The guardian-เกมรักพิทักษ์ใจ บทที่ 9

สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มอ่าน  ตามได้ที่
บทนำ http://pantip.com/topic/32046546
บทที่ 1 http://pantip.com/topic/32102961  บทที่ 2 http://pantip.com/topic/32333496
บทที่ 3 http://pantip.com/topic/32342880  บทที่ 4 http://pantip.com/topic/32944640
บทที่ 5 http://pantip.com/topic/32956425  บทที่ 6 http://pantip.com/topic/32965746
บทที่ 7 http://pantip.com/topic/32986942  บทที่ 8 http://pantip.com/topic/33054093

The guardian-เกมรักพิทักษ์ใจ

โดย พิมพ์สราญ

บทที่ 9


        “แกกล้าดียังไง ลู่หยางชุน” แม้เสียงที่ใช้จะเรียบๆ หากแต่ผู้ได้รับสาส์นอย่างภรตก็รู้สึกได้ถึงคลื่นความไม่พอใจที่เจ้านายแผ่มาให้เขาอย่างเต็มเปี่ยม ชายหนุ่มมองสภาพของทั้งเฉินหย่งเหอและพัชภิชาที่กำลังหน้าซีดและมองตรงมาทางเขาอย่างขอความช่วยเหลือ แต่ก่อนที่เขาจะเอ่ยคำ หากกลับถูกเสียงหวานเอ่ยขึ้นมาก่อน

             “น้องเจอหยางชุนค่ะ เห็นเขาบอกว่ากำลังจะมารับคุณพัชภิชากลับบ้านน้องเลยมาเป็นเพื่อน” เสียงหวานใสกล่าวขึ้น ภรตอดตื้นตันใจในน้ำใจของผู้หญิงตรงหน้าไม่ได้ แต่ไหนแต่ไรเหยียนกุ้ยหลันก็มีความเอื้อเฟื้อให้เขามาโดยตลอด ตั้งแต่จำความได้เขาก็จำรอยยิ้มอันอ่อนหวานที่ส่งมาให้หลานชายของแม่นมอย่างเขาแบบไม่มีการแบ่งชนชั้น ชายหนุ่มอดรู้สึกผิดไม่ได้ที่ต้องขอความช่วยเหลือจากหญิงสาว

             ...เขากังวัลว่าภาพตรงหน้าจะทำร้ายเธอ

              คิดได้เช่นนั้นมือใหญ่ก็ค่อยๆกุมไหล่บางไว้ เขาหวังว่าคำอธิบายก่อนหน้านี้บางส่วนจะทำให้หญิงสาวไม่โกรธพัชภิชาเพราะภรตได้ยืนยันว่าเธอไม่มีเจตนาจะมีแย่งเฉินหย่งเหอไปจากคุณหนูของเขาอย่างแน่นอน แต่ก็นั่นแหละการรู้ว่าคู่หมั้นของตนเองมีใจให้ใครคนอื่นคงเป็นเรื่องเจ็บช้ำไม่น้อย แต่เขาก็ต้องหาทางช่วยเพื่อน เพราะเขาเองเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หญิงสาวมาอยู่ในเงื้อมมือเฉินหย่งเหอ พัชภิชาต้องมาฮ่องกงก็เพราะเขาไปบังคับมา

              “ภรตกำลังจะไปดูงานที่เยอรมันนะน้องกุ้ยหลัน อีกอย่างพัชภิชาก็ต้องทำงานกับพี่” เฉินหย่งเหอเอ่ยกับคู่หมั้นด้วยน้ำเสียงอารี ด้วยไปหน้าเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มจนพัชภิชาทึ่ง

              คู่นี้เป็นอะไรกันนะ ผู้หญิงก็มีรอยยิ้มสาแก่ใจแปลกๆ แทนที่จะหึงหวง แต่ข้อนั้นเธออาจคิดไปเองเพราะเธอเองก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการสังเกตใบหน้าคนบางครั้งเธออาจมองผิด แต่การที่ฝ่ายชายพูดด้วยน้ำเสียงแบบนั้นหลังจากที่เพิ่งเปล่งรังสีแห่งความไม่ชอบใจใส่ภรตแล้วยิ้มแบบนี้มันทำให้เธอแปลกใจ สถานการณ์ตอนนี้มันดูเหมือนเขากำลังนอกใจคู่หมั้นนะ แล้วทำไมถึงได้ทำท่าทางสบายๆ แต่เมื่อคิดอีกทีคำตอบก็ทำให้พัชภิชาเสียวสันหลัง
  
           ...หรือหมอนี่จะเป็นมาเฟียเสือผู้หญิงอุดมไปด้วยอีหนูที่ทำร้ายจิตใจคู่หมั้นโดยไม่รู้สึกผิด ซึงถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ นี่มันจะเลวเกินไปแล้ว!

            “พี่หย่งเหอคงลืม ว่าภรตมีตารางพบปะลูกค้าสำคัญทั้งเดือนเลยนะคะ จะส่งไปไกลๆแบบนั้นได้ไง” ถึงแม้ว่าชื่อกิจการจะมีชื่อของตระกูลเฉินเป็นหลัก แต่ก็มีงานจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในความดูแลของคนในตระกูลเหยียนซึ่งเป็นหุ้นส่วนและทีมงานสำคัญซึ่งสนับสนุนให้ตระกูลเฉินนั้นยิ่งใหญ่มาหลายชั่วอายุคน ภรตฉลาดที่เข้าหาแก้วตาดวงใจของตระกูลเหยียนเพื่อเปลี่ยนคำสั่งของเขาโดยใช้เหยียนกุ้ยหลันเป็นคนมาแจ้ง นับได้ว่าหมอนี่ก็ฉลาดพอตัว ท่าทางยอมรับคำสั่งโดยดีกลับแฝงไปด้วยความคิดแก้เกมอยู่ตลอด นอกจากนี้ยังยอมเสี่ยงท้าทายเขาที่เป็นเจ้านายและหัวหน้าสูงสุดของตระกูล แล้วมันจะเกิดจากอะไร

            ...ถ้าไม่ใช่เพราะหญิงสาวที่เขาจูงมืออยู่นั้นมีความสำคัญต่อหมอนั่นมาก

           ...แต่หมอนั่นคิดผิด เขาอยากจะหัวเราะเยาะ

            “ผมไม่ค่อยแน่ใจเรื่องของตารางเวลานัก แต่ก็อยากมาสอบถามกับคุณเฉินว่าผมสามารถมารับพัชภิชาได้เวลาไหน” เสียงเอ่ยอย่างนอบน้อม ทว่าความรู้สึกที่มีให้ร่างสูงนั้นกลับติดลบอย่างไม่เคยเป็น ตลอดมาเขามองว่านอกจากความเป็นอัจฉริยะที่หาตัวจับยากของเฉินหย่งเหอ สิ่งหนึ่งที่ทำให้ตระกูลเฉินยิ่งใหญ่คือการวางตัวที่ไร้ที่ติ แม้ว่าพัชภิชาจะเล่าในจดหมายว่าทั้งคู่เคยพบกันเมื่อสามปีก่อน แต่ขณะนี้พัชภิชาอยู่ในฐานะคนรักของเขา ซ้ำชายหนุ่มผู้นำสูงสุดของตระกูลยังมีคู่หมั้นคู่หมายคนสำคัญจากตระกูลหลักซึ่งเกื้อกูลกันมาตลอด

            “ขอเวลานอกนะครับ” หานเต๋อซั่วที่ถูกกันให้อยู่นอกวงเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเรียบ    “ในฐานะเพื่อนนะหยางชุน ฉันค่อนข้างผิดหวังในตัวนาย”

            “พูดอะไรเต๋อซั่ว” ภรตเอ่ยเสียงเครียด รู้สึกหนาวๆร้อนๆชอบกล เขารู้จักหานเต๋อซั่วมานาน ชายหนุ่มคนนี้รู้ข้อมูลทุกข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้านาย นอกจากนี้ยังเป็นนักล้วงข้อมูลที่เก่งกาจ ซ้ำยังพร้อมใช้มันหากจะทำให้เฉินหย่งเหอได้รับประโยชน์

           “นายโกหกผู้ใหญ่เรื่องคุณพัชภิชา นายไม่ได้เจอเธอมาปีเต็ม แล้วเปิดตัวอีกครั้งว่าเป็นคนรักทั้งที่เป็นเพื่อนกันมาตลอด ทั้งสองคนไม่ได้เป็นคนรักกัน”

            “เรารู้จักกันมานาน มันจะแปลกอะไรถ้าฉันจะขอเธอเป็นแฟน” ภรตพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง ใจหายหมอนี่น่ากลัวจริงๆ

             “ก็นายบอกฉันเอง ว่าคุณพิชญ์สินีรุกหนักมาก แล้วนายก็ยังไม่มีแฟน” เขายกเอาคำพูดที่ชายหนุ่มเคยเล่าให้ฟังด้วยมาเป็นหลักฐาน   “หนึ่งวันก่อนนายเจอคุณพัชภิชาหน้าตึก สามวันก่อนงานเลี้ยงที่กรุงเทพฯ”

              “ไอ้เพื่อนทรยศ แกนี่” ภรตหมดคำพูด คือถ้าไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น ชายหนุ่มที่ไล่ต้อนเขานับเป็นทั้งเพื่อน ที่ปรึกษาที่ดี แต่เห็นได้ชัดว่าความต้องการของเฉินหย่งเหอนั้นจะมาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ และเขาพลาดเองที่ไปปรึกษาเรื่องนี้กับหานเต๋อซั่ว!

             “ไม่ดีเลยหยางชุน หลอกคุณลุงคุณป้า ดีนะชั้นสืบได้ก่อน ไม่งั้นนายท่านกับนายหญิงจะต้องโดนนายหลอก ไม่อกตัญญูไปหน่อยเหรอ” หานเต๋อซั่วพูดพร้อมถอนหายใจอย่างผิดหวังกับการกระทำของเขา ภรตสะอึกนิดๆที่โดนจับได้แต่เดี๋ยวก่อนนะ ถึงเขาผิดที่หลอกผู้ใหญ่

            ...แต่ท่านผู้นำสูงสุดที่พยายามล่อลวงเพื่อนเขาทั้งที่ตัวเองมีคู่หมั้นแล้วนี่ไม่ผิดเลยใช่ไหม

               ชายหนุ่มอดมองเจ้าของไหล่บางบนรถเข็นอย่างรู้สึกผิดไม่ได้ ไม่น่าเลยที่ลากเธอมารับรู้เรื่องที่คงทำให้เธอสะเทือนใจแบบนี้ ตอนนี้มือบางที่กุมมือเขานั้นเย็นเฉียบ ภรตจึงตัดสินใจสู้เฮือกสุดท้าย

              “แล้วทุกคนทำไมไม่คิดว่าผมพาพัชภิชามาด้วยกัน เพราะต้องการเป็นคนรักของเธอจริงๆ” เขาเอ่ยพยายามปั้นเสียงให้ดูนิ่งมากที่สุด ก่อนจะมองตรงไปยังหญิงสาวในชุดผ้าห่มเจ้าของเส้นผมดำขลับที่กำลังยุ่งเหยิง    “พาย ซันรักพาย...ขอโอกาสให้ซันนะ” น้ำเสียงที่พูดนั้นวิงวอน ภรตลุ้นว่าจะได้ปฏิกริยตอบรับอย่างไรจนลืมสังเกตว่ามือบางของเหยียนกุ้ยหลันนั้นละออกจากมือเขาไปแล้ว

             “ขะ คุณกุ้ยหลัน” พัชภิชาอุทานขึ้นเมื่อพบว่าดวงตาสวยของเหยียนกุ้ยหลันตอนนี้เอ่อไปด้วยน้ำตา ใบหน้าซีดเซียวนั้นดูอ่อนล้าจนเธออยากจะจับผู้ชายข้างๆมาซ้อมให้น่วมโทษฐานที่เลือดเย็นเหลือเกิน

            ...มีอย่างที่ไหนกันมาแย่งเธอกับผู้ชายอีกคนต่อหน้าคู่หมั้นตัวเอง    

             “เป็นอันว่าคนที่เกี่ยวข้องกับพัชภิชาที่สุดตอนนี้คือพี่จ๊ะ น้องกุ้ยหลัน” ดูเหมือนความรู้สึกผิดนั้นจะไม่อยู่ในสาระบบของเฉินหย่งเหอ พัชภิชาอดรู้สึกผิดหวังนิดๆไม่ได้ เธอนึกว่าเขาน่าจะเป็นคนดีกว่านี้เสียอีก

             ...ชักไม่แน่ใจแล้วว่าหมอนี่เป็นคนอย่างไรกันแน่

              “แต่ฉันอยากคบกับซันนี่นา” พัชภิชาตัดสินใจโพล่งออกมาโดยหวังว่าจะให้บรรยากาศดีขึ้น และตอนนี้คิดดูดีๆแล้ว แม้ว่าจะกลัวมาเฟียวัยทองนี่เอาเรื่องจนหมดตัว แต่การเธอเธอยอมอยู่ข้างกายในที่ที่เขากำหนดนั้นมีแววสุ่มเสี่ยงที่จะโดนจับกิน พัชภิชาไม่อยากผิดศีลข้อสาม ที่สำคัญการที่เธอฟื้นความจำได้นั้นมันมีวิธีที่ดีกว่าการที่เธอตัวติดกันกับเฉินหย่งเหอ

            “ไม่ได้” สองเสียงประสานขึ้นพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง ไม่แปลกที่เสียงหนึ่งมาจากเฉินหย่งเหอ แต่มันแปลกตรงที่อีกเสียงหนึ่งกลับดังมาจากเหยียนกุ้ยหลัน

            “คุณหนู” ภรตดูเหมือนจะเพิ่งหาเสียงตัวเองเจอเขามองหญิงสาวบนรถเข็นอย่างแปลกใจในการกระทำของเธอ ก่อนจะย่อตัวลงเพื่อฟังคำพูดของเธอให้ถนัด

             “หยางชุน เธออย่าออกหน้าเลย ฉันว่าพี่หย่งเหอจะไม่ปล่อยเธอน่ะ” คำอธิบายของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มกระจ่างในการกระทำของตน ดูเหมือนเขามุ่งแต่ที่จะช่วยเพื่อนจนลืมว่าตนเองกำลังแข็งขืนกับใครอยู่

             ...นายแห่งตระกูลที่ไม่ว่าจะชี้มือไปทางไหน ครอบครัวเขาก็พร้อมจะทำตามแบบไม่บิดพลิ้ว

                “ถึงทั้งคู่จะไม่ได้เป็นคนรักกันจริงๆ พี่หย่งเหอก็ไม่มีสิทธิ์กักตัวพัชภิชาไว้แบบนี้นะคะ” เหยียนกุ้ยหลันกล่าวด้วยเสียงเรียบ จนพัชภิชาแปลกใจ ก่อนนึกทึ่งในความเด็กเดี่ยวที่มีในตัวผู้หญิงคนนี้และชื่นชมที่เธอพยายามช่วยตัวเธอทั้งที่เธออยู่ในฐานะผู้หญิงที่อาจจะแย่งคู่หมั้นตัวเอง ทั้งๆที่ใบหน้าสวยนั้นมีน้ำตาคลออยู่แท้ๆ

                “สิทธิ์นะมันมีแน่ล่ะ อย่างที่บอกว่าพัชภิชาเกี่ยวข้องกับพี่ที่สุด” เฉินหย่งเหอเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจและรอยยิ้มเกลื่อนใบหน้า ยิ้มแบบที่พัชภิชาอดจะถอยออกจากชายหนุ่มไม่ได้ แต่อนิจจาหานเต๋อซั่วดันเธอเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดเจ้านายอย่างรู้จังหวะ “เพราะพัชภิชาเป็นผู้หญิงของพี่เรียบร้อย ดูเหมือนว่าจะต้องแต่งคุณนายเล็กเข้าบ้านก่อน”

               “เฮ้ย ปล่อยชั้นนะ” พัชภิชาพยายามดิ้นรนออกมาจากอ้อมกอดที่รัดแน่น เธอไม่แน่ใจนักว่าภาษาจีนกวางตุ้งเมื่อครู่มีความหมายอย่างไรเพราะหลายคำนั้นเธอไม่รู้ความหมาย แต่มันต้องหนักหนาอยู่เพราะภรตถึงกับอ้าปากค้างและเหยียนกุ้ยหลันมองตรงมาที่เธอด้วยแววตาลึกล้ำที่เธออ่านไม่ออก
    ...นอกจากเฉินหย่งเหอแล้วเธอชักงงกับปฏิกริยาของผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาแล้ว

             “โอเค ฉันปล่อย” เหยียนกุ้ยหลันเอ่ยกับเฉินหย่งเหอก่อนจะหันไปรั้งภรตที่ทำท่าฮึดฮัดเพราะเห็นอยู่ว่าพัชภิชาดูจะไม่เต็มใจ

             “คุณจะทำแบบนี้กับเพื่อนผมไม่ได้นะคุณเฉินถ้าเธอไม่เต็มใจ” เขาตัดใจยอมแพ้ที่จะยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างตนกับพัชภิชาเพราะดูเหมือนว่ายิ่งยืนยัน นายใหญ่แห่งตระกูลเฉินจะยึดพัชภิชาไว้แน่นขึ้นจนเรื่องชักจะบานปลาย แม้ว่าจะพอรู้มาบ้างว่าทั้งคู่เคยรู้จักกันและสนิทกันมาก่อน แต่ก็ไม่คิดเลยว่าเรื่องจะมาถึงจุดที่เฉินหย่งเหอจะแต่งหญิงสาวเข้าตระกูล

            ...ทั้งๆที่เหยียนกุ้ยหลันยังอยู่ตรงนี้

              “เดี๋ยวนะช่วยพูดกันเป็นภาษาอังกฤษได้มั้ย บางคำฉันฟังไม่ทัน” พัชภิชาพูดอย่างเหลืออดในขณะที่พยายามดันใบหน้าของเฉินหย่งเหอให้ห่างจากใบหน้าตนเอง ไม่อยากเชื่อว่าเวลาไม่นานก่อนหน้านี้ความรู้สึกเวลาอยู่กับชายหนุ่มนั้นคลุมเครือเหมือนมีเมฆหมอกมาบัง ทั้งเธอยังมีอาการแปลกๆบ่อยครั้ง ไม่อยากเชื่อเลยว่าวันนี้เธอแทบจะจิกหัวชายในชุดสูทบุคลิกสุขุมคนนั้นอยู่รอมร่อ บรรยากาศระหว่างกันก็ดูเป็นธรรมชาติถ้าไม่ติดว่ามันประดักประเดิดแบบนี้ก็ตาม

*******อ่านต่อ คห 1********
คุยกันนิดนึง

     บทที่ 9 มาแล้วค่ะ หวังว่าคนอ่านยังติดตามกันอยู่น๊ะจ๊ะ เม้นท์ให้จะดีมาก หรือแค่อ่านก็ชื่นใจแล้วล่ะ ห่างจากตอนที่แล้วไปนานเพราะโปรเจกติดพันนี่แหละ ไหนจะพล็อตใหม่อีก (เธอเอาให้จบซักเรื่องมั้ยจ๊ะ) แต่ยังไงเค้าก็ต้องการกำลังใจน้า
        รักคนอ่าน จุ๊บุ
      ตฤณภัทร AKA ชะนีฟรีแลนซ์ คิคิ

      [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่