ความเดิมตอนที่แล้ว เราอยู่ที่โตเกียวมา 3 วัน ตอนนี้เราจะไปตามหาฟูจิซัง กันที่ทะเลสาบคาวากูชิโกะกันค่ะ
#1 ปฐมบทแห่งความครื้นเครง เริ่มบรรเลง ณ บัดนาว >>>
http://pantip.com/topic/33979986
#2 สามวันในโตเกียว นี่สิ....เรียลเจแปน >>>
http://pantip.com/topic/34034575
และตอนต่อจากนี้
#4 ลิ้มHida Beefที่ทาคายาม่า ชมชิราคาวาโกะในฤดูซากุระ >>>
http://pantip.com/topic/34077135
#5 ..วันเดียวเที่ยวเกียวโต..เมืองแห่งความศรัทธา >>>
http://pantip.com/topic/34089007
#6 ปิดท้ายโอซาก้า ชมเทศกาลซากุระที่โรงกษาปณ์ >>>
http://pantip.com/topic/34093810
แต่ก่อนอื่น ฝาก page หน่อยค่า เพิ่งเริ่มทำ อยากได้กำลังใจม๊ากมากค่ะ
ส่วนตัวอยากเป็นนักเขียน แต่ติดภารกิจมากมาย จนตอนนี้ลองเขียนเป็นงานอดิเรกก่อนค่ะ
www.facebook.com/NeverEndingJourneyByOn
ออกเดินทางกันต่อค่ะ โกวววววววววววววว !
เราจะไปล่า ฟูจิซัง ค่ะ
7-เม.ย.-15
วันนี้เราออกเดินทางกันแต่เช้า ...การที่รถออก 11 โมงคือเช้าสำหรับเรา
เราแหวกม่านไปดูนอกหน้าต่าง ….ฝนตกปรอยๆอีกละ
เราจึงแบ่งหน้าที่กัน คือ ออนไปซื้อร่มที่เซเว่นแถวบ้าน (สามวันที่ผ่านมาคือยืมนาโอกิหมดเลย อิอิ)
ส่วนเบญจ์จัดเตรียมอาหารเช้า (จริงๆแค่อุ่นกับข้าวที่ซื้อมาจาก Lawson เมื่อวานตอนค่ำ)
เราเคยสงสัยว่าทำไม คนญี่ปุ่นถึงชอบใช้ร่มยาว และร่มเป็นสีใส
...จนตอนนี้ก้ยังสงสัยอยู่ ถ้าใครรู้มาบอกด้วยนะฮะ -_-
กลับมาถึงห้อง อาหารเช้าก็ถูกจัดเตรียมเรียบร้อยแล้วววว เย้
อร่อยจังงง เรากินแบบรีบๆเพราะต้องเผื่อเวลาตามหาสถานี ด้วยความที่เราเป็นคนเก่งเรื่องทางจนมักหลงทางบ่อยๆ การเผื่อเวลาไว้เป็นวิธีที่ดีที่สุด
Starbuck ชาเขียวที่ขายในร้านสะดวกซื้อ อร่อยอ่ะ แต่ว่าไอสีชมพูนั่น มันเขียนว่าเป็น SAKURA LATTE เราก็โดนหลอกสิคะ น่ารักกุ๊งกิ๊งขนาดนี้ ลองซะหน่อย (ความจริงคือรสสตอเบอร์รี่ เฉยๆมากค่ะ)
จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยพร้อมออกเดินทาง
เราร่ำลา นาโอกิ พร้อมกล่าวขอบคุณสำหรับมิตรภาพที่เกิดขึ้น
หลังจากนั้นทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เราลากกระเป๋าใบใหญ่อย่างทุลักทุเล เพราะพิษของที่ซื้อมาทำให้กระเป๋าเริ่มหนักขึ้น
ท่ามกลางฝนตกโปรยปราย……..มีหญิงต่างด้าวสองคน มือนึงกางร่ม อีกมือลากกระเป๋าใบใหญ่ขนาดที่ขนเสื้อผ้ามาอยู่ได้1เดือน และบนบ่ามีเป้ 35 ลิตรอีก 1 ใบ
มองเผินๆ นึกว่ามันมาอยู่เป็นปี
บ้าบอชัดๆ
เรานั่งใต้ดินไปลง Shinjuku และมุ่งตรงไปที่สถานีรถบัส ((เมื่อวานเราแอบชะแว้บมาซื้อตั๋วล่วงหน้าก่อนแล้ว เพราะกลัวไม่มีที่ ...ฉลาดมั้ยล่ะ
ตั๋วราคาคนละ 1,750 เยน))
สักพักรถมาเทียบท่า
เฮ้ยยย ที่ญี่ปุ่นอะไรอะไรก็คิ้วไปหมด
รถบัสยังคิ้ววววววอ่ะ …….
เราเอากระเป๋าใหญ่ไว้ใต้ท้องรถ และขึ้นไปนั่งอย่างสบายใจ
ตื่นเต้นจัง…
เรากำลังจะไปดูฟูจิ ที่ทะเลสาบคาวากูชิโกะ (( ทางที่จะดูฟูจิมีหลายทาง แต่เราเลือกไปทะเลสาบคาวากูชิโกะ เพราะว่าจะต่อไปเมืองทาคายาม่าได้ง่ายกว่า))
สิ่งที่เราตั้งหน้าตั้งตารอ.....
//ย้อนกลับไปตอนวางแผนทริป//
เบญจ์ : เราจะไปไหนกันบ้างดีวะ ตั้ง 10 วัน
ออน : ไปไหนก้ได้เมิง แต่หนึ่งในนั้น ต้องมี "ฟูจิ"
//กลับมาอยู่บนรถบัส//
อีก 2ชั่วโมงต่อจากนี้……
เราลองเปิด พยากรณ์อากาศเล่นๆ
ที่ฟูจิ
SNOW
What!!???
มือถือ

มั่ว
นอนดีกว่า
ZzzzzZzZZZzzz
งัวเงียตื่นขึ้นมาอีกที หันไปมองหน้าต่าง
!!???!!
WTF!!???
หิมะ!!!

มีหิมะจริงๆด้วย
เอาละไง ในใจเต้นตูมตาม ...ฟูจิซังวันนี้สงสัยจะปิ๋วซะละ รอลุ้นพรุ่งนี้อย่างเดียวเลยฮ่ะ
เอาวะ!! พวกเราคงไม่ดวงกุดขนาดนั้นหรอก วันก่อนยังเห็นคน Post รูปจากที่นี่อยู่เลย…
หันไปมองอุณหภูมิข้างนอกแล้วถอดถอนใจ….ตูไม่ได้เตรียมพร้อมกับความหนาวนี้เลย ไหนใครบอกว่า มาดูซากุระ หนาวเบาๆใส่ชุดวินเทอร์สวยๆ
----
และแล้วรถบัสก้มาเทียบท่าที่ Kawagushiko Station
เรารีบเอากระเป๋าและวิ่งหลบความหนาวมาข้างในสถานีก่อน
ภายในสถานีค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว....
เราจองที่พักไว้ที่ New Century Hotel ซึ่งค่อนข้างดังใน pantip เลยทีเดียว คืนนี้เป็นคืนที่แพงที่สุดในทริป ราคาแสนโหด(สำหรับเรา) ตกคนละ 4,200 บาท/คืน แต่รวมอาหารเย็นและอาหารเช้า
เค้าบอกว่า ห้องที่นี่ทุกห้องมองเห็นวิวฟูจิซัง
ในวันที่หิมะตก???……
T-T
โอเค ไม่ร้องค่ะ ไม่ร้อง เราอ่าน note ในใบตอบรับที่พัก เค้าบอกว่าถึง kawaguchiko แล้วให้โทรหาโรงแรม
เราเลยต้องออกไปตามหา Visitor Center ที่อยู่อาคารข้างๆ
ออกไปข้างนอกอีกแล้วสินะ …
หลังจากโทรเรียกที่พักให้มารับ เราก็ออกมาสำรวจด้านนอก
คำสนทนาของหญิงสองคน
เบญจ์ : เฮ้ย ! ผมเมิงๆๆ มีอะไรติดอยู่
ออน : อ๋ออออ ขาวๆป่ะ
เบญจ์ : อื้อ
ออน : รังแคแหงม อยู่นี่อาบน้ำอุ่น หนังหัวแห้งเลอ
เบญจ์ : อิบร้า นี่มัน Snow Flake โฟร้ยยย
ออน : จริงดิ!!! ถ่ายรูปๆๆๆๆ
เลยออกมาเป็นงี้ >___<
อีกแปป รถโรงแรมก็มาถึง เป็นรถตู้กว้างขวาง เราขึ้นไปพร้อมกับกรุ๊ปคนไทยอีกกรุ๊ป….พี่ๆคงตามห้องบลูมาเหมือนกันชิปะ
ถึงโรงแรมปั๊บ สิ่งที่ตื่นตาตื่นใจเรา ไม่ใช่ห้องที่กว้างขวาง (หลังจากที่นอนห้องนาโอกิมา3วัน) ,ชุดชาที่ทำให้ชีวิตดูผู้ดี , หรือชุดยูกาตะเปื่อยๆ ที่ถูกเตรียมไว้ให้
แต่เป็นนี่ข่า
ซากุระต้นนี้ช่างเด่นเป็นสง่า ลำต้นใหญ่บ่งบอกความเก๋า มีคนมาถ่ายรูปเต็มไปหมด
อ่ะ ดูหน้าโรงแรมซะหน่อย เด๋วจะน้อยใจ
หลังจาก Check-in เราก็ขึ้นไปบนห้อง……..วันนี้แหละ เราจะใช้ชีวิตอย่างวิถ๊คนญี่ปุ่น
….แค่ได้นอนฟูตอง ใส่ยูคาตะ แช่ออนเซ็น สำหรับเราก็คือ วิถีญี่ปุ่นละ ฮ่าๆ
ห้องใหญ่มากสำหรับอยู่กันสองคน มีชุดน้ำชา และยูกาตะพร้อม !!!
เริ่ด....คืนนี้ได้นอนจริงจังซะที
แต่ตอนนี้ประมาณบ่ายสองกว่า
เราตัดสินใจวางสัมภาระ และออกไปสูดอากาศข้างนอกกันก่อน
ข้างนอกอากาศหนาวมากค่า หิมะหยุดตกแล้ว แต่พื้นเปียก และ มีกองหิมะอย่างที่เห็น
จริงๆ วิธีเที่ยวรอบๆทะเลสาบมีหลายวิธีนะ นั่งรถบัส ปั่นจักรยาน แต่ตอนนี้ พวกเรา"หิว" มากกกก และดูเวลาแล้ว เราอยากรีบไปแช่ออนเซ็นก่อนทานข้าวมากกว่า
เราตัดสินใจ จิ้มทางเดิน โดยเดินไปทางซ้ายมือ
ระหว่างทาง เราเจอสิ่งเหล่านี้
แต่!! ไม่เจอร้านอาหารสักที หิวจะตายห่านอยู่แล้วค่า
เราเดินไปเรื่อยๆ
เรื่อยๆ
เมื่อยละนะ
และแล้วเราก็เจอ…..ร้านอาหารร้านนึง
เราเดินเข้าไปเมียงมอง เหมือนว่าจะยังไม่เปิด
แต่เราเหนื่อยและไม่มีแรงเดิน เลยหยุดนั่งหน้าร้านมันนี่ละ
พร้อมกับ search อากู๋ว่าพอจะมีร้านไหนที่นี่บ้าง
ที่นี่ดูไม่ค่อยมีอะไรกิน...มิน่า โรงแรมถึงมีอาหารเย็นให้
เราเริ่มถอดถอนใจ
จนจะลุก เดินคอตกกลับ
ทันใดนั้น….มีเสียงเปิดประตู พร้อมหน้าหญิงสูงวัย โผล่มทักทาย
เย้!!!!!!!!! รอดตายแล้ววววววววววววววววว
เรารีบเข้าไปข้างในและสั่ง
ระหว่างรออาหาร ก็ถ่ายรูปเล่น
ร้านชื่อ Tsujiya ค่ะ
อาหารมีค่อนข้างหลากหลายเมนู
[img]http://f.ptcdn.info/427/034/000/1439511464-2015040816-o.jpg[
แอลกอฮอล์ก็มีนะจ๊ะ
เรารีบสั่งกันมากผลออกมาเป็นงี้
อันนี้ของเพื่อน น่าจะเป็นเบอร์ 8 Tempura Teishoku
อันนี้ของเรา Katsudon-set
หิวโฮกก
อิ่มมากกกก รสชาติใช้ได้เลยนะ สนนราคามื้อนี้ที่ 2,916 เยนจ้า
กินเสร็จก็กลับโรงแรมของเรา เพราะท้องฟ้ามองไม่เห็นอะไรเลยค่าาาาา ฟ้าปิดมาก T_T
ตอนนี้อิ่มมาก ใกล้เวลาอาหารเย็นละ ให้กินอีกนี่มีจุก
เราเลย จะไปแช่ออนเซ็นกัน !
เยือนแดนปลาดิบ เที่ยวแบบฮิปๆ ตามติดชีวิตสิบวันจากโตเกียวสู่โอซาก้า #3 ยู้ฮู ฟูจิซัง..หนีไปซบทาคายาม่า-บ้านสามเหลี่ยม
#1 ปฐมบทแห่งความครื้นเครง เริ่มบรรเลง ณ บัดนาว >>> http://pantip.com/topic/33979986
#2 สามวันในโตเกียว นี่สิ....เรียลเจแปน >>> http://pantip.com/topic/34034575
และตอนต่อจากนี้
#4 ลิ้มHida Beefที่ทาคายาม่า ชมชิราคาวาโกะในฤดูซากุระ >>> http://pantip.com/topic/34077135
#5 ..วันเดียวเที่ยวเกียวโต..เมืองแห่งความศรัทธา >>> http://pantip.com/topic/34089007
#6 ปิดท้ายโอซาก้า ชมเทศกาลซากุระที่โรงกษาปณ์ >>> http://pantip.com/topic/34093810
แต่ก่อนอื่น ฝาก page หน่อยค่า เพิ่งเริ่มทำ อยากได้กำลังใจม๊ากมากค่ะ
ส่วนตัวอยากเป็นนักเขียน แต่ติดภารกิจมากมาย จนตอนนี้ลองเขียนเป็นงานอดิเรกก่อนค่ะ
www.facebook.com/NeverEndingJourneyByOn
ออกเดินทางกันต่อค่ะ โกวววววววววววววว !
เราจะไปล่า ฟูจิซัง ค่ะ
7-เม.ย.-15
วันนี้เราออกเดินทางกันแต่เช้า ...การที่รถออก 11 โมงคือเช้าสำหรับเรา
เราแหวกม่านไปดูนอกหน้าต่าง ….ฝนตกปรอยๆอีกละ
เราจึงแบ่งหน้าที่กัน คือ ออนไปซื้อร่มที่เซเว่นแถวบ้าน (สามวันที่ผ่านมาคือยืมนาโอกิหมดเลย อิอิ)
ส่วนเบญจ์จัดเตรียมอาหารเช้า (จริงๆแค่อุ่นกับข้าวที่ซื้อมาจาก Lawson เมื่อวานตอนค่ำ)
เราเคยสงสัยว่าทำไม คนญี่ปุ่นถึงชอบใช้ร่มยาว และร่มเป็นสีใส
...จนตอนนี้ก้ยังสงสัยอยู่ ถ้าใครรู้มาบอกด้วยนะฮะ -_-
กลับมาถึงห้อง อาหารเช้าก็ถูกจัดเตรียมเรียบร้อยแล้วววว เย้
อร่อยจังงง เรากินแบบรีบๆเพราะต้องเผื่อเวลาตามหาสถานี ด้วยความที่เราเป็นคนเก่งเรื่องทางจนมักหลงทางบ่อยๆ การเผื่อเวลาไว้เป็นวิธีที่ดีที่สุด
Starbuck ชาเขียวที่ขายในร้านสะดวกซื้อ อร่อยอ่ะ แต่ว่าไอสีชมพูนั่น มันเขียนว่าเป็น SAKURA LATTE เราก็โดนหลอกสิคะ น่ารักกุ๊งกิ๊งขนาดนี้ ลองซะหน่อย (ความจริงคือรสสตอเบอร์รี่ เฉยๆมากค่ะ)
จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยพร้อมออกเดินทาง
เราร่ำลา นาโอกิ พร้อมกล่าวขอบคุณสำหรับมิตรภาพที่เกิดขึ้น
หลังจากนั้นทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เราลากกระเป๋าใบใหญ่อย่างทุลักทุเล เพราะพิษของที่ซื้อมาทำให้กระเป๋าเริ่มหนักขึ้น
ท่ามกลางฝนตกโปรยปราย……..มีหญิงต่างด้าวสองคน มือนึงกางร่ม อีกมือลากกระเป๋าใบใหญ่ขนาดที่ขนเสื้อผ้ามาอยู่ได้1เดือน และบนบ่ามีเป้ 35 ลิตรอีก 1 ใบ
มองเผินๆ นึกว่ามันมาอยู่เป็นปี
บ้าบอชัดๆ
เรานั่งใต้ดินไปลง Shinjuku และมุ่งตรงไปที่สถานีรถบัส ((เมื่อวานเราแอบชะแว้บมาซื้อตั๋วล่วงหน้าก่อนแล้ว เพราะกลัวไม่มีที่ ...ฉลาดมั้ยล่ะ
ตั๋วราคาคนละ 1,750 เยน))
สักพักรถมาเทียบท่า
เฮ้ยยย ที่ญี่ปุ่นอะไรอะไรก็คิ้วไปหมด
รถบัสยังคิ้ววววววอ่ะ …….
เราเอากระเป๋าใหญ่ไว้ใต้ท้องรถ และขึ้นไปนั่งอย่างสบายใจ
ตื่นเต้นจัง…
เรากำลังจะไปดูฟูจิ ที่ทะเลสาบคาวากูชิโกะ (( ทางที่จะดูฟูจิมีหลายทาง แต่เราเลือกไปทะเลสาบคาวากูชิโกะ เพราะว่าจะต่อไปเมืองทาคายาม่าได้ง่ายกว่า))
สิ่งที่เราตั้งหน้าตั้งตารอ.....
//ย้อนกลับไปตอนวางแผนทริป//
เบญจ์ : เราจะไปไหนกันบ้างดีวะ ตั้ง 10 วัน
ออน : ไปไหนก้ได้เมิง แต่หนึ่งในนั้น ต้องมี "ฟูจิ"
//กลับมาอยู่บนรถบัส//
อีก 2ชั่วโมงต่อจากนี้……
เราลองเปิด พยากรณ์อากาศเล่นๆ
ที่ฟูจิ
SNOW
What!!???
มือถือ
นอนดีกว่า
ZzzzzZzZZZzzz
งัวเงียตื่นขึ้นมาอีกที หันไปมองหน้าต่าง
!!???!!
WTF!!???
หิมะ!!!
เอาละไง ในใจเต้นตูมตาม ...ฟูจิซังวันนี้สงสัยจะปิ๋วซะละ รอลุ้นพรุ่งนี้อย่างเดียวเลยฮ่ะ
เอาวะ!! พวกเราคงไม่ดวงกุดขนาดนั้นหรอก วันก่อนยังเห็นคน Post รูปจากที่นี่อยู่เลย…
หันไปมองอุณหภูมิข้างนอกแล้วถอดถอนใจ….ตูไม่ได้เตรียมพร้อมกับความหนาวนี้เลย ไหนใครบอกว่า มาดูซากุระ หนาวเบาๆใส่ชุดวินเทอร์สวยๆ
----
และแล้วรถบัสก้มาเทียบท่าที่ Kawagushiko Station
เรารีบเอากระเป๋าและวิ่งหลบความหนาวมาข้างในสถานีก่อน
ภายในสถานีค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว....
เราจองที่พักไว้ที่ New Century Hotel ซึ่งค่อนข้างดังใน pantip เลยทีเดียว คืนนี้เป็นคืนที่แพงที่สุดในทริป ราคาแสนโหด(สำหรับเรา) ตกคนละ 4,200 บาท/คืน แต่รวมอาหารเย็นและอาหารเช้า
เค้าบอกว่า ห้องที่นี่ทุกห้องมองเห็นวิวฟูจิซัง
ในวันที่หิมะตก???……
T-T
โอเค ไม่ร้องค่ะ ไม่ร้อง เราอ่าน note ในใบตอบรับที่พัก เค้าบอกว่าถึง kawaguchiko แล้วให้โทรหาโรงแรม
เราเลยต้องออกไปตามหา Visitor Center ที่อยู่อาคารข้างๆ
ออกไปข้างนอกอีกแล้วสินะ …
หลังจากโทรเรียกที่พักให้มารับ เราก็ออกมาสำรวจด้านนอก
คำสนทนาของหญิงสองคน
เบญจ์ : เฮ้ย ! ผมเมิงๆๆ มีอะไรติดอยู่
ออน : อ๋ออออ ขาวๆป่ะ
เบญจ์ : อื้อ
ออน : รังแคแหงม อยู่นี่อาบน้ำอุ่น หนังหัวแห้งเลอ
เบญจ์ : อิบร้า นี่มัน Snow Flake โฟร้ยยย
ออน : จริงดิ!!! ถ่ายรูปๆๆๆๆ
เลยออกมาเป็นงี้ >___<
อีกแปป รถโรงแรมก็มาถึง เป็นรถตู้กว้างขวาง เราขึ้นไปพร้อมกับกรุ๊ปคนไทยอีกกรุ๊ป….พี่ๆคงตามห้องบลูมาเหมือนกันชิปะ
ถึงโรงแรมปั๊บ สิ่งที่ตื่นตาตื่นใจเรา ไม่ใช่ห้องที่กว้างขวาง (หลังจากที่นอนห้องนาโอกิมา3วัน) ,ชุดชาที่ทำให้ชีวิตดูผู้ดี , หรือชุดยูกาตะเปื่อยๆ ที่ถูกเตรียมไว้ให้
แต่เป็นนี่ข่า
ซากุระต้นนี้ช่างเด่นเป็นสง่า ลำต้นใหญ่บ่งบอกความเก๋า มีคนมาถ่ายรูปเต็มไปหมด
อ่ะ ดูหน้าโรงแรมซะหน่อย เด๋วจะน้อยใจ
หลังจาก Check-in เราก็ขึ้นไปบนห้อง……..วันนี้แหละ เราจะใช้ชีวิตอย่างวิถ๊คนญี่ปุ่น
….แค่ได้นอนฟูตอง ใส่ยูคาตะ แช่ออนเซ็น สำหรับเราก็คือ วิถีญี่ปุ่นละ ฮ่าๆ
ห้องใหญ่มากสำหรับอยู่กันสองคน มีชุดน้ำชา และยูกาตะพร้อม !!!
เริ่ด....คืนนี้ได้นอนจริงจังซะที
แต่ตอนนี้ประมาณบ่ายสองกว่า
เราตัดสินใจวางสัมภาระ และออกไปสูดอากาศข้างนอกกันก่อน
ข้างนอกอากาศหนาวมากค่า หิมะหยุดตกแล้ว แต่พื้นเปียก และ มีกองหิมะอย่างที่เห็น
จริงๆ วิธีเที่ยวรอบๆทะเลสาบมีหลายวิธีนะ นั่งรถบัส ปั่นจักรยาน แต่ตอนนี้ พวกเรา"หิว" มากกกก และดูเวลาแล้ว เราอยากรีบไปแช่ออนเซ็นก่อนทานข้าวมากกว่า
เราตัดสินใจ จิ้มทางเดิน โดยเดินไปทางซ้ายมือ
ระหว่างทาง เราเจอสิ่งเหล่านี้
แต่!! ไม่เจอร้านอาหารสักที หิวจะตายห่านอยู่แล้วค่า
เราเดินไปเรื่อยๆ
เรื่อยๆ
เมื่อยละนะ
และแล้วเราก็เจอ…..ร้านอาหารร้านนึง
เราเดินเข้าไปเมียงมอง เหมือนว่าจะยังไม่เปิด
แต่เราเหนื่อยและไม่มีแรงเดิน เลยหยุดนั่งหน้าร้านมันนี่ละ
พร้อมกับ search อากู๋ว่าพอจะมีร้านไหนที่นี่บ้าง
ที่นี่ดูไม่ค่อยมีอะไรกิน...มิน่า โรงแรมถึงมีอาหารเย็นให้
เราเริ่มถอดถอนใจ
จนจะลุก เดินคอตกกลับ
ทันใดนั้น….มีเสียงเปิดประตู พร้อมหน้าหญิงสูงวัย โผล่มทักทาย
เย้!!!!!!!!! รอดตายแล้ววววววววววววววววว
เรารีบเข้าไปข้างในและสั่ง
ระหว่างรออาหาร ก็ถ่ายรูปเล่น
ร้านชื่อ Tsujiya ค่ะ
อาหารมีค่อนข้างหลากหลายเมนู
[img]http://f.ptcdn.info/427/034/000/1439511464-2015040816-o.jpg[
แอลกอฮอล์ก็มีนะจ๊ะ
เรารีบสั่งกันมากผลออกมาเป็นงี้
อันนี้ของเพื่อน น่าจะเป็นเบอร์ 8 Tempura Teishoku
อันนี้ของเรา Katsudon-set
หิวโฮกก
อิ่มมากกกก รสชาติใช้ได้เลยนะ สนนราคามื้อนี้ที่ 2,916 เยนจ้า
กินเสร็จก็กลับโรงแรมของเรา เพราะท้องฟ้ามองไม่เห็นอะไรเลยค่าาาาา ฟ้าปิดมาก T_T
ตอนนี้อิ่มมาก ใกล้เวลาอาหารเย็นละ ให้กินอีกนี่มีจุก
เราเลย จะไปแช่ออนเซ็นกัน !