตามสิ่งที่ถูกเตะกระเด็น ซีรินซ์ก็ถลาตามมา

แต่สายเกินไป…

โถกระดูกของคนที่เลี้ยงดูหญิงสาวมาเป็นสิบปี ตกแตกกระจายกลางถนนโล่ง อัฐิหญิงชรากระจายฟุ้ง บางส่วนถูกสายลมวูบหนึ่ง หอบหายไปทันที

เป็นการตกแตกต่อหน้าต่อตา เพราะการกระโจนสุดตัว ทำให้สองหนุ่มสาว ถลาล้มลงแบบสุดเอื้อม ทั้งร่างกระทบพื้นก่อนโถกระดูกจะตกลงต่อหน้า ด้วยซ้ำ

ซีรินซ์หวีดร้องด้วยความตกใจ ส่วนราอูลล์ถึงกับคำรามด้วยความแค้นเคือง



(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่